ราชันเทพสงคราม[唐寅在异界] - บทที่ 469
บทที่ 469
บทที่ 469
เมื่อดาบพุ่งเข้ามา ถังหยินก็พลันหลบมันแล้วแทงดาบของเขาสวนกลับไป ก่อนจะใช้เข่าของเขากระแทกเข้าซ้ำที่หน้าอก
แรงกระทั่งนั่นเปิดช่องให้ถังหยินใช้เข่ากดไปบนร่างของอีกฝ่ายอย่างรุนแรงจนพื้นแตกกระจาย ทำให้เกราะที่หน้าอกของนักฆ่าแตกกระจายจนเขากระอักเลือดออกมาแล้วตายคาที่
เพียงพริบตาถังหยินก็ฆ่าคนไปแล้ว 3 คน และคนสุดท้ายก็ไม่อาจหนีไปได้ ซึ่งต่อให้เขารู้ตัวว่าไม่อาจสู้ถังหยินได้ ทว่ามันจะเหลือทางเลือกอื่นใดอีกกัน ? ดังนั้นแล้วนักฆ่าจึงพุ่งเข้าใส่ชายหนุ่มอย่างบ้าคลั่ง ทว่าถังหยินที่เห็นดังนั้นกลับไม่กังวลแม้แต่น้อย เขาเพียงก้มลงยกศพนักฆ่าที่ตายไปขึ้นมาเพื่อป้องกันดาบที่กำลังพุ่งเข้ามาหาอย่างสบาย ๆ
ฉึก !
ดาบปราณปักเข้าที่ศพอย่างจัง ทำให้ศพนั่นกลายเป็นชิ้น ๆ และในระหว่างที่อีกฝ่ายกำลังตะลึง ถังหยินก็เคลื่อนย้ายตัวเองไปอยู่ข้างนักฆ่านั่นแล้วใช้ดาบฟันไปที่เอว
นักฆ่าที่เห็นแบบนั้นจึงเร่งถอยกลับมา ซึ่งในระหว่างนั้นถังหยินก็ได้ใช้ดาบฟันเข้าไปอย่างรวดเร็วและรุนแรงจนนักฆ่าป้องกันไม่ได้ ทำให้อีกฝ่ายถูกต้อนเข้าจนมุมและไม่มีทางหนีอีกแล้ว
และเพราะเป็นแบบนั้น นักฆ่าจึงตัดสินใจจะไม่หลบมันแล้วโจมตีสวนกลับไปแทน !!!
แต่ทว่าถังหยินก็ไม่ได้เปลี่ยนการโจมตีแต่อย่างใด เขาแค่เอียงตัวหลบก่อนจะแทงเข้าใส่หน้าอกของอีกฝ่าย
ฉึก !
หลังจากหยุดไปหนึ่งวินาที ถังหยินก็แทงใส่ศัตรูแล้วถอยกลับมามองอีกฝ่าย จากนั้นจึงสะบัดดาบให้เลือดกระเด็นออกไปแล้วเก็บมันเข้าไปในฝัก
หลังจากเก็บดาบไปแล้ว ร่างของศัตรูก็ได้เอนตัวไปพิงกำแพงแล้วเลือดไหลจนตาย
ถังหยินหันมามองทางเข้าใต้ดินแล้วเดินเข้าไปในนั้น
ข้างใต้นั่น แท้ที่จริงแล้วเป็นแค่โถงเก็บเหล้าที่มีความกว้างเพียงนิดเท่านั้น ด้วยปกติแล้วมันใช้เก็บเครื่องดื่มที่นำไปบริการแก่ลูกค้า
..เมื่อลงมาแล้ว ชายหนุ่มก็พบว่าข้างใต้นี้มืดสนิท ทว่าด้วยเขามีดวงตาสีเขียวที่สามารถมองที่มืดได้ ถังหยินจึงสามารถมองเห็นทุกอย่างโดยรอบได้อย่างชัดเจน
และแม้ถังหยินเพิ่งจะเดินลงมา ทว่าเขาก็ได้ยินเสียงจากด้านข้าง พร้อมกับเงาที่เดินออกมา ชายหนุ่มจึงพลันเอียงตัวหลบแล้วถีบมันจนอีกฝ่ายกระเด็นออกไปชนถังเก็บเหล้าจนแหลกกระจายเป็นชิ้น ๆ
เงานั่นกระเด็นไปโดนถังเก็บเหล้าอย่างไม่ต้องสงสัย ซึ่งคนผู้นั้นก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเสี่ยวชาง !!
เสี่ยวชางตะลึงแล้วร้องออกมาขณะพยายามหนี แต่ถังหยินกลับวิ่งเข้าจับคอเขาไว้แล้วโยนไปข้างหลังจนลอยไปกระแทกถังเหล้าหลายถังจนแตกกระจายไปทั่วอีกครา
ชายหนุ่มเมินอีกฝ่ายที่สลบไป เขาหันไปมองข้างในที่มีคน 4 คนนั่งอยู่บนพื้น หนึ่งในนั้นคือหญิงวัยกลางคนกับเด็กอีก 3 คนที่ถูกมัดมือกับเท้าไว้อยู่
ซึ่งข้าง ๆ ทั้ง 4 คนไม่ใช่ก็คนอื่นนอกจากซ่งเทียนที่กำลังถือมีดจี้คอพวกเขาอยู่ ที่แท้ชายแก่ที่ถังหยินและทั้งกองทัพเฟิงตามหาตัวจนทั่วแผ่นดินก็อยู่ ณ ที่แห่งนี้เอง !!!
“อย่าเข้ามานะ ไม่งั้นข้าจะฆ่าคนพวกนี้ทิ้ง !” ซ่งเทียนร้องออกมาเพราะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังจะทำอะไร
ถังหยินที่เห็นแบบนั้นจึงหัวเราะออกมาด้วยไม่คิดว่าซ่งเทียนจะตกต่ำได้ถึงเพียงนี้ เขาหรี่ตาลงแล้วพูดขึ้น “กาลครั้งหนึ่ง อ๋องแห่งแคว้นเปิงนามว่าซ่งเทียนได้ขึ้นปกครองดินแดนที่ได้มาจากจากการปล้นชิง แล้วในตอนนี้เขายังตกต่ำถึงขนาดใช้ผู้หญิงและเด็กเป็นโล่อีกงั้นหรือ ? ช่างน่าสงสารเสียจริง !!”
“ถังหยิน ?” ซ่งเทียนมองไม่เห็นถังหยิน แต่หลังจากที่ได้ยินเสียงเขาก็มั่นใจในทันที
“ใช่ ข้าเอง !”
เมื่อได้ยินเสียงอีกฝ่ายที่กำลังเข้ามาใกล้ ซ่งเทียนก็พลันขู่ “อย่าเข้ามานะ ไม่งั้นข้าจะฆ่าพวกมันทิ้งซะ !”
ถังหยินหัวเราะออกมา “เจ้าคิดว่าจะขู่ข้าได้หรือ ?”
ซ่งเทียนตัวสั่น เช่นเดียวกับมีดในมือของเขาที่สั่นขณะตะโกนร้องออกมา “ถังหยิน ทำไมเจ้าถึงทำกับข้าแบบนี้ ? ทำไมเจ้าถึงต่อต้านข้า ?”
ถังหยินหัวเราะออกมา “ข้าต้องขอบคุณเจ้านะ ถ้าไม่มีเจ้าข้าก็ไม่มีวันนี้หรอก”
สิ่งที่ถังหยินพูดเป็นความจริงทั้งหมด และมันก็ยิ่งทำให้ซ่งเทียนเจ็บแค้นใจมากกว่าเดิม
ถังหยินเดินเข้าไปใกล้ เขาไม่แม้แต่จะสนใจเกี่ยวกับครอบครัวเจ้าของร้าน ก่อนที่ชายหนุ่มจะมาหยุดยืนตรงหน้าซ่งเทียนแล้วพูด “จริง ๆ ข้าจะปล่อยเจ้าไปก็ได้ แต่ว่าทุกคนในเมืองหลวงอยากจะเห็นข้าลากตัวเจ้าไปประจานที่นั่นน่ะสิ ดังนั้นข้าคงไม่อาจทำให้พวกเขาผิดหวังได้ !!”
ซ่งเทียนยอมรับว่าตัวเองไม่ใช่คนดี แต่เขาก็โกรธมากที่มีคนสวมรอยเขาแถมยังใช้ประโยชน์จากเขาอีก “เจ้าเองก็เล็งเหมือนข้าตั้งแต่แรกแล้วสินะ !”
ถังหยินยิ้มออกมา “แน่นอนอยู่แล้ว ข้าน่ะอยากจะครอบครองทุกสิ่ง อำนาจ เงินตรา ผู้หญิง เจ้าไม่คิดบ้างหรือว่ามันเป็นความรู้สึกที่ดีแค่ไหนกัน ?”
“เจ้ามันบ้าไปแล้ว !!” ซ่งเทียนร้องแล้วแทงมีดเข้าใส่ถังหยิน
เคร้ง !
ประกายไฟเกิดขึ้นไปทั่วแต่มันก็ทำอะไรถังหยินไม่ได้
“ข้าต้องแสดงความเสียใจด้วย ข้าเข้าใจความรู้สึกเจ้านะ แต่ต้องเป็นผู้ชนะเท่านั้นถึงจะครอบครองทุกสิ่งได้ !!” ระหว่างที่พูด เขาก็ได้คว้าหยิบมีดออกมาจากมือชายแก่แล้วสะบัดมือออกไป
เพียงพริบตาเดียวเสี่ยวชางก็ตายในทันที
ซ่งเทียนรู้สึกว่าตัวเองจบสิ้นแล้ว เขาพูดกับตัวเอง “แคว้นเฟิงไม่มีทางเป็นของเจ้าหรอก เจ้าคิดว่าจะมีใครชื่นชอบไอ้บ้าที่ฆ่าคนโดยไร้เหตุผลอย่างเจ้าหรือไง ? เจ้าคงต้องฆ่าคนแคว้นเฟิงให้หมดเพื่อให้ทุกคนยอมรับในตัวเจ้า !!!”
ถังหยินก้มหัวลงไปกระซิบ “ไม่ต้องห่วง ข้าจะทำให้มันเป็นไปตามที่ข้าต้องการเอง !”
พูดจบถังหยินก็สะบัดมือตัดหัวหญิงสาวที่นั่งอยู่พร้อมกับเด็กทุกคนจนแขนขาขาดกระจายเป็นชิ้น ๆ
ต่อให้ซ่งเทียนไม่ฆ่า ถังหยินก็จัดการอยู่ดีเพื่อเป็นการปิดปากพวกเขา
ซ่งเทียนที่เพิ่งรู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้น เขาจึงได้ทรุดตัวลงกรีดร้องออกมาอย่างสิ้นหวังในพลัน
ถังหยินหัวเราะแล้วกระชากคอเสื้อชายแก่ขึ้น “ซ่งเทียน เจ้าพูดมามากพอแล้ว ไปเมืองหลวงกันเถอะ” เขาลุกขึ้นแล้วยกร่างของซ่งเทียนไปด้วย
ชายหนุ่มแบกซ่งเทียนเดินออกมาภายนอก ทำให้พวกทหารที่เข้ามาล้อมร้องเรียกทัก “นายท่าน !”
ถังหยินที่เห็นดังนั้นจึงยิ้มออกมาแล้วชูซ่งเทียนขึ้นไป “ซ่งเทียนอยู่ที่นี่แล้ว !”