ราชันเทพเก้าสุริยัน Nine Sun God King - ตอนที่ 766 พลังจิตอีกครั้ง
ตอนที่ 766 พลังจิตอีกครั้ง
ฉินหยุนที่ได้ยินคำของสุ่ยเทียนสื่อ จึงหันมองทางเซี่ยวเสวียนฉิน
ด้วยความสงสัย
เซี่ยวเสวียนฉินกล่าว “การฝึกฝนด้วยสระเซียนให้ผลลัพธ์ดีเยี่ยมที่สุด
จริง กระนั้น พวกเราไม่มีสระเซียน ดังนั้นจึงอย่าได้คิดไป กระทั่งว่า
มีสระเซียน พวกเราก็ยังต้องปลดเสื้อผ้าก่อนจะลงไปแช่เพื่อฝึกฝน
ร่วม”
“หลังการแข่งขันจารึกจบสิ้น ข้าสามารถสร้างสระเซียนขึ้นมาได้!”
ฉินหยุนครอบครองสองต้นกำเนิดเซียน ดังนั้นจึงเป็นผู้ที่สามารถ
สร้างสระเซียนได้
“หากพวกเรามีสระเซียน อย่างนั้นใส่ชุดลงไปแช่คงไม่สะดวกสัก
เท่าใด!” สุ่ยเทียนสื่อเผยยิ้มบาง
“หากเจ้าไม่คิดสวมใส่ เช่นนั้นก็อย่าได้สวมใส่!” เซี่ยวเสวียนฉิน
แค่นเสียงเบากล่าวคำ
ด้วยผ่านการฝึกฝนร่วมกันหลายคน ฉินหยุนรับรู้ได้ ว่าผลึกแก้วเต๋า
วิญญาณลึกล้ำกำลังมีขนาดที่ใหญ่โตขึ้น ด้วยความเร็วระดับนี้ การ
ฝึกฝนแก่นเต๋าลึกล้ำในชั่วระยะเวลาหนึ่งย่อมต้องสำเร็จได้ ฉินหยุน
เพียงนึกก็ยินดีจนเนื้อเต้นแล้ว
หากเขาสามารถฝึกฝนแก่นเต๋าลึกล้ำ ได้กลายเป็นยอดยุทธ์ เมื่อถึง
งานประลองยุทธ์งานชุมนุมยุทธ์ดาบ เขาย่อมสามารถเอาชนะเจี้ยน
หนันหู่ได้โดยง่าย เซี่ยวเสวียนฉินเองก็ทราบ ว่าฉินหยุนคิดอยากเข้า
ร่วมงานประลองยุทธ์ ดังนั้นนางเกิดความร้อนใจขึ้น เป็นนางไม่คิด
อยากพบเห็นฉินหยุนต้องเจ็บช้ำจากการแข่งขัน ด้วยเหตุนี้ นางจึง
พยายามอย่างดีที่สุดเพื่อช่วยให้ฉินหยุนเลื่อนระดับได้สำเร็จ
ฟ้าสาง วันใหม่มาเยือน
เกาะดาบใหม่ยามฟ้าสว่างย่อมคึกคัก หลายคนต่างมุ่งหน้าไปยัง
ศูนย์กลางเจ็ดดาบที่ตรงกลางเกาะดาบใหม่ พวกเขาเหล่านี้คิดอยาก
เข้าสู่อาคารลูกบาศก์แห่งคฤหาสน์เซียนดาบ
การแข่งขันจารึกรอบที่สองกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว
เซี่ยวเสวียนฉิน สุ่ยเทียนสื่อ และสื่อชิงเฉิงต่างลักลอบจากไปยามฟ้า
สาง พวกนางไปพบแม่เฒ่าหยุนเหยา ฉินหยุนและเซี่ยวเย่ว์เหม่ยจึง
มุ่งตรงสู่คฤหาสน์เซียนดาบ
ฉินหยุนที่มาถึงเวทีแข่งขัน เขาจึงได้เห็นมู่เฟิง อีกฝ่ายเป็นอาจารย์
จารึกลึกล้ำที่สามารถเข้าร่วมรอบการแข่งขันนี้มาได้ นั่นหมายความ
ถึงเขามีความสามารถ
ด้วยอาจารย์จารึกหนึ่งร้อยคนที่นี่ มีแต่ฉินหยุนและมู่เฟิงที่ไม่ใช่อาจารย์
จารึกเต๋า ผู้อื่นที่เข้าแข่งขัน ต่างยืนกันเคียงข้างบอลผลึกแก้วที่มีนาม
ของตนเองปรากฏ
ท่ามกลางอาจารย์จารึกทั้งหนึ่งร้อย ฉินหยุนเหมือนจะเป็นผู้เดียวที่
ไม่เหมาะสม เพราะฉินหยุนยังเยาว์อย่างยิ่ง กระนั้นกลับได้ยืนหยัด
ร่วมกับอาจารย์จารึกที่มีชื่อเสียงทั้งหลาย เรื่องนี้ถือว่าไม่อาจเข้ากัน
ได้อย่างแท้จริง
เจี้ยนสือเทียนกล่าว “ถัดจากนี้ พวกเราจะเริ่มแบ่งกลุ่ม!”
ผู้หนึ่งถือหีบขนาดใหญ่เดินเข้ามา หีบใหญ่นี้มีรูเล็กที่เบื้องล่าง ทันที
เมื่อมันสัมผัสที่มัน ไข่มุกจะร่วงหล่นลงมาผ่านรูดังกล่าว และที่
ไข่มุก จะมีหมายเลขกำกับเอาไว้ด้วย
“จะมีสองคนที่ได้รับไข่มุกหมายเลขเดียวกัน และนั่นถือเป็นการอยู่
กลุ่มเดียวกัน” เจี้ยนสือเทียนกล่าว
การกระทำเช่นนี้ หลายผู้คนต่างไม่อาจเข้าใจ ในประวัติศาสตร์การ
แข่งขันจารึก มันไม่เคยมีกรณีที่สองคนต้องจับมือร่วมกันมาก่อน
“หากโชคชะตาเลวร้าย เช่นนั้นยามเมื่อคัดเลือกกลุ่ม คงได้เจ้าอ้วน
นั่นหรือไม่ก็เจ้าเด็กนั่นแล้ว!”
“ชายอ้วนคนนั้นเป็นอาจารย์จารึกลึกล้ำ เขายังมีเหรียญตรา ทว่าเด็ก
หนุ่มนั่นไม่มีอันใด ที่ทราบ ก็มีแต่พลังจิตที่เลิศล้ำเท่านั้น!”
“มาดูกันว่าผู้ใดจะโชคร้ายได้สองคนนั้นเข้าร่วมกลุ่ม!”
อาจารย์จารึกทั้งหนึ่งร้อย ต่างตั้งแถวเข้าไปจับไข่มุกกันขึ้นมา เจี้ยน
หลิงหลงจับได้ไข่มุกหมายเลขยี่สิบ ข้างกายเจี้ยนหลิงหลง เวลานี้ยัง
ไม่มีผู้ใดได้รับหมายเลขยี่สิบ และมันเป็นฉินหยุนจงใจให้เรื่องราว
เป็นเช่นนี้ หรือก็คือ เขาจะสร้างโอกาสให้ตนเองได้จับกลุ่มกับเจี้ยน
หลิงหลง
ไม่นานจากนั้น เขาจึงควบคุมไข่มุกหมายเลขยี่สิบภายในหีบใหญ่
เพื่อที่มันจะได้ไม่ตกอยู่ในมือผู้อื่น ด้วยวิธีการดังกล่าว เขาจะสามารถ
รวมกลุ่มกับเจี้ยนหลิงหลงได้อย่างแน่นอน
ฉินหยุนเองก็ไม่อาจทราบ ว่าเหตุใดจึงเป็นการจับกลุ่ม หากอาจารย์
จารึกเต๋าของตระกูลเจี้ยนต้องไปจับกลุ่มกับอาจารย์จารึกเต๋าของ
ตระกูลหลง อย่างนั้นผู้ที่ต้องสูญเสียหนักหนา ย่อมเป็นอาจารย์จารึก
เต๋าตระกูลเจี้ยน
ถึงคราวฉินหยุน เจี้ยนสือเทียนตบที่หีบใหญ่ ไข่มุกร่วงหล่นลงมา
ผ่านรูขนาดเล็ก หมายเลขยี่สิบปรากฏ เรื่องนี้เป็นฉินหยุนจัดแจง
ในทางลับ ยามเจี้ยนหลิงหลงได้เห็นเด็กหนุ่มได้รับไข่มุกหมายเลข
ยี่สิบ ใบหน้างดงามของนางพลันต้องเขียวคล้ำ!
ผู้อื่นบนเวทีการแข่งขัน ต่างหันมองสีหน้าเจี้ยนหลิงหลงพร้อมส่ง
เสียงฮือฮาดังออก เพราะนางเผชิญโชคร้ายครั้งใหญ่หลวงเข้าให้แล้ว!
เซี่ยวเย่ว์เหม่ยและผู้อื่นย่อมทราบ ว่าการทำเช่นนี้ คือฉินหยุนจงใจ
เลือกอีกฝ่าย
กระทั่งอาจารย์จารึกตระกูลเจี้ยนยังต้องเผยความยินดีต่อเรื่องนี้ พวก
เขาล้วนทราบว่าเจี้ยนหลิงหลงแข็งแกร่ง กระนั้นนางกลับไปเข้าร่วม
นครเซียนยุทธภัณฑ์ ดังนั้นลึกภายในใจ พวกเขาไม่คิดอยากให้นาง
ได้รับอักขระล้ำค่า
ด้วยเพราะนางครอบครองจารึกวิญญาณจ้าวเต๋า หากนางได้รับอักขระ
เต๋าที่ดีไปจำนวนมาก เมื่อนั้น นางจะกลายเป็นอาจารย์จารึกเต๋าที่เลิศ
ล้ำ ถึงเวลานั้น นางจะกลายเป็นเหนือล้ำยิ่งกว่าบรรดาอาจารย์จารึก
เต๋าเฒ่าชราของตระกูลเจี้ยน
และเรื่องราวดังกล่าว บรรดาอาจารย์จารึกเต๋าตระกูลเจี้ยนไม่อยาก
เห็นเป็นที่สุด เพราะแม้ว่าอักขระเต๋าที่แกะสลักโดยเจี้ยนหลิงหลงมี
ระดับความวิจิตรสูงล้ำ แต่นั่นทั้งหมดเป็นเพราะจารึกวิญญาณจ้าว
เต๋า หาได้ใช่ความสามารถของตัวนางเองไม่ พวกเขาจึงไม่ยอมรับ
ความสามารถของนาง
เจี้ยนหลิงหลงเดิมคิด ว่านางจะได้สร้างความตื่นตะลึงในการแข่งขัน
จารึก ให้ผู้คนได้เห็น ถึงระดับการจารึกอันเหนือล้ำของนาง กระนั้น
เวลานี้ นางกลับต้องร่วมกลุ่มกับเด็กน้อยผู้หนึ่ง! นี่แทบจะกลายเป็น
เรื่องแน่นอน ว่านางไม่มีทางเข้าถึงรอบสุดท้ายได้
ได้ยินเสียงหัวเราะเย้ยหยันจากผู้คนทั่วทิศ เจี้ยนหลิงหลงจึงตะโกน
ออกด้วยความกราดเกรี้ยว “พวกเจ้าล้วนหุบปาก!”
ฉินหยุนก้าวเดินไปหยุดที่ด้านข้างเจี้ยนหลิงหลงด้วยใบหน้าเปื้อน
ยิ้ม เขากล่าว “พี่สาวหลิงหลง พวกเราได้อยู่กลุ่มเดียวกัน!”
เจี้ยนหลิงหลงคิดอยากเตะเด็กหนุ่มตรงหน้าเป็นล้นพ้น นางยอม
ทำงานผู้เดียวดีกว่าต้องจับคู่กับคนเช่นนี้ แน่นอน ว่านางได้แต่ต้อง
บ่นอยู่ภายในใจ
“เจ้าปีศาจน้อย ทางที่ดีอย่าได้เป็นภาระแก่ข้า!” เจี้ยนหลิงหลงกล่าว
คำเบา “หากเจ้าไม่ทำอันใด บางทีข้าอาจนำเจ้าเข้าสู่รอบสุดท้ายจน
ได้รับอักขระที่ดีเหล่านั้น เมื่อนั้น พวกเราค่อยแบ่งปันอักขระเหล่านั้น
ร่วมกัน!”
เจี้ยนหลิงหลงไม่ทราบแท้จริง ว่าเด็กหนุ่มตรงหน้าคือฉินหยุน!
ฉินหยุนกล่าวถามเสียงเบา “พี่สาวหลิงหลง ท่านเป็นคนตระกูลเจี้ยน
ทราบหรือไม่ว่าเหตุใดการแข่งขันจารึกจึงแบ่งออกเป็นกลุ่ม?”
เจี้ยนหลิงหลงแค่นเสียงเบา “ผู้ใดกันจะทราบ!”
ฉินหยุนหันมองทางกลุ่มคนพร้อมถามขึ้นอีกครั้ง “ข้าได้เห็นหลาย
กลุ่มเป็นคนตระกูลเจี้ยนทั้งสิ้น และตระกูลหลงมีแต่จับคู่กับผู้อื่น!
ท่านไม่คิดหรือว่านี่คล้ายบังเอิญจนเกินไป?”
เจี้ยนหลิงหลงขมวดคิ้ว “จะบอกว่าการจับไข่มุกสุ่มขึ้นมานั้น เป็น
ตระกูลเจี้ยนลงมือทางลับอย่างนั้นหรือ?”
ฉินหยุนให้ความสนใจหีบใหญ่นั้นมาโดยตลอด ผู้ที่ตบหีบให้มัน
ปล่อยไข่มุกออกมามีแต่เจี้ยนสือเทียน ชัดเจนว่าเขาต้องมีวิธีการ
บางอย่าง และจะไม่มีผู้ใดทราบด้วย
เจี้ยนหลิงหลงพิจารณาถี่ถ้วนจึงกล่าว “มีแปดกลุ่มที่จับคู่กันระหว่าง
อาจารย์จารึกเต๋าจากตระกูลหลง นอกจากนี้แล้ว ยังเป็นคู่ที่เลิศล้ำ
อย่างยิ่ง!”
ฉินหยุนพยักหน้ารับ “เป็นเช่นนี้ แม้ดูเหมือนบังเอิญ ทว่าแท้จริง
ไม่ใช่! คนของตระกูลเจี้ยนไม่คิดจับคู่กับผู้อื่นอย่างเห็นได้ชัด นี่ต้อง
เป็นการจงใจอย่างแนบเนียนที่ผู้อื่นจะไม่คิดสงสัย!”
เจี้ยนหลิงหลงเกิดความโกรธแค้นขึ้นจนสบถเสียงเบา “กล่าวไปแล้ว
จะบอกว่าพวกมันจงใจจับเจ้าโยนให้ข้า?”
ฉินหยุนพยักหน้ารับ “เป็นไปได้อย่างยิ่ง!”
เจี้ยนหลิงหลงสะท้านราวสายฟ้าฟาดเข้าใส่ โทสะของนางแทบไม่
อาจสะกดกลั้น นางพุ่งตรงเข้าหาเจี้ยนสือเทียน! บรรดาอาจารย์จารึก
บนเวที รวมถึงผู้รับชมข้างเคียง พวกเขาต่างทราบถึงโทสะของ
เจี้ยนหลิงหลง เจี้ยนสือเทียนรับมือทันควัน เขาเร่งรีบไปหยุดยืนที่
ตรงหน้าเจี้ยนหลิงหลง
ฉินหยุนประเมินอารมณ์เจี้ยนหลิงหลงต่ำเกินไป เขาไม่คิด ว่านางจะ
เผยความดุดันร้อนแรงออกเพียงนี้!
“พี่สาวหลิงหลง ข้าคือฉินหยุน ท่านอย่าได้ลดตัวลงไปก่อเรื่องกับ
พวกมันแล้ว!” ฉินหยุนเร่งร้อนส่งเสียงสื่อสารในทางลับไปยังเจี้ยน
หลิงหลง
เจี้ยนหลิงหลงพลันชะงักงัน นางหันมองเด็กหนุ่มเบื้องหลัง ภายใน
ใจของนาง ทั้งตื่นเต้นและยินดี ความโกรธในใจของนางเวลานี้ มัน
คล้ายถูกทำให้สลายหายไปในพริบตา
“หลิงหลง แม้คู่ของเจ้ายังเยาว์ กระนั้นพลังจิตของเขาไม่ใช่ธรรมดา
เจ้าอย่าได้มองโลกในแง่ร้ายเช่นนี้” เจี้ยนสือเทียนกล่าวปลอบต่อนาง
โทสะของเจี้ยนหลิงหลงเลือนหายวับกับตา จากนั้น นางจึงกลับไป
ยืนข้างฉินหยุน ภายในใจนาง เวลานี้คล้ายมีแต่ความยินดีเป็นล้นพ้น
แล้ว
เจี้ยนสือเทียนได้เห็นเจี้ยนหลิงหลงสงบใจลงได้ในพริบตา เขาพบว่า
เรื่องราวแปลก กระนั้น เขาก็ได้แต่ถอนหายใจอย่างโล่งอก เพราะ
ผู้คนล้วนทราบว่าเจี้ยนหลิงหลงมีอารมณ์ร้ายเพียงใด นางพร้อมที่จะ
คว่ำโต๊ะได้ทุกเมื่อ
เจี้ยนหลิงหลงส่งเสียงสื่อสารมาทางฉินหยุน “เจ้าปีศาจน้อย เจ้ากลับ
มาเมื่อใด? เหตุใดจึงทำลับล่อเช่นนี้?”
ฉินหยุนหัวเราะตอบกลับ “ข้ากลับมาหลายวันแล้ว และที่ข้าลับล่อ ก็
เพราะไม่ต้องการให้เกิดเรื่องใหญ่ พี่สาวหลิงหลง พวกเราอยู่ร่วมกลุ่ม
เดียวกัน เป็นข้าจงใจให้เป็นเช่นนี้ ท่านคงไม่กล่าวโทษข้ากระมัง?”
เจี้ยนหลิงหลงหยิกที่ใบหน้าฉินหยุนก่อนจะส่งเสียงสื่อสารไป
“แน่นอน ข้าไม่กล่าวโทษเจ้า จับคู่กับเจ้าถือว่าดี พวกเราร่วมมือกัน
ให้ดีที่สุด เอาชนะตัวบัดซบเหล่านั้นให้ได้!”
นางทราบว่าฉินหยุนครอบครองสองจารึกวิญญาณ มันคือจารึก
วิญญาณราชันสัตว์และอัคคีคลั่ง ยิ่งไปกว่านั้น ความรู้ทางวิถีจารึก
ของเขายังสูงล้ำ เซี่ยวชาญอักขระทั้งหลาย เขาย่อมเป็นคู่หูที่เหนือล้ำ
อย่างแท้จริงไม่มีใดให้นางโต้แย้ง
เจี้ยนสือเทียนกล่าว “ทุกกลุ่มได้รับคู่กันเรียบร้อย ถัดจากนี้จึงเป็น
การแข่งขันรอบสอง และยังคงเกี่ยวข้องกับพลังจิต!”
อย่างไม่คาดคิด กลับกลายเป็นการขันแข่งพลังจิตอีกครั้งหนึ่งแล้ว
หลายคนต่างเกิดนึกทึ่ง และหลายคนต่างเกิดความสับสนงุนงง เสียง
อึกทึกย่อมตามมาหลังการประกาศ
เจี้ยนสือเทียนกล่าวคำดัง “ถัดจากนี้จะเป็นศึกพลังจิต อาจารย์จารึก
จำเป็นต้องใช้พลังจิตของตนเองควบคุมอาวุธที่สร้างขึ้นเป็นพิเศษ
เพื่อลงมือสังหารต่อสัตว์อสูรดวงดาว!”
ทันใดนี้ ม่านพลังจึงปรากฏ มันปกคลุมพื้นที่หลายร้อยเมตรของเวที
การแข่งขัน
เจี้ยนสือเทียนนำหอคอยขนาดเล็กออกมาพร้อมเผยยิ้ม “ภายในหอคอย
ของข้ามีสัตว์อสูรดวงดาวทั้งสิ้นหนึ่งหมื่นตัว! ทุกครึ่งชั่วยาม ข้าจะ
ปล่อยพวกมันออกมาสองพันตัว พวกเจ้าค่อยควบคุมอาวุธและสังหาร
สัตว์อสูรดวงดาวเหล่านี้ สามสิบกลุ่มที่สังหารได้มากที่สุดจึงมีสิทธ์ิ
เข้าสู่รอบถัดไป!”
“กลุ่มที่สังหารสัตว์อสูรดวงดาวได้มากที่สุด จะได้รับผลึกแก้วแกน
กลางทั้งหมดไปครอง!”
เจี้ยนหลิงหลงเอ่ยถาม “ถึงตอนนั้น เรื่องราวคงโกลาหลยิ่ง อย่างนั้น
จะทราบได้อย่างไรว่าผู้ใดลงมือสังหารกันแน่?”
เจี้ยนสือเทียนนำดาบยาวออกมา “ภายในอาวุธพิเศษนี้ มันจะมีนาม
ของพวกเจ้าเขียนเอาไว้ หากเจ้าควบคุมอาวุธและสังหารสัตว์อสูร
ดวงดาวได้ เมื่อนั้น นามของพวกเจ้าจะถูกเขียนไว้ที่ภายในผลึกแก้ว
แกนกลางของสัตว์อสูรดวงดาว!”
เจี้ยนสือเทียนเริ่มแจกจ่ายอาวุธ พวกมันทั้งหมดคืออาวุธผลึกแก้ว
โปร่งแสง
ฉินหยุนรับไว้พร้อมรับชม มันมีสองคำ “เซี่ยวหยุน” เขียนเอาไว้
ลายมือเป็นเช่นเดียวกับที่เขาเขียนเมื่อวาน
อาจารย์จารึกเต๋าจากตระกูลหลงผู้หนึ่งเผยเสียงทักท้วง “ชัดเจนว่านี่
เป็นการแข่งขันจารึก กระนั้นกลับต้องมาสังหารสัตว์อสูรดวงดาว นี่
ไม่ต่างอะไรกับหลอกพวกเรามาขันแข่งไปเรื่อย!”
เจี้ยนสือเทียนยิ้มกล่าว “อาจารย์จารึก ย่อมต้องใช้พลังจิตเพื่อควบคุม
วัตถุสิ่งของ และมันย่อมเป็นสิ่งที่จะยืนยันถึงศักยภาพทางพลังจิต
ของอาจารย์จารึกได้ดีที่สุด! มีแต่อาวุธที่ขัดเกลาโดยอาจารย์จารึก
เหล่านั้น จึงสามารถกล่าวได้ว่าเป็นสิ่งเลิศล้ำ!”
ฉินหยุนลอบยินดี เพราะเวลานี้เขากำลังขาดแคลนผลึกแก้วแกนกลาง
หากได้รับอันดับหนึ่ง เขาย่อมสามารถได้รับผลึกแก้วแกนกลางจำนวน
นับหมื่น!
“พี่สาวหลิงหลง ผลึกแก้วแกนกลางเหล่านั้นมีประโยชน์แก่การฝึกฝน
ข้านัก!” ฉินหยุนกล่าว “พวกเราต้องลงมือจริงจังคว้าอันดับหนึ่งมา
ให้ได้!”
เจี้ยนหลิงหลงย่อมมั่นใจในกำลังของนางอยู่แล้ว!
เจี้ยนสือเทียนกล่าว “ถัดจากนี้ ขอให้อาจารย์จารึกที่เข้าร่วมแข่งขัน
แกะสลักอักขระลงบนอุปกรณ์ลึกล้ำผลึกแก้วเหล่านี้เพื่อให้มัน
แข็งแกร่ง มันจะเป็นสิ่งที่ช่วยให้สามารถสังหารสัตว์อสูรดวงดาวได้
รวดเร็ว!”