ราชันเทพเก้าสุริยัน Nine Sun God King - ตอนที่ 731
ตอนที่ 731 ดวงดาวจักรพรรดิยุทธ์
แน่นอนว่าฉินหยุนย่อมมีวิธีการรับมือกับราชันยุทธ์ ทว่าสถานการณ์
ยังไม่ทราบกระจ่างชัด ดังนั้นเขาจึงยังไม่พร้อมเผยมันออก!
“ป้าเซี่ยว พวกเราไปสมทบกับพวกเย่ว์เหม่ยก่อนจะดีกว่า” ฉินหยุน
กล่าว “พวกเราไว้ค่อยคิดหาทางหลังทราบสถานการณ์แล้ว”
เซี่ยวเสวียนฉินก็ไม่ทราบถึงกำลังของฉินหยุน อีกฝ่ายยังไปไม่ถึง
ขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ำอย่างแน่ชัด กระนั้นเพราะเป็นอาจารย์จารึกลึก
ล้ำ กำลังที่ซุกซ่อนเอาไว้ย่อมไม่มีทางอ่อนด้อย
“ข้าเองก็ไม่ทราบนักว่าชิงเฉิงกับพรรคพวกจะจดจำคนเหล่านั้นได้
หรือไม่” เซี่ยวเสวียนฉินนำฉินหยุนมุ่งผ่านป่า เพื่อตามไปสมทบกับ
สื่อชิงเฉิงและคณะ
ผ่านไปครึ่งชั่วยาม ฉินหยุนและเซี่ยวเสวียนฉินจึงตามทันพวกสื่อชิง
เฉิงภายในถ้ำภูเขา
สื่อชิงเฉิงและสุ่ยเทียนสื่อที่ได้เห็นฉินหยุน นางเผยความยินดีออกมา
ก่อนหน้า พวกนางได้ยินจากเซี่ยวเย่ว์เหม่ย ว่าฉินหยุนมาที่นี่
“น้องหยุน!”
สุ่ยเทียนสื่อเมื่อพบเห็นเป็นฉินหยุน นางก้าวเดินเข้ามาเผยรอยยิ้ม
งดงาม ทั้งยังใช้มือลูบสัมผัสที่ใบหน้าฉินหยุน “ข้านึกอยู่แล้วว่าหุ่น
เชิดนั่นเหมือนเจ้านัก มันทำให้ข้าเผลอมือยื่นไปสัมผัส!”
“พี่สุ่ย พี่สาวซาลาเปานึ่ง ไม่พบกันนาน ข้าคิดถึงพวกท่านนัก!” ฉิน
หยุนยิ้มกล่าวก่อนจะถูกมือขาวนวลของสุ่ยเทียนสื่อดึงกระชากตัว
เขาไม่คาดคิด ว่าสุ่ยเทียนสื่อจะมีความรู้สึกแก่เขาถึงเพียงนี้
“เจ้าหนูนี่ ช่างทำตัวเป็นหุ่นเชิดได้ยอดเยี่ยมนัก!”
สื่อชิงเฉิงพอได้เห็นสีหน้าฉินหยุน นางทราบว่าฉินหยุนคิดอยาก
หยิกใบหน้าของนาง
เซี่ยวเย่ว์เหม่ยเมื่อเห็นว่าเซี่ยวเสวียนฉินแสดงอาการสงบ นางค่อย
โล่งอก ข้อพิพาทระหว่างฉินหยุนและเซี่ยวเสวียนฉินคล้ายคลี่คลาย
แล้ว
ด้วยฐานะสตรีเช่นกัน สื่อชิงเฉิงและคณะย่อมทราบว่าต้องมีเรื่องอัน
ใดเกิดขึ้น
พวกนางทราบกระจ่างชัดดี ว่าเซี่ยวเสวียนฉินเกลียดชังฉินหยุน
เพียงใด กระนั้น ท่าทีจากร้ายกลับกลายเป็นดี นางต้องไม่ใช่เปลี่ยน
ใจเพียงเพราะฉินหยุนช่วยเหลือเอาไว้แน่
“เกิดอะไรขึ้นกับภูเขาผลึกแก้วที่พบ?” เซี่ยวเสวียนฉินเอ่ยถามขณะ
มองทางเซี่ยวเย่ว์เหม่ย
เซี่ยวเย่ว์เหม่ยเองก็มีชาติภพก่อนเป็นเซียน ดังนั้นนางย่อมทราบ
หลายเรื่องราวดีกว่าสื่อชิงเฉิงและสุ่ยเทียนสื่อ
“นั่นคือแกนกลางดวงดาว!” เซี่ยวเย่ว์เหม่ยกล่าว “ข้าไม่ทราบว่ามัน
คืออะไรกันแน่ แต่ดวงดาวไม่ได้ร่วงหล่นมาที่ตรงนี้ แกนกลางของ
มันสมควรหลุดออกมา ก่อนจะร่วงหล่นที่ตรงนี้ยามเมื่อดวงดาว
ระเบิดออก!”
ฉินหยุนกล่าว “หากเป็นแกนกลางดวงดาว เช่นนั้นมันก็ช่วยเหลือข้า
ได้มหาศาล!”
เขาต้องการใช้แกนกลางดวงดาวนี้ เพื่อเพิ่มพูนกำลังของจอมราชัน
ดวงดาวอสูร
“ตอนนี้พวกเรายังไม่แน่ใจนัก เอาเป็นลักลอบเข้าไปตรวจสอบดูก่อน
เป็นไร?” เซี่ยวเย่ว์เหม่ยกล่าว “พวกเราแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม พี่ชาย
กับท่านป้าเป็นกลุ่มหนึ่ง ข้าและพี่สาวทั้งสองเป็นอีกกลุ่มหนึ่ง!”
เซี่ยวเย่ว์เหม่ยจงใจสร้างโอกาสให้ฉินหยุนและเซี่ยวเสวียนฉินได้อยู่
ด้วยกัน นี่ก็เพื่อกระชับความสัมพันธ์ของทั้งสองให้ดียิ่งขึ้น
“พวกเจ้าสามคนอยู่ด้วยกัน นี่จะไม่มีปัญหาหรือ?” เซี่ยวเสวียนฉิน
เป็นกังวล เพราะหากพิจารณาแล้ว นางและฉินหยุนถือว่าครอบครอง
กำลังแข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มนี้
“ข้าอยู่ด้วยย่อมไม่มีปัญหาใด! ท่านทั้งสองแข็งแกร่ง หากร่วมมือกัน
เช่นนั้นจะยิ่งราบลื่น!” เซี่ยวเย่ว์เหม่ยหัวเราะพลางกล่าว “ก็ตามนี้
เริ่มทำการสำรวจมันกันได้!”
เซี่ยวเย่ว์เหม่ยนำสุ่ยเทียนสื่อและสื่อชิงเฉิงออกไปจากถ้ำภูเขา ก่อน
จะวิ่งไปยังทิศทางหนึ่ง
เปลือกหอยสื่อสารของเซี่ยวเสวียนฉินมีตำแหน่งของภูเขาผลึกแก้ว
นางจึงเดินนำฉินหยุนไปอีกด้านหนึ่ง
ด้วยแยกกันลงมือ หากพบเจออันตราย เช่นนี้จะได้สะดวกในการล่า
ถอยอย่างรวดเร็ว
หากถูกจับได้ เช่นนั้นก็ไม่โดนจับต้มหม้อเดียวกัน
“ฉินหยุน ภูเขาผลึกแก้วนี้เจ้าใช้ทำประโยชน์ได้หรือ?” เซี่ยวเสวียน
ฉินเอ่ยถาม “หากมันมีประโยชน์ เช่นนั้นข้าจะพยายามชิงมาให้!”
“พวกเราพิจารณามันก่อนค่อยตัดสินใจดีกว่า” ฉินหยุนกล่าว
“เจ้าสงสัยต่อกำลังข้าหรือ?” เซี่ยวเสวียนฉินเอ่ยคำเสียงเบา
“ย่อมไม่ใช่!” ฉินหยุนหัวเราะ กระนั้นภายในใจ เขารู้สึกว่าเซี่ยว
เสวียนฉินมีกำลังอย่างจำกัดจริง
“อย่าได้หมิ่นกำลังข้าไป ที่แข็งแกร่งที่สุดคือจิตวิญญาณเซียนและ
ความทรงจำจากชาติภพก่อนของข้า!” เซี่ยวเสวียนฉินกล่าว “หากข้า
ทุ่มสุดตัว ราชันยุทธ์หนึ่งหรือสองคนยังรับมือได้!”
“ป้าเซี่ยว ท่านใช้ดาบหรือ?” ฉินหยุนเอ่ยถามขณะหยุดเดิน
“เป็นเช่นนั้น!” ดวงตางดงามของเซี่ยวเสวียนฉินเผยประกาย นาง
ทราบว่าฉินหยุนตระเตรียมมอบอุปกรณ์ลึกล้ำที่ดีแก่นาง
“นี่ให้ท่าน เป็นการให้หยิบยืมชั่วคราว! ข้าไม่อาจให้ท่านได้เพราะนี่
ไม่ใช่ของข้า!” ฉินหยุนนำเอาดาบเต๋าของเจี้ยนหนันหู่ออกมา
เซี่ยวเสวียนฉินพิจารณาดาบก่อนจะอุทานร้องดังในใจ นางทราบว่า
ฉินหยุนย่อมต้องมีสิ่งของชั้นดีในมือ
“ด้วยดาบนี้ ข้าสมควรรับมือกับราชันยุทธ์ได้สักสามคน!” เซี่ยว
เสวียนฉินถือดาบไว้พลางกล่าวอย่างมาดมั่น “หากผ่านการขัดเกลา
ด้วยเลือด เช่นนั้นคงวิเศษนัก!”
เซี่ยวเสวียนฉินเก็บดาบขณะเดินทางต่อ
“ป้าเซี่ยว ท่านเพิ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ำไม่ใช่หรือ? อย่างนั้น
แล้วท่านคิดรับมือราชันยุทธ์หลายคนอย่างไร?” ฉินหยุนเอ่ยถามอย่าง
นึกสงสัย
“เป็นเคล็ดวิชาลับที่ข้าฝึกฝน มันทำให้ข้าสามารถปลดปล่อยพลังจิต
วิญญาณ เสริมแกร่งให้แก่ร่างกายชั่วคราว มันคือการเพิ่มพูนพลังใน
ทุกสัดส่วน!” เซี่ยวเสวียนฉินกล่าว “แต่หลังใช้งาน ข้าจำเป็นต้อง
หลับไปสักหลายวัน!”
“หากเจ้าไม่ช่วยข้าก่อนหน้านี้ ข้าก็คิดใช้เคล็ดวิชาลับนั้นต้านรับ
ราชันยุทธ์พวกนั้นชั่วระยะเวลาหนึ่ง!”
เพราะเซี่ยวเสวียนฉินต้องการหยิบยืมพลังเงาของฉินหยุนเพื่อซ่อน
ตนเอง นางและฉินหยุนจึงเกาะกุมมือต่อกันเอาไว้
นิ้วของนางและฉินหยุนทั้งสิบผสานกันแน่นด้วยกัน มือขาวนวล
ของนางเริ่มอบอุ่นขึ้นมา นี่ถือเป็นสัมผัสที่แตกต่างจากความเย็น
เยือกเมื่อครั้งก่อน
ความรู้สึกนี้ ทำให้ฉินหยุนนึกถึงปิงชิงขึ้นมา
ปิงชิงภายนอกดูเย็นเยือก ทว่าร่างกายของนางกลับอบอุ่นและอ่อนนุ่ม
ไม่ช้า พวกเขาจึงได้เห็นภูเขาผลึกแก้ว
มันสูงราวยี่สิบถึงสามสิบเมตร ขนาดไม่ใหญ่นัก ทั้งยังปกคลุมด้วย
อะไรบางอย่างสีขาวเป็นชั้น แต่ละชั้นคล้ายหลุดล่วงออกตามเวลาที่
ผ่านไป
จากชิ้นส่วนที่หลุดร่วงลงมา มันทำให้สามารถมองเห็นได้ว่าผลึก
แก้วนี้โปร่งแสง
แม้เป็นยามค่ำคืน หลังแสงลุกโชนจากผลึกแก้ว มันจึงสะท้อนเป็น
แสงอันเข้มข้น
ฉินหยุนและเซี่ยวเสวียนฉินถูกแสงนี้อาบไล้ พลังเงาจึงกลายเป็นไร้
ประโยชน์
เซี่ยวเสวียนฉินเร่งรีบดึงฉินหยุนเข้าหลบซ่อนหลังต้นไม้ใหญ่
ถึงตอนนี้ ฉินหยุนจึงใช้พลังของวิญญาณยุทธ์โปร่งแสง
เบื้องล่างภูเขาผลึกแก้ว มันมีกลุ่มคนหลายสิบ เหล่านั้นส่วนใหญ่
เป็นราชันยุทธ์ ที่เหลือเป็นขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณ
“ป้าเซี่ยว นั่นอะไร?” ฉินหยุนเอ่ยถาม “ภูเขาผลึกแก้วหยุดส่งถ่ายออ
ร่าทรงพลังออกมาแล้ว!”
“นั่นเป็นผลึกแก้วพลังงานดวงดาวที่ดีล้ำ! ดวงดาวที่ร่วงหล่นมานี้
ไม่ใช่ธรรมดาแล้ว!” เซี่ยวเสวียนฉินขมวดคิ้วกล่าว
“ท่านว่าอะไร? บอกว่าดวงดาวนี้ไม่ธรรมดาอย่างนั้นหรือ?” ฉินหยุน
พบว่าเรื่องราวชวนทึ่งขณะถามผ่านทางเสียงสื่อสาร
“ดวงดาวเช่นนี้ ถูกเรียกขานเป็นดวงดาวจักรพรรดิยุทธ์ เป็นดวงดาว
ระดับจักรพรรดิยุทธ์ในฟากฟ้าดวงดาวแห่งแดนวิญญาณอ้างว้าง
และแดนอสูรอ้างว้าง!” เซี่ยวเสวียนฉินกล่าว “จักรพรรดิยุทธ์บางคน
เพราะไม่อาจเลื่อนระดับพลัง เมื่อใกล้ถึงช่วงเวลาที่พลังชีวิตเหือด
แห้ง พวกเขาจะบินขึ้นสู่หมู่ดาว จากนั้นจึงฝังร่างตนเองไว้ในดาว
ดวงเล็กสักดวงหนึ่ง!”
ฉินหยุนพอทราบมาบ้าง แม้เป็นแดนยุทธ์อ้างว้าง ราชันยุทธ์ที่เหนือ
ล้ำยังค้นหาดวงดาวขนาดเล็กยามเมื่อใกล้สิ้นชีพ พวกเขาจะซ่อน
ความลับของตนเอาไว้ยังที่แห่งนั้น
แดนวิญญาณอ้างว้างย่อมมีอยู่เช่นเดียวกัน ทว่า เพราะสำนักเซียนตั้ง
รกรากที่ภาคพื้น ทำให้ดวงดาวบนฟากฟ้าเริ่มกลายเป็นสุสานของ
ราชันยุทธ์ จักรพรรดิยุทธ์ และครึ่งเซียน
เซี่ยวเสวียนฉินกล่าวคำต่อ “หลังจักรพรรดิยุทธ์สิ้นชีพ เป็นไปได้ว่า
แก่นเต๋านั้นจะยังคงดูดกลืนพลังงานต่อไป เมื่อเวลาไหลผ่าน ดวงดาว
นั้นจะเริ่มบ่มเพาะตัวมันเองเพราะพลังจากแก่นเต๋า และก็เพราะ
เหตุผลบางประการ สัตว์อสูรดวงดาวจึงถือกำเนิดขึ้นจากเรื่องนี้”
“เช่นนั้น หมายถึงต้องมีอะไรคงอยู่ภายในภูเขาผลึกแก้ว?” ฉินหยุน
กล่าวอย่างนึกทึ่ง
“ดวงดาวร่วงหล่นสู่ที่นี่ไม่ใช่อุบัติเหตุ! ข้าไม่ทราบว่าฉีเย่ว์มีคำอธิบาย
ต่อเรื่องนี้หรือไม่… หากปิ งชิงอยู่ที่นี่ นางย่อมทราบได้แน่ว่าเกิดเรื่อง
อันใดขึ้น!” เซี่ยวเสวียนฉินมองทางภูเขาผลึกแก้ว นางไม่ค่อยมั่นใจ
สถานการณ์ทางด้านนี้เท่าใดนัก
“ป้าเซี่ยว เหตุใดพี่สาวปิงชิงจึงทราบเรื่องในขณะที่ท่านไม่ทราบ?”
ฉินหยุนเอ่ยถาม ก่อนหน้า หลิงหยุนเอ๋อคาดเดาว่าปิงชิงคือร่างที่ผ่าน
การฟูมฟักออกมา
“เพราะนางคือเซียนวิญญาณดวงดาว! นางถือกำเนิดจากดวงดาวขึ้น
เป็นเซียน!” เซี่ยวเสวียนฉินตอบกลับ “แน่นอนว่าเรื่องราวการถือ
กำเนิดของนางกล่าวได้ว่าลึกลับ ตามที่ทราบมา มันเกี่ยวข้องกับ
เหตุการณ์ใหญ่ ภายหลัง นางถูกเจ้าในชาติภพก่อนทำร้ายก่อนถูก
ผนึกเอาไว้!”
ผู้คนที่ยืนเบื้องล่างภูเขาผลึกแก้วต่างนำอาวุธออกมา เริ่มโจมตีใส่
ภูเขาผลึกแก้ว พวกเขาคิดพยายามทำลายมัน!
กระนั้น ภูเขาผลึกแก้วกลับเพียงสั่นไหวทว่ามั่นคง
อาวุธในมือราชันยุทธ์เหล่านั้น ล้วนเป็นอุปกรณ์เต๋า
ทว่า หลังโจมตีใส่ภูเขาผลึกแก้ว มันไม่คล้ายจะมีแม้รอยใด
ผู้อาวุโสชุดสีเทากล่าวคำ “ภายในภูเขาผลึกแก้วนี้ต้องมีบางอย่างถูก
ผนึกเอาไว้แน่! คงดีกว่านี้หากศิษย์พี่จักรพรรดิยุทธ์เดินทางมาเปิด
มันออก!”
“ไม่ได้ หากจักรพรรดิยุทธ์เหล่านั้นมาถึง พวกเรายังจะได้ของที่พวก
เขาคิดหยิบฉวยหรือ? พวกเราสมควรต้องพึ่งพาตนเอง!” ชายชราใน
ชุดขาวกล่าวเสียงเย็นเยือกอย่างละโมบ “อย่าได้ส่งเสียงสื่อสาร
ต่อไปยังจักรพรรดิยุทธ์เหล่านั้น!”
ถึงตอนนี้เอง ชายวัยกลางคนพลันนำเอาเปลือกหอยสื่อสารออกมา!
หลังชายชราชุดขาวพอได้เห็น มือของเขาสะบัดออก ยิงเข็มสีขาว
ยาวเข้าใส่ลำคอและศีรษะของชายวัยกลางคน
ชายวัยกลางคนสำลักเอาของเหลวสีดำออกมา ดวงตาระเบิดออก
ก่อนจะกลับกลายเป็นคนตายในพริบตา
“ผู้ใดกล้าส่งเรื่องแจ้งต่อจักรพรรดิยุทธ์ ถือเป็นจุดจบชีวิตของพวก
มัน!” ชายชราชุดขาวยังเป็นกังวลจนต้องตะโกนดัง “นำเอาเปลือก
หอยสื่อสารพวกเจ้าออกมา ส่งมอบพวกมันแก่ข้าเพื่อเป็นหลักประกัน
หากไม่คิดให้ความร่วมมือ ชะตาคือต้องตาย!”
บรรดาราชันยุทธ์เฒ่าชราหลายคน ให้การสนับสนุนชายชราในชุด
ขาว
พวกเขาทราบดี ว่าหากมีจักรพรรดิยุทธ์มาสักคนหรือสองคน ชะตา
พวกเขาก็มีแต่ต้องตาย!
เมื่อใดถึงเวลา จักรพรรดิยุทธ์จะนำเอาไปทั้งตัวภูเขาผลึกแก้ว!
และพวกเขาที่เป็นเพียงราชันยุทธ์ ถึงเวลานั้นจะไม่ได้รับสิ่งใด
“เหล่านี้ล้วนเป็นราชันยุทธ์จากสำนักเซียน พละกำลังพวกมันไม่
ธรรมดา! หนึ่งในพวกมันสมควรเป็นผู้ที่ไล่ล่าพวกเราเมื่อครู่!” เซี่ยว
เสวียนฉินส่งเสียงสื่อสารบอกต่อฉินหยุน
ชายชราชุดขาวร่วมมือกับราชันยุทธ์หลายคนจากสำนักเซียน รับเอา
เปลือกหอยสื่อสารของผู้อื่น จากนั้นจึงเริ่มหารือถึงวิธีการผ่าภูเขา
ผลึกแก้วลูกนี้
เซี่ยวเสวียนฉินนำเอาเปลือกหอยสื่อสารออกมา นางได้ยินเสียงเซี่ยว
เย่ว์เหม่ยถาม “ท่านป้า ทางฝั่งท่านมีแผนการใด?”
นางมองทางฉินหยุนก่อนจะตอบกลับ “พวกเราจะไม่ทำอะไร รับชม
ต่อไป!”
“ข้ามีแผน! พวกเราไปลวงหลอกพวกมัน บอกพวกมันว่าพวกเรามี
วิธีการผ่าเปิดภูเขาผลึกแก้วนี้ จากนั้นค่อยฉกชิงทรัพย์มา!” เซี่ยวเย่ว์
เหม่ยกล่าว
เซี่ยวเสวียนฉินพอได้ยิน นางจึงบอกต่อแนวคิดของเซี่ยวเย่ว์เหม่ยให้
ฉินหยุนได้ทราบ
“ป้าเซี่ยว ข้าจะร่วมมือกับท่านลวงหลอกพวกมัน อย่าได้ให้เย่ว์เหม่ย
กับผู้อื่นลงมือ ให้พวกนางซ่อนตัวและจับตาดูต่อไป” ดวงตาฉินหยุน
เผยประกายขณะส่งเสียงสื่อสารแจ้งต่อเซี่ยวเสวียนฉิน