ราชินีพลิกสวรรค์ - ตอนที่ 324 ละครน้ำดี!
ณ เมื่องอู่อิ๋น หญิงสาวและชายหนุ่มหน้าตาโดดเด่นเดินเล่นอย่างสบายใจ
เจียงหลีมองเด็กหนุ่มด้านข้างอย่างหมดคำพูด คิดไม่ออกว่าทำไมตนถึงยอมตกลงให้เขามาด้วยอย่างรวดเร็วเช่นนี้ “บอกมาซิ เจ้าตามข้ามาทำไม”
“ปกป้องพี่” ลู่เสวียนตอบอย่างหนักแน่น
มุมปากของเจียงหลีกระตุกและพูดอย่างรังเกียจว่า “ข้าต้องการให้เจ้าปกป้องด้วยหรือ” โดยยังไม่ต้องพูดถึงการฝึกฝนของนางเอง ลู่เสวียนก็เทียบไม่ได้แล้ว ก็มีเงาคอยปกป้องอย่างลับๆ และยังมีมหาเทพตี้จวินตามปรากฏตัวยู่ทุกที่ทุกเวลา
ใครที่ลู่เสวียนสามารถเอาชนะได้บ้าง
เด็กคนนี้มีแผนการอื่นอย่างแน่นอน “อย่าบอกว่าเพราะโจวยวนนะ” เจียงหลีลองเชิงถาม
ใครจะคาดเดาออกว่าลู่เสวียนจะหยุดเดินและมองนางอย่างเย็นชาแล้วพูดเสียงเบาว่า “ข้าไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับนาง”
เจียงหลีขมวดคิ้วและถอนหายใจในใจ แม้จะรู้ว่าระหว่างสองคนนี้จะไม่มีทางเป็นไปได้ แต่นางก็อดไม่ได้ที่จะถามว่า “เจ้าชอบนางหรือไม่”
“ชอบคือความรู้สึกเช่นไร” ดวงตาของลู่เสวียนสับสนเล็กน้อย
“แล้วเจ้ารู้สึกกับโจวยวนเช่นไร” เจียงหลีถามต่อ
ลู่เสวียนไม่ตอบ แต่กลับมองไปที่โรงน้ำชาข้างถนน เจียงหลีมองตามและพยักหน้าอย่างเข้าใจ “ไปกันเถอะ ไปนั่งร้านนั้นกัน อีกประเดี๋ยวเฉียนลี่จะเข้าเมืองจากทางนี้ พวกเรารอดูการแสดงกันเถอะ”
นางออกเดินทางเพียงเพื่อทำตามสัญญาว่าจะมอบชัยชนะให้กับเฉียนลี่และปล่อยให้เขากลับอาณาจักรอย่างสง่างาม
ส่วนเซียวเซียวได้บอกเรื่องนี้กับฮ่องเต้ซีเฉียนและเฉียนจวิ้นอย่างชาญฉลาดไว้ก่อนล่วงหน้าแล้ว พวกเขาจะจัดเตรียมงานเลี้ยงต้อนรับเช่นไรให้กับเฉียนลี่ นางเฝ้ารอดูอย่างใจจดใจจ่อ
เท่าที่นางรู้มา คนที่เฉียนลี่จัดเตรียมเพื่อลอบวางยาก็กำลังปฏิบัติภารกิจอยู่
อย่างไรก็ตาม ละครน้ำดีกำลังจะเริ่มต้นขึ้น นางรอคอยที่จะได้เห็นฉากพ่อลูกของราชวงศ์ซีเฉียนเข่นฆ่าซึ่งกันเอง โดยเจียงหลีไร้ซึ่งความสงสารกับคนของตระกูลนี้
ทั้งสองเข้าไปในโรงน้ำชาและเลือกที่นั่งข้างหน้าต่างแล้วนั่งลง
ขณะที่นั่งรออยู่นั้น นางมองไปที่ลู่เสวียนด้วยใบหน้าอยากรู้อยากเห็น
ลู่เสวียนที่ถูกนางจับจ้องจนขนลุก ก็ตอบอย่างอึดอัดว่า “ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน”
“ไม่รู้หรือ นี่มันคำตอบบ้าอะไรกัน!” เจียงหลีมองเขาอย่างดูแคลน
ลู่เสวียนจมปลักอยู่กับความทรงจำที่มี “พอนางมาติดพันข้า ข้าก็รำคาญ เมื่อไม่ได้พบเจอนาง ก็คิดถึงบ้างเป็นครั้งคราว ท่านแม่ของนางฆ่าตัวตาย ความเข้าใจผิดที่นางมีต่อข้า ข้าก็ขี้เกียจอธิบาย เพราะข้ารู้สึกว่าไม่มีอะไรน่าอธิบาย นางจะคิดเช่นไรก็แล้วแต่นาง อีกเรื่อง ข้าไปที่นั่นเพื่อฆ่าคนจริงๆ ระหว่างที่อยู่ในสถาบันไป๋หยวน การเป็นปฏิปักษ์และเจตนาฆ่าในขณะที่สอบวัดผลของนาง ทำให้ข้ารู้สึกว่านางไม่ใช่โจวยวนที่ข้ารู้จัก ความบาดหมางระหว่างนางกับข้า ใครจะพูดให้กระจ่างได้เล่า เอาเป็นว่านางต้องการฆ่าข้า ข้าคงไม่ยืนนิ่งๆ ให้นางฆ่าข้าได้หรอก”
เมื่อได้ยินเพียงเท่านี้ เจียงหลีได้ถอนหายใจด้วยความโล่งอก “ดูๆ แล้ว เจ้าคงไม่ได้ชอบนาง”
“แล้วชอบตกลงคืออะไรหรือ ใช่ที่พี่ชายของข้าปฏิบัติต่อเจ้า และเจ้าปฏิบัติต่อพี่ชายข้าหรือไม่” ลู่เสวียนเอ่ยถามอย่างสงสัย
“อ่ะแฮ่มๆ ” เจียงหลีกระแอมไอเพื่อปกปิดอะไรบางอย่าง และจ้องมองเขาแล้วพูดด้วยใบหน้าบึ้งตึงว่า “เป็นเด็กอยู่ จะถามเรื่องนี้ไปทำไม รอวันที่เจ้าหลงรักใครเข้าจริงๆ แล้วก็จะรู้เอง”
“เจ้าอายุน้อยกว่าข้าชัดๆ ” ลู่เสวียนพึมพำด้วยแววตาที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม
เจียงหลีวางแผนที่จะเทศน์ต่อ แต่กลับได้ยินเสียงเอะอะโวยวายดังมาจากบนถนน
ใบหน้าของนางดูเคร่งขรึม ลุกขึ้นยืนและเดินไปที่หน้าต่างแล้วมองไปยังกองทัพที่ได้รับชัยชนะ ซึ่งกำลังเดินเข้าประตูเมืองมาอย่างช้าๆ คนหน้าสุดคือองค์รัชทายาทเฉียนลี่แห่งซีเฉียนผู้ภาคภูมิใจอย่างที่สุด
“จริงๆ แล้วเขาเป็นแม่ทัพผู้พ่ายแพ้ เหตุใดถึงแสร้งทำเป็นภาคภูมิใจได้ถึงเพียงนี้” ลู่เสวียนยืนอยู่ข้างเจียงหลีด้วยท่าทางเหยียดหยาม
เจียงหลียิ้มและแก้ไขว่า “แม่ทัพผู้พ่ายแพ้เป็นเรื่องจริง และความภาคภูมิใจก็จริงเช่นกัน เพียงแต่ ที่เขาภาคภูมิใจไม่ใช่เพราะได้รับชัยชนะ แต่คิดว่าตนจะได้ขึ้นครองราชย์ในไม่ช้าต่างหาก”
“ฝ่าบาทมีพระราชโองการให้จัดงานเลี้ยงเฉลิมฉลองในวังหลวง…”
เสียงของขุนนางที่มารอต้อนรับดังขึ้น ขณะที่ลู่เสวียนขมวดคิ้ว “ดูเหมือนละครฉากนี้จะเปิดฉากที่วังหลวงซินะ แล้วเราจะไปดูได้อย่างไร”
เจียงหลีเหลือบมองเขาและหัวเราะอย่างมีความสุข ซึ่งทำให้ลู่เสวียนรู้สึกงวยงง
…
ณ พระราชวังซีเฉียน มิได้มีงานเลี้ยงใดๆ ซึ่งดูเหมือนวันปกติทั่วไป
แต่ทว่า หากสังเกตอย่างละเอียดก็จะรับรู้ถึงความไม่ชอบมาพากลและรู้สึกถึงบรรยากาศตึงเครียดที่ซ่อนอยู่ในทุกที่
“เสด็จพ่อ ข้าไม่คิดเลยว่าเสด็จพี่จะทำกันถึงเพียงนี้! ” เฉียนจวิ้นทำหน้าเจ็บปวดใจ
ฮ่องเต้ซีเฉียนมองศพบนพื้นด้วยใบหน้าที่เศร้าหมอง นี่คือมือสังหารที่เพิ่งถูกจับได้และเป็นคนที่บุตรชายคนโตส่งมาเพื่อวางยารอบสังหารเขา
เดิมทีเมื่อได้รับข่าวนี้ เขายังไม่เชื่อ แต่ตอนนี้ มีพยานบุคคลชัดเจน จึงทำให้เขาไม่เชื่อไม่ได้
“จวิ้นเอ๋อร์ ลำบากเจ้าแล้ว” ฮ่องเต่ซีเฉียนพูดด้วยเสียงเรียบ
เฉียนจวิ้นก้มศีษะด้วยดวงตาที่มืดมน “เสด็จพ่อ ทั้งหมดเป็นสิ่งที่ข้าควรทำ เพียงแต่ เสด็จพี่กลับมาถึงแล้ว เราควรทำเช่นไรต่อไปดี”
ดวงตาของฮ่องเต้ซีเฉียนเผยความดุร้ายออกมาให้เห็น “พวกโจรกบฏคิดคดทรยศเช่นนี้ยังต้องพูดอะไรอีกหรือ ใครก็ได้เข้ามาเร็ว! ฆ่าล้างตำหนักคุนเหยียน!”
แสงอันน่าตื่นเต้นเป็นประกายในดวงตาของเฉียนจวิ้น ตำหนักคุนเหยียนเป็นที่ประทับของฮองเฮาซึ่งเป็นพระมารดาผู้ให้กำเนิดเฉียนลี่ พระราชโองการฉบับนี้เขียนอย่างชัดเจนแล้วว่าฮ่องเต้ซีเฉียนกับตระกูลของฮองเฮาแตกหักอย่างเปิดเผยแล้ว
ตำแหน่งขององค์รัชทายาท เห็นทีจะรักษาไว้ไม่ได้แล้ว เฉียนจวิ้นสะใจในใจ
“จวิ้นเอ๋อร์ ไปหาลูกชายอกตัญญูพร้อมกับข้า” ฮ่องเต้ซีเฉียนพูดอย่างเย็นชา
เฉียนจวิ้นพยักหน้าและเดินตามอย่างใกล้ชิด
หลังจากที่ทั้งสองเดินจากไป ลมพัดเข้ามายังพระตำหนักของฮ่องเต้ซีเฉียน ทำให้ม่านผ้าโปร่งของเตียงมังกรปรากฏร่างผอมบางขึ้น
เขานอนอยู่บนเตียงอย่างเงียบๆ ทั้งร่างกายเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำ โดยเฉพาะหว่างขาพบเนื้อฉีกขาดและเลือดไหล
ไม่นาน ก็มีข้าหลวงเข้ามาทำความสะอาดสถานที่เหม็นเน่า พวกเขาฝีมือช่ำชองราวกับทำสิ่งนี้มาแล้วร้อยครั้งพันครั้ง
…
ทันทีที่เฉียนลี่เข้าวังก็สังเกตเห็นบางอย่างผิดปกติไป
แม้ว่าภายในวังจะปกติเหมือนทุกวัน แต่เขากลับรู้สึกถึงแรงกดดันที่เสมือนมีของแหลมคมทิ่มแทงหลังของเขาก็ไม่ปาน
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เสด็จแม่ของเขารับรู้แผนการนี้ สำเร็จหรือล้มเหลวควรทราบข่าวตั้งแต่ก่อนเขาเข้าวังแล้ว
แต่ตอนนี้กลับเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
มีบางสิ่งบางอย่างผิดปกติ! เฉียนลี่มองไปที่องครักษ์คนสนิทและเตือนเขาด้วยสายตา
ทุกคนเฝ้าระวังอย่างลับๆ แต่พวกเขาทำได้เพียงเดินไปที่พระราชวัง เพราะถ้าหากเขาจากไปเสียตั้งแต่ตอนนี้ จะไม่ใช่วัวสันหลังหวะหรอกหรือ
เมื่อเขามองเห็นฮ่องเต้ซีเฉียน เฉียนลี่มองไปที่เฉียนจวิ้นซึ่งกำลังหัวเราะชอบใจอยู่ ในใจจึงรู้สึก กึกๆ หนึ่งที แย่แล้ว! แผนการลับถูกเปิดเผย!
“เฉียนลี่” ทันใดนั้น ฮ่องเต้ซีเฉียนก็ตะโกนอย่างเย็นชา
เฉียนลี่มองไปที่เสด็จพ่อของเขา และถูกแผดเผาด้วยสายตาที่ไม่แยแสของเขา เสด็จพ่อของเขามองเขาด้วยสายตาเช่นนี้ เขาไม่เคยรับรู้ถึงความรักของผู้เป็นพ่อที่มีต่อเขาเลยสักนิด
ฮ่องเต้ซีเฉียนไม่เคยมองหน้าเขาเหมือนที่มองเฉียนจวิ้น หรือเรียกเขาว่า “ลี่เอ๋อร์” เลย
ความเกลียดชังในใจเพิ่มพูนขึ้น เฉียนลี่ก้มหน้าเพื่อปกปิดความรู้สึกในดวงตา เขายืนและแสดงความเคารพต่อหน้าพระพักตร์ของฮ่องเต้ซีเฉียน และยังคงเรียก “เสด็จพ่อ” ออกมา
“หึ! ข้าไม่มีลูกชายที่ดีเยี่ยงเจ้า” ฮ่องเต้ซีเฉียนแสยะยิ้ม ความประสงค์สังหารในดวงตาของเขามิได้เก็บซ่อนไว้อีกต่อไป