ราชันเทพสงคราม[唐寅在异界] - บทที่ 426
บทที่ 426
บทที่ 426
หลังจากได้ยินคำตอบของเฉิงจิน ถังหยินก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว ด้วยถ้าแม้แต่เฉิงจินยังรู้สึกว่ามันยากที่จะว่ายน้ำผ่าน งั้นแล้วมันก็ถือเป็นเรื่องยากยิ่งสำหรับทหารธรรมดา
ทว่าจ้าวอันกลับพูดแทรกขึ้นจากด้านข้างเสียก่อน “อาจจะเป็นเพราะว่าท่านว่ายน้ำไม่เป็น ตัวเชือกนั้นมันเป็นเหมือนตัวช่วยไม่ได้โดนน้ำพัดไปก็เท่านั้น”
ถังหยินยักไหล่และหัวเราะ “ทหารส่วนใหญ่ของข้าไม่รู้วิธีว่ายน้ำ”
ดวงตาของเฉิงจินพลันหันมาจ้องมองและพูดว่า “นายท่าน เพื่อป้องกันไม่ให้จมลงในน้ำ ข้าต้องใช้แรงมากทีเดียว แต่ถ้ามีไม้เท้าคอยช่วย บางทีมันอาจง่ายขึ้นก็เป็นได้…”
“อืม?” เมื่อได้ยินเช่นนั้นดวงตาของถังหยินก็สว่างขึ้น หลังจากครุ่นคิดสักครู่เขาก็เหมือนจะเข้าใจ จึงได้ยิ้มและหันมาพูดกับเฉิงจินและคนอื่น ๆ ว่า “กลับกันเถอะ !” จากนั้นเขาก็มองไปที่จ้าวอันและพูดว่า “เจ้ามากับข้าด้วย มารับของรางวัลตามสัญญา”
เมื่อได้ยินคำว่า ‘รางวัล’ ดวงตาของจ้าวอันก็พลันเปล่งประกายด้วยความสุขทันที ปากของเขาไม่สามารถแม้แต่จะหุบลงและพยักหน้าอย่างรวดเร็ว
พวกเขาทั้งสี่กลับมาในเส้นทางเดิม
อันที่จริงแล้วถังหยินไม่ได้คิดให้เงินเลยในทันใด เพราะถ้าให้ปล่อตัวไปเลย อีกฝ่ายก็อาจคิดโลภและไปบอกข่าวนี้กับจ้านอู่ฉางเพื่อขอเงินรางวัลเพิ่มเติมก็เป็นได้
…หัวใจของมนุษย์นั้นยากเกินที่จะหยั่งถึง ชายหนุ่มจำต้องคอยระวังให้ดี และนี่มันก็คือวิธีการทำสิ่งต่าง ๆ ของถังหยิน
เมื่อพวกเขาพาจ้าวอันไป ถังหยินก็ไม่รอช้า ทำการร้องสั่งเรียกแม่ทัพทั้งหมดให้มารวมตัวกันในทันที
บรรดาแม่ทัพกับคนอื่น ๆ มาถึงทีละคนอย่างรวดเร็ว และหลังจากที่ทุกคนมาถึง ถังหยินก็เล่าเรื่องทั้งหมดออกไป ทำให้พวกเขาต่างประหลาดใจ ด้วยนี่มันราวกับว่าพวกเขาได้รับการช่วยเหลือจากสวรรค์ !! เพราะตราบใดที่พวกเขาสามารถข้ามผ่านแม่น้ำและเข้าใกล้ศัตรูได้ งั้นแล้วกำลังนับหมื่นที่อยู่อีกด้านหนึ่งของแม่น้ำก็ถือว่าไม่มีอะไรให้ต้องกังวลอีก
จังหวะนั้นเอง หยวนยู่พลันก้าวเข้ามาและโค้งคำนับจากนั้นกล่าวอย่างจริงจังออกมา “นายท่าน ข้าคนนี้ยินดีที่จะนำพี่น้อง 2 พันคนข้ามแม่น้ำ คราวนี้เราจะกวาดล้างกองทัพทั้งหมดได้อย่างแน่นอน ข้าต้องการ… ที่จะล้างความอัปยศ… จากการสูญเสียพี่น้องของเราอย่างไร้ทางต่อต้านในคราวนั้น”
ถังหยินหัวเราะขณะที่เขามองไปยังหยวนยู่และส่ายหัว “หยวนยู่ เจ้าไม่ต้องรีบเร่งไป เราต้องพิจารณาเรื่องนี้อย่างรอบคอบ” ในขณะที่พูด เขาก็ได้หันมองไปทางจีหยิง “จีหยิง เรายังต้องเร่งสร้างแพเพื่อข้ามแม่น้ำ เพื่อหลอกให้กองทัพเปิงคิดว่าเรายังคงใช้แพข้ามแม่น้ำอยู่”
จีหยิงเข้าใจว่าถังหยินกำลังใช้กลยุทธ์จริงเท็จ ดังนั้นเขาจึงหัวเราะและพยักหน้าพลางพูดว่า “รับทราบขอรับ !”
“แล้วก็…” ถังหยินหยิบผ้าไหมออกมาและคว้าจับพู่กันเพื่อวาดสี่เหลี่ยมกว้างวาเศษที่ส่วนปลายหัวท้ายโค้งมนเป็นครึ่งวงกลม …ไม่ต้องพูดถึงจื่อหยิงเลย เพราะแม้แต่คนอื่นก็ไม่เข้าใจว่ามันคือรูปวาดของอะไร
ถังหยินกล่าวด้วยรอยยิ้ม “แม่ทัพจีหยิง ทำกระดานไม้ตามแบบนี้ จงอย่าให้หนาเกินไปและอย่าบางเกินไป ทำมา 2 พันชิ้นภายใน 2 วัน เจ้าทำได้หรือไม่ ? ”
กระดานไม้ทำง่าย แต่จีหยิงไม่เข้าใจว่าถังหยินต้องการกระดานพวกนั้นไปทำอะไร เขาจึงถามกลับไปว่า “นายท่านต้องการที่จะทำอะไรขอรับ ?”
“ข้ามแม่น้ำ !” ถังหยินเหล่ตาของเขาและกล่าวว่า “แม่ทัพเฉิงจินได้ทำการทดสอบด้วยตัวเองแล้ว แม้จะใช้เชือกช่วย แต่ถ้าไม่รู้วิธีว่ายน้ำมันก็ยังถือว่ายากลำบาก ดังนั้นจึงต้องใช้กระดานไม้ช่วย โดยให้พวกทหารนอนราบบนนั้นและยึดเชือกไว้ เพียงเท่านี้เราก็สามารถข้ามผ่านแม่น้ำและประหยัดกำลังกายไว้ได้แล้ว”
“แบบนี้นี่เอง !” หลังจากฟังคำอธิบายของถังหยิน ทุกคนก็เข้าใจภาพตรงหน้ามากขึ้น จนจีหยิงอดไม่ได้ที่ชื่นชม “น..นะ…นี่มัน สุดยอดไปเลย ได้เลยขอรับนายท่าน ข้าจะรีบดำเนินการในทันที !!!”
“ดีมาก !” ถังหยินพยักหน้า
ภาพที่วาดไม่ใช่ภาพที่เขามโนขึ้นมาเอง หากแต่มันได้รับแรงบันดาลใจจากกระดานโต้คลื่น และแม้ว่าชายหนุ่มจะไม่เคยเล่นมาก่อน แต่เขาก็เคยเห็น และรู้สึกว่ามันเหมาะมากที่จะใช้มันข้ามแม่น้ำ
หลังจากหยุดชั่วครู่ เขาก็พลันพูดต่อ “มีรายงานว่าในอีก 2 วัน ท่านแม่ทัพมูฉิงจะนำกองทัพปิงหยวนหนึ่งแสนคนมาที่เมือง ซึ่งในเวลานั้นแผ่นไม้ของเราก็คงจะเสร็จสมบูรณ์พอดี และเมื่อมีกำลังพลมากขนาดนั้น มันก็เป็นเรื่องง่ายที่จะใช้กำลังทหารส่วนหนึ่งเพื่อดึงดูดความสนใจไว้ที่ด้านหน้า ในขณะที่ให้หยวนยู่นำกำลังทหาร 2 พันนายแอบไปทางฝั่งตะวันออกข้ามผ่านไป
ทุกคนชื่นชมการจัดเตรียมอย่างพิถีพิถันของถังหยิน พวกเขาประกบฝ่ามือเข้าด้วยกันจากนั้นก็ยืนขึ้นและกำมือก่อนพูดว่า “รับทราบขอรับ นายท่านผู้เกรียงไกร !”
“เอาล่ะ เมื่อพี่น้องจากกองทัพปิงหยวนมาถึง เราจะโจมตีศัตรูจากฝั่งเหนือทันที !”
“รับทราบขอรับ !”
ตอนนี้ขวัญกำลังใจของเหล่าทหารกลับมาโหมกระพืออีกครั้ง โดยเฉพาะหยวนยู่ ดวงตาของเขาส่องแสงเป็นประกาย ด้วยหวังว่าจะได้ฆ่าฟันพวกเปิงให้หมดเพื่อที่จะล้างแค้นให้กับพี่น้องทหารกว่า 5 พันนายที่ตายไป
ถังหยินหันมองไปยังหยวนยู่ที่ตื่นเต้น จากนั้นหันไปหาจ้านหูและพูดว่า “จ้านหู คราวนี้เจ้ากับหยวนยู่จะเดินทางไปด้วยกัน”
จ้านหูไม่กล้าหาญเท่าหยวนยู่ก็จริง แต่เขามีจิตใจที่สงบ และถ้ามีจ้านหูคอยประกบตามหยางหยู งั้นแล้วถังหยินก็จึงจะรู้สึกสบายใจมากขึ้น
เมื่อได้ยินคำสั่ง จ้านหูไม่คัดค้านและรับคำสั่งคำแต่โดยดี ทว่าคำพูดนี้กลับทำให้ใบหน้าของหยวนยู่มืดลง “นายท่านมองว่าข้าคนนี้ไร้ความสามารถหรือขอรับ… ?”
ถังหยินเข้าใจอารมณ์ของหยวนยู่ และถ้าชายหนุ่มบอกว่าตนจะไม่สบายใจหากปล่อยให้หยวนยู่นำทัพไปคนเดียว ลูกน้องของเขาคนนี้จะต้องโวยวายอย่างแน่นอน ดังนั้นถังหยินจึงยิ้มและพูดไปว่า “อย่าดูถูกศัตรู อย่าลืมว่าพวกนั้นมียอดฝีมืออย่างชุยหยุนเจียน คนผู้นี้มีพลังมากชนิดที่ไม่มีใครเทียบได้ในกองทัพของเรา มีเพียงเจ้าเท่านั้นที่สามารถต่อกรกับเขาได้ แล้วถ้าเจ้าจำต้องต่อสู้กับเขา งั้นแล้วใครจะคุมกองทัพกันเล่า ?!”
“อ่า… ท่านหมายถึงเรื่องนี้นี่เอง ! “เมื่อหยวนยู่ได้ยินเช่นนี้ เขาก็พลันหัวเราะและเงยหน้าขึ้นมองไปยังแม่ทัพทางซ้ายและขวา ” ขอให้พวกเจ้าและนายท่านวางใจ ครั้งนี้ข้าจะสับชุยหยุนเจียนให้เป็นชิ้น ๆ เอง !”
ถังหยินพยักหน้าอย่างช้า ๆ ด้วยไม่ว่าชุยหยุนเจียนจะมาหรือไม่ แต่เขาก็เชื่อว่าชุยหยุนเจียนในปัจจุบันไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหยวนยู่อย่างแน่นอน !
…ท้ายที่สุดแล้ว ที่ด้านบนของภูเขาพวกเขาทั้งสองถือว่าได้รับบาดเจ็บมาหนักมากทีเดียว และในเมื่ออีกฝ่ายไม่ใช่ผู้ใช้ศาสตร์มืด งั้นแล้วก็คงเป็นไปไม่ได้ที่จะฟื้นตัวหายในเร็ววัน
ช่วงเวลา 2 วันผ่านไป ในที่สุดกองทัพปิงหยวนของพวกเขาก็มาถึงเมืองหลีชานตามกำหนด
เมื่อกองทัพปิงหยวนแสนคนเข้าสู่เมืองหลีชาน กลิ่นอายของกองทัพเทียนหยวนก็พลันดูแข็งแกร่งขึ้นทันที..
ด้วยเพราะเมืองหลีซานเล็ก ๆ ไม่สามารถทนต่อกองกำลังจำนวนมากได้ ดังนั้นค่ายของกองทัพปิงหยวนจึงถูกสร้างขึ้นที่ชายฝั่งของแม่น้ำแทน
พวกเปิงที่เห็นธงเฟิงมากมายโบกสะบัดอยู่ตรงข้ามเช่นนั้น พวกเขาก็พลันเสียขวัญ เช่นเดียวกับที่ภายในหัวใจที่ถูกความกลัวเข้าครอบงำไปเสียแล้ว
ในตอนเช้าของวันที่สองนับตั้งแต่ที่กองทัพปิงหยวนมาถึง ถังหยินก็ได้ออกคำสั่งให้โจมตี
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา กองทัพเทียนหยวนได้สร้างแพไม้ราว 500 แพอย่างต่อเนื่อง และตอนนี้พวกมันทั้งหมดก็ได้ถูกลากไปที่ริมฝั่งแม่น้ำแล้ว เช่นเดียวทหารทั้งหลายที่ตั้งทัพเตรียมพร้อม ขอเพียงถังหยินออกคำสั่ง พวกเขาก็จะเริ่มรบในทันที !
เมื่อเห็นถังหยินขึ้นไปบนแพ ทันใดนั้นพวกแม่ทัพก็พลันตกใจ พวกเขาทั้งหมดรีบไปข้างหน้าพร้อมกันและถามว่า “นายท่าน …ท่านกำลังทำอะไรอยู่ ?”
ถังหยินมองไปที่แม่ทัพพวกนั้น ก่อนจะหันหน้าไปมองทหารบนแพทั้งสองด้านแล้วจึงตะโกนเสียงดัง “เมื่อไม่กี่วันก่อน ที่แห่งนี้ทำให้กองทัพของเราสูญเสียทหารไปเกือบ 6 พันนาย พวกเจ้าทราบหรือไม่ ?”
“ขอรับ !”
เมื่อได้ยินของถังหยิน พวกทหารบนแพก็พลันตอบรับพร้อมเพรียงกัน
เมื่อเทียบกับผืนดินแล้ว ในน้ำนั้นน่ากลัวยิ่ง ด้วยถ้าเป็นบนบก ต่อให้ต้องเจอเข้ากับศัตรูนับหมื่นพวกเขาก็กล้าที่จะบุกทะลวงไปข้าง แต่กับแม่น้ำตรงหน้าแล้วนั้น….
“ไม่ว่าการตอบโต้ของศัตรูจะโหดร้ายแค่ไหน เราก็ยังต้องผลักดันตัวเองไปข้างหน้า คราวนี้ข้าจะสู้เคียงข้างพี่น้องไปด้วยกัน ดังนั้นแล้วพวกเจ้าจะยังกลัวกันอีกไหม ?”