ราชินีพลิกสวรรค์ - ตอนที่ 259 ลู่เจี้ยจอมเผด็จการ
เขายังไม่คู่ควร!
ทันทีที่ประโยคนี้ลั่นออกมา สวนบุปผาของพระราชวังซีเฉียนก็เงียบสงัดลง
งานเลี้ยงราชสำนักที่ครึกครื้น ขณะนี้บรรยากาศได้เริ่มเปลี่ยนไปแล้ว ฮ่องเต้ซีเฉียนที่ยิ้มอยู่ตลอดเวลา ตอนนี้รอยยิ้มที่มุมปากกลับแคบลงและวางแก้วในมือลงกับโต๊ะด้วยเสียงดังสนั่น
เสียง ปั้ง ดังขึ้น ทำให้เฉียนลี่ที่ก้มหน้าอยู่มุมปากได้โค้งขึ้นเล็กน้อย แต่ก็หายไปอย่างรวดเร็ว
คำตอบของลู่เจี้ย ทำให้ความตึงเครียดในใจของเขาหายไปทันทีและหลังจากนี้ไปก็ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเขาแล้ว เหลือเพียงรอดูการแสดงสดที่น่าภิรมย์ใจเท่านั้น
แต่หลังจากเฉียนจวิ้นได้ยินคำปฏิเสธเช่นนี้ ความรู้สึกของเขาแตกต่างจากเฉียนลี่โดยสิ้นเชิงและอดไม่ได้ที่จะลุกขึ้นยืนแล้วมองไปที่ลู่เจี้ยด้วยสายตาที่ตึงเครียดและน่าสะพรึงกลัว
“ลูก นั่งลง” นี่เป็นคำสั่งที่มิอาจต้านทานได้ เฉียนจวิ้นต่อสู้ในใจและนั่งลงด้วยความโกรธ
หลังจากได้ยินคำพูดของลู่เจี้ย เจียงหลีโค้งมุมปากยิ้มอย่างขี้เล่นและมองไปที่ลู่เจี้ยอย่างหยอกเย้า ในเมื่อชายผู้นี้รีบออกตัวแก้ไขสถานการณ์เช่นนี้ นางจึงรอชมการแสดงสด
หลังจากที่เจียงเฮ่าและลู่เสวียนได้ยินสิ่งที่ลู่เจี้ยพูด หัวใจที่ทะยานขึ้นสูงก็สงบลงเล็กน้อย
เฟิงสิงอวิ๋นที่นั่งดูอยู่กวาดสายตาไปที่ลู่เจี้ย จากนั้นก็มองไปที่เจียงหลีพร้อมกับถอนหายใจเงียบๆ
“นายน้อยลู่หมายถึงอะไร องค์ชายรองแห่งอาณาจักรซีเฉียนของข้าไม่คู่ควรกับองค์หญิงเสวียนเทียนอย่างนั้นหรือ” ฮ่องเต้ซีเฉียนกวาดสายตาไปทางลู่เจี้ยด้วยสายตาอันเฉียบคม
คำพูดของเขาได้เพิ่มความตึงเครียดของบรรยากาศโดยรอบและขุนนางซีเฉียนก็ต่างมองไปที่ลู่เจี้ยเช่นกันด้วยสายตาที่ไม่ประสงค์ดี
แน่นอนว่าลู่เจี้ยดูเหมือนจะไม่รู้สึกถึงความแหลมคมจากดวงตาคู่นี้ เขาแค่ยิ้มและยังคงพูดด้วยท่าทีเกียจคร้านว่า “ฮ่องเต้ซีเฉียน คำพูดข้ายังไม่กระชับและชัดเจนเพียงพอหรือ หากเป็นเช่นนั้น ข้าก็จะพูดอีกครั้ง เขา ยัง ไม่ คู่ ควร!”
ครานี้เขาพูดทีละพยางค์
“บังอาจ! ” ฮ่องเต้ซีเฉียนเกรี้ยวโกรธยิ่งนัก ตบโต๊ะแล้วลุกขึ้นยืนทันที!
“บังอาจหรือ” ลู่เจี้ยพึมพำเบาๆ สายตาของเขามองไปที่ฮ่องเต้ซีเฉียน ซึ่งในดวงตาสีเขียวครามคู่นี้มีความลึกซึ้งและความเข้าใจยากรวมอยู่ด้วย แต่กลับไม่มีกลิ่นอายของความโกรธอยู่เลย แต่มีความน่าเกรงขามปรากฏอยู่แทน
น้ำเสียงติดตลกทำให้ใบหน้าของฮ่องเต้ซีเฉียนหม่นหมอง ดวงตาของเขากระพริบเล็กน้อยก่อนที่จะกล่าวว่า “หากนายน้อยลู่ไม่พอใจกับการแต่งงานครั้งนี้ ก็ปฏิเสธอย่างสุภาพได้ แต่นี่เจ้ากลับพูดว่าลูกชายข้าไม่คู่ควร มันจะมากเกินไปหรือไม่”
ใช่ จริงอยู่ที่การแต่งงานสามารถปฏิเสธอย่างสุภาพได้ ไม่จำเป็นต้องพูดไม่ไว้หน้าถึงเพียงนี้
จากนั้น ลู่เจี้ยได้ลุกขึ้นยืนอย่างช้าๆ และมองไปที่ฮ่องเต้ซีเฉียนด้วยรอยยิ้ม “ไม่คู่ควรก็คือไม่คู่ควร หรือว่าฮ่องเต้ซีเฉียนจะไม่คุ้นชินกับการได้ฟังความจริงเช่นนี้ และพอใจฟังเพียงคำพูดที่หลอกลวงเหล่านั้น หากเป็นเช่นนี้ ความล่มสลายของอาณาจักรซีเฉียนก็อยู่ไม่ไกลแล้ว”
“ลู่เจี้ย! ” ฮ่องเต้ซีเฉียนตะโกนอย่างดุดัน
เมื่อเขาพูดจบ ทหารองครักษ์ก็ค่อยๆ เข้าล้อมสถานที่แห่งนี้
“ฮ่องเต้ซีเฉียน” ใบหน้าของลู่เจี้ยกลับไม่เห็นร่องลอยความตื่นตระหนกใดๆ ปรากฏขึ้นเลย และเขาจ้องมองไปที่ฮ่องเต้ซีเฉียนด้วยสายตานิ่งสงบ “ข้าเป็นทูตของอาณาจักรจยาเซียน ท่านกล้าฆ่าข้าหรือ” เขายิ้มอย่างแปลกประหลาด ทำให้ฮ่องเต้ซีเฉียนตะลึงงันในใจ… ภายในหัวใจของเขาดูเหมือนจะปรากฏความรู้สึกที่ว่าลู่เจี้ยจงใจกวนประสาทเขา!
ติดกับไม่ได้! ฮ่องเต้ซีเฉียนกล่าวกับตัวเองในใจ เขายกมือขึ้นเพื่อห้ามไม่ให้เหล่าทหารองครักษ์เคลื่อนไหว
ลู่เจี้ยยิ้มอย่างดูแคลนที่หาใครมาเทียบเคียงไม่ได้
ดวงตาของเขากวาดมองไปที่กลุ่มคนในงานอย่างทะนงตนจนท้ายที่สุดสายตาของเขาก็จดจ้องไปที่เจียงหลีซึ่งกำลังเล่นจอกสุราและดูการแสดงสดอยู่
เขาเดินเข้าไปหานางอย่างช้าๆ โดยไม่มีใครอยู่ข้างๆ “องค์รัชทายาท องค์หญิงเสวียนเทียนแห่งอาณาจักรจยาเซียนของข้า ใบหน้าสวยงาม สูงส่งสง่างาม งดงามชดช้อย หยิ่งผยองทะนงตน ใต้หล้าไม่มีสอง…”
รอยยิ้มมุมปากที่ขี้เล่นของเจียงหลีค่อยๆ จางลง หัวใจของนางท่ามกลางคำพูดเหย้าแหย่เขา ยิ่งทำให้นางโมโหขึ้นเรื่อยๆ
“… ฉลาดปราดเปรื่อง จะถูกแปดเปื้อนได้อย่างไร นับแต่นี้ไป หากใครกล้ามีความคิดเช่นนี้กับองค์หญิงเสวียนเทียน ก็คือศัตรูกับอาณาจักรจยาเซียน อาณาจักรของข้าพร้อมประกาศสงคราม! ”
ทุกคนตกใจ!
ลู่เจี้ยที่อยู่ต่างแคว้นต่างแดนกลับพูดจาเช่นนี้ต่อหน้าสาธารณชน!
เจียงเฮ่ามองไปที่ลู่เจี้ยด้วยสีหน้าสับสนซึ่งแววตานั้นมีเพียงน้องสาวของเขาเท่านั้น และสุดท้ายก็ทำได้แต่ถอนหายใจ
เจียงหลีวางจอกสุราในมือลงและลุกขึ้นยืนภายใต้การจ้องมองของลู่เจี้ย คำพูดของเขา…
ที่จริงแล้วเจ้าคิดกับข้าเช่นนี้หรือ หัวใจของเจียงหลีสั่นสะท้าน หลังจากคลุกคลีกับลู่เจี้ยมานาน นี่เป็นครั้งแรกที่นางได้ยินการประเมินจากเขา
ท่ามกลางสายตาที่จับจ้อง ลู่เจี้ยยื่นมือไปจับมือเล็กๆ ของเจียงหลีไว้ในฝ่ามือ และพานางเดินจากไป
“นักรบแห่งจยาเซียนอยู่ที่ไหน” ลู่เจี้ยตะโกนพร้อมกับหันหลังให้กับฮ่องเต้ซีเฉียนผู้มีสีหน้าไม่สู้ดีนัก
“อยู่ที่นี่แล้วพ่ะย่ะค่ะ!”
ทหารองครักษ์ชั้นเยี่ยมที่ติดตามลู่เจี้ยเข้าวังยืนขึ้นทีละคน และเดินตามหลังพวกเขาทั้งสองแล้วตะโกนอย่างพร้อมเพรียง ซึ่งเสียงอึกก้องกังวานนั้น กลบราศีของทหารองครักษ์แห่งซีเฉียนไปหมดเสียแล้ว
ลู่เสวียนลุกขึ้นยืนดัง ฟึบ และก้าวยาวเดินตามออกไป ขณะที่เจียงเฮ่าก็เดินตามไปโดยไม่ลังเล
เฟิงสิงอวิ๋นหลังจากตกใจก็ยิ้มขึ้นเล็กน้อยและส่ายศรีษะลุกขึ้นยืน
“ผู้ที่ล่วงเกินเสวียนเทียนของข้า…” ลู่เจี้ยก้าวเดินออกไป
“ฆ่า! ” เหล่าองครักษ์ชั้นเยี่ยมทั้งหลายตอบเสียงดัง
“ผู้ที่หยามเกียรติเสวียนเทียนของข้า…”
“ฆ่า! “
“ผู้ที่รังแกเสวียนเทียนของข้า…”
“ฆ่า ฆ่า ฆ่า! “
ตูม!
พลังอำนาจอันองอาจปรากฏขึ้น และสะกดทุกคนไว้ได้หมดแล้ว
ขุนนางซีเฉียนตกตะลึง ฮ่องเต้ซีเฉียนก็ตกใจเช่นกันจนรู้สึกถึงความเหน็บหนาวและความหวาดกลัว ขณะที่แววตาของเฉียนลี่และเฉียนจวิ้นเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ
แม้แต่โจวยวนที่นั่งอยู่กับที่อย่างเหม่อลอย ก็รู้สึกสับสนและเจ็บปวดใจ หากย้อนกลับไปในตอนนั้น ขณะที่เจียงหลีกำลังออกล่าสัตว์ในช่วงฤดูใบไม้ผลิได้เคยสาบานไว้ว่าจะปกป้องลู่เจี้ยและท้าทายสิบผู้องอาจของตี้ตู ซึ่งนางก็อยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วย
ในตอนนี้ ลู่เจี้ยสาบานว่าจะปกป้องเจียงหลี นางก็อยู่เป็นสักขีพยานอีกครั้ง!
ทำไม ทำไมผู้หญิงต่ำต้อยคนหนึ่งถึงได้รับความรักถึงเพียงนี้! ส่วนข้าผู้หยิ่งผยองแห่งสรวงสวรรค์
กลับต้องเผชิญกับเมืองล่มบ้านแตก ทิ้งบ้านเกิดเมืองนอน ข้าไม่ยอม! ไม่ยอม! จิตวิญญาณของโจวยวนดูเหมือนจะตกลงไปในเหวและทำได้เพียงร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดและสิ้นหวัง
ลู่เจี้ย! ลู่เจี้ย! เจียงหลีจดจ้องไปที่ใบหน้าด้านข้างของเขา และยังคงเรียกชื่อของเขาในใจ เสียงดังสนั่นนั้นประดุจเสียงตีกลองได้พุ่งชนหัวใจของนาง
เขาพานางออกไป ข่มขู่ฮ่องเต้ซีเฉียนอย่างใจเย็น และเดินออกจากวังอย่างสง่าผ่าเผยเช่นนี้เลยหรือ
เขาคิดคำนวณจิตใจคนได้อย่างแม่นยำเช่นนี้เลยหรือ
เขาไม่กลัวว่าจะตายในพระราชวังซีเฉียนเลยหรือ
เขาปล่อยให้องครักษ์ชั้นเยี่ยมกล่าวคำมั่นสัญญาจากก้นบึ้งของหัวใจเช่นนี้เลยหรือ…
ก้าวสุดท้ายที่จะเดินออกจากสวนบุปผา ลู่เจี้ยก็ได้หยุดกะทันหันและหันกลับไปมองฮ่องเต้ซีเฉียนที่มีสีหน้าตึงเครียด แล้วยิ้มเล็กน้อย “ฝ่าบาท องค์หญิงเสวียนเทียนของพวกข้า ระหว่างที่อยู่ในซีเฉียน หากได้รับความไม่เป็นธรรมเพียงน้อยนิด ข้าก็จะให้กระดูกของชาวซีเฉียนไม่มีที่ฝัง”
ตูม!
ดวงตาของเฉียนลี่เบิกกว้างขึ้นทันทีและทุบโต๊ะตรงหน้าอย่างแรง
จากนั้น ใบหน้าของฮ่องเต้ซีเฉียนก็ตึงเครียด ดวงตาที่มืดมนของเขาเฝ้ามองลู่เจี้ยและคนอื่นๆ เดินจากไปโดยไม่พูด
จนกระทั่งผู้คนของราชวงศ์จยาเซียนเดินออกไปจนหมดแล้ว เฟิงสิงอวิ๋นจึงถือโอกาสกล่าวคำอำลา เฉียนลี่จึงถามด้วยความโมโหว่า “เสด็จพ่อ ปล่อยให้พวกเขาเดินจากไปเช่นนี้ได้อย่างไร”
“หุบปาก! ” ฮ่องเต้ซีเฉียนด่าทออย่างรุนแรง ดวงตาที่เคร่งขรึมเก็บซ่อนความรู้สึกโกรธในใจและพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ “ลู่เจี้ยผู้นั้นไม่ได้เป็นเพียงเนี่ยนจงเท่านั้น แต่ยังมีไหวพริบที่ชาญฉลาดที่สุดอีกด้วย เขาต้องการให้ข้าโกรธและประกาศสงครามก่อน! ”
“ประกาศสงครามก็ประกาศสงคราม! พวกเราชาวซีเฉียนจะหวาดกลัวต่อราชวงศ์จยาเซียนของพวกเขาอย่างนั้นหรือ” เฉียนลี่พูดด้วยเสียงเกลียดชัง
ฮ่องเต้ซีเฉียนกล่าวอย่างโกรธเกรี้ยวว่า “ไอ้ลูกโง่! เจ้าเคยรู้อะไรบ้าง”
………………….