ราชันเทพสงคราม[唐寅在异界] - บทที่ 58
บทที่ 58
เสียงเคียวตวัดผ่ากลางรถดังกึกก้อง ภายในเสี้ยววินาที รถคันนั้นพลันขาดกลางจนกระเด็นตกหน้าผาไปครึ่งซีก ส่วนอีกซีกนั้นก็ได้หันเหทิศทางจนไปชนเข้ากับภูเขา
อ๊า!
ภาพที่เกิดขึ้นทำให้เกิดเสียงกรีดร้องดังออกมาจากฟากหนึ่งของภูเขา พวกโจรแทบจะเป็นบ้าที่ได้เห็นกู่เยว่ หลีเทียน และคนอื่น ๆ ที่ด้านหลังปลอดภัย
โดยไม่ให้พวกมันได้โอกาสอีก ถังหยินรีบวิ่งขึ้นไปบนเขาพร้อมเคียวในมือ แท้จริงแล้วกองกำลังโจรป่ากองนี้คือกองโจรที่รวบรวมเอาโจรป่า คนเร่ร่อน นักโทษ พ่อค้า และลูกหนี้เข้าด้วยกัน ดังนั้นแล้วอาวุธของพวกเขาจึงเต็มไปด้วยอะไรก็ตามแต่ที่พวกเขาจะสรรหามาใช้ขู่กรรโชกคนได้
เห็นเพียงถังหยินพุ่งเข้ามาพร้อมเสียงตะโกน ก่อนที่ชายหนุ่มจะเหวี่ยงเคียวปล่อยคลื่นพลังปราณออกไปผ่าพวกโจรภูเขาขาดครึ่งกันนับ 10 นาย เลือดและเครื่องในไหลมากองบนพื้นเต็มไปหมด
พวกโจรนั้นเก่งในการบุกปล้นบ้าน แต่เมื่อเจอเข้ากับผู้ฝึกยุทธ์ พวกเขาก็พากันเข่าอ่อนในทันที เมื่อเจอเข้ากับผู้ที่เก่งกาจกว่า พวกโจรก็เริ่มหวาดกลัวและพากันถอยหนีไป ถังหยินหัวเราะ เขาไม่มีทางปล่อยให้ใครรอดไปแน่
ชายหนุ่มตะโกน “ฆ่าพวกมันให้หมด อย่าให้เหลือรอด!”
เมื่อพวกโจรไม่เก่งกาจมากนัก ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่ดีสักเท่าไหร่ ในความคิดของถังหยิน นี่จึงเป็นโอกาสที่พวกทหารจะได้ใช้ทักษะในการต่อสู้จริงจังดูบ้าง เมื่อได้ยินคำสั่ง กู่เยว่และหลีเทียนจึงพาลูกน้องตัวเองเข้าปะทะกับพวกโจรทันที
พวกมันมีแค่ไม่กี่ร้อยคนเท่านั้น ทั้งยังไม่ได้รับการฝึกฝนมาก่อน จะให้เทียบเคียงกับกองทหารได้อย่างไร ? การต่อสู้ใช้เวลาไม่นานนัก ในที่สุดพวกโจรก็ถูกสังหารจนเกือบหมด มีแค่บางส่วนที่รอดชีวิตเพราะถูกจับตัวไว้
เมื่อการต่อสู้จบลง ก็เริ่มมีเสียงตะโกนจากระยะไกล ก่อนที่จะตามมาด้วยพวกโจรนับพันที่พากันหนีลงไปข้างล่าง
ถังหยินมองคนพวกนั้นสักพัก แล้วจึงออกคำสั่ง“ชิวเจิ้น!”
“ว่าไงสหาย!” เด็กหนุ่มโผล่มาจากที่ไหนไม่รู้แล้ววิ่งมาอยู่ข้าง ๆ เขา
“ไหนเจ้าบอกว่าพวกมันมีกัน 500 คนไง? แล้วไอ้พวกนี้มาจากไหนกัน?” เมื่อเห็นโจรจำนวนมากที่กำลังวิ่งกรูกันเข้ามา ชายหนุ่มก็ชักอยากจะลองการต่อสู้แบบเต็มรูปแบบดูซะแล้ว
ชิวเจิ้นยิ้มออกมา เขาเช็ดเหงื่อบนหน้าผาก จากนั้นจึงพูดขึ้น “ข้าได้ข่าวมาว่ามีแค่ 500 เองนะ แล้วทำไมถึงได้มีจำนวนที่เยอะขนาดนี้กัน?”
ถังหยินกลอกตา บางทีเจ้าเมืองกงก็อาจจะไม่รู้จำนวนที่แท้จริงของพวกโจรก็เป็นได้ โชคดีที่อีกฝ่ายไม่ได้เก่งกาจอะไรมากนัก ทั้งยังมีจำนวนแค่หลักพันเท่านั้น เพราะถ้าเจอเข้ากับค่ายโจรนับหมื่นละก็ น่ากลัวว่าลูกน้องของตนจะต้องบาดเจ็บล้มตายกันเป็นจำนวนมาก
ด้วยขาดประสบการณ์จึงยังไม่อาจคิดได้ครอบคลุม แต่ในเมื่อครั้งนี้เจอกับเรื่องเช่นนี้ ดังนั้นเขาจึงเริ่มเข้าใจอะไรบางอย่างขึ้นมาบ้างแล้ว ในใจของชายหนุ่มเริ่มคิดอยากจะจัดตั้งหน่วยข่าวกรองขึ้นมาในอนาคตบางแล้ว เพื่อที่จะได้ข่าวสารที่แม่นยำมากกว่านี้
เมื่อเห็นพวกโจรกำลังจะวิ่งลงจากภูเขา ถังหยินก็สูดหายใจลึก ๆ แล้วตะโกน “พลธนูเตรียมตัวให้พร้อม!”
ตามคำสั่งของเขา ทหารทั้งสองพันนายก็พากันจัดรูปขบวน ก่อนจะหยิบธนูออกมาเตรียมไว้
ถังหยินมองไปและโบกมือ “ยิงได้!”
ลูกศรนับพันพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าและทำมุมอย่างสวยงามบนท้องฟ้า ก่อนที่จะร่วงลงมา ศรพวกนั้นทะลวงร่างของพวกโจรอย่างดุเดือดจนเกิดเสียงที่ได้ยินดังชัดเจน ก่อนที่ร่างไร้วิญญาณของพวกโจรจะร่วงลงกองอยู่บนพื้น
จากนั้นการโจมตีระลอกที่สองก็พุ่งตามมาอีกครั้ง และด้วยพวกโจรที่เหลือรอดยังไม่ทันตั้งตัวจากระลอกที่แล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงถูกธนูปักไปทั่วร่างจนพรุนไปหมด
และเมื่อพวกมันรวมกลุ่มกันได้ พวกโจรก็เริ่มยิงสวนกลับบ้าง หากแต่ธนูของพวกเขาไม่ได้คุณภาพแถมยังไม่มีฝีมือ จึงทำให้ลูกศรไม่อาจพุ่งเข้าหาพวกถังหยินได้เลย
“เก็บธนู! ใช้หอกพุ่งประจัญบาน!” ถังหยินออกคำสั่งแล้วพุ่งเข้าหาศัตรู
ความแตกต่างของกำลังพลทั้งสองสามารถเห็นได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของพละกำลังและคุณภาพอาวุธ ดูยังไงพวกโจรก็ไม่อาจเทียบกองทหารได้เลย
แม้ว่าพวกทหารเฟิงเหล่านี้จะเข้าร่วมกองทัพเพื่อฝึกได้ไม่นานก็จริง แต่พวกเขาก็ยังเคยผ่านการฝึก และพอมีประสบการณ์ต่อสู้มาบ้าง ดังนั้นแล้วโจรป่าพวกนี้จึงไม่อาจนับได้ว่าเป็นอะไร จะมีดีก็แต่ประโยชน์ในแง่ของการในพวกทหารฝึกฝนก็เท่านั้น
ในการต่อสู้ ทหารเฟิงใช้ทักษะที่ฝึกมาทั้งหมดได้อย่างถูกต้อง ทั้งหอกที่ใช้ในการแทงพวกโจร ธนูที่ยิงจากระยะไกล รวมไปถึงดาบที่ใช้ในการฟาดฟันระยะประชิด
เป็นการต่อสู้ที่ไม่ต้องเดาผลแพ้ชนะเลยแม้แต่น้อย
ถังหยินสู้อยู่แนวหน้า แล้วเมื่อเขาหันกลับมาก็เห็นแต่พวกโจรกำลังร้องไห้หาครอบครัวตัวเองกันอยู่ กรรมสนองกรรม! เขายิ้มออกมา พวกโจรเทียบกับพวกหนิงที่เขาเคยเจอไม่ได้เลย การต่อสู้ครั้งนี้มันง่ายเกินไป
ในจังหวะนั้นมีหนึ่งในโจรตะโกนออกมา “ไอ้พวกสุนัขรับใช้กองทัพ ข้าจะฆ่าพวกเจ้า!”
จากนั้นก็มีเงาที่ปรากฏออกมา พร้อมกับลำคอของ ถังหยินที่สัมผัสได้ถึงแสงเย็นเยียบ ชายคนนี้เร็วมาก แต่ช่างน่าขันที่ความเร็วระดับนี้นั้นไม่ได้เป็นภัยต่อถังหยินเลย อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้เขาสนใจก็คืออีกฝ่ายเป็นผู้ฝึกยุทธ์และอาวุธที่ใช้ก็คือดาบปราณ
ชายหนุ่มยกเคียวขึ้นเหนือหัวเพื่อป้องกันการโจมตีเอาไว้ “ข้าไม่คิดว่าพวกโจรก็มีวิชายุทธ์เหมือนกัน!”
“ไปตายซะ!” ชายคนนี้กำลังตกอยู่ในสภาวะบ้าคลั่ง ดาบของเขาเล็งเข้าใส่จุดตายของถังหยิน
ดวงตาของชายหนุ่มนิ่วลงเล็กน้อย ริมฝีปากเริ่มปรากฏรอยยิ้มเย็นชา ร่างกายของเขาสะบัดหลบราวกับภูตผี ก่อนจะมาปรากฏอีกทีอยู่ด้านหลังพวกโจร โดยไม่ทันให้อีกฝ่ายตั้งตัว ไฟสีดำในมือของถังหยินพลันก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว
พรึ่บ!
ไฟสีดำกลายเป็นงูหลายร้อยตัว พวกมันพากันเลื้อยคลานไปรอบ ๆ ตัวชายคนนั้น การที่ถูกเผาด้วยไฟแห่งความมืดนั้นมันเจ็บปวดเสียยิ่งกว่าโดนไฟธรรมดาหลายเท่า ชายร่างใหญ่กรีดร้องออกมา ร่างสั่นเทาอย่างไม่อาจควบคุม ก่อนที่จะหายไปทั้งร่างกาย
สิ่งที่เหลืออยู่ก็คือชุดเกราะและอาวุธที่กลับสู่สภาพเดิม ฟ่อ ฟ่อ! ถังหยินสูดพลังปราณเข้ามาในร่างกายแล้วบิดแขนด้วยความสบายใจ
ชายคนนี้เหมือนจะเป็นหัวหน้ากลุ่มพวกโจร ซึ่งตอนนี้ก็กลายเป็นเศษฝุ่นไปเรียบร้อยแล้ว ภาพที่เกิดขึ้นทำให้พวกโจรพากันหมดกำลังใจที่จะสู้ต่อ
ไม่ต้องรอให้ถังหยินออกคำสั่ง พวกทหารก็เริ่มจัดการพวกโจรที่เหลือรอด ถังหยินมองเห็นรังโจรมาแต่ไกล
ที่แห่งนั้นกว้างมาก เป็นพื้นที่เปิดโล่งครึ่งหนึ่งของภูเขา ทั้งยังมีป้อมปราการขนาดเล็กที่ทำจากหินตั้งตระหง่านไว้อีกด้วย
ถังหยินเดินผ่านฝูงโจร ตรงเข้าไปยังป้อมภูเขานั่น เมื่อเข้าไปถึงก็พบว่ามีพวกโจรอยู่ข้างในจำนวนหนึ่ง โดยไม่ทันให้ตั้งตัว ธนูนับสิบพลันพุ่งเข้าใส่ชายหนุ่มอย่างรวดเร็ว ชายหนุ่มโบกเคียวตัดพวกมันทิ้งทั้งหมด และเดินเข้าไปยังทิศทางที่ลูกศรนั้นพุ่งมา
ใครจะไปคิดล่ะว่าเขาจะเร็วขนาดนั้น ? พวกโจรที่ซ่อนตัวอยู่ด้านหลังหินเริ่มกรีดร้องด้วยความหวาดกลัว พวกเขาพากันทิ้งอาวุธ ก่อนจะพากันวิ่งหนีไป ในสายตาของถังหยิน ความเร็วระดับนั้นเหมือนกับเต่าคลาน แค่ก้าวไปนิดหน่อยก็ถึงตัวพวกมันแล้ว
พวกโจรเริ่มล้มลงบนพื้นอย่างน่าสังเวช ถังหยินจัดการพวกมันจนหมอบอยู่กับพื้น ก่อนจะใช้เคียวจ่อคอพวกเขาไว้ “ใครเป็นผู้นำพวกเจ้า? แล้วมันอยู่ที่ไหน?”
โจรคนนี้ดูหนุ่มมาก น่าจะอายุไม่เกิน 20 ปากของเขากลายเป็นสีเขียวด้วยความกลัว
เขามองถังหยินในชุดเกราะสีดำ แล้วตะโกน “อย่า อย่าทำข้าเลย จาง หัวหน้าพวกเราอยู่ตรงนั้น…”
ถังหยินไม่ได้พูดอะไร เขาเงียบงันไม่ตอบคำ ก่อนจะกระแทกอีกฝ่ายเข้ากลางหลัง แล้วจึงโยนร่างของชายผู้นั้นไปยังทิศทางที่อีกฝ่ายร้องบอก
โครม!
ร่างของโจรกระแทกเข้ากับประตูจนมันพังทลายลง
“อ่า…”
โจรที่ถูกโยนไปนั้นกำลังตกอยู่ในอาการช็อก ทั้งตกตะลึงและเจ็บปวดในเวลาเดียวกัน ทว่าก่อนที่เขาจะทันได้ทำอะไร ดาบที่ไม่ทราบที่มาก็พลันพุ่งเข้าหาจากรอบทิศทาง
เมื่อร่างของเด็กหนุ่มคนนี้ถูกหั่นออก ชายที่อยู่ข้างในก็รู้ตัวแล้วว่าตนนั้นจัดการคนผิด ด้วยความโกรธเกรี้ยว เขาพลันพุ่งตัวออกมา
ถังหยินยืนอยู่หน้าประตู เขามองหน้าอีกฝ่ายด้วยความรู้สึกที่ต่างกันออกไป พวกโจรมีกัน 5 คน 2 ในนั้นใช้อาวุธปราณ ส่วนอีก 3 คนเป็นผู้ฝึกยุทธ์ที่ยังไม่สามารถใช้อาวุธปราณได้ พวกเขามีแค่เกราะครึ่งตัวเท่านั้น
มีผู้ฝึกยุทธ์เต็มไปหมดเลย! ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมทหารเมืองกงถึงทลายรังโจรนี้ไม่ได้สักที
“เจ้าเป็นใคร? แล้วทำไมถึงต้องทำลายหมู่บ้านพวกเราด้วย?” หนึ่งในนั้นคนที่ยืนอยู่ตรงกลางเป็นชายวัย 40 ถามขึ้นมา จากมุมมองแล้วน่าจะเป็นผู้อาวุโสที่สุดของกลุ่มโจร ชายหนุ่มมองหน้าอีกฝ่ายด้วยสีหน้าเย็นชา และไม่ได้พูดอะไร
“ข้ารู้ว่าเจ้าไม่ใช่ทหารเมืองกง เจ้าแค่ผ่านทางมา พวกเราไม่ได้มีอะไรบาดหมางต่อกัน แล้วทำไมต้องทำแบบนี้ด้วย? ถ้าเจ้าอยากได้เงินก็เอาไปให้หมดเลย!”