ราชันเทพสงคราม[唐寅在异界] - บทที่ 368
บทที่ 368
บทที่ 368
ถังหยินหัวเราะแล้วโบกมือ “พวกท่านทุกคนเป็นถึงผู้ว่า ดังนั้นแล้วไม่จำเป็นต้องสุภาพขนาดนั้นหรอก !”
ผู้ว่าทั้งเจ็ดที่ได้ยินเช่นนั้นจึงกล่าวทันที “ท่านถังได้ทำเพื่อพวกเราไปมากมายเหลือเกิน การที่เราแสดงความนับถือท่านนั้นถือเป็นเรื่องที่สมควรแล้ว !”
ฝ่ายถังหยินไม่อยากถกเถียงกันในเรื่องนี้อีก เขาผายมือ “เชิญนั่งได้ !”
ผู้ว่าทั้งเจ็ดพลันนั่งลงตามคำเชิญ
ถังหยินมองไปรอบ ๆ และเมื่อเห็นที่นั่งเต็มทั้งหมดเขาก็พลันปรบมือ เรียกคนรับใช้ให้รีบเข้ามาเสิร์ฟอาหารและสุรา ก่อนที่พวกเขาเหล่านั้นจะไปยืนแยกอยู่ด้านหลังทุกคน
นี่เป็นมารยาท ที่เมื่อแขกดื่มเสร็จ คนรับใช้ก็ต้องเข้าไปเติมทันที อย่างไรก็ตามคนรับใช้ทั้งหมดได้ถูกเปลี่ยนเป็นองครักษ์ที่สวมชุดเกราะเหล็กผู้มีรูปร่างกำยำและมีดาบที่เอว จึงทำให้ผู้ว่าทั้งเจ็ดรู้สึกหนาวสั่นที่หลังคออย่างบอกไม่ถูก
ถังหยินไม่สนใจว่าคนอื่น ๆ จะคิดอย่างไร เขายกจอกสุราขึ้นและกวาดสายตามองไปยังทุกคน ก่อนจะกล่าวอย่างจริงจังว่า “ขอให้แคว้นเฟิงสงบสุขและเกิดความเจริญรุ่งเรือง !”
“ดื่ม !!!” ทุกคนรีบยกจอกสุราขึ้นดื่มให้หมดในคราเดียว จากนั้นจึงเป็นชายหนุ่มที่พูดขึ้นอย่างไม่เร่งรีบ “แคว้นเฟิงมีทั้งหมด 15 มณฑลด้วยกัน หลังจากซ่งเทียนแย่งชิงบัลลังก์ไป นอกเหนือจากเทียนหยวนของข้า ที่เหลือต่างให้การสนับสนุนซ่งเทียน …นี่มันช่างเป็นเรื่องที่น่าขายหน้านัก !”
คำพูดเหล่านี้ทำให้ผู้ว่าทั้งหมดหน้าแดงก่ำ
“ท่านถะ…”
โดยไม่ต้องรอให้พวกเขาปิดปากเพื่ออธิบาย ถังหยินก็พลันยิ้มกว้าง พยักหน้า และกล่าวว่า “แน่นอนข้าเข้าใจความยากลำบากที่ทุกคนกำลังเผชิญอยู่”
ทุกคนถอนหายใจด้วยความโล่งอกในเวลาเดียวกัน
ถังหยินยังคงพูดต่อไป “ตอนนี้ข้ากำลังทุกข์ทรมานจากปัญหาทั้งภายในและภายนอก ชีวิตและความตายต่างมาเคาะประตูเรียกหาทุกช่วงเวลา ดังนั้นข้าจึงหวังว่าทุกท่านจะทำงานร่วมกันกับราชสำนักเพื่อต่อสู้กับปัญหาที่ว่า !! และด้วยเหตุนั้น เจ้าและข้าจึงไม่ควรเป็นเพียงสหายที่ทำงานร่วมกัน แต่ต้องสนิทกันเหมือนพี่น้อง !”
“ใช่ ! ใช่ ! ใช่ ! ท่านพูดถูก !” คำพูดของถังหยินทำให้ผู้ว่าคนอื่น ๆ ไม่กล้าแย้ง ได้แต่พยักหน้ารับว่าเห็นด้วย
ก่อนจะเป็นถังหยินที่ว่าต่อ “และเนื่องจากเราเป็นพี่น้องกัน งั้นแล้วพวกเราก็ไม่ควรแยกจากกันอีก ตอนนี้ซ่งเทียนและพวกหนิงอยู่ที่เมืองหวัน ทำให้การที่ข้าใช้แต่กองทหารส่วนตัวเพื่อกำจัดศัตรูให้หมดมันไม่เพียงพอ ดังนั้นข้าจึงต้องการการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากทุกคนในที่นี้ !”
ผู้ว่ามณฑลเหล่านี้ไม่ใช่คนโง่เงา พวกเขาเข้าใจถึงความหมายเบื้องหลังคำพูดของถังหยินได้ในทันที ว่าชายหนุ่มกำลังร้องขออะไร !
แน่นอนว่าถังหยินหยุดพักเล็กน้อยแล้วกล่าวว่า “ถ้าทุกมณฑลไม่ต่อต้านอำนาจของซ่งเทียนโดยตรง มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่ทหารจะอยู่นิ่งเฉย งั้นแล้วทำไมไม่มอบหมายให้เมืองหยาน และร่วมมือกับข้าเพื่อกำจัดศัตรู ?”
“แต่นั่นมัน…?” จ้าวป๋อผู้ว่ามณฑลซางชิงกล่าวด้วยสีหน้าหนักใจ “ท่านถัง ทหารประจำมณฑลของข้าถูกส่งไปแล้วตั้งแต่เมื่อตอนกองทัพหนิงโจมตีเมืองหลวง ก่อนที่หลังจากนั้นพวกเขาจะถูกปลดโดยท่าน และยังไม่มีการคัดเลือกเพิ่มเติมอีกเลย”
“ฮ่า ! ฮ่า ! ฮ่า !” ถังหยินหัวเราะและกล่าวว่า “ท่านจ้าวเจียมตัวเกินไปแล้ว อย่างน้อยที่สุดท่านก็น่าจะมีอยู่ 2 หมื่น และอย่างมากก็น่าจะมีอยู่ 4 หมื่นถึง 5 หมื่น แต่ถ้าบอกว่าท่านไม่มีทหารเลย ข้าคงเชื่อท่านไม่ลงหรอก”
จ้าวป๋อสูดอากาศเย็น ๆ ด้วยถังหยินคนนี้น่าทึ่งจริง ๆ เพราะอีกฝ่ายมีความเข้าใจอย่างถ่องแท้เกี่ยวกับสถานการณ์ต่าง ๆ ยิ่งนัก !!!
อึก ! จ้าวป๋อกลืนน้ำลายลงคอ ก่อนจะเร่งเปลี่ยนท่าทีเป็นยิ้มแย้มพลางกล่าวว่า “ท่านเป็นคนช่างสังเกตยิ่ง ช่างน่าประทับใจ ขณะนี้มีกำลังรบชุดใหม่ที่ได้รับคัดเลือกจากทางเหนือมาทั้งหมด 2 หมื่นนาย แต่ส่วนใหญ่เป็นทหารใหม่ ข้าจึงเกรงว่าพวกเขาจะไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าใดนักในสนามรบ”
ถังหยินพยักหน้าและกล่าวว่า “ทหารเกณฑ์ใหม่จะกลายเป็นทหารผ่านศึกหลังจากเจอศึกใหญ่ 2-3 ครั้ง นอกจากนี้เมืองยังต้องการทหารมาคอยคุ้มกัน เพราะงั้นแล้วท่านจ้าวจึงสามารถย้ายทหารทั้ง 2 หมื่นของท่านมายังเมืองหลวงได้เลย !”
“โอ้…” ปัจจุบันผู้ว่ามณฑลทั้งหลายล้วนมองว่ากองกำลังของพวกเขาเป็นดั่งเส้นเลือดใหญ่ แล้วมีหรือที่จะยอมถอยเพียงเพราะประโยคเดียวของถังหยิน ? จ้าวป๋อมีสีหน้าลำบากใจ และต้องการปฏิเสธข้อเสนอนี้ ทว่าเขาก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี
เมื่อเห็นเช่นนั้น ถังหยินก็พลันเลิก คิ้วโน้มศีรษะของเขาเข้ามา และหัวเราะ “อะไรกัน ? ในขณะนี้แคว้นของเรายังคงอยู่ในความเสี่ยง แล้วท่านจะยังคงปกปิดและนิ่งเฉยต่อไปเช่นนี้งั้นหรือ ?”
คำพูดเหล่านี้ทำให้จ้าวป๋อตัวสั่น เช่นเดียวกับสายตาของผู้คนโดยรอบที่พากันหันมาจ้องมองเขา บีบให้จ้าวป๋อจำต้องลุกขึ้นยืนและโค้งคำนับไปทางถังหยินพลางพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเทา “ข้าคนนี้มิกล้าเก็บกองทัพไว้เป็นการส่วนตัว ดังนั้นแล้วข้าจะทำทุกอย่างให้ชัดเจน ! พร้อมทั้งยินดีที่จะทำตามคำบัญชาของท่านทุกประการ ! ”
“พูดได้ดี… !” ถังหยินพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ จากนั้นจึงหัวเราะและหันมองไปทางซ้ายและขวา “ตั้งแต่วันนี้ไปพวกเราก็กลายเป็นดั่งพี่น้องกันแล้ว ถ้าวันหนึ่งเราสามารถกำจัดซ่งเทียนได้ ข้าจะตกรางวัลให้กับเจ้าอย่างเต็มที่แน่นอน !”
“ขอบคุณ ขอบคุณนายท่านถัง !” ตอนนี้จ้าวป๋อไม่กล้าขอรางวัลอะไรมากมาย ด้วยที่เขาต้องการตอนนี้คือให้เขารอดชีวิตกลับไป !!
“เชิญท่านจ้าวนั่งได้เลย !” หลังจากที่ถังหยินปลอบโยนจ้าวป๋อแล้ว เขาก็มองไปที่ผู้ว่ามณฑลไทอันนามหยูอี้ซึ่งนั่งอยู่ทางซ้ายของเขาแล้วหัวเราะ “ท่านหยู ที่ไทอันมีทหารกี่นายกัน ?
หยูอี้เคยผ่านการฝึกฝนพื้นฐานศิลปะการต่อสู้มาก่อน ดังนั้นเขาจึงค่อนข้างตรงไปตรงมาและอารมณ์ร้อน และการที่ถังหยินบอกว่าให้มาที่นี่เพื่อเลี้ยงอาหาร แต่ในความเป็นจริงกลับกลายเป็นการยึดอำนาจทางการทหารแบบนี้ มันก็ทำให้การแสดงออกของหยูอี้เปลี่ยนเป็นเย็นชา “แค่หนึ่งถึงสองหมื่นนายเท่านั้น”
“แค่หมื่นสองหมื่น ?” ถังหยินจ้องตรงไปที่หยูอี้
หยูอี้พยายามระงับความโกรธของเขา ทำการหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูดว่า “อย่างมากก็ไม่เกิน 3 หมื่น !”
ก่อนที่เขาจะพูดจบ ถังหยินก็ได้พูดเสียงแผ่วเบาออกมา “ในบรรดามณฑลทั้งหมด มณฑลไทอันมีทหารจำนวนมากที่สุด ท่านมีกำลังอยู่ราว ๆ 5 หมื่นนายได้ …หรือว่าที่ข้าได้ยินมามันไม่จริงกันนะ ? ท่านหยู ท่านคิดเห็นว่ายังไง ที่ข้าทราบมามันเป็นข่าวเท็จงั้นหรือ ?”
การแสดงออกของหยูอี้เปลี่ยนไปในฉับพลันนั้น เขาอดไม่ได้ที่จะมองไปที่ถังหยินด้วยความตกใจ เพราะสิ่งที่ชายหนุ่มพูดนั้นถูกต้อง ! แต่อย่างไรก็ตาม หยูอี้ไม่เคยพูดเรื่องนี้กับใคร ดังนั้นเขาจึงไม่เข้าใจว่าทำไมถังหยินถึงรู้เรื่องนี้ได้กัน !?
สิ่งที่เขาไม่รู้ก็คือนับตั้งแต่พวกเขาเข้ามาในเมือง ถังหยินก็ได้สั่งให้เนตรเวหาและเครือข่ายใยพิภพทำการตรวจสอบกำลังทหารแต่ละมณฑลไว้หมดแล้ว !
ถังหยินได้ตัดสินใจมานานแล้วว่าจะยกเลิกทหารประจำมณฑล และเปลี่ยนให้ทหารพวกนั้นรับฟังคำสั่งจากเมืองหลวงเท่านั้น ส่วนพวกผู้ว่าก็ไม่มีสิทธิ์สั่งการอีกต่อไป ดังนั้นแล้วเขาจึงถือโอกาสเชิญผู้ว่ามณฑลต่าง ๆ มาดื่มเหล้า และจัดการยึดอำนาจทางทหารเสียตั้งแต่ตอนนี้เพื่อขจัดปัญหาในอนาคต !!
หยูอี้และถังหยินมองหน้ากันครู่หนึ่ง ก่อนจะเป็นฝ่ายแรกที่พูดขึ้นว่า “แม้ว่าไทอันจะมีกำลังทหาร 5 หมื่นนาย แต่แล้วมันจะทำไม …ถังหยิน นี่เจ้ากำลังวางแผนทำอะไรกันแน่ ?”
ถังหยินกล่าวอย่างง่าย ๆ “แน่นอนว่าข้าต้องการเคลื่อนย้ายกองกำลังเหล่านั้นให้มาอยู่ในสังกัดของเมืองหลวง เพื่อใช้พวกเขาในการกำจัดคนทรยศ”
“ฮ่า !” หยูอี้หัวเราะ “ท่านถัง ท่านนั้นเป็นผู้ว่ามณฑล และข้าเองก็เป็นผู้ว่ามณฑลเช่นกัน ดังนั้นข้าจึงคิดว่าท่านไม่มีสิทธิ์ที่จะมาออกคำสั่งกับข้า ! นอกจากนี้ ถ้าคิดจะปรับเปลี่ยนหรือเคลื่อนย้ายกำลังทหารแต่ละมณฑล มันก็ต้องใช้คำสั่งจากท่านแม่ทัพใหญ่ ไม่ก็ท่านเสนาบดีทั้งสองไม่ใ….”
ก่อนที่เขาจะทันพูดจบ ถังหยินก็ได้ยกแขนขึ้นแล้วตบหน้าหยูอี้
การเคลื่อนไหวของเขาเร็วเกินไปและกะทันหันเกินไป หยูอี้ยังมองไม่ทันด้วยซ้ำ ก่อนที่จะถูกฝ่ามือของถังหยินฟาดลงบนใบหน้า
ด้วยเสียงที่คมชัด มันก็ทำให้ร่างของหยูอี้ล้มลงกับพื้น เช่นเดียวกับที่ทันใดนั้นใบหน้าครึ่งหนึ่งของเขาจะบวมพอง !
…ทำให้หยูอี้ได้แต่เงยหน้าขึ้นมองอย่างเหม่อลอยด้วยไม่อยากจะเชื่อ ว่าอีกฝ่ายจะกล้าถึงขนาดตบหน้าผู้ว่ามณฑลต่อหน้าสาธารณชนเช่นนี้ !
ในเวลานี้ใบหน้าของถังหยินดำสนิท เขาชี้ไปยังหยูอี้ที่อยู่ด้านล่างและพูดอย่างเย็นชา “ข้าปฏิบัติต่อเจ้าเหมือนกับที่พี่น้องเขาทำกัน และข้าก็ได้ให้เหตุผลไปแล้ว แต่เจ้ากับปฏิบัติต่อคำพูดของข้าเหมือนหมูเหมือนหมา ! เจ้าเป็นเพียงแค่ผู้ว่ามณฑลเท่านั้นแท้ ๆ! แต่เจ้ากลับ !! …ในช่วงวิกฤตของแคว้นเช่นนี้ เจ้าไม่ได้แม้แต่พยายามที่จะตอบแทนด้วยความภักดี แต่ยังแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัวอีก นี่น่ะหรือชาวเฟิง ไสหัวไปซะ !”
“ถังหยิน เจ้า… !?”
ในที่สุดหยูอี้ก็ตอบสนอง ทว่าในขณะที่เขากำลังจะพูด ทหารยามทั้งหมดรอบ ๆ ห้องโถงก็พลันเดินเข้ามา และดึงตัวหยูอี้ออกไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ
….ก่อนที่อีกฝ่ายจะถูกลากออกจากห้องโถงได้อย่างง่ายดาย
หลังจากที่เห็นว่าโดนลากออกไปแล้ว ถังหยินก็ได้ตะโกนออกมา “มูฉิงมานี่ !”
“ข้าอยู่นี่ขอรับ นายท่าน !”
เมื่อได้ยินคำพูดของถังหยิน มู่ฉิงก็พลันยืดตัวและยืนขึ้น ก่อนที่เขาจะเดินไปข้างหน้าแล้วคุกเข่าลง
“หยูอี้ผู้ว่ามณฑลไท่อันขัดคำสั่งของราชสำนักและแอบซ่องสุมกำลังทหารสำหรับการก่อกบฎ เจ้าจงนำกองทัพปิงหยวนไปล้างบางพวกมันซะ !”
“รับทราบขอรับ นายท่าน !”
หยูอี้ที่ถูกทหารยามลากออกได้แต่ตกตะลึงกับสิ่งที่ได้ยิน เพราะเขาไม่เคยคิดฝันว่าถังหยินจะยัดข้อหากบฏให้เขาเร็วขนาดนี้ ทั้งยังคิดจะส่งกองกำลังไปปราบปรามเขาอีก !
“ท่านถัง … ฟังคำอธิบายของข้าก่อน !!!”
“คำอธิบาย… ?!” ถังหยินเหล่ตาของเขาและกล่าวว่า “ข้าเป็นคนที่รักษาสัญญา ตั้งแต่จดหมายที่ข้าเชิญพวกเจ้าเมื่อตอนนั้น ข้าก็ได้ให้คำมั่นแล้วว่าจะไม่ทำอันตรายต่อชีวิตของเจ้า ดังนั้นข้าจะไม่ฆ่าเจ้าอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามนี่ไม่ได้หมายความว่าข้าจะต้องมานั่งทนกับการกระทำสวะ ๆ ของเจ้า ! ไสหัวไป !”
หยูอี้ถูกทหารยามของถังหยินลากออกไป ทำให้ทั้งห้องโถงใหญ่เงียบสนิทจนได้ยินเสียงลมหายใจ !
บรรดาผู้ว่าที่นั่งอยู่แต่ละคนในที่สุดก็เข้าใจแล้วว่าราชสำนักใหม่ไม่ว่าจะเป็นเสนาบดีฝ่ายซ้ายฝ่ายขวา หรือแม่ทัพใหญ่ พวกเขาต่างก็เป็นเพียงไม้ประดับ ด้วยปัจจุบันถังหยินเป็นผู้ที่มีอำนาจสูงสุดดั่งจักรพรรดิ !!!
คราวนี้พวกเขาที่เหลือไม่กล้าชักช้าหรือโกหกอีกต่อไป เร่งรายงานจำนวนทหารประจำมณฑลและให้คำสัญญาในทันทีว่าจะส่งทหารทั้งหมดมายังเมืองหลวง !