ราชันเทพเก้าสุริยัน Nine Sun God King - ตอนที่ 716
ตอนที่ 716 ความรู้สึกผิดที่อัดแน่นอยู่ภายใน
ฉินหยุนอยู่ในอ้อมกอดของปิงชิง ร่างกายของเขาเริ่มแปรเปลี่ยนเป็น
สีดำสนิท กล้ามเนื้อทั้งหลายเริ่มปล่อยกระแสออร่าชั่วร้ายออกมา
สถานการณ์ยิ่งมายิ่งเลวร้ายลง
“หากข้าจูบ มันจะได้ผลจริงหรือ?” ปิงชิงเผยสีหน้าปั้นยาก นางมอง
ที่ฉินหยุนซึ่งนอนหนุนหน้าตักตนเองอยู่
หลิงหยุนเอ๋อถึงกับสบถต่อฉินหยุนภายใน!
เพราะฉินหยุนตอนนี้มีอิทธิพลทางใจต่อปิงชิง นอกจากนี้แล้ว ด้วย
สภาพนอนหนุนหน้าตักในสภาพอาการย่ำแย่ เขายังไม่ทราบว่านี่คือ
ช่วงเวลาอันงดงามเพียงใด
“ย่อมต้องได้ผล อย่างไรก็ดีกว่าไม่ได้ทดลอง! ไม่ว่าจะอะไร ท่านก็
ชอบเขา และนี่ก็เพียงจูบ ไม่ได้บอกให้ร่วมทำลูก!” หลิงหยุนเอ๋อเร่ง
ร้อนกล่าว
“ข้าไม่ได้ชอบเขา! สาเหตุเดียวที่ข้าช่วยเหลือก็เพื่อเป็นการช่วยพี่ฉี
โหรว!” ปิงชิงโพล่งเสียงดัง
หลิงหยุนเอ๋อที่ได้เห็นปฏิกิริยา นางจึงทราบว่าปิงชิงกล่าวคำลวง
“ก็ได้ แล้วแต่เลย อย่างไรก็แค่ทดลองดู ต่อให้… มีค่ำคืนดื่มด่ำร่วม
สองด้วยกัน แต่หากไร้ซึ่งความรู้สึกใดก็คงไม่อาจช่วยเหลือเขา
เอาไว้ได้!” หลิงหยุนเอ๋อกล่าว
“วิญญาณเต๋าเอ๋ย เหตุใดเจ้าจึงมีแต่ความคิดโสมมเช่นนี้! ข้าแทบไม่
นึกอยากเข้าใจ ฉินหยุนเป็นปุถุชนที่ดี ทว่าเจ้ากลับเป็นเช่นนี้” ปิงชิง
แค่นเสียงเย็นกล่าวคำออก
“พี่สาวปิงชิงหยุดกล่าววาจาไร้สาระ และเร่งรีบลงมือได้แล้ว!” หลิง
หยุนเอ๋อโพล่งกล่าวเร่ง
“จูบก็พอใช่ไหม! แล้วเรื่องนี้ก็จงอย่าได้บอกต่อเขา หากเขาทราบ
ภายหลัง จงบอกว่ามันเป็นภาพมายา หากเขาไม่เชื่อ เช่นนั้นก็บอกว่า
เป็นมายาที่เจ้าสร้างขึ้น!” ปิงชิงกล่าว “ข้าไม่คิดให้เขาได้ทราบเรื่อง!”
“ก็ได้ ข้าให้สัญญา ตอนนี้เลิกพิรี้พิไรได้แล้ว อีกไม่นานฉินหยุนจะ
ตายตกอยู่แล้ว!” หลิงหยุนเอ๋อกล่าวอย่างเร่งร้อน
ปิงชิงสูดลมหายใจเบา จากนั้นจึงก้มศีรษะลงจูบที่ฉินหยุน จากที่
เห็น นี่สมควรเป็นนางเพิ่งกระทำครั้งแรก เป็นนางขาดประสบการณ์
อย่างเห็นได้ชัด
หลิงหยุนเอ๋อเวลานี้จึงใช้พลังจิตสื่อสารต่อปิงชิง ชี้แนะว่านางควร
ต้องทำอย่างไรต่อ
ปิงชิงย่อมสื่อสารทางจิตกับหลิงหยุนเอ๋อได้เช่นกัน “ฉินหยุนทราบ
หรือไม่ว่าเกิดเรื่องใดขึ้น”
“เขาไม่อาจทราบ แต่นี่น่าจะได้ผล!” หลิงหยุนเอ๋อกล่าว
ฉินหยุนผู้ซึ่งร่วงหล่นสู่ก้นบึ้งแห่งเต๋าอสูร ขณะนี้รับรู้ถึงริมฝีปากที่
ได้รับการเติมเต็ม เขาหยุดร้องตะโกน เพราะปิงชิงได้ควบคุมพลัง
ของนางเอาไว้ทำให้เขาไม่อาจดิ้นรนอื่นใดได้อีก
“หลิงหยุนเอ๋อ นางวิญญาณสวะ จงออกไปให้พ้นจากที่นี่ เจ้าคิดทำ
อะไรข้า? ข้าจะฉีกนางมารร้ายเช่นเจ้าออกเป็นชิ้น!” ฉินหยุนคำราม
กราดเกรี้ยวดังในจิตใจ
ความคิดของเขาเวลานี้ คือตนถูกหลิงหยุนเอ๋อลวงหลอก!
หลิงหยุนเอ๋อร้องตะโกนภายในโลกจิตวิญญาณของฉินหยุน “ฉินหยุน
ปิงชิงกำลังจูบเจ้า นางช่วยเหลือเจ้าเพื่อให้พ้นจากสภาพนี้! จงเร่งรีบ
รู้สึกตัวได้แล้ว ชาติภพก่อนเจ้าทำร้ายนางอย่างสาหัส ดังนั้นชีวิตนี้
เจ้าต้องชดใช้ต่อนาง!”
“เป็นนางเลือกเสียสละอย่างมหาศาลเพื่อช่วยเหลือเจ้า!”
ฉินหยุนพอได้ฟัง เขาอึ้งไปพักหนึ่ง จากนั้น ห้วงความคิดของเขา
คล้ายกระจ่างขึ้น ทั้งยังสัมผัสได้ถึงบางอย่าง
“ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่ดี เจ้าควรอิ่มเอมกับมันไว้เสีย!”
หลิงหยุนเอ๋อได้เห็นความทรงจำดำมืดของฉินหยุนค่อยกลับกลาย
เป็นสว่าง นางค่อยถอนหายใจโล่งอกได้
ฉินหยุนรับรู้ถึงโลกภายนอกที่ยิ่งมายิ่งสว่างและกระจ่างชัด
อย่างรวดเร็ว เขาฟื้นกลับคืนจิตสำนึก รับรู้ได้ถึงปิงชิงที่สวมกอด
ตนเองเอาไว้ ในอ้อมกอดนี้ มันทำให้เขารับรู้เพียงแต่ความอ่อนโยน
และโอบอ้อม
ด้วยอะไรไม่ทราบ จิตใจฉินหยุนที่มีแต่ความรู้สึกด้านลบ ขณะนี้
ค่อยถูกสะกดลงไปมาก เวลานี้มันราวกับเขาเดินเล่นในโลกแห่ง
ความฝัน พร้อมรับรู้ถึงความอ่อนโยนที่ปิงชิงส่งมอบให้
กล้ามเนื้อฉินหยุนที่แปรเปลี่ยนเป็นสีดำ เวลานี้ค่อยกลับคืนปกติ
กลุ่มพลังงานสีดำที่ฟุ้งอยู่เริ่มเลือนหาย
เพราะจูบของปิงชิง มันยิ่งทำเขารู้สึกผิด เพราะเขาทำให้ปิงชิงต้อง
ผิดหวังอีกครั้งคราหนึ่งแล้ว!
พร้อมกันนี้ เขายังรับรู้ได้ถึงความรักที่เจือปนมา
มันทำให้เขาเริ่มนึกย้อนถึงช่วงเวลาแห่งความเจ็บปวดรวดร้าว ปิงชิง
อยู่ข้างกายเขามาโดยตลอด พยายามใช้สารพัดวิธีเพื่ออุ้มชูและบรรเทา
ความเจ็บปวด
กระนั้น เขากลับลืมเลือนทุกสิ่งอย่าง กลับกลายเป็นรู้สึกราวกับตน
ถูกทอดทิ้ง ตอนนี้เขายิ่งรู้สึกผิดที่ทำให้ปิงชิงต้องผิดหวัง ความรู้สึก
ผิดที่ก่อเกิดยิ่งมายิ่งมากขึ้น
ความรู้สึกผิดที่บังเกิด มันคือแหล่งกำเนิดพลังงานด้านบวกแก่จิตใจ
ของฉินหยุน!
ตราบเท่าที่ยังคงมีจิตสำนึกแม้เศษเสี้ยว หลังก่อเรื่องที่ผิดพลาด มัน
ย่อมต้องเกิดขึ้นเป็นความรู้สึกผิด!
จิตใจและความทรงจำที่บิดเบี้ยว มันเป็นเพราะความมืดเข้าปกคลุม
เวลานี้มันถูกชี้นำกลับคืนสู่ความกระจ่างชัดทีละน้อย
“เสี่ยวหยุน ปิงชิงช่วยเหลือเจ้ามาโดยตลอด! นางเกลียดชังเจ้าในชาติ
ภพก่อนเป็นล้นพ้น กระนั้นตอนนี้นางกลับยอมปล่อยวางเรื่องราว และ
เจ้า… หันดูตัวเจ้า เป็นเจ้าที่ทอดทิ้งความเชื่อมั่นซึ่งนางมีมอบให้!”
“หากเจ้าตาย ผู้ใดกันจะปกป้องนางในภายหน้า? ไม่มี! นอกจากนี้
แล้ว ยังคงมีเย่ว์หลาน เสี่ยวเม่ยเหลียน เหล่านั้นล้วนเป็นครอบครัว
ของเจ้า!”
“ความทรงจำวัยเด็กของเจ้ากลับคืนมา เจ้าสมควรทราบแล้วว่า
มารดาเจ้าสิ้นพระชนม์อย่างไรใช่หรือไม่?”
หลิงหยุนเอ๋อยินดีไม่น้อยที่ได้เห็นฉินหยุนกลับคืนสู่อาการสงบอีก
ครั้งหนึ่ง ก่อนหน้า เป็นนางที่กระตุ้นให้ฉินหยุนต้องปกป้องครอบครัว
อันสำคัญของตนเอง ต้องมีความหาญกล้าที่จะก้าวเดินออกไป เพื่อ
ต่อสู้กับมารร้ายที่พร้อมจะย่างกรายเข้ามา
“เสด็จแม่เป็นข้าสังหาร ข้าย่อมต้องช่วยให้ท่านได้ถือกำเนิดขึ้นใหม่
อีกครั้ง!” ฉินหยุนกล่าวต่อหลิงหยุนเอ๋อ
“อย่าได้กล่าวเช่นนั้น เสด็จแม่ของเจ้าเพราะได้รับแผนที่หลุมฝังเซียน
ภายหลังจึงให้กำเนิดเจ้า และเป็นนางที่ตัดสินใจถ่ายโอนพลังมาร
จากตัวเจ้ามาด้วยตนเอง!”
“เสด็จแม่ของเจ้าได้เสียสละตนเองเพื่อปกป้อง! ไม่เพียงแต่นาง ยังมี
มารดาของเสี่ยวเม่ยเหลียนและเย่ว์หลาน ทั้งสองเพื่อปกป้องทายาท
พวกนางต่างต้องประสบพบเจอเรื่องราวเช่นเดียวกัน!”
“พวกนางเหล่านั้นถูกสังหารโดยพลังของวิญญาณร้าย ดังนั้นเจ้าต้อง
ดึงตนเองไว้อย่าได้ร่วงหล่นสู่เต๋าแห่งอสูร ไม่เช่นนั้น การเสียสละที่
เสด็จแม่ของเจ้ามอบไว้จะกลายเป็นสูญเปล่า!”
หลิงหยุนเอ๋อพูดกล่าวบอกต่อฉินหยุน นี่เองจึงเป็นสาเหตุที่นางถือ
กำเนิดขึ้น
การครอบครองวิญญาณยุทธ์ตะวันทมิฬ มันยิ่งทำให้ร่วงหล่นสู่เต๋า
อสูรโดยง่าย เขาจำเป็นต้องมีภูติเช่นนางเพื่อคอยย้ำเตือน
“หยุนเอ๋อ ขอบคุณเจ้าแล้ว! ก่อนหน้าข้าต้องขออภัยที่กล่าววาจา
เหล่านั้นออกไป เป็นข้าทำเจ้าผิดหวัง!” ฉินหยุนกล่าวออกอย่าง
สำนึกผิด
“ไม่เป็นไร พวกเราล้วนเป็นสหายที่ชิดใกล้ ข้าย่อมช่วยเหลือเจ้า!”
หลิงหยุนเอ๋อหัวเราะกล่าว “เสี่ยวหยุน หากเจ้าคิดอยากจูบให้มากกว่า
นี้ จงแสร้งทำเป็นไม่ได้สติไปอีกพักหนึ่ง! หรือไม่ก็พยายามดิ้นรน
คลุ้มคลั่ง ใช้โอกาสนี้ดึงเอาความรู้สึกของนางออกมา… หึหึหึ ก่อน
หน้าเป็นนางฉวยโอกาสต่อเจ้า ครานี้ค่อยเป็นโอกาสดีให้เจ้าได้ทวง
หนี้!”
ก่อนหน้านี้ ปิงชิงกล่าวย้ำต่อหลิงหยุนเอ๋อว่าอย่าได้บอกต่อฉินหยุน
ถึงเรื่องนี้
แต่แล้ว หลิงหยุนเอ๋อไม่เพียงบอกต่อฉินหยุนว่าเกิดอันใดขึ้น กลับ
ยังชี้นำให้เขาฉวยโอกาสต่อนาง
หากปิงชิงทราบ โทสะที่นางมีคงระเบิดปะทุออก!
ฉินหยุนดึงสติกลับคืนมาได้แล้ว กระนั้นเขาก็หาได้คิดทำตามคำ
กล่าวของหลิงหยุนเอ๋อ
แขนของเขาขยับไปโดยไม่คล้ายตั้งใจ มันสัมผัสกับบางอย่าง เป็น
ผลให้ปิงชิงถึงกับสะท้านตั้งแต่หัวจรดเท้า
ปิงชิงค่อยตระหนักได้ตอนนี้ ว่าฉินหยุนพยายามลงมือต่อนาง…
นางที่มีโทสะจึงติดต่อไปทางหลิงหยุนเอ๋อ กระนั้นกลับไม่ได้รับการ
ตอบสนองใด…
ฉินหยุนซาบซึ้งต่อปิงชิงเป็นล้นพ้น เขาไม่คิดอยากใช้โอกาสนี้
ล่วงเกินต่อนาง กระนั้นหากเขาตื่นขึ้นอย่างกะทันหัน มันจะกลับ
กลายเป็นสถานการณ์ชวนกระดากใจ เขาจึงแสร้งทำเป็นได้สติ
เพื่อที่จะได้ทำเสมือนไม่มีอันใดเกิดขึ้น
“หยุนเอ๋อ บอกต่อพี่สาวปิงชิง ว่าตัวข้าตอนนี้ดีขึ้นมากแล้ว ให้นาง
หยุดการกระทำได้!” ฉินหยุนบอกกล่าว
“ไม่มีทาง นี่เป็นโอกาสชั้นเลิศ!” หลิงหยุนเอ๋อแค่นเสียงสะบัดหน้า
“หยุนเอ๋อ เชื่อข้า หากสตรีผู้นั้นชื่นชอบข้าจริง เช่นนั้นก็ไม่มีความ
จำเป็นต้องใช้กลลวงเช่นนี้!” ฉินหยุนยิ้มกล่าว “ทำเช่นนี้ มีแต่จะ
นำพาผลลัพธ์อีกด้านกลับคืนมา!”
“ก็ได้!” หลิงหยุนเอ๋อได้แต่ต้องจำยอม
นางส่งเสียงสื่อสารไปยังปิงชิงพร้อมกล่าว “พี่สาวปิงชิง ขอบคุณ
ท่านแล้ว! อาการเสี่ยวหยุนดีขึ้นมาก นี่ถือว่าได้ผลดีเยี่ยมนัก!”
“จริงหรือ? ข้าหยุดได้แล้ว?” ปิงชิงเผยความยินดีจากใจปรากฏออก
“เขากำลังอยู่ในห้วงความฝัน หากท่านคิดอยากทำต่อ เช่นนั้นก็จงทำ!
ข้าจะไม่บอกต่อเขาถึงเรื่องนี้อย่างแน่นอน!” หลิงหยุนเอ๋อหัวเราะดัง
คิกคัก
“จะไม่บอกเขาจริงหรือ?” ปิงชิงกล่าวถาม
“ต่อให้ข้าบอก เขาก็ไม่เชื่อข้า! ท่านไม่ทราบ เสี่ยวหยุนหาได้มี
เจตนาคิดร้ายใดต่อท่านไม่! เขามีเพียงแต่ความรู้สึกผิดและนับถือต่อ
ท่าน! แม้ข้าพยายามชี้นำ ทว่าเด็กน้อยผู้นี้กลับใสซื่อจนเกินไป!”
“ท่านต้องไม่เชื่อแน่ ว่าชายผู้นี้ยังครองความบริสุทธ์ิเอาไว้!”
หลิงหยุนเอ๋อค่อยตระหนักได้ตอนนี้ ว่าความรู้สึกที่ปิงชิงมีให้แก่ฉิน
หยุนค่อนข้างลึกล้ำ
เพราะนางสามารถหยุดมือที่ตรงนี้ กระนั้นกลับมีความคิดอยากไป
ต่อ
ฉินหยุน ผู้ซึ่งแสร้งทำเป็นไม่ได้สติ ขณะนี้รู้สึกราวกับเป็นตัวโง่งม
เพราะมือของปิงชิงกำลังลูบไล้สัมผัสกายเขาอย่างเบามือ
ปิงชิงยังคงล่วงเกินต่อเขาอีกพักหนึ่งจึงค่อยหยุดมือ
สายตาของนางมองที่ฉินหยุนผู้ไร้ซึ่งสีหน้าใด ใบหน้างดงามเย็น
เยือกศูนย์องศาสมบูรณ์ของนาง ในที่สุดค่อยเผยยิ้มงดงามออกมา
“เสี่ยวหยุน เจ้ารับรู้ว่าอย่างไรบ้าง? ข้าบอกต่อพี่สาวปิงชิงให้หยุด
กระนั้นนางคล้ายคิดอยากไปต่อ ทั้งยังจับตัวเจ้าตรงนั้นตรงนี้ไป
ทั่ว… หึหึหึ… พี่สาวปิงชิงผู้นี้ช่างลามกเกินกว่าที่ข้าคิดไว้ยิ่งนัก!”
หลิงหยุนเอ๋อหัวเราะกล่าวคำ
ฉินหยุนยิ่งไม่ทราบว่าควรทำอย่างไรต่อดี
ปิงชิงยังคงมีความกังวล นางจะไม่ทิ้งฉินหยุนจากไปเช่นนี้ ทว่านาง
กลับกอดเขาเอาไว้ในสภาพที่ยังคงการฝึกฝนร่วม นางใช้พลังเซียน
ของนางชักนำ ให้ฉินหยุนได้ฝึกฝนร่างเซียนอสูรตามวิชาร่าง
ศักด์ิสิทธ์ิเซียนอสูร
ฉินหยุนเพียงเพิ่งรอดพ้นจากสภาวะร่วงหล่นสู่ก้นบึ้ง เวลานี้มันเป็น
เพียงขั้นตอนที่ทำให้เขาสามารถได้ครอบครองโลหิตอสูร ทว่าจิต
วิญญาณยังไม่ได้ทำการกำราบพลังมารอย่างหมดสิ้น
และเวลานี้ คือขั้นตอนของการฝึกฝนโลหิตเซียน
เรื่องราวดำเนินไปลื่นไหล ฉินหยุนเริ่มสัมผัสได้ทีละน้อยถึงพลังงาน
เซียนที่ไหลเวียนภายในกาย
เขาเองก็ยังไม่อาจทราบ ว่าการฝึกฝนร่างเซียนอสูรตั้งแต่ขอบเขต
วรยุทธ์วิญญาณระดับต้นนี้ดีหรือแย่
โดยเฉพาะยามนึกถึงช่วงที่ร่วงหล่นสู่ก้นบึ้งแห่งมารร้าย มันทำให้
เขามีแต่ความกังวล
ร่างกายฉินหยุนค่อยซึมซับโลหิตเซียนอสูร มันกลับกลายเป็นโลหิต
เซียนอสูรของเขาเอง มันคือพลังโลหิตที่เขาสามารถควบคุมได้อย่าง
สมบูรณ์
“หยุนเอ๋อ ร่างราชสีห์สวรรค์ลึกล้ำของข้าหายไปแล้วหรือ?” ฉินหยุน
ถามขึ้น
“เจ้าครอบครองร่างเซียนอสูร เหตุใดยังต้องการร่างราชสีห์สวรรค์
ลึกล้ำ? อะไรก็ดี พลังของจิตวิญญาณราชสีห์สวรรค์ยังคงอยู่ใน
กระดูกวิญญาณของเจ้า!” หลิงหยุนเอ๋อหัวเราะร่วน “เจ้าเวลานี้ไม่มี
ร่างลึกล้ำอีกต่อไป แต่เป็นร่างเซียนอสูร! แน่นอนว่าร่างเซียนอสูร
ของเจ้า ยังเป็นเพียงระยะเริ่มต้น!”
“และระยะที่ทรงอำนาจที่สุด ก็คือเมื่อมันวิวัฒน์จนเกิดขึ้นเป็นร่าง
ศักด์ิสิทธ์ิเซียนอสูร!”
ฉินหยุนพบว่าน่าเสียดาย เขาเพิ่งทราบเมื่อไม่นานด้วยซ้ำว่าเลือดใน
ร่างราชสีห์สวรรค์ลึกล้ำสามารถเผาไหม้
“อย่าได้กังวลเกินไปแล้ว! เอกลักษณ์ของร่างราชสีห์สวรรค์ลึกล้ำได้
ถูกร่างเซียนอสูรดูดกลืนไป ภายหลังเจ้าค่อยใช้ร่างเซียนอสูรจุดไฟ
ขึ้นมายังได้!” หลิงหยุนเอ๋อยิ้มกล่าว
“หยุนเอ๋อ ข้าฝึกฝนร่างเซียนอสูรได้สำเร็จแล้ว บอกให้พี่สาวปิงชิง
คลายอ้อมกอดได้หรือไม่? ข้าไม่คิดอยากกระอักกระอ่วนยามตื่น
ขึ้น!” ฉินหยุนร้องขอ
“ย่อมได้!”
หลิงหยุนเอ๋อเบะปากเล็กน้อย นางคาดหวังให้ฉินหยุนตื่นมาสบ
สายตากับปิงชิงด้วยซ้ำไป ถึงตอนนั้น สีหน้าของทั้งสองคงน่าดูชม
ไม่ใช่น้อย
กระนั้น นางก็ทำดังเช่นที่ฉินหยุนบอกกล่าว “พี่สาวปิงชิง เขาอาการ
ดีขึ้นมากแล้ว เวลานี้ท่านปล่อยมือจากเขาได้ หากเขาตื่นขึ้นอย่าง
กะทันหัน พวกท่านทั้งสองจะกลายเป็นลำบากใจต่อกันเสียแทน!”
“เขาจะตื่นขึ้นแล้วอย่างนั้นหรือ? ข้ายังคิดอยากจูบเขาอีกสักครั้ง!”
ปิงชิงร้องบอกความต้องการต่อหลิงหยุนเอ๋ออย่างไม่สงวนถ้อยคำ