ราชินีพลิกสวรรค์ - ตอนที่ 300 ขอกอดหน่อย!
นางมาแล้ว!
ในตอนนั้นที่เจียงหลีเคลื่อนไหว ร่างกายของผู้ชายตื่นเต้นเล็กน้อย
แววตาที่เย็นชา เผยความลุกลี้ลุกลนที่ไม่ทันได้ตั้งตัวออกมา โชคดีที่ความลุกลี้ลุกลนได้เกิดขึ้นและหายไปเร็ว ไม่ได้ถูกผู้หญิงที่ยั่วยวนตรงหน้าจับได้
เดินไปตรงหน้าของใบหน้าที่เหมือนกันเปี๊ยบ ในดวงตาที่สดใสของเจียงหลี เผยความเศร้าโศกออกมา แล้วก็ความรู้สึกสับสนที่ยากจะอธิบาย
นี่คือลู่เจี้ย แต่ก็ไม่ใช่ลู่เจี้ย
สายตานั้น ทำให้เขาหรี่ตาทั้งสองข้าง คิดในใจว่า ทำไมสายตาแบบนี้ทำให้เขารู้สึกไม่ชอบเลย? ทำไมตอนที่เห็นนางโศกเศร้าแบบนั้น เขาเกิดความรู้สึกที่บอกไม่ถูกกับชาติที่แล้วของตัวเอง
“ลู่เจี้ย ข้าอยากกอด” นางเก็บความรู้สึกในแววตาไป แล้วยิ้มออกมาอีกครั้ง บอกจุดประสงค์ที่อ้าแขนทั้งสองข้างออกมา
“เจ็บ ต้องกอดหน่อย”
น้ำเสียงที่ออดอ้อน เหมือนกับเด็กที่ไร้เดียงสาอย่างไรอย่างนั้น ทำให้เขาไม่สามารถปฏิเสธได้
เขาอยากจะยกแขนทั้งสองข้างขึ้นมา แต่ถูกจิตใจที่หนักแน่นควบคุมเอาไว้
ความเงียบของผู้ชาย ทำให้เจียงหลียิ้มอย่างมาอย่างสดใสมากยิ่งขึ้น แต่ว่ารอยยิ้มที่สดในแบบนี้ กลับทำให้ในดวงตาที่แวววาวทั้งสองข้างของเขารู้สึกเจ็บปวด
ทันใดนั้น นางก็โผเข้ามาในอ้อมกอดของเขา ไม่บอกก่อนเลย
ความเร็วแบบนี้ เขาสามารถหลบได้ แต่สุดท้ายก็ไม่หลบ ยอมให้นางโผตัวเข้ามา กอดตัวเองไว้แน่น
“สบายดีจังเลย” รับรู้ได้ถึงความอบอุ่นของอ้อมกอด ได้กลิ่นที่คุ้นเคย เจียงหลีหลับตาลง ขยับอยู่ในอ้อมกอดของเขาอย่างพอใจ นี่ก็คือลู่เจี้ยของนาง
สบายหรือ
ในแววตาของผู้ชายมีความงงนิดหน่อย อยู่ในอ้อมกอดของเขา สบายรึ เขาไม่รู้ และก็ไม่เคยมีใครบอกเขา
แต่ว่า มองดูสาวน้อยที่สบายใจ ก็คงจะผ่อนคลายแหละ
“ลู่เจี้ย ข้าเริ่มง่วงแล้ว ท่านนอนเป็นเพื่อนข้าสักครู่หนึ่งดีไหม” สาวน้อยที่อยู่ในอ้อมกอดของเขาเหมือนกับแมวขี้เกียจ ทันใดนั้นก็บอกความต้องการอย่างกล้าหาญมากเกินไป
เขาขมวดคิ้ว อยากจะปฏิเสธ
สาวน้อยกลับพูดว่า “ข้าสาบาน ข้าจะไม่ทำอะไร ข้าจะนอนกอดท่านอย่างเดียวเท่านั้น”
“…” ทำไมเขาถึงรู้สึกว่าการสาบานแบบนี้มันแปลกๆ
เขาจะกลัวนางทำอะไร
“จริงๆ นะ ข้ารับรองว่าข้าจะไม่ล่วงเกินท่าน!” เขาไม่พูดอะไร เจียงหลีคิดว่าเขาไม่เชื่อ เงยหน้าขึ้นในอ้อมกอดของเขา แววตาเต็มไปด้วยความจริงใจ
“ท่านไม่พูดอะไร ข้าก็ถือว่าท่านตกลงแล้วนะ” หลังจากรออยู่ครู่หนึ่ง เจียงหลีพูดหยั่งเชิง
“…”
ยังคงไม่พูดอะไร
เจียงหลีแอบดีใจ ออกจากอ้อมกอดของเขา จูงมือเขาแล้วพาขึ้นเตียง
สีหน้าของผู้ชายดูไม่สู้ดีนัก ไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองถึงยอมทำตามนาง ปล่อยให้นางก่อกวนอย่างใจกล้าบุ่มบ่าม
เรื่องนี้จะให้เหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาของเขารู้ไม่ได้เด็ดขาด! จะมีผลเสียต่อความเฉีลยวฉลาดและความห้าวหาญของเขา!
จนนอนลงบนเตียงมังกรแล้ว ผู้ชายก็ยังไม่เข้าใจ
สาวน้อยที่แนบชิดอยู่ที่หน้าอกของเขา มือทั้งสองข้างโอบเอวเขาไว้
เจียงหลีฟังเสียงใจเต้นของเขา แข็งแกร่งและมีพลัง ไม่ได้อ่อนแอเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป นางค่อยๆ หลับตาลง พูดเบาๆ ว่า “ข้ารับรองว่าจะไม่ทำอะไร รอข้าอีกไม่กี่ปี ข้าจะให้ทุกอย่างที่ดีที่สุดกับท่าน”
“…” เขาไม่รู้จะพูดอะไร
แต่ว่า ตั้งแต่ตอนที่พวกเขาเจอกันครั้งแรก ถ้าตัดสินจากการกระทำที่ใจกล้าของนางแล้ว นางจะไม่ทำอะไรจริงๆ รึ
ทำไมเขาถึงมีความไม่เชื่ออยู่เล็กๆ
แต่ทว่า เสียงหายใจของนาง กลับทำลายความไม่เชื่อของเขาลง
นางหลับแล้วจริงๆ หรือ เขามองเจียงหลี เพื่อดูให้แน่ใจว่านางหลับแล้วจริงๆ ไม่ได้แกล้งเล่นอะไร
ไม่รู้ทำไม หลังจากที่สาวน้อยไม่ได้ทำอะไรตามที่พูด ในใจเขากลับผิดหวังขึ้นมานิดหน่อย
ตัวแข็งทื่อ ไม่ขยับ
ไม่รู้ผ่านไปนานเท่าไหร่แล้ว เขาถึงได้ยกมือขึ้น ลูบไปยังผ้าพันแผลบนตัวสาวน้อย
แสงเล็กๆ ออกมาจากปลายนิ้วมือของเขา ผ้าพันแผลนั้นบนตัวเจียงหลีเปิดออกทั้งหหมดด้วยการเคลื่อนไหวของมือเขา แล้วร่วงลงอย่างไร้เสียง เผยให้เห็นผิวที่ขาวบริสุทธิ์ งดงามสมบูรณ์แบบ
“บาดเจ็บมาหรือ” จ้องมองผิวพรรณที่ละเอียดและอ่อนนุ่ม เขาพูดพึมพำประชดประชัน “ทีหลังจะแกล้งทำเป็นบาดเจ็บ อย่างน้อยก็ให้มีกลิ่นคาวเลือดหน่อย”
แต่ทว่า ถึงแม้รู้ว่าเจียงหลีหลอกเขา เขาก็ไม่ได้ผลักเจียงหลีออก
ความทรงจำเมื่อชาติก่อน ปรากฏขึ้นอย่างชัดเจนในหัวของเขา เพียงแต่ความรู้สึกเหล่านั้นเป็นของเขา แต่ก็ไม่ใช่ของเขา ทำให้เขาไม่คุ้นเคย
ทันใดนั้น กลางฝ่ามือของเขาก็มีสีแสงออกมา ปกคลุมไปยังหัวของเจียงหลี
หลังจากนั้นชั่วพริบตา ดวงตาของเขาก็เปล่งแสงออกมา “นึกไม่ถึงว่าจะเป็นวิญญาณตี้จี๋!” เขาค่อยๆ หรี่ตาทั้งสองข้างลง มีความสงสัย แล้วก็ความรู้สึกที่ไม่คุ้นเคย เป็นใครกัน ที่ถูกทำลาย ที่ถูกบังคับให้สิงร่าง
ในที่สุด กลับเอาเปรียบสาวน้อยคนนี้
เขาเก็บแสงที่กลางฝ่ามือกลับมา เงียบสนิทแล้วทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ และไม่คิดจะบอกความจริงของวิญญาณอีกดวงกับเจียงหลี ถึงอย่างไรพวกเขาก็ไม่ได้คุ้นเคยกัน
คืนนี้ผ่านไปอย่างสงบ
ตามที่เจียงหลีพูด ว่านางจะไม่ทำอะไร ก็ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น
ในตอนที่ฟ้าสว่าง ค่ำคืนหายไป ร่างกายของเขาที่ถูกเจียงหลีกอดทั้งคืน ค่อยๆ โปร่งใส แล้วหายไปในอ้อมกอดของเจียงหลี
เขาไปแล้ว แต่กลับไม่รู้ว่าหลังจากที่เขาหายไป ได้มีน้ำตาไหลออกมาจากตาของเจียงหลี
สาวน้อยที่อยู่บนเตียง ลืมตาทั้งสองข้างขึ้น
ที่จริง นางตื่นนานแล้ว เพียงแต่ทำใจไม่ได้ที่จะจากจากอ้อมกอดที่อบอุ่นนั้น
เจียงหลีลุกขึ้นนั่งบนเตียง ยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาที่หางตา กลับมามีท่าทางของจักรพรรดินี
“สาวใช้ ล้างหน้าเปลี่ยนเสื้อผ้า เตรียมเข้าราชสำนัก”
ลู่เจี้ย ท่านจะมาอีกเมื่อใด
เจียงหลีไม่ได้หวังให้ยิดัมของลู่เจี้ยมาหานางทุกคืน
ดังนั้น ถึงแม้ว้าเจ็ดวันต่อมา เขาไม่มาปรากฏตัวเลยก็ตาม นางไม่ได้ผิดหวังอะไรมาก ที่ทำให้นางปวดหัวมีอยู่อย่างเดียวก็คือเจอกันครั้งหน้า นางจะยุยงเขาอย่างไรให้เขาละทิ้งความคิดที่จะฆ่านาง จะได้ถือโอกาสให้นางได้เข้าใกล้เขาอีก
แปดวันต่อมา มีข่าวคราวของซีเฉียน ก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน อยู่ๆ อาณาจักรซีเฉียนก็เกิดโรคระบาดขึ้นอย่าง ไม่มีสาเหตุ โรคนี้ระบาดแค่ในซีเฉียน แพร่กระจายไปในซีเฉียนอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นชนชั้นสูง หรือว่าประชาชนธรรมดาๆ ก็หนีไม่พ้น
เรื่องที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันนี้ ทำให้แผนการของซีเฉียนที่เตรียมจะบุกโจมตีราชวงศ์จยาเซียน ก็เลยต้องล่าช้าไป
เมื่อรู้ข่าว เป็นธรรมดาที่เจียงหลีจะไม่สงสารและเห็นใจ นางไม่ใช่แม่พระ ยังไม่ถึงเวลาที่น้องต้องรับผิดชอบและเห็นใจประชาชนของซีเฉียน ที่ยิ่งไปกว่านั้นก็คือพวกคนชนชั้นสูงของซีเฉียนเหล่านั้น
หลังจากที่ทราบข่าว นางก็แค่ยิ้ม “เกิดขึ้นช่วงนี้ก็ดี ข้าจะได้มีเวลาจัดการกับหนูในบ้าน”
บนท้องฟ้าในดินแดนซีเฉียน เต็มไปด้วยบรรยากาศที่ห่อเหี่ยว เมฆครึ้มปกคลุม ไม่เป็นมงคลอย่างมาก
ยิ่งไม่ต้องพูด เพราะว่าโรคระบาดทำให้ผู้ประสบภัยไม่มีบ้านอยู่
“แท้จริงแล้วคนของซีเฉียนทำอะไรให้ตี้จวินขุ่นเคืองกันแน่” อวี้ฉีพูดอย่างหยอกเย้า
เขาและตัวของเสินอวี่ ซ่อนอยู่ในเมฆ มองดูอาณาจักรซีเฉียนจากด้านบนลงมา
คนที่มีพลังขั้นนี้อย่างพวกเขา มีประสบการณ์มาก เห็นความเป็นความตายจนชิน สำหรับเรื่องที่ซีเฉียนเผชิญอยู่ ไม่ได้ทำให้รู้สึกอะไรทั้งนั้น
ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขายังแหย่ตี้จวินของพวกเขาเล่น
“เหมือนว่าจะเป็นเพราะผู้หญิงคนหนึ่ง” เสินอวี่พูดออกมาอย่างประหลาดใจ