ราชันเทพสงคราม[唐寅在异界] - บทที่ 316
บทที่ 316
บทที่ 316
รับมือได้ยากชะมัด ! ถังหยินโยนเคียวทิ้งไปแล้วคว้าจับไหล่ของมือสังหารหญิงคนนั้นไว้แล้วดึงตัวเข้ามา “หมอบลงซะ !”
เด็กสาวถูกดึงตัวให้ล้มลงไปจากด้านหลัง หัวของนางกระแทกพื้นจนมึนงง และก่อนที่จะทันได้ทำอะไร ถังหยินก็พลันขึ้นคร่อมร่างของนางจากด้านบนพร้อมกับหมัดที่ต่อยลงมา บีบให้นางต้องรีบกลิ้งตัวหลบด้วยความรวดเร็ว
ตู้ม !
หมัดของชายหนุ่มกระแทกพื้นจนเกิดเป็นหลุมบ่อ
เด็กสาวลุกขึ้นส่ายหัวด้วยความมึนงงแล้วมองถังหยิน ซึ่งอีกฝ่ายก็มองนางกลับเช่นกัน แม้ว่าถังหยินจะไม่รู้วิธีการใช้เนตรทิพย์ แต่ก็รู้ได้เลยว่านางมีพลังที่อยู่ในระดับสูงใกล้เคียงกับเขา
ถังหยินกล่าว “ซ่งเทียนส่งมางั้นสิ ? …แต่ว่านะ เจ้าสู้ข้าไม่ได้หรอก !”
มือสังหารสาวตะลึงที่อีกฝ่ายรู้ว่านางมาตามคำสั่งของซ่งเทียน แต่นางก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป เพียงเดินเข้าไปหาเขาอีกครา
ถังหยินถอนหายใจ มีมือสังหารมากมายที่ภักดีต่อซ่งเทียนชนิดที่ว่ายอมตายแทนกันได้ จึงไม่มีประโยชน์ที่จะบอกให้อีกฝ่ายยอมแพ้ เขาชูออกมาสามนิ้ว “ข้าจะล้มเจ้าภายใน 3 กระบวนท่า”
คำนี้ทำให้เด็กสาวตาลุกเป็นไฟ รีบเข้าไปข้างหลังถังหยินแล้วใช้แส้ฟาดเข้าไปที่หลังหัวของเขา ทว่าชายหนุ่มก็อาศัยจังหวะเดียวกันอ้อมเข้าไปด้านหลังแล้วจับนางทุ่มลงไปบนพื้น
เด็กสาวไม่ยอมแพ้ วินาทีที่นางกำลังจะถึงพื้น นางก็ได้กลิ้งตัวไปข้างหน้าลดแรงกระแทก แต่ถังหยินก็เหมือนจะรู้อยู่แล้ว จึงได้เคลื่อนย้ายตัวเองไปข้างหน้านางแล้วออกหมัดต่อยลงไป
ครั้งนี้มือสังหารสาวหลบไม่ได้แล้ว นางพยายามใช้ทุกส่วนของร่างกายมาลดแรงปะทะเอาไว้ให้ได้มากที่สุดแล้วกลิ้งตัวไปด้านข้าง ทำให้หมัดของถังหยินที่เล็งไปยังหลังของนางพลาดเป้าไปทันที
เด็กสาวที่เห็นโอกาส กัดฟันแน่นแล้วเตะเข้าไปที่ขาของชายหนุ่ม แต่ถังหยินก็ได้ยกแขนขึ้นมาป้องกันเอาไว้ได้ จากนั้นเขาก็จับขานางเอาไว้ “ออกไปซะ !”
เด็กสาวไม่ทันได้เตรียมใจ ทว่าก็ต้องถูกเหวี่ยงอัดกระแทกเข้ากับกำแพงจนเกิดเสียงระเบิดพร้อมกับกำแพงที่ถล่มลงมา
ไม่ว่านางจะมีพลังระดับสูงแค่ไหน แต่นางก็ไม่สามารถทนแรงขนาดนี้ได้ เด็กสาวฝืนตัวเองลุกขึ้นมา ก่อนที่ไม่นานจะล้มกลับไปตามเดิม
ชายหนุ่มล้มนางได้ภายใน 3 กระบวนท่าตามที่บอก ซึ่งถังหยินก็ไม่ปล่อยโอกาสนี้ไป เขากระโดดเข้าใส่นางแล้วง้างหมัดเข้าต่อยไปที่หัว
ผัวะ !
หมัดของเขากระแทกใส่เกราะหัวของนางจนแตกออก ส่งนางให้กระเด็นลอยไปแล้วสลบในทันที …ถ้าหากไม่มีหมวกเกราะล่ะก็หัวนางคงแหลกไปแล้ว
จากมือสังหารทั้งหมด 10 คน มี 4 คนถูกถังหยินจัดการไป อีก 2 คนถูกพี่น้องฉางกวงเล่นงาน ส่วนคนที่เหลือก็ทำเหมือนจะทำอะไรไม่ถูก …ดูเหมือนว่าปฏิบัติการครั้งนี้จะล้มเหลวเสียแล้ว
พวกมือสังหารพวกนี้ถือว่าเป็นยอดทหารเดนตาย แม้ว่าพวกเขาจะรู้ตัวถึงความเสี่ยงของภารกิจดี แต่พวกเขาก็ยอมสู้ตาย
ถังหยินสบถด่าในใจ เขาไม่คิดจะสู้แบบนี้ด้วยซ้ำ
แม่ทัพทั้งหมดต่างก็รีบเข้ามาด้วยความตะลึง ไม่มีใครใส่เกราะหรือเปลี่ยนชุดเลยด้วยซ้ำ
เพียงพริบตาทหารก็เข้ามาลอบเอาไว้ทั่ว พวกเขาพากันยืนเต็มทุกชั้นของตึกนี้ ทำให้คบเพลิงและโคมไฟส่องแสงไปทั่วบริเวณ
จ้านหู อู่กวง และคนอื่นรีบวิ่งเข้ามาข้างใน และเมื่อพบกับพวกมือสังหารที่เหลืออยู่ จ้านหูก็ไม่รอช้า กู่ร้องออกมาแล้วเหวี่ยงค้อนยักษ์เข้าใส่พวกนักฆ่าในทันที !
หวุ่ม !
ค้อนใหญ่พุ่งผ่านอาการจนเกิดเสียงน่าหวาดเสียว ทำให้พวกมือสังหารรีบเผ่นให้พ้นเส้นทางด้วยความตื่นตระหนก
ค้อนกระแทกลงใส่พื้นจนเกิดเสียงดังและรูขนาดใหญ่ ฝุ่นมากมายกระจายไปทั่วห้อง ถ้าหากมีใครอยู่ข้างล่างนั่นก็น่าจะแหลกไปแล้ว
อาวุธนี้ดูใหญ่ในสายตาคนอื่น แต่ว่าในมือของจ้านหูมันกลับถูกเหวี่ยงได้อย่างง่ายดาย เขาหมุนมันอย่างรวดเร็วอีกครั้งเข้าใส่พวกนักฆ่าที่พยายามเอาดาบขึ้นมาป้องกันไว้
เคร้ง !
วินาทีที่ดาบปราณปะทะกับค้อนใหญ่นี่ ตัวดาบก็บิ่นทันที แรงกระแทกของค้อนไม่ใช่สิ่งที่พวกนักฆ่าจะทนได้ นักฆ่าคนนั้นถูกซัดกระเด็นออกไปด้านหลัง กลิ้งไปจนกับกำแพงติดอยู่ในนั้นจนสลบไป
จ้านหูจัดการนักฆ่าไปได้หนึ่งคน ทางด้านอู่กวงเองก็เหวี่ยงดาบเข้าใส่นักฆ่า 2 คนจนพวกเขาต้องรีบป้องกันตัวเองอย่างร้อนรน !
…พวกมือสังหารต่างถูกก่อกวน จนพวกเขาไม่มีสมาธิหรือเวลาไปลอบสังหารถังหยินอีกแล้ว
ถังหยินยืนอยู่กับที่พร้อมทั้งมีสองพี่น้องฉางกวงคอยคุ้มครอง เขาไม่ได้พูดอะไรแล้วหลับตาลงพลางใช้พลังปราณรักษาร่างกายตนเอง รอยแส้บนหลังของเขาดูน่ากลัวก็จริง แต่ปัญหาหลักคือรูธนูบนหลังของเขามากกว่า
ในเวลานี้หลิวจี้เชาก็ได้เดินเข้ามาหาถังหยินด้วยเนื้อตัวสั่นเทา เขาพยายามอธิบายเรื่องทุกอย่างให้ละเอียดที่สุด แต่ก็ถูกสองพี่น้องจ้องตาเป็นมัน
หยวนเปียวเดินไปกระชากคอเสื้ออีกฝ่ายแล้วคำราม “จี้เชา เจ้ากล้ามากเลยนะที่เรียกมือสังหารมาที่นี่ !” เขาหยิบดาบขึ้นมาวางไว้รอบคอของจี้เชา
หลิวจี้เชาหวาดกลัวจนใบหน้าซีด มีเม็ดเหงื่อไหลอย่างกังวล เขารีบพูด “ท่านแม่ทัพเข้าใจผิดแล้ว ข้าไม่รู้จักคนพวกนี้ด้วยซ้ำ ข้าไม่กล้าทำอะไรที่มันอาจหาญแบบนั้นหรอก !”
การส่งมือสังหารมาฆ่าถังหยินมีโทษไม่ใช่น้อย นอกจากครอบครัวจะโดนสังหารแล้ว ก็ยังต้องเสี่ยงโดนผู้คนก่นด่าสาปแช่งด้วย
“ข้าไม่ฟังเรื่องของเจ้าหรอก !” หยวนเปียวกัดฟันแล้วกล่าว “เจ้าเป็นคนชวนนายท่านมาที่นี่ไม่ใช่หรือไง ? เจ้ายังจะแก้ตัวอีกเหรอ ?”
“ท่านต้องฟังข้าก่อนสิ ! นี่มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดนะ” จี้เช้าเริ่มหน้าซีด เขาเป็นคนชวนถังหยินเข้ามาที่นี่ก็จริง แต่ก็มั่นใจได้เลยว่าไม่ได้มีเจตนาสังหารอีกฝ่ายแน่นอน !
….ในเวลานี้เขาสิ้นหวังมากเพราะไม่มีอะไรจะแก้ตัวได้อีก
“ไม่มีอะไรจะพูดแล้วสินะ ? งั้นก็ตายซะ !” หยวนเปียวง้างดาบเตรียมจะฆ่าเขา
“ช้าก่อน !” ถังหยินลืมตาตื่นขึ้นมาพอดี
“นายท่าน จี้เชาส่งสายลับมาขนาดนี้ เราจะไว้ชีวิตเขาหรือ ?”
“เขาก็พูดไปแล้วไม่ใช่หรือไง ? เรื่องนี้น่ะเขาไม่เกี่ยวหรอก”
“นายท่านเชื่อคำพูดเขาหรือ ?”
“เชื่อเขาก็ไม่เสียหาย !” ถังหยินเดินเข้าไปปลดดาบออกจากมือหยวนเปียวแล้วพยุงจี้เชาให้ยืนขึ้น “ลูกน้องของข้าอาจจะรีบร้อนไปหน่อย ข้าต้องขออภัยแทนเขาด้วย”