ราชันเทพสงคราม[唐寅在异界] - บทที่ 354
บทที่ 354
บทที่ 354
อู่กวนใช้กำลังทั้งหมดขึ้นไปบนกำแพงเมืองและไม่สนพวกทหารเปิงเลย
ก่อนที่เขาจะสะบัดดาบเพียงนิดเดียว และทำให้ทหารล้มตายเป็นจำนวนมาก เช่นเดียวกับพวกทหารเปิงที่พยายามจะโจมตีต่อจากนั้น ที่โดนคลื่นปราณกระแทกเข้าจนตายไป
พวกเปิงคนอื่น ๆ ที่เห็นแบบนั้นเลยเริ่มหวาดกลัว และคิดว่าอยู่ต้านไปคงไม่ไหวแน่ พวกเขาที่เหลือก็เลยไม่รอช้า พากันล่าถอยกันไปในทันที ทำให้พวกปิงหยวนใช้โอกาสนี้เข้าโจมตีพวกเปิงที่กำลังหนีอย่างบ้าคลั่ง
แนวรบเริ่มพังทลายลงตามลำดับอย่างรวดเร็ว ไม่นานนักบนกำแพงก็เต็มไปด้วยทหารปิงหยวนที่กำลังล่าพวกเปิงอย่างบ้าคลั่ง
ซึ่งพวกเปิงก็ไม่สามารถต้านทานกองทัพปิงหยวนได้เลย เพียงพริบตากองทัพเปิงก็เริ่มล่าถอยลงมาจากกำแพง บางส่วนก็ถูกผลักตกจากกำแพงลงไปตายยังเบื้องล่าง
อู่กวนเริ่มตื่นเต้นมากขึ้น และเมื่อเห็นว่าพวกเปิงกำลังหนีตายไปเขาก็เริ่มได้ใจ และคิดว่าเข้าใกล้ชัยชนะมากขึ้น จึงได้โบกดาบขึ้นไปในอกาศแล้วตะโกน “ตามข้ามา ! ฆ่าพวกมันให้หมด !”
อู่กวนต่อสู้ได้ดุเดือดมาก ทำให้เขาได้ใจพวกทหารไปตาม ๆ กัน และเมื่อเขาร้องตะโกน มันก็ทำให้พวกทหารทั้งหลายไม่รอช้า เร่งทำตามคำสั่งแล้วตามแม่ทัพของพวกเขาในทันที
การต่อสู้ยังดำเนินการต่อไปอย่างเช่นนั้น ทำให้พวกทหารเปิงที่ยังไม่ตื่นจากอาการเมามายถูกสังหารก่อนจะทันรู้ตัวเสียอีก
อู่กวนพุ่งทะยานโจมตีแนวรบของพวกเปิงจนแตกพ่ายล่าถอยเข้าไปในเมือง และถ้าว่ากันตามแผนแล้ว อู่กวนก็ถือได้ว่าทำได้ดียิ่ง เพราะเขาเรียกความสนใจมาได้มากทีเดียว !
ในระหว่างที่อู่กวนกำลังจะไปสมทบกับจ้านหูที่กำแพงทางใต้ เขาก็ได้เห็นเข้ากับพวกทหารเปิงที่กำลังวิ่งเข้าใส่ตนอย่างไร้ระเบียบ เขาเลยพุ่งเข้าใส่พวกมันแล้วใช้วิชาปราณสังหารทหารพวกนั้นจนหมดสิ้นเพียงพริบตา
ทันใดนั้นแม่ทัพเปิงเกราะสีฟ้าก็พลันวิ่งออกมาจากพวกทหารเลวแล้วใช้หอกปราณพุ่งเข้าใส่อู่กวน
ทว่าอู่กวนก็ไม่รอช้า ทันทีที่เห็นแบบนั้น เขาก็พลันหัวเราะลั่น ก่อนจะตั้งท่าโจมตีสวนกลับไป ทว่ายังไม่ทันได้ง้างดาบ ที่ข้างหลังของอู่กวนก็พลันมีเสียงหนึ่งขึ้น “เขาเป็นของข้า !”
และเมื่ออู่กวนเงยหน้าขึ้นมอง เขาก็เห็นจ้านหูที่กำลังวิ่งเข้าฝ่าพวกเปิงเข้ามา ทำให้ทหารเปิงพวกนั้นกระเด็นลอยไปไกลราวกับถูกชนด้วยรถศึก !
ร่างกายของจ้านหูแข็งแกร่งทนทาน เมื่อบวกด้วยความเร็วจึงไม่มีใครหยุดเขาได้ เขายกค้อนขึ้นสูง “ดูสิว่าเจ้าจะหนีไปไหนได้ !”
วุ่ม !
อู่กวนเห็นท่าจะไม่ดีก็เลยถอยออกมาก่อน ส่วนแม่ทัพเปิงที่หนีไม่ทันก็ได้แต่พยายามใช้หอกป้องกันเอาไว้
เคร้ง !
ตัวค้อนปะทะเข้ากับหอกส่งผลให้ตัวแม่ทัพเปิงกระเด็นลอยออกไปกระแทกเข้ากับกำแพงหินจนเกิดรูกว้างและกระเด็นเข้าไปในสวน
…ก่อนที่แม่ทัพเปิงผู้นั้นจะกระอักเลือดออกมาอย่างน่าเวทนา
ซึ่งตัวจ้านหูก็ไม่รอช้า เขาวิ่งตามไปแล้วยกค้อนขึ้นฟากเข้าใส่หัวของแม่ทัพเปิงอย่างเต็มแรง
โผละ ! หัวของแม่ทัพเปิงแหลกละเอียดพร้อมกับเกิดหลุมขนาดใหญ่ ที่มีเศษเนื้อและสมองกระจายไปทั่วบริเวณ
อู่กวนยิ้มออกมา “แม่ทัพจ้าน เจ้าดูจะเก่งที่สุดในกองทัพของเราแล้วล่ะ !”
จ้านหูเดินออกมาจากสวนแล้วมองไปยังทิศทางที่อู่กวนเดินเข้ามา “ดูเหมือนว่าแม่ทัพอู่จะเข้าเมืองมาได้ก่อนสินะ”
อู่กวนโบกมือ “ไม่หรอก เจ้ากับข้าก็เข้ามาพร้อม ๆ กันนั่นแหละ พวกทหารหนีเข้าไปในเมืองหมดแล้ว เพราะงั้นมาเถอะ พวกเราไปฆ่าพวกมันให้หมดกัน !”
“ตกลง !”
“ไป !”
ทั้งสองเข้ามารวมกลุ่มกันได้สำเร็จ และรีบมุ่งหน้าเข้าไปยังใจกลางเมืองหยานในทันที !
เย่เฉิงที่เตรียมตัวเสร็จแล้วก็ได้ควบม้าออกมา และเมื่อพวกทหารเปิงเห็นเขา คนผู้นั้นก็ได้รีบเข้ามารายงานในพลัน “ท่านแม่ทัพ พวกมันเข้ามาในเมืองแล้ว !”
“อีกทิศหนึ่งของเมืองก็แย่เหมือนกัน พวกศัตรูอยู่กันเต็มไปหมดเลย !”
ได้ยินแบบนั้นเย่เฉิงก็ทำอะไรไม่ถูก แตกพ่ายแล้วงั้นหรือ ? เขาเพิ่งได้รับรายงานว่าพบเจอศัตรูเองนี่นา แล้วทำไมถึงเข้ามาในเมืองได้เร็วแบบนี้กัน ?
ไม่นานนักเขาก็ได้สติแล้วตะโกนถามออกมา “พวกเรามีทหาร 1 หมื่นนี่นา ไปอยู่ไหนกันหมด ?”
“หายไปหมดแล้วท่านแม่ทัพ ! พวกเขาถูกฆ่ากันไปหมดแล้ว ! ขอคำสั่งด้วยขอรับท่านแม่ทัพ !” ว่าแล้วนายทหารตัวโชกไปด้วยเลือดคนนั้นก็พลันคุกเข่าลงร้องถามคำสั่งถัดไปจากผู้เป็นนาย
ทหารทั้ง 1 หมื่นหายไปหมดแล้ว ? เย่เฉิงไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยินแม้แต่น้อย และดูท่า ตอนนี้เขาคงไม่มีทางเลือกอื่นใดแล้วนอกจากหนีออกไปนอกเมือง !
คิดได้แบบนั้นเขาก็บอกกับพวกทหาร “หนีออกจากเมืองนี้เร็วเข้า !”
“ไม่ได้นะท่านแม่ทัพ !” พวกทหารรอบ ๆ ที่ได้ยินแบบนั้นพากันเข้ามาห้ามไว้ในทันที “ถ้าท่านแม่ทัพหนีไป ต่อให้หนีจากพวกศัตรูได้ แต่ท่านก็ต้องโดนลงโทษจากฝ่าบาทแน่นอน !”
คำพูดนี้ทำให้เย่เฉิงตัวสั่น ตอนนี้เขาคือแม่ทัพปกป้องเมืองหยาน ถ้าหากเขาไม่สู้และเอาตัวรอดไป ยังไงซ่งเทียนก็ต้องจัดการเขาและครอบครัวอยู่ดี “ถ้างั้นพวกเจ้าจะให้ข้าทำยังไงเล่า ? พวกเจ้าคิดว่าจะต้านพวกมันเอาไว้ได้หรือไง ?”
พวกแม่ทัพนายกองพากันกัดฟันกรอด เพราะการใช้ทหารจำนวนน้อยขนาดนี้มันก็ไม่ต่างอะไรจากการเอาทหารไปตายเปล่าเลย ก่อนจะเป็นหนึ่งในทหารที่บอกกับเขาว่า “ท่านแม่ทัพ พวกเราต้องพากองทหารที่หนีทัพเข้ามารวมตัวกันที่ราชวัง เพื่อใช้มันเป็นกำแพงต้านทานจนกว่าแม่ทัพหลี่จะกลับมา !”
คำแนะนำนี้ทำให้เย่เฉิงมีกำลังใจขึ้นมาทันที เขาลืมสถานที่นี้ไปเลย ! และแม้ว่าซ่งเทียนจะไปแล้ว แต่การป้องกันที่ราชวังก็ยังคงหนาแน่นอยู่ แถมยังหนาแน่นยิ่งกว่าเดิมอีก เพราะอีกฝ่ายกลัวว่าถังหยินจะเข้ามาลอบสังหารซ้ำสอง
คิดได้แบบนั้นเย่เฉิงก็พยักหน้าให้ “เอาตามนั้นเลย พวกเราจะถอยเข้าไปยังราชวังก่อน !” ว่าแล้วเขาก็รีบควบม้านำทหารกลับไปยังวังหลวง พร้อมกับบอกให้ทหารคนอื่นกลับไปที่นั่นด้วยเช่นกัน
กำแพงของราชวังทั้งสูงและมีอุปกรณ์ป้องกันมากมาย ต่อให้นายทหาร 1 หมื่นนายอยู่ข้างในนั้นเป็นเดือนก็ไม่หวั่น
…พวกทหารเปิงได้ล่าถอยตามคำสั่งของเย่เฉิงกลับไปยังราชวัง แต่พวกเขากลับมาได้ราว ๆ 4 พันนายเท่านั้น ก่อนที่เย่เฉิงจะไม่รออีก และสั่งให้ปิดประตูทั้งหมดพร้อมกับส่งทหารขึ้นไปบนกำแพง
หลังจากที่อู่กวนและจ้านหูเข้ามาในเมืองได้ หลังจากนั้นพวกเขาก็ไม่เห็นทหารเปิงในเมืองอีกเลย แถมยังไม่เห็นแม้แต่ชาวเมืองแม้แต่คนเดียว คงเป็นเพราะคนพวกนี้ได้ข่าวว่ากองทัพเทียนหยวนกำลังจะบุกเข้ามาละมั้ง ? เลยทำให้พวกชาวบ้านพากันปิดร้านหนีกันไปหมดแล้ว ด้วยกลัวว่าจะได้รับผลกระทบจากสงคราม
พวกทหารปิงหยวนออกตรวจตรา และเสาะหาพวกเปิงที่เหลืออยู่โดยรอบ …ก่อนที่พวกเขาจะเห็นเข้ากับชายหนุ่มคนหนึ่งในซอยเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง !
และเมื่อชายคนนั้นเห็นพวกเขา คนผู้นี้ก็ไม่แม้แต่จะรีรอ โยนทิ้งทุกอย่างแล้วหนีไปทันที ทำให้ดูน่าสงสัยยิ่ง !
“ใคร ?”
พวกทหารปิงหยวนเข้าไปล้อมชายคนนั้นเอาไว้และสังเกตอย่างถี่ถ้วน ทว่าเมื่อดูจากชุดของอีกฝ่ายแล้ว ยังไงคนพวกนี้ก็เป็นชาวบ้านธรรมดาไม่ใช่หรือไร !
ก่อนที่ในจังหวะนี้เอง ชายคนนั้นก็พลันหยิบเอาตรากองทัพออกมา “ข้าคือหน่วยข่าวกรอง ขอพบท่านแม่ทัพของพวกเจ้าหน่อย !”
ได้ยินแบบนั้นพวกทหารก็รับตรากองทัพมาแล้วส่งรายงานไปยังอู่กวน
แม้ว่าพวกทหารจะไม่รู้จักตรานี้ แต่อู่กวนจำมันได้แม่นยำ ดังนั้นเขาจึงไม่รีรอแม้แต่น้อย รีบร้องบอกลูกน้อยในทันทีว่า “พาชายคนนั้นมาเร็วเข้า !”