ราชินีพลิกสวรรค์ - ตอนที่ 150 พลานุภาพของนายน้อยผู้สง่างาม
“แข็งแกร่งมาก!”
“เขาเป็นใครกัน!”
การปรากฏตัวของลู่เจี้ย ทำให้การต่อสู้ทั้งหมดหยุดลง
ในตอนที่เขาปรากฏตัวทั้งที่อุ้มเจียงหลีอยู่ พลังลมปราณที่น่ากลัวจากตัวเขาก็ตลบอบอวลไปทั่วทุกสารทิศ ทุกสิ่งทุกอย่างหยุดชะงัก ลู่จ้านอุ้มเจียงเฮ่าที่ไม่ได้สติ ถอยกลับไปข้างๆ เขาพูดเบาๆ ด้วยน้ำเสียงต่ำ “นายน้อย”
ลู่เจี้ยไม่ได้ตอบกลับ ในอ้อมแขนอุ้มเจียงหลีที่กำลังหลอมรวมเข้ากับเสวียนกังกุยอย่างอ่อนโยน บนตัวนางแสงสีทองยังคงเปล่งประกาย ตัวอักษรลึกลับวนอยู่รอบตัวนาง เหมือนกับว่าจะเคลือบผิวหนังของนางด้วยแสงสีทองอ่อนๆ
“……”
การต่อสู้ที่หยุดชะงักอย่างฉับพลัน ทำให้ผู้คนรอบๆ ตกอยู่ในความเงียบที่แปลกประหลาด
ลู่เจี้ยตัวสูงมาก ถึงแม้ว่าจะยืนอยู่ท่ามกลางผู้คน รูปร่างดูสูงสง่าอย่างเห็นได้ชัด ทำให้คนไม่อาจละความสนใจ ยิ่งไปกว่านั่น พลังลมปราณในตัวเขาที่แข็งแกร่งเช่นนี้ กดพลังของพวกเขาทุกคนที่อยู่ตรงนั้น
เขาถูกเสื้อคลุมสีดำปกคลุมทั้งตัวของเขา ทำให้เห็นหน้าไม่ชัด
แต่ว่าคนที่อยู่ตรงนั้น ยังรับรู้ได้ถึงความสูงส่งนั้นที่มีมาแต่กำเนิด พลังที่ทำให้คนสวามิภักดิ์
“เจ้าเป็นใคร” ไป๋เซี่ยงเลี่ยรู้สึกได้ว่าตัวเองถูกกดพลังอยู่ รู้สึกอึดอัดมาก
แต่ว่า ลู่เจี้ยยังคงไม่พูดอะไร
ผู้คนรับรู้ได้เพียงแค่สายตาที่เยือกเย็นคู่หนึ่งที่มองมายังพวกเขาจากใต้หมวกของเสื้อคลุมนั้น
แข็งแกร่งมาก!
ผู้คนกลืนน้ำลาย ในใจคิดจะถอย
พลังนี้ ไม่ได้เกิดจากพลังวิญญาณ ไป๋เซี่ยงเลี่ยรับรู้ในใจอย่างละเอียด ทันใดนั้นเขาก็ตาเบิกโพลงตะโกนเสียงสั่นออกมาว่า “เจ้าคือเนี่ยนจง! เนี่ยนจง!”
เนี่ยนจง!
ได้ยินที่เขาพูด ก็รู้ดีว่าคนที่เป็นเนี่ยนจงเป็นอย่างไร ต่างพากันตกใจมาก มองชายที่อุ้มหญิงสาวชุดดำด้วยความตะลึง
ครั้งนี้พวกเขาหาเรื่องใส่ตัวแท้ๆ
นางเด็กผู้หญิงคนนี้มาจากตระกูลที่มีอำนาจรึ เข้ามาในอาณาเขตหลิงอู่ คิดไม่ถึงว่าจะมีทั้งหลิงไซว่ เนี่ยนจงคอยปกป้อง และยังมีหลิงเจี้ยงติดตามมาด้วยอีก
เนี่ยนจง……เนี่ยนจงเมื่อเทียบกับหลิงจงแล้วหายากกว่ามาก เนี่ยนซือก็มีน้อยอยู่แล้ว แต่ว่าคนที่สามารถฝึกฝนจนถึงขั้นเนี่ยนจง ฆ่าพวกเขาได้ง่ายๆ เลย
ร่างกายของเนี่ยนซืออ่อนแอมาก ทำให้พวกเขามีโอกาสที่น้อยนิด
แต่ว่า ไม่เห็นหลิงไซว่อีกคนที่อยู่ข้างๆ เขาหรืออย่างไร
ความกลัวแพร่กระจายไปในจิตใจของคนจำนวนมาก
หนี!
ในตอนที่ความคิดหนีผุดขึ้นมาในหัว ก็มีสิบกว่าคนที่หันตัวเตรียมจะหนี
“อย่าขยับ”
ทันใดนั้น คำพูดที่เบาเหมือนดั่งเมฆสีขาว ลอยออกมาจากปากของลู่เจี้ย พลังที่มองไม่เห็นแผ่กระจายออกมาจากตัวเขาล้อมรอบทุกคนไว้
ตามคำพูดนี้ คนที่อยู่ตรงนั้นทุกคน นอกจากฝั่งของเขา ทุกคนถูกกดพลังอยู่ตรงนั้น
พวกเขาไม่เพียงแต่ขยับไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้นแม้แต่พูดก็พูดไม่ได้!
ผู้คนมองเขาด้วยความตกใจกลัว รับรู้ได้ถึงความน่ากลัวของคนๆ นี้อย่างแท้จริง แม้แต่โอกาสที่จะให้พวกเขาขอให้ยกโทษให้ก็ไม่มี
นี่ก็คือพลังของเนี่ยนจง! ไป๋เซี่ยงเลี่ยท่าทางหวาดกลัว
และหลานชายไป๋เซี่ยงเฉิงที่ยืนอยู่ข้างๆ ในสายตาเผยให้เห็นถึงความสิ้นหวังและความกลัว ต้องไม่เป็นแบบนี้สิ! ก็เห็นอยู่ว่าวันนี้เป็นวันตายของนางเด็กผู้หญิงคนนั้น ทำไมถึงได้กลับกันเช่นนี้
“คนที่ลงมือทุกคน ต้องออกจากอาณาเขตหลิงอู่” ลู่เจี้ยพูดด้วยความเย็นชา
เขาพูดประโยคนี้อย่างเรียบง่าย
แต่ว่าหลังจากที่เขาพูดจบ พลังที่แข็งแกร่งรัดคอพวกเขา ทำให้ทุกคนเข้าใจคำว่า ‘ออก’ ที่เขาพูด
ออกก็คือตาย!
พลังกลายเป็นคมดาบล่องหนที่มากมาย ปิดล้อมทุกทิศทาง ชั่วพริบตาเดียวผู้คนก็ถูกตัดเป็นชิ้นๆ ทำให้พวกเขารับรู้ได้ถึงความตายที่มาเยือน รับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดที่ร่างกายถูกตัดขาด
ในตอนที่ทุกอย่างจบลง คนเหล่านี้กลายเป็นผุยผงสีทองสลายหายไปจากอาณาเขตหลิงอู่
ในขณะเดียวกัน ในโลกภายนอก คนมากมายตื่นจากการนั่งเข้าฌาน กระอักเลือดไม่หยุด ทางเดินของโลหิตได้รับความเสียหายมาก บางคนมากถึงขั้นถูกทำลายพลังขั้นพื้นฐาน ต่อจากนี้เป็นเพียงแค่คนธรรมดา
ขบวนท่าเดียว!
นี่แค่ขบวนท่าเดียวของเนี่ยนจง
ทำลายล้างในขบวนท่าเดียว! พวกเขาไม่เคยเห็นพลังของเนี่ยนซือที่แข็งแกร่งและรุนแรงเช่นนี้มาก่อน!
แท้จริงแล้วเขาเป็นใครกันแน่ มาจากที่ไหนกัน
ในเมืองหนานฮวง แคว้นเป่ยโหรว ไป๋เซี่ยงเลี่ยออกมาจากอาณาเขตหลิงอู่ กระอักเลือดเต็มตัวไปหมด สีหน้าซีดเซียว พลังลมปราณอ่อนแรงมาก
มีเสียงร้องด้วยความตกใจมากมายดังขึ้นข้างหูเขา
เขามองไปทางไป๋เซี่ยงเฉิง หลานชายของเขาสลบไม่ได้สติไปแล้ว แต่เขาแค่มองก็รู้ว่าพลังขั้นพื้นฐานของหลานชายถูกทำลายจนสิ้นแล้ว
“อาเลี่ย! พวกเจ้าไปหาเรื่องใครในอาณาเขตหลิงอู่มากันแน่!”
พ่อของไป๋เซี่ยงเฉิง ถามด้วยความแค้นและเจ็บปวดใจ ทำให้ไป๋เซี่ยงเลี่ยดวงตาแข็งทื่อ “ข้าจะหาพวกเขาให้เจอ”
……
ในอาณาเขตหลิงอู่ ลู่จ้านมองลู่เจี้ยด้วยความเป็นห่วง
ตอนนี้ หนองน้ำเป่ยยวนเหลือแค่พวกเขาสี่คน เจียงเฮ่ายังสลบอยู่ หน้ากากโลหะบนในหน้าถูกโจมตีจนแตก ทำให้เกิดรอยแตก
และเจียงหลี พลังลมปราณเริ่มคงที่ แสงของเนตรญาณก็ค่อยๆ อ่อนลง นี่เป็นสัญญาณบอกว่าหลอมรวมเข้ากันสำเร็จ รอนางตื่นขึ้นมา ก็จะกลายเป็นหลิงเจี้ยง
หลิงเจี้ยงที่อายุเพียงสิบสามปี!
ข่าวนี้ถูกแผ่ออกไป คงจะทำให้คนทั้งยุคจิ้นโฮ่วตะลึง ยิ่งไปกว่านั้นทั้งหนานฮวง
“นายน้อย ท่านไม่เป็นอะไรใช่ไหม” ลู่จ้านเป็นห่วงลู่เจี้ยมาก
ขบวนท่าเมื่อครู่นี้ นายน้องต้องใช้พลังไปไม่น้อยอย่างแน่นอน
ลู่เจี้ยส่ายหัวช้าๆ “ไม่เป็นไร ลู่จ้าน หลังจากกลับไป รีบปิดข่าวที่เกี่ยวกับวิญญาณยุทธ์ที่สองของหลีเอ๋อร์ทันที”
ลู่จ้านแววตาแวววาว รีบพยักหน้า
เขารู้ว่าถ้าหากมีคนรู้ว่าวิญญาณยุทธ์ตนที่สองของเจียงหลีคือเสวียนกังกุย คนที่ฆ่าไปวันนี้จะตามมาล้างแค้น
ตระกูลลู่ไม่กลัว แต่ว่าต้องรับรองความปลอดภัยของเจียงหลีว่าจะไม่ถูกลอบทำร้าย
ดังนั้น ก่อนที่นางจะปกป้องตัวเองได้ ปิดข่าวเป็นเรื่องสำคัญ
“เหอะๆ” เสียงไอที่กลั้นไว้ กลั้นไม่อยู่ไอออกมา
ลู่จ้านตกใจ เห็นเลือดไหลออกมาจากใต้หมวกลงเสื้อคลุม เห็นได้ชัดว่าไหลออกมามุมปากของลู่เจี้ย
“นายน้อย!”
“กลับไปเถอะ” ลู่เจี้ยพูดขึ้น เหมือนกับว่าไม่สนเลยสักนิดว่าร่างกายของตัวเองเป็นอย่างไร
ลู่จ้านรีบพยักหน้า กลับไปสภาพปกติดีที่สุด
“แล้วเขาล่ะ” ลู่จ้านมองเจียงเฮ่าที่สลบอยู่และบาดเจ็บอย่างสาหัส
ลู่จ้านมองไปที่เจียงเฮ่า “คิดไม่ถึงว่าเจียงเฮ่าจะปกปิดตัวตน ซ่อนตัวอยู่ในสำนักหลิงอู่เพื่อหาโอกาสแก้แค้น เขาก็ถือว่าจริงใจกับเจียงหลี เจ้าก็หาที่ที่ปลอดภัยสักที่ให้เขา หลังจากเขาตื่นขึ้นมา ก็ให้ออกไปเอง อาณาเขตหลิงอู่ก็เป็นการฝึกฝนอย่างหนึ่ง ถ้าไม่ตายในนี้ ก็ไม่เป็นอะไร”
“ขอรับ นายน้อย” ลู่จ้านรับคำสั่งของลู่เจี้ย พาเจียงเฮ่าจากไป
หลังจากที่เขาไป ลู่เจี้ยที่ตาจะปิด มองหญิงสาวที่หลับสนิทอยู่ ยื่นนิ้วออกมา แตะที่หว่างคิ้วนางเบาๆ ทีหนึ่ง แสงสว่างออกมาจากนิ้ว ทำให้ร่างกายของเจียงหลีเลือนรางแล้วค่อยๆ หายไปจากอาณาเขตหลิงอู่