ราชินีพลิกสวรรค์ - ตอนที่ 443 วังเทียนอู่กง
ใบหน้าของกงเสวี่ยฮวาหมองลงและกล่าวอย่างรู้สึกผิด “มีตรงไหนที่วังเทียนอู่กงของข้าทำให้เจ้าไม่พอใจหรือ ทำไมเจ้าถึงรังเกียจเช่นนี้”
“ไม่ใช่รังเกียจ แต่ข้ามีที่ที่ต้องไป” เจียงหลีหัวเราะและส่ายหน้า
ถ้าไม่มีกลุ่มอำนาจฮวงเสิน นางอาจเห็นแก่กงเสวี่ยฮวา ไปเที่ยวดูวังเทียนอู่กงแต่นางสัญญาว่าจะเข้าร่วมกับฮวงเสินแล้วนางจะกลับคำได้อย่างไร
“เจ้าตั้งมั่นแน่วแน่แล้วที่จะไปที่ฮวงเสิน” กงเสวี่ยฮวาพูดอย่างจนปัญญา
เจียงหลีพยักหน้า
กงเสวี่ยฮวาถอนหายใจแล้ว “ก็ได้ อย่างไรก็ตาม เป็นการเดินทางที่ยาวไกล เจ้ายังไม่รู้อะไรเลย ข้าว่าข้าควรจะไปกับเจ้า”
“เจ้าจะไปกับข้า?” เจียงหลีมองเขาด้วยความประหลาดใจ
กงเสวี่ยฮวาเชิดคอขึ้น “แน่นอน ทำไม เจ้ารังเกียจข้ารึ”
“ฮ่าๆ ไม่กล้า” เจียงหลีเยาะเย้ย
“ไปกันเถอะ ไปหาโรงเตี๊ยมพักผ่อนกันสักคืน แล้วค่อยออกเดินทางพรุ่งนี้” กงเสวี่ยฮวากล่าว
เจียงหลีรู้สึกประหลาดใจพร้อมยืนยันกับเขา “เจ้าแน่ใจจะไปฮวงเสินกับข้าจริงๆ หรือ”
กงเสวี่ยฮวาพูดอย่างเฉยชา “อย่างไรก็ตาม ข้าก็มาเพื่อเที่ยวเล่น จะไปที่ไหนก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญ”
คำอธิบายนี้…ดูเหมือนจะไม่มีปัญหาอะไร
เจียงหลีเหลือบมองกงเสวี่ยฮวาด้วยความสงสัย แต่เจ้าตัวกลับนิ่งเฉย เหมือนไม่มีอะไร ดังนั้น ทั้งสามคนก็กลับไปที่ตลาดเดิมและหาโรงเตี๊ยมที่จะพักอยู่
หลังจากแยกย้ายกันเข้าห้องพัก เจียงหลีก็มีเวลามาคุยกับมู่ชิงเหยียน
“แม่ของเจ้าล่ะ” เจียงหลีเอ่ยถาม นางจำได้ว่าเมื่อตอนมู่ชิงเหยียนหนีไป นางหนีไปกับแม่
พูดถึงท่านแม่ มู่ชิงเหยียนกล่าวพร้อมรำลึกถึงความเจ็บปวดเล็กน้อย “ท่านเสียไปเพราะไม่สบายเมื่อหกเดือนก่อน”
เจียงหลีเข้าใจแล้ว และไม่ได้ถามต่อ
อย่างไรก็ตาม นางไม่ได้ถามต่ออีก มู่ชิงเหยียนกลับเล่าประสบการณ์หลังจากที่ไปจากซั่งตูขึ้นเอง “หลังหนีออกจากซั่งตูข้าคิดว่าจะพาแม่ไปอยู่ในที่สงบใช้ชีวิต แต่ชีวิตที่สงบก็มีได้ไม่นาน พวกเราได้ยินข่าวเรื่องหนึ่ง…”
ข่าวหรือ เจียงหลีขมวดคิ้ว สัญชาตญาณบอกนางว่าบางทีนี่อาจเป็นข่าวที่เปลี่ยนมู่ชิงเหยียนที่ใช้ชีวิตอย่างเงียบสงบ
ใช่แล้ว มู่ชองเหยียนพยักหน้าและกล่าวว่า “ข่าวนั้นคือว่ามีเรือสินค้ากำลังมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตก เมื่อท่านแม่ข้าได้ยิน ก็เรียกร้องให้ข้าไปซื้อตั๋ว”
“เรือสินค้าหรือ” เจียงหลีหัวเราะคิกคัก
จักรพรรดินีจยาเซียนอย่างนางไม่เคยได้ยินข่าวว่ามีการค้าระหว่างซีฮวงและหนานฮวง
มู่ชิงเหยียนยิ้มอย่างขมขื่น “ใช่แล้ว เรือสินค้า เราเชื่อไปแล้ว หลังขึ้นเรือไป ถึงรู้ว่าสินค้าพวกนั้นก็คือพวกเราบนเรือนั้น”
ขบวนการค้ามนุษย์! เจียงหลีตาหรี่ลงเล็กน้อย
ไม่นึกเลยว่าจะค้ามนุษย์จากหนานฮวงไปซีฮวง ไม่เห็นหัวจักพรรดินีแห่งจยาเซียนเลยอย่างนั้นหรือ
“ทะเลกว้างใหญ่ และเราไม่มีทางหนีพ้น เราทำได้แค่คิดหาวิธีแก้ไขเมื่อไปถึงซีฮวง แต่การเดินทางจากหนานฮวงไปสู่ซีฮวงนั้นห่างไกล และการอยู่ใต้ท้องเรือทำให้เหนื่อยเมื่อยล้า แม่ของข้ายังคงป่วยหนัก เมื่อมาถึงที่ซีฮวงแดนแดนทางตะวันตกนี้ ข้าใช้โอกาสนี้ฆ่าคนไปสองสามคนแล้วหนีออกมาพร้อมกับท่านแม่”
เจียงหลีขมวดคิ้วและถาม “ดังนั้น เจ้าไม่รู้ว่าคนกลุ่มไหนที่ค้ามนุษย์ และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจุดประสงค์ของพวกเขาคืออะไรหรือ”
มู่ชิงเหยียนส่ายหน้า ทันใดนั้นนางก็นึกถึงตำแหน่งปัจจุบันของเจียงหลี และรีบพูด “ข้ายังคงจำสถานที่ๆ ขึ้นฝั่งครั้งแรกได้ ต้องการให้ข้าพาไปดูหรือไม่”
เจียงหลีส่ายหน้าอย่างครุ่นคิด “อย่ากังวลเรื่องนี้ตอนนี้เลย”
จากหนานฮวงไปซีฮวงไกลกันเกินไป อาจเกิดเหตุการณ์ต่างๆ ระหว่างทาง การค้ามนุษย์ประเภทนี้ค่อนข้างลำบาก ตอนนี้หนานฮวงรวมกันเป็นหนึ่งแล้ว การค้านี้จึงเป็นเรื่องยาก
“เมื่อข้าว่างเมื่อไหร่ ข้าจะไปดูที่ๆ เจ้าพูดถึง” เจียงหลีพูดกับมู่ชิงเหยียน
มู่ชิงเหยียนพยักหน้า “เมื่อต้องการข้า เจ้าก็พูดมาได้เลย”
“จุดประสงค์ที่พวกเจ้ามาซีฮวงคืออะไร” เจียงหลีพยักหน้าและถามอีกครั้ง
มู่ชิงเหยียนเม้มริมฝีปากและกล่าวว่า “ตามหาคน ข้ามีพี่ชายคนหนึ่ง ได้มารับการฝึกฝนในซีฮวงเมื่อนานมาแล้ว ท่านแม่ข้าคิดว่าเราสามารถพึ่งพาพี่ชายต่างมารดาผู้นี้ได้”
“ไม่คิดว่ายังมีทายาทของราชวงศ์มู่หลงเหลืออยู่” ข่าวนี้ทำให้เจียงหลีตกใจ
มู่ชิงเหยียนหัวเราะ “เจ้าวางใจได้ เขาเกิดมาก็งมงายแต่กับทักษะการต่อสู้ ถือได้ว่าเข้าขั้นคลั่งไคล้เลยล่ะ จึงไม่สนใจเรื่องอำนาจ ท่านแม่ของเขาเสียชีวิตตั้งแต่อายุยังน้อย ระหว่างเขากับท่านพ่อ…” มู่ชิงเหยียนเหม่อลอยเล็กน้อย เมื่อได้สติก็พูดต่อ ความสัมพันธ์ของทั้งสองไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เขาคงไม่ต้องการที่จะฟื้นฟูประเทศเพราะการล่มสลายของราชวงศ์”
เจียงหลีหัวเราะ “ข้าไม่ได้กังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่แค่รู้สึกแปลกใจนิดหน่อย”
มู่ชิงเหยียนถอนหายใจ “แต่น่าเสียดายที่ซีฮวงนั้นใหญ่เกินไป เราไม่มีข้อมูลอะไร ไม่รู้จะเริ่มหาคนจากไหน สุขภาพของแม่ข้าก็แย่ลง เพื่อที่จะรักษาท่านแม่ ข้าต้องเข้าร่วมเขาเฟิ่งอู่ซาน เป็นศิษย์นอก ได้รับการฝึกฝน แต่ท่านแม่ก็ได้จากไปเสียแล้ว”
ประสบการณ์ของนางทำให้เจียงหลีพูดไม่ออก
สิ่งที่ถูกและผิดมันไม่สามารถตัดสินได้เลยจริงๆ
หลังจากความเงียบ มู่ชิงเหยียนยิ้มอย่างผ่อนคลาย “ใจข้าต้องการที่จะหนีจากเขาเฟิ่งอู่ซานตั้งนานแล้ว ไม่ได้คาดหวังว่าจะพบเจ้าที่นี่ ดังนั้น เจ้าก็ไม่ต้องคิดเกี่ยวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นอีกต่อไป”
“เจ้าคิดว่ามันเป็นเพราะเจ้าช่วยข้า ข้าถึงให้เจ้าตามข้ามารึ” เจียงหลีพูดไม่ออก
มู่ชิงเหยียนมองนางด้วยสายตาที่ซับซ้อนและเงียบสงบ
เจียงหลีลุกขึ้นและพูดกับนางว่า “เจียงเฮ่าอยู่ที่ฮวงเสิน ถ้าเจ้ายังลืมเขาไม่ได้ก็ไปพบเขา แน่นอนถ้าเจ้าไม่อยากไปกับข้า เจ้าสามารถไปเองได้”
กล่าวจบ เจียงหลีก็ออกจากห้องของมู่ชิงเหยียน ทิ้งนางไว้ให้ครุ่นคิดเพียงลำพัง
…
วันต่อมา เมื่อเริ่มออกเดินทาง มู่ชิงเหยียนก็ไม่ได้จากไปคนเดียว
นางยิ้มให้เจียงหลีอย่างเขินอาย เฉกเช่นหญิงสาวขี้อาย ทำให้เจียงหลีรู้สึกตลกมาก
เพื่อดูแลสองสาว กงเสวี่ยฮวาได้จ้างรถม้าพิเศษ
สามคนและอีกหนึ่งเดรัจฉานน้อยกำลังมุ่งหน้าไปในทิศทางฮวงเสิน การเดินทางที่ยาวไกลแต่ก็ไม่ได้รู้สึกหดหู่จนเกินไป เจ้าเปี๊ยกนอนหลับตลอดทางและบางครั้งตื่นมาเล่นกับเจียงหลี
หลังจากเดินทางเกือบเดือน กงเสวี่ยฮวากล่าว “ข้างหน้าก็คือวังเทียนอู่กงนี่เราเดินผ่านบ้านข้าอย่างนั้นหรือ ถ้าเช่นนั้นก็ไปพักผ่อนที่วังของข้าสองสามวันค่อยเดินทางต่อเถอะ”
วังเทียนอู่กง?
เจียงหลีตกใจและคว้าเสื้อคลุมของกงเสวี่ยฮวา “เจ้าหลอกข้า”
“รักษาภาพพจน์หน่อย แค่กๆ…นี่มาถึงอาณาเขตของวังเทียนอู่กงแล้ว อย่างน้อยเจ้าน่าจะเห็นแก่ข้าที่เป็นนายน้อยวังเทียนอู่กงสักหน่อยนะ” กงเสวี่ยฮวาอยากดึงเสื้อของตนขึ้นมา
เจียงหลียิ้มอย่างเย็นชา “ข้าก็ว่าทำไมเจ้าใจดีขนาดที่จะไปฮวงเสินกับข้า แท้จริงแล้วหลอกให้เรามาวังเทียนอู่กงนี่เอง”
“เข้าใจผิดแล้ว” กงเสวี่ยฮวากล่าวอย่างเกินจริง “จะไปฮวงเสินมันต้องผ่านอาณาเขตของวังเทียนอู่กงอยู่แล้ว ไม่เชื่อเจ้าสามารถดูแผนที่เองได้”
เจียงหลีมีข้อสงสัยในใจ มู่ชิงเหยียนกล่าวหลังได้เปิดแผนที่และตรวจสอบ “เขาพูดความจริง”