ราชันเทพสงคราม[唐寅在异界] - บทที่ 405
บทที่ 405
บทที่ 405
ถังหยินมองไปยังซ่งอู๋ที่เต็มไปด้วยเลือด จากนั้นจึงเก็บดาบลงและก้มลงหยิบหอกของอีกฝ่าย ก่อนที่จะหัวเราะเบา ๆ พูดว่า “ซ่งอู๋ เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ เจ้าเป็นคนทำให้มันเกิดขึ้นมาเอง… !”
“ถังหยิน… ถ้าเจ้ายังมีความเป็นมนุษย์อยู่ล่ะก็… ฆ่าข้าซะ !!? ” ซ่งอู๋คำราม
“ฮึ !” ถังหยินหัวเราะเยาะและพูดเบา ๆ “ถ้าอย่างนั้น… เจ้าจะได้สิ่งที่ต้องการ !”
ในขณะที่พูด เขาก็พลันเดินไปข้างหน้าและเตะข้อพับเข่าของซ่งอู๋ให้คุกเข่าลงกับพื้น เป็นจังหวะเดียวกับเกราะปราณส่วนหัวของซ่งอู๋ที่แตกสลายไป …เผยให้เห็นใบหน้าขาวซีดปราศจากเลือด
รอยยิ้มบนใบหน้าของถังหยินกว้างขึ้นเรื่อย ๆ เขาหายใจเข้าลึก ๆ และตะโกนไปยังสนามรบโดยรอบ “พวกเจ้าทุกคนจงฟัง !! นี่คือผลจากการต่อต้านกองทัพเทียนหยวน !” ในขณะที่พูด เขาก็เพิ่มแรงบีบจับซ่งอู๋ที่บริเวณปาก จากนั้นจึงทำการยัดหอกของอีกฝ่ายเข้าไปในนั้น และค่อย ๆ ดันมันเข้าไปอย่างเชื่องช้า
ถึงการเคลื่อนไหวจะช้า ทว่าก็ลื่นไหลและต่อเนื่อง เมื่อปลายหอกเข้าไปในปากของซ่งอู๋ไปจนถึงลำคอ มันก็ทำให้เลือดไหลออกมาจากมุมปากของเขาจนเกิดเสียงกระเพื่อมแปลก ๆ ดังออกมาจากลำคอ
พวกหนิงและเปิงที่เห็นเหตุการณ์นี้อย่างชัดเจนอดไม่ได้ที่จะหวาดกลัว …การแสดงออกของพวกเขาเปลี่ยนไปอย่างมาก และแม้แต่กองทัพเทียนหยวนเองก็ยังรู้สึกหนาวสั่น
หอกยาวแทงทะลุหลอดอาหารของซ่งอู๋ ผ่านร่างของเขา และทะลวงผ่านช่างล่างของซ่งอู่ลงไปเรื่อย ๆ…
ทันใดนั้นแขนของถังหยินก็พลันเพิ่มความแข็งแกร่งขึ้นพร้อมกับเสียงอู้อี้อีกครั้ง ปลายหอกแทงทะลุร่างของซ่งอู๋ลึกลงไปที่พื้นอย่างแรง ทำให้เขาไม่สามารถล้มลงได้
ถังหยินจงใจหลีกเลี่ยงที่จะทำให้ซ่งอู๋ถึงตาย ด้วยชายหนุ่มหวังว่าอีกฝ่านจะตายอย่างช้า ๆ จากการขาดอากาศหายใจ และแม้ว่าร่างกายของซ่งอู๋จะถูกแทงด้วยหอก แต่ทว่าเขาก็ยังมีชีวิตอยู่
เมื่อเห็นร่างของซ่งอู๋ยังคงสั่นสะท้านหลังจากถูกหอกตอกลงกับพื้นทหารโดยรอบและกองทัพเปิงก็พลันรู้สึกว่าศีรษะของพวกเขาเต็มไปด้วยความมึนงง พวกเขารู้สึกว่าเลือดของพวกเขาเย็นลง เช่นเดียวกับวิญญาณของพวกเขาที่แทบจะบินออกจากร่างกาย ใบหน้าของทุกคนเต็มไปด้วยความตกใจและหวาดกลัว พวกเขาลืมศัตรูซ้ายขวาและถอยกลับโดยสัญชาตญาณ
….ในความคิดของพวกเขาทั้งหมดคือการซ่อนตัวและซ่อนตัวในที่ ๆ ถังหยินไม่สามารถมองเห็นได้
ซ่งอู๋ถูกถังหยินสังหารด้วยวิธีการที่โหดร้ายที่สุด ส่วนซ่งเทียนก็ถูกพาตัวไปโดยจ้านอู่ตี้ ทิ้งให้ชุยหยุนเจียน จุยเฟิงเจียนและปิงโปเจียนยังคงต่อสู้กับหยวนยู่ ซึ่งพวกเขาทั้งสามคนก็เกือบจะพร้อมใจกันกระโดดออกจากวงล้อมและวิ่งไปในทิศทางที่จ้านอู่ตี้หลบหนีไปอยู่แล้วเชียว
….แต่ในตอนมี่พวกเขาจะวิ่งไป หยวนยู่กลับไล่ตามและตะโกนออกมาว่า “คิดจะหนีไปไหน !!”
ชายเลือดร้อนถือดาบปราณไล่ตามพวกเขาไป ซึ่งก็ต้องบอกเลยว่าหยวนยู่นั้นเก่งกาจและเชี่ยวชาญด้านเทคนิคการเคลื่อนไหวยิ่ง ทำให้เมื่อเขาเคลื่อนไหว ก็จึงเกิดลมกระโชกแรง จนในพริบตาเขาก็พลันหายไปจากสนามรบ
ในทางกลับกัน จุยเฟิงเจียนและปิงโปเจียนกลับช้ากว่าเขามาก ขณะที่ทั้งสองกำลังจะหลุดเข้าไปในฝูงชน หยวนยู่ก็จับพวกเขาได้เช่นกัน ซึ่งคนทั้งสองก็ไม่ลังเลแม้แต่น้อย พากันทิ้งตัวลงพื้น กลืนหายไปกับสนามรบโดยรอบ
ด้วยสถานการณ์ที่วุ่นวายในสนามรบ มันทำให้ยากยิ่งที่จะหาทั้งสองได้ ทว่าในขณะที่หยวนยู่กำลังวิตกกังวล จู่ ๆ ก็มีคนปรากฏตัวต่อหน้าจุยเฟิงเจียนและปิงโปเจียน ทำให้พวกเขาสองคนประหลาดใจอย่างสุดขีด
ขณะที่จุยเฟิงเจียนและปิงโปเจียนสะดุ้ง คนที่ปรากฏตัวขึ้นกลางอากาศก็พลันดึงดาบทั้งสองเล่มออกมา และถ้าเป็นคนอื่นคงยากที่จะหลบดาบอันว่องไวได้ แต่จุยเฟิงเจียนและปิงโปเจียนย่อมไม่ใช่พวกที่จะเสียท่าได้ง่าย ๆ เช่นนี้
แคร้ง ! แคร้ง !
เสียงคมดาบปะทะกันอย่างแรงสองครั้ง ประกายไฟสองดวงปรากฏขึ้นในอากาศ ทั้งสองคนที่กำลังจะตกลงไปในฝูงชนถูกบังคับให้ถอยกลับอีกครั้ง
“อย่าคิดว่าพวกเจ้าสองคนจะหนีไปได้นะ !”
การเคลื่อนไหวของชายที่ปรากฏตัวขึ้นดูผ่อนคลายยิ่ง เขาหมุนดาบทั้งสองเล่มในมือไปมา ขณะที่ดวงตาเป็นประกายแสงสีเขียว
ถังหยิน ?! จุยเฟิงเจียนและปิงโปเจียนต่างก็ตกใจในเวลาเดียวกัน พวกเขาสองคนมองไปยังถังหยิน จากนั้นก็หันไปมองหยวนยู่ที่ยืนอยู่ข้างหลังพวกเขา …ในเวลานี้ทั้งสองคนรู้ดีว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหลบหนีจากสนามรบ
“ถ้าพวกเจ้าขอยอมแพ้เสียตั้งแต่ตอนนี้ ข้าจะยอมให้พวกเจ้ายังได้สูดอากาศบนโลกนี้ต่อไปอีกซักพัก ถ้าไม่ พวกเจ้าก็จงตายอยู่ที่นี่ !” ถังหยินชี้ไปที่ซ่งอู๋ที่อยู่ใกล้ ๆ และพูดอย่างแผ่วเบา “พวกเจ้าเลือกได้เลย !”
‘ยอมแพ้ ?’ สองคำนี้ไม่เคยมีอยู่ในพจนานุกรมของพวกเขาเลยสักนิด และแม้ว่าพวกเขาจะต้องตายในสนามรบ พวกเขาก็จะไม่ปลดอาวุธอย่างแน่นอน ทั้งสองมองหน้ากันไปมา จากนั้นก็ก้าวไปข้างหน้าและชี้ดาบของพวกเขาไปที่ถังหยิน
การจัดการถังหยินเป็นเรื่องยากยิ่ง แต่ทว่าการจัดการหยวนยู่กลับน่ากลัวยิ่งกว่า ดังนั้นทั้งสองจึงตัดสินใจที่จะบุกเข้าไปในฝั่งของถังหยิน !!
พวกเขาสองคนเคลื่อนไหวเร็วมาก ในขณะที่ถังหยินนั้นรวดเร็วยิ่งกว่าทั้งสอง ชายหนุ่มรับมือกับคนทั้งสองในขณะที่เขาพุ่งไปข้างหน้า ส่งดาบทั้งสองเล่มในมือฟันในมุมต่ำพร้อม ๆ กันทั้งซ้ายและขวา หมายที่จะฟันกลางลำตัวของคนทั้งสอง
จุยเฟิงเจียนและปิงโปเจียนไม่หลบ พวกเขาใช้ปราณวายุคลั่งรับมือการโจมตีนี้ ด้วยพวกเขาไม่ได้หมายที่จะจัดการถังหยิน แค่พยายามที่จะผลักถังหยินออกไปก็เท่านั้น
ปราณวายุคลั่งของทั้งสองปล่อยออกมาในเวลาเดียวกัน ซึ่งพลังนี้มันก็รุนแรงมากราวกับจะทำให้สวรรค์และพิภพแตกเป็นเสี่ยง ๆ จนทำให้เกิดเสียงของดาบปราณที่ปะทะกันในอากาศดังกังวานอย่างต่อเนื่องราวกับมีคนนับร้อนพันกำลังกรีดร้อง
ไม่ว่าถังหยินจะมั่นใจแค่ไหน แต่ตอนนี้เขาก็ไม่สามารถปัดป้องการโจมตีของคู่ต่อสู้ออกไปได้ทั้งหมด และเมื่อถังหยินใช้สลับเงาไปที่ด้านข้างของจุยเฟิงเจียนได้สำเร็จ ชายหนุ่มก็พลันแทงเจาะไปที่ซี่โครงของจุยเฟิงเจียนในพลัน
‘เร็วมาก !’ จุยเฟิงเจียนกรีดร้องในใจ เขาไม่มีเวลาคิดก่อนที่จะกระโดดถอยหลังโดยไม่รู้ตัว อย่างไรก็ตามในเวลานี้เขาได้ทำผิดพลาดร้ายแรงไปแล้ว เพราะมัวแต่สนใจถังหยิน จนลืมว่ามีหยวนยู่ที่น่ากลัวยิ่งกว่าอยู่เบื้องหลัง !!!
…เช่นเดียวกับที่ว่าไว้ เพราะหยวนยู่พลันเหวี่ยงดาบเข้าโจมตีทันทีที่เห็นโอกาส !!
ทันใดนั้นจุยเฟิงเจียนก็ได้ยินเสียงลมพัดแรงอยู่ข้างหลังเขา ทำให้เขานึกขึ้นได้ว่ายังมีหยวนยู่อยู่ข้างหลัง แต่มันก็สายเกินไปที่เขาจะหลบได้ ดังนั้นจุยเฟิงเจียนจึงได้แต่พยายามอย่างเต็มที่เพื่อย่อตัวหลบ
วูบ !
คมดาบนั่นพลาดเป้าไปอย่างน่าเสียดาย ทว่าแม้มันจะไม่ได้บั่นคอของจุยเฟิงเจียน แต่มันก็ยังกระแทกศีรษะของเขา ทำให้เกราะปราณแตกออก เช่นเดียวกับเลือดที่ไหลออกมา
“อ๊ากก ?!!”
จุยเฟิงเจียนกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด เขากลิ้งไปด้านข้าง ส่วนมือก็แตะไปที่ส่วนบนของหัวเพื่ออุดรอยแผลไม่ให้เลือดไหลออกมา
เมื่อเห็นว่าจุยเฟิงเจียนได้รับบาดเจ็บ ปิงโปเจียนก็พลันร้องตะโกนและเหวี่ยงดาบใส่ ทำให้หยวนยู่จำต้องยกใบดาบขนาดใหญ่ของเขาขึ้นปะทะ ทำให้คลื่นปราณของปิงโปเจียนสะท้อนกลับไปหาผู้ที่ปลดปล่อยมันออกมา
ปิงโปเจียนตกใจมาก เขายิงคลื่นพลังปราณเข้าต้าน และในขณะที่กำลังจะได้ทำอะไร ถังหยินก็พลันมาปรากฏตัวขึ้นข้างหลังและแทงดาบไปที่เอวของเขา
เขาได้แต่ก่นด่าอยู่ในใจ ! ทว่าปิงโปเจียนก็ไม่กล้าที่จะประมาท เขางอขาและกระโดดขึ้นไปในอากาศ พลางคิดว่าตนคงรอดพ้นแล้ว แต่ใครจะรู้ว่าถังหยินที่ควรจะอยู่ข้างล่าง จะกลับโผล่ขึ้นมาเหนือหัวของเขา !!!
นี่คือผลของวิชาสลับเงา ! ปิงโปเจียนตกใจกับความแปลกประหลาดของสลับเงา เขายกดาบปราณขึ้นกันดาบของถังหยินเท่าที่จะทำได้
แคร้ง ! แคร้ง !
เสียงฟาดฟันนี้ดูเหมือนว่ามันจะทะลุแก้วหูของผู้คนโดยรอบ
ปิงโปเจียนถูกกดลงด้วยแรงมหาศาล ทำให้เขาตกลงมาจากท้องฟ้าอย่างรวดเร็วจนกระแทกกับพื้นเสียงดัง
ในจังหวะนั้นเอง ถังหยินก็พลันพุ่งเข้ามาติด ๆ ชายหนุ่มใช้ดาบปราณของตนตวัดฟาดฟัน และเมื่อมันห่างจากหน้าอกของปิงโปเจียนไปจั้งเศษ การโจมตีนั่นมันก็พลาดเป้าไปอย่างน่าเสียดาย…
ปิงโปเจียนหลบออกข้างไปในจังหวะนั้น แต่ก็ถูกถังหยินที่ใช้วิชาสลับเงาตามมาติด ๆ ทำให้ปิงโปเจียนหน้าซีดด้วยความตกใจ ทว่ามันก็สายไปแล้วที่จะสลัดชายหนุ่ม เพราะเกราะปราณบริเวณหน้าอกของเขาตอนนี้มันก็ได้กลายเป็นเหมือนเต้าหู้ที่ถูกแทงทะลุอย่างง่ายดายด้วยดาบปราณ !!!