ราชันเทพเก้าสุริยัน Nine Sun God King - ตอนที่ 754 สมรภูมิจอมจักรพรรดิ
ตอนที่ 754 สมรภูมิจอมจักรพรรดิ
ได้ยินคำกล่าวของชายชรา ฉินหยุนค่อยสงบใจลง อย่างน้อยมันก็
เป็นความจริง
“ผู้อาวุโส วัตถุทรงอำนาจใดที่อยู่เบื้องล่างนี้?” ฉินหยุนยืนที่ชายขอบ
เขามองลงไปยังหุบเหวไร้ก้นบึ้ง
“มากมายนัก! มังกรกิ้งก่าที่พวกเราจับมาถือว่าอ่อนแอที่สุดแล้ว!
เบื้องล่าง ยังคงมีสัตว์อสูรประหลาดอีกมากมายนัก!” ชายชราหัวเราะ
“น้องชาย หากเจ้าคิดลงไป เช่นนั้นก็ไม่ต่างอะไรกับการฆ่าตัวตาย!”
ฉินหยุนกล่าวด้วยคิ้วขมวด “ข้าต้องการออกไปจากเขตแดนอ้างว้าง
จันทราทมิฬแห่งนี้ ดังนั้นจึงมีแต่ต้องออกไปโดยก้นบึ้งเบื้องล่าง”
ชายชราถอนหายใจ “มันก็ใช่ นี่คือเส้นทางเดียว! แต่กระทั่งเป็นพวก
เรา ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดก็ยังไม่กล้าลงไป ยกตัวอย่างเช่นเซียนจันทรา
เฉียหยิ่งผู้ซึ่งแข็งแกร่งที่สุดที่นี่ กระทั่งเขาก็ยังไม่กล้าลงไป!”
ฉินหยุนทราบ ว่าเฉียหยิ่งแข็งแกร่งเพียงใด อีกฝ่ายคือยอดฝีมือระดับ
ราชันเซียน
“ผู้อาวุโส เรื่องที่ท่านกล่าวถึงจอมจักรพรรดิปรโลกนั้นจริงหรือ?”
ฉินหยุนพลันเอ่ยถามเรื่องนี้ด้วยความสงสัย
ชายชราลูบหนวดเคราและกล่าวออก “ข้าเองก็ไม่มั่นใจนัก มันเป็น
เพียงแต่ตำนาน ย้อนกลับไปกาลก่อน จอมจักรพรรดิอสูรเซียนและ
จอมจักรพรรดิปรโลกต่างเบาะแว้งต่อกัน พวกเขาล้วนเป็นตัวตน
ทรงพลังอำนาจ กระทั่งว่าก่อเกิดศึกสงครามในแดนเซียนอ้างว้าง
มันก็ยังส่งผลกระทบรุนแรงต่อทั้งแดนเซียนอ้างว้าง!”
“ภายหลัง พวกเขาได้เชิญจอมจักรพรรดิเซียนอ้างว้างมา ทั้งสามจอม
จักรพรรดิได้สร้างสถานที่แห่งนี้ร่วมกัน พวกเขาเรียกขานมันเป็น
สมรภูมิจอมจักรพรรดิ!”
“เช่นนี้ จอมจักรพรรดิปรโลก และจอมจักรพรรดิอสูรเซียนจึงได้
ต่อสู้กันโดยไม่ต้องนึกห่วงใด จากนั้น จอมจักรพรรดิปรโลกได้พ่าย
แพ้และถูกสังหาร”
ฉินหยุนรับฟังตำนานนี้ พบว่าเรื่องราวน่าทึ่ง เขาได้ส่งเสียงถามต่อ
เหยาเฟิง ขอให้นางขุดความทรงจำของจอมจักรพรรดิอสูรเซียนดูว่า
เป็นความจริงหรือไม่ จอมจักรพรรดิอสูรเซียนจะไม่มีทางทราบ ว่า
เหยาเฟิงสามารถอ่านความทรงจำของอีกฝ่าย
“มีอะไรบางอย่างกำลังขึ้นมา!” ชายชราพลันหัวเราะ “นี่ก็ผ่านมา
หลายสิบวันแล้ว ในที่สุดก็เคลื่อนไหวเสียที!”
ชายชราผู้นี้มีกำลังแทบทัดเทียมราชันยุทธ์ เขาใช้กำลังทั้งหมดยกเสา
ยาว ดึงเอามังกรกิ้งก่าที่สยายปีกกว่ายี่สิบเมตรขึ้นมา ขนาดตัวมันไม่
ใหญ่นัก ทว่าชายชรายินดียิ่ง มังกรกิ้งก่าถูกยกขึ้นมาก่อนจะร่วงหล่น
กับพื้นที่โล่งด้านหลัง ผู้อื่นต่างเร่งรีบเข้ามาช่วยรุมสังหารมังกรกิ้งก่า
ผู้ซึ่งมาตกปลาที่นี่ต่างช่วยเหลือซึ่งกันแหละกัน หลังสังหารมังกร
กิ้งก่าได้ พวกเขาจึงค่อยกลับไปตกปลาของตนกันต่อ และก็เป็นชาย
ชราที่เข้าไปเฉือนหั่นเนื้อมังกรกิ้งก่าอย่างสำราญใจ
ฉินหยุนได้ตระหนัก ว่าอุปกรณ์ที่คนกลุ่มนี้ใช้ตกปลานั้นดีเยี่ยม
โดยเฉพาะเบ็ดยาวและเชือก พวกมันดูบาง กระนั้นกลับเหนียวและ
แข็งแกร่ง จนถึงขั้นสามารถตกเอามังกรกิ้งก่าตัวใหญ่ขึ้นมาได้
“ผู้อาวุโส ให้ข้าช่วยหรือไม่?” ฉินหยุนรู้สึกว่าชายชราตรงหน้า
พูดคุยด้วยง่าย
“เรียกข้าเป็นผู้เฒ่าหวัง!” ชายชราหัวเราะ
ฉินหยุนนำเอามีดบินออกมา ส่งพวกมันเข้าเฉือนหั่นเนื้อมังกรกิ้งก่า
รวดเร็ว ความเร็วมันมากล้ำขนาดทำผู้เฒ่าหวังนิ่งค้าง
“น้องชาย เจ้าช่างยอดเยี่ยมนัก!” ผู้เฒ่าหวังเผยรอยยิ้มยินดี
“ผู้เฒ่าหวัง ข้าติดอยู่ที่นี่มาสองปีแล้ว ข้าคิดอยากออกไป ทว่าไม่
ทราบว่าเบื้องล่างนี้มีอันใดกันแน่ ข้าควรทำอย่างไรดี?” ฉินหยุน
ถอนหายใจพลางถาม
ผู้เฒ่าหวังเผยสีหน้าเคร่งเครียด “ทุกชั่วระยะเวลาหนึ่งจะมีปรากฏการณ์
เกิดขึ้น เก้าตะวันบนฟากฟ้าเหนือหุบเหวในเวลานั้น พวกมันจะ
สามารถสะกดวิญญาณร้ายในหุบเหวได้! เจ้าต้องหาทางออกไปให้
พบก่อนที่ดวงตะวันจะเคลื่อนออกพ้นจากเหนือหุบเหว หากเจ้าไม่
อาจหาพบ เช่นนั้นจงเร่งรีบขึ้นมาโดยทันที!”
“หลายคนเคยได้ทดลอง น้อยคนนักที่ทำสำเร็จ! ส่วนใหญ่ล้วนตายที่
เบื้องล่างนั้นเพราะไม่อาจกลับมาได้ทันเวลา!”
“ไม่เคยมีผู้ใดทำสำเร็จเลยอย่างนั้นหรือ?” ฉินหยุนพบว่าเรื่องราว
เกินเชื่อได้
“ย่อมต้องมี นั่นต้องอาศัยโชค! เพราะวิญญาณร้ายและอสูรมากมาย
อยู่เบื้องล่าง พวกมันคือสาเหตุหลักที่นำพาความตายมา!” ผู้เฒ่าหวัง
กล่าว
ฉินหยุนคิดอยู่ครู่ ก่อนจะพบว่าแม้ลงไปก็ไม่น่าเป็นไร อย่างไรแล้ว
เขาก็ยังมีเหยาเฟิง นอกจากนี้ยังมีพลังแห่งความเที่ยงธรรมและพลัง
เงา ด้วยพลังเงา จะทำให้เขาซ่อนเร้นตัวตน และพลังแห่งความเที่ยง
ธรรม จะทำให้วิญญาณร้ายทั้งหลายถอยหนี
“พี่สาวเหยาเฟิง ข้าคิดกระโดดลงหุบเหวนี้!” ฉินหยุนบอกกล่าวต่อ
เหยาเฟิงที่อยู่ในไข่มุกเม็ดที่สาม “ท่านพบเจออะไรในความทรงจำ
ของจอมจักรพรรดิอสูรเซียนบ้างหรือไม่?”
“อย่าเพิ่งรีบลงไป! รอสักพักหนึ่ง เมื่อใดเก้าตะวันอยู่เหนือหุบเหว
เจ้าค่อยลงไป!” เหยาเฟิงกล่าว
“เพราะอะไรกัน?” ฉินหยุนเผยอาการตระหนก เหยาเฟิงไม่อาจได้
ยินคำบอกกล่าวของชายชราที่ภายนอก นางย่อมไม่มีทางทราบว่าเก้า
ตะวันจะอยู่เหนือหุบเหว
“เพราะที่ก้นบึ้งหุบเหวมีอาวุธ! มันคือกระบี่ศักด์ิสิทธ์ิวิญญาณปรโลก
ของจอมจักรพรรดิปรโลก แม้ได้รับความเสียหาย แต่ด้วยกาลเวลา
ผันผ่าน มันได้ดูดกลืนพลังเก้าตะวันจนซ่อมแซมตัวเอง” เหยาเฟิง
กล่าว
“ท่านต้องการให้ข้าหาอาวุธชิ้นนั้น?” ฉินหยุนเอ่ยถาม
“ถูกต้อง! กระบี่ศักด์ิสิทธ์ิวิญญาณปรโลก มันคืออาวุธศักด์ิสิทธ์ิที่มี
ชื่อเสียง ทั้งยังเป็นสิ่งที่จอมจักรพรรดิอสูรเซียนหวาดกลัวเป็นที่สุด!
ครั้งจอมจักรพรรดิอสูรเซียนและจอมจักรพรรดิปรโลกต่อสู้กัน เขา
ต้องพยายามไปอย่างมหาศาลจึงทำความเสียหายแก่อาวุธนั้นได้”
เหยาเฟิงกล่าว
“จอมจักรพรรดิปรโลกช่างไร้ค่านัก มีอาวุธทรงพลังอำนาจเพียงนี้
กระนั้นกลับยังถูกสังหาร!” ฉินหยุนรู้สึกว่าจอมจักรพรรดิปรโลก
เป็นผู้ที่อ่อนด้อย
“หากเป็นการต่อสู้โดยหนึ่งต่อหนึ่ง อย่างนั้นผู้ที่ตายย่อมเป็นจอม
จักรพรรดิอสูรเซียน! หลังจากที่จอมจักรพรรดิอสูรเซียนทำให้กระบี่
ศักด์ิสิทธ์ิวิญญาณปรโลกเสียหาย เขาเองก็ได้รับบาดเจ็บหนัก เป็น
จอมจักรพรรดิเซียนอ้างว้างที่ลักลอบโจมตี เป็นผลให้จอมจักรพรรดิ
ปรโลกถึงแก่ความตาย!” เหยาเฟิงกล่าวด้วยน้ำเสียงนึกรังเกียจยาม
เอ่ยถึงเรื่องนี้
“ไม่ใช่ว่าจอมจักรพรรดิเซียนอ้างว้างคือจักรพรรดิเซียนหรือ? ใน
แดนเซียนอ้างว้าง พวกเขาสมควรต้องเป็นฝ่ายที่ชอบธรรมนี่!” ฉิน
หยุนพลันนึกถึงเรื่องเซี่ยฉีโหรว กล่าวว่าจักรพรรดิเซียนริษยาต่อ
ธิดาของตนเอง ทั้งยังเป็นกังวลว่าจะแข็งแกร่งยิ่งกว่าตนเอง ดังนั้น
เขาจึงผนึกนางเอาไว้
“พวกมันล้วนเป็นตัวตนบัดซบทั้งสิ้น!” เหยาเฟิงกล่าว “เมื่อใดเจ้าลง
ไป เจ้าอย่าได้หวาดเกรงวิญญาณร้ายพวกนั้น เจ้าเพียงพุ่งเน้นจิตใจ
สัมผัสหาออร่าของกระบี่ศักด์ิสิทธ์ิวิญญาณปรโลก!”
ฉินหยุนเกิดอาการตื่นเต้นยินดี ตอนนี้เขาไม่มีกระบี่ที่ดีในมือ แม้
สามารถสร้างขึ้นได้ แต่นั่นก็จะเป็นแค่อุปกรณ์ลึกล้ำ หากเขาได้รับ
กระบี่ศักด์ิสิทธ์ิวิญญาณปรโลก เขาก็ไม่จำเป็นต้องใช้ค้อนเทวะเก้า
ตะวันในภายหน้าแล้ว
เวลาผันผ่าน ฉินหยุนใช้เวลาไปกับการอยู่ตามแนวชายขอบหุบเหว
รับชมผู้คนตกปลาขึ้นมา นอกจากนี้แล้ว เขายังได้ช่วยเหลือพวกเขา
เฉือนหั่นเนื้อมังกร ผลลัพธ์คือได้รับกระดูกสัตว์จำนวนมหาศาล ฉิน
หยุนรอคอยจนกระทั่งผ่านไปสองเดือน ในที่สุด วันนี้ช่วงบ่าย เก้า
ตะวันได้ตั้งตรงเรียงรายเหนือหุบเหว วันนี้ ผู้คนหาได้คิดตกปลาไม่
แต่เป็นกระโดดลงไปยังหุบเหวเบื้องล่าง
“น้องชาย จดจำไว้ เจ้ามีเวลาน้อยกว่าครึ่งชั่วยาม! หากเจ้าไม่อาจ
หาทางได้พบ เช่นนั้นจงกลับมาโดยเร็ว!” ผู้เฒ่าหวังกล่าวเตือน
“ทราบแล้ว ลาก่อนท่านผู้เฒ่า!” กล่าวคำจบ ฉินหยุนจึงกระโดดลง
หุบเหวไป
ด้วยเพราะเร่งรีบ ฉินหยุนจึงให้หลิงหยุนเอ๋อช่วยปลดปล่อยแรงโน้ม
ถ่วง ทำให้ตัวเขาหนักอึ้ง ร่วงหล่นสู่เบื้องล่างอย่างรวดเร็ว เพียงอึด
ใจ เขาร่วงหล่นถึงพื้นเบื้องล่าง ระหว่างทางที่ลงมา เขาได้เห็นว่า
ผนังหน้าผาสองฟากข้างเต็มไปด้วยรู เหล่านั้นคือที่ซ่อนตัวของสัตว์
อสูร แสงสว่างจากเก้าตะวันบนฟากฟ้าได้สาดส่องลงมา เป็นผลให้
สัตว์อสูรพวกนั้นไม่กล้าเสนอหน้า ที่พื้นผิวก้นบึ้งหุบเหว ที่แห่งนี้มี
เสื้อผ้าที่ฉีกกระจายอยู่เต็มไปหมด
“เมื่อสัตว์อสูรกินมนุษย์ พวกมันจะคายเสื้อผ้าออกมา!” ฉินหยุน
ปลดปล่อยพลังจิต สัมผัสถึงออร่าที่เบื้องล่างแห่งนี้
เขาครอบครองวิญญาณเทวะเก้าตะวัน ดังนั้นจึงอ่อนไหวต่อการ
ไหลเวียนของพลังวิญญาณเก้าตะวัน ไม่นาน เขาสัมผัสถึงทิศทางซึ่ง
มีอัตราการดูดกลืนสูงล้ำ เขาเร่งรีบมุ่งหน้าไปยังทิศทางดังกล่าว ฉิน
หยุนหาได้เร่งรีบค้นหาทางออก แต่เขาเลือกที่จะค้นหากระบี่
ศักด์ิสิทธ์ิวิญญาณปรโลก ผ่านไปครึ่งชั่วยาม หุบเหวเริ่มดำมืดลง เก้า
ตะวันเริ่มเคลื่อนตัวออกห่างจากหุบเหว
“ต้องไปทางนี้ต่อ!” ฉินหยุนคิดว่าตนสามารถค้นหามันได้รวดเร็ว
กระนั้นเวลานี้ เขาค่อยได้ตระหนักว่ามันอยู่ไกลห่างไม่น้อย
หุบเหวนี้กว้างใหญ่ ฉินหยุนมุ่งหน้าไป ผ่านพ้นครึ่งชั่วยาม ก้นบึ้ง
หุบเหวเริ่มดำมืด หมอกสีดำเริ่มปรากฏ มันบดบังแสงไว้โดยสมบูรณ์
ฉินหยุนใช้งานพลังเงาเพื่อซ่อนตัวในความมืด เวลานี้ เขาได้ยินเสียง
กรีดร้องของสัตว์อสูรทั้งหลาย รวมถึงเสียงกระพือปีก ที่ก้นบึ้งหุบ
เหวแห่งนี้ มันมีฝูงสัตว์อสูรดุร้ายเคลื่อนที่อย่างคลุ้มคลั่ง ฉินหยุน
มองฟากฟ้าเบื้องบน ได้เห็นจุดแสงหลากสีสัน เหล่านี้คือดวงตาของ
สัตว์อสูรที่ส่องประกาย ฉินหยุนได้แต่สงบใจและออกบินต่อ หาก
เป็นผู้อื่น พวกเขาคงหวาดกลัวจนตายตกไปเรียบร้อยแล้ว
หลายวันผ่านไป ฉินหยุนผู้ซึ่งบินอยู่ในหุบเหวพลันต้องหยุด เพราะ
มันมีหลุมลึกที่กว้างหลายร้อยเมตรคงอยู่ที่นี่
“เบื้องล่างนี้ คือที่อยู่ของกระบี่ศักด์ิสิทธ์ิวิญญาณปรโลก?” ฉินหยุน
นำเอายันต์อัคคีออกมา โยนมันลงไป ประกายไฟลุกโชนรุนแรง
ฉินหยุนรับชมยันต์อัคคีที่ร่วงหล่นลงไปจนกระทั่งมอดทับ
“มันยังไปไม่ถึงก้นบึ้ง!”
ฉินหยุนนำเอาลูกปืนใหญ่ออกมาพร้อมโยนลงไป อึดใจถัดมาหลัง
ลูกปืนใหญ่ร่วงหล่น อัคคีเพลิงค่อยพวยพุ่งขึ้นมาด้านบน
“ลึกมาก!” ฉินหยุนสูดลมหายใจเข้าลึก หลังได้ยืนยันว่าเหยาเฟิงยัง
ไม่ได้เก็บตัวฝึกฝน เขาจึงกระโดดลงไป
เขายังได้พบ ว่าที่หลุมลึกแห่งนี้ไม่มีสัตว์อสูรใดซ่อนตัว สัตว์อสูร
เหล่านั้นไม่กล้าเข้ามาใกล้ยังที่แห่งนี้
ผ่านไปไม่นาน ฉินหยุนถึงมาถึงก้นบึ้งของหลุม เขาสัมผัสได้ ว่ามัน
มีอะไรบางอย่างกำลังดูดกลืนเศษเสี้ยวพลังอัคคีเพลิง
“มันอยู่ที่นี่เอง!” ฉินหยุนก้าวเดินระแวดระวังไปยังทิศทางนั้น เขา
นำเอาหินส่องแสงมาส่องสว่างที่เบื้องล่างนี้
ผ่านไปครู่ เขาจึงได้เห็นด้ามกระบี่ ด้วยความยินดีจึงเดินเข้าไป คว้า
เอาด้ามกระบี่นั้นไว้และดึงขึ้นมา หลังกระบี่ถูกดึงขึ้น มันไม่คล้ายมี
ปฏิกิริยาตอบสนองใด
“นี่หรือกระบี่ศักด์ิสิทธ์ิวิญญาณปรโลก?” ฉินหยุนยามได้เห็นอาวุธ
ศักด์ิสิทธ์ิ ครู่แรกคือพบว่ามันธรรมดาอย่างยิ่ง ตัวกระบี่มีรอยแตก
ทั้งยังไม่มีอักขระ มันเป็นเพียงกระบี่ที่ผุพัง
เขานึก ว่าอย่างน้อยมันก็ต้องคล้ายค้อนเทวะเก้าตะวัน
ค้อนเทวะเก้าตะวันจึงเป็นตัวตนที่งดงามเลิศล้ำ
“เสี่ยวหยุน นี่คือกระบี่ศักด์ิสิทธ์ิวิญญาณปรโลกที่เสียหาย มันยังอยู่
ระหว่างกระบวนการซ่อมแซมตนเอง!” หลิงหยุนเอ๋อกล่าว
ฉินหยุนสัมผัสอย่างถี่ถ้วน พบว่ามีอักขระที่ภายในตัวกระบี่ศักด์ิสิทธ์ิ
วิญญาณปรโลก เขาร้องอุทานแตกตื่นภายในอย่างนึกทึ่ง ด้านในนั้น
มันมีอักขระโทเทมคงอยู่ รวมถึงอักขระอีกหลากหลายที่ทรงพลัง
อำนาจ