ราชินีพลิกสวรรค์ - ตอนที่ 444 ฝันครั้งยิ่งใหญ่
เจียงหลีมองกลับไปที่มู่ชิงเหยียนพยักหน้าอีกครั้ง นางปล่อยคอเสื้อของกงเสวี่ยฮวา
แค่กๆ กงเสวี่ยฮวาหดตัวกลับอย่างน่าอนาถและพึมพำ “หน้าตาสะสวย แต่บ้าพลัง หลังจากนี้ใครชอบเจ้าถือว่าเป็นคนโชคร้าย”
“เจ้าพูดว่าอะไรนะ” เจียงหลีมองกลับไปและมองเขาด้วยหน้าที่เหมือนจะยิ้มแต่ไม่ยิ้ม
กงเสวี่ยฮวาก็รู้สึกสันหลังเย็นวาบ รีบส่ายหัวและหัวเราะ “เปล่า ไม่มีอะไร”
เจียงหลีถอนสายตาที่น่ากลัวกลับมา กงเสวี่ยฮวาค่อยๆ ผ่อนคลาย กลอกสายตาไปมาแต่ดันสบตาเข้ากับเจ้าขนปุกปุยที่หมอบอยู่ข้างเจียงหลี
แฮ่!
หัวใจของกงเสวี่ยฮวาสั่นอย่างไม่หยุดยั้ง “เจ้าของเป็นเช่นไร สัตว์เลี้ยงก็เป็นเช่นนั้น ตัวน่ารักขนาดนี้ แต่กลับมีสายตาที่น่ากลัว”
กงเสวี่ยฮวาเบะปาก ค่อยๆ ขยับออกไปด้านนอก บิดคอของเขาเล็กน้อยแล้วมองออกไป ด้วยเหตุผลบางอย่าง เขามักจะรู้สึกว่าดวงตาของสัตว์เลี้ยงของเจียงหลีนั้นน่ากลัว และเขารู้สึกเหมือนมีของมีคมอยู่บนหลังของเขาเสมอ
“นี่ก็คือวังเทียนอู่กงหรือ เจียงหลี ไหนๆ ก็มาแล้ว ลองเข้าไปชมข้างนอกหน่อยสิ” มู่ชิงเหยียนเอ่ย
กงเสวี่ยฮวาสงบอารมณ์สักครู่ก่อนกับหัวใจที่เต้นอย่างไม่สงบ แนะนำกับนาง “นี่เป็นเพียงภายนอกของวังเทียนอู่กง วังเทียนอู่กงจริงยังห่างออกไปอีกระยะหนึ่ง แต่ว่ารถม้าคันนี้สามารถเข้ามาได้แค่ที่นี่”
เขาเพิ่งพูดจบ รถม้าก็หยุดลง
กงเสวี่ยฮวากระโดดลงจากรถ เจียงหลีอุ้มเจ้าเปี๊ยกไว้เดินลงจากรถม้าพร้อมมู่ชิงเหยียน
“ไปเถอะ” กงเสวี่ยฮวายิ้ม
เจียงหลีพยักหน้าตามเขาไป
มู่ชิงเหยียนถามอย่างสงสัย “เรามากะทันหันแบบนี้ จะสะดวกหรือ”
“มีอะไรที่ไม่สะดวก พวกเจ้าเป็นสหายของข้าและเป็นแขกของข้า วางใจได้ว่าเราจะต้อนรับแขกอย่างอบอุ่น” กงเสวี่ยฮวากล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ทำไมข้าถึงคิดว่าเบื้องหลังรอยยิ้มของเจ้าซ่อนแผนอะไรไว้” เจียงหลียิ้มเหมือนไม่ยิ้มให้กับเขา
เห็นได้ชัดว่านางรู้สึกไม่ดีกับสิ่งที่เขาปิดบังบางอย่างไว้ก่อนหน้า
เวลานี้กงเสวี่ยฮวาเลือกที่จะพูดตรงๆ “แผนของข้าก็คือ หลังจากที่เจ้าได้เห็นวังเทียนอู่กงกับตาแล้ว เจ้าจะชอบที่นี่ ล้มเลิกการไปฮวงเสิน หากว่าที่นี่ก็ไม่สามารถรั้งเจ้าไว้ได้ ข้าก็คงทำได้แค่ยอมแพ้”
ริมฝีปากเจียงหลีเผยยิ้มกว้าง
เพราะกงเสวี่ยฮวาทำให้นางมีความประทับใจที่ดีกับวังเทียนอู่กง
แต่น่าเสียดายที่ทุกอย่างมีลำดับมาก่อนและหลัง เพราะนางสัญญากับหนานอู๋เฮิ่นก่อน นางก็จะไม่ผิดคำสัญญาเป็นแน่
…
วังเทียนอู่กงสร้างไว้บนยอดหน้าผา
ยอดเขาที่เรียงรายกัน ราวกับใช้เครื่องมือวิเศษไถเรียบและมีสิ่งก่อสร้างที่แตกต่างกัน ระหว่างยอดเขายังเชื่อมต่อกับสะพานสายรุ้ง หมอกเมฆที่กว้างเหมือนทะเลพัดผ่านใต้สะพาน
ฟิ้วๆ!
ทั้งสองเหยียบสะพานรุ้งแรกตามกงเสวี่ยฮวา ก็มีเสียงนกกระเรียงดังขึ้น พวกเขาหยุดที่สะพานและดูนกกระเรียงขาวนวลบินผ่านใต้สะพาน
“ที่นี่ช่างเหมือนกับแดนสวรรค์” มู่ชิงเหยียนเผลอกล่าวออกไป
กงเสวี่ยฮวารู้สึกภูมิใจเล็กน้อย “นี่ยังไม่ถึงไหนเลย ขอบอกเลยว่าวังเทียนอู่กงจะไม่ทำให้พวกเจ้าผิดหวัง”
ข้ามสะพานสายรุ้งแรกไป คือประตูเขาของวังเทียนอู่กง
ประตูที่ทำจากหยกตั้งอยู่ท่ามกลางขุนเขาแห่งทะเลเมฆ เหมือนกับประตูของเทพธิดาก็มิปาน ด้านนอกประตูมีสาวกสองคนคอยเฝ้าประตูอยู่ พวกเขาสวมชุดเกราะสีเงิน ผมยาวถูกม้วนขึ้น ดูท่าแล้วมีพลังแสนยานุภาพสูงส่ง
เมื่อพวกเขาเห็นกงเสวี่ยฮวา จากสีหน้าเคร่งขรึมดั้งเดิมก็แสดงออกถึงความสุขเล็กๆ พวกเขาประสานหมัดและคำนับ “นายน้อยท่านกลับมาแล้ว!”
กงเสวี่ยฮวาพยักหน้าและพูดอย่างสนิทสนม “วันนี้เป็นเวรยามของเจ้าสองคนหรือ”
ทั้งสองพยักหน้าและตอบไป ตาพวกเขาแอบมองดูสาวงามทั้งสองที่อยู่ข้างหลังเขา พร้อมคาดเดาเรื่อยเปื่อยในใจ
“อ่ะแฮ่ม มองอะไร! ระวังตาทั้งสองข้างของพวกเจ้าด้วย!” กงเสวี่ยฮวาแกล้งขู่
สาวกทั้งสองไม่ได้กลัวจริงๆ แต่พวกเขาก้มหน้าอย่างให้ความร่วมมือและหยุดมอง
กงเสวี่ยฮวาหันไปมองเจียงหลีและมู่ชิงเหยียนกล่าวว่า “ไปกันเถอะ”
มีกงเสวี่ยฮวานำทาง เจียงหลีทั้งสองเข้าวังได้อย่างง่ายดาย
ระหว่างทางกงเสวี่ยฮวาแนะนำให้พวกนางอย่างละเอียด “วังเทียนอู่กงมีทั้งหมดสี่ฝ่าย เทียน ตี้เสวียน หวง ฝ่ายเทียนจื้อหรือฝ่ายฟ้าเป็นฝ่ายตระกูลกงของข้าโดยตรง ฝ่ายตี้จื้อหรือฝ่ายดินเป็นฝ่ายตระกูลกงของข้าเช่นกันแต่คือสายนอกไม่จำเป็นต้องใช้แซ่กงเสมอไป ฝ่ายเสวียนจื้อหรือฝ่ายดำเป็นเหล่าสาวกลูกศิษย์ที่รับเข้ามานับว่าเป็นฝ่ายในได้กระมัง ฝ่ายหวงจื้อหรือฝ่ายเหลืองเป็นลูกศิษย์นอกสำนักและบางส่วนเป็นผู้ติดตาม นอกจากนั้นศาลอาญา สำนักโอสถ สำนักกิจการภายในต่างๆ เหล่านี้ล้วนอยู่ภายใต้การดูแลของฝ่ายเสวียนจื้อ”
“วังเทียนอู่กงนี้แบ่งชนชั้นกันอย่างชัดเจน” เจียงหลีกล่าว
กงเสวี่ยฮวาพยักหน้า “เจ้ารู้หรือไม่ว่าที่วังเทียนอู่กงมีประชากรกี่คน หนึ่งแสน! คนตั้งหนึ่งแสนนี้หากไม่แบ่งให้ชัดเจน คงจะเกิดปัญหาใหญ่แน่”
หนึ่งแสน!
เจียงหลีเลิกคิ้วลอบถอนหายใจ
“หากชนชั้นแบ่งชัดเจนเกินไป สาวกที่เข้าร่วมวังเทียนอู่กงก็คงยากที่จะลืมตาอ้าปากกระมัง” มู่ชิงเหยียนเอ่ยถาม
“ไม่หรอก” กงเสวี่ยฮวาส่ายหน้า “ท่านพ่อข้าให้ความสำคัญกับความสามารถมาก ตราบใดที่มีความสามารถ ไม่ว่าอยู่ฝ่ายไหน ก็จะได้ทำงานอย่างเหมาะสม มีผู้อาวุโสหลายท่านก็มาจากฝ่ายเสวียนจื้อ”
“ช่างเป็นพลังวิญญาณที่แข็งแกร่ง” ก้าวเข้าสู่สิ่งก่อสร้างแรกของวังเทียนอู่กง ก็รู้สึกได้ถึงพลังวิญญาณอันแข็งแกร่งโถมเข้ามา ทำให้เจียงหลีอดไม่ได้ที่จะสูดหายใจเข้าลึกๆ
กงเสวี่ยฮวาหัวเราะอย่างได้ใจ “แน่นอน เจ้าดูวัสดุที่ใช้ก่อสร้างพวกนี้ให้ละเอียด รวมถึงพื้นที่เราเหยียบตอนนี้ด้วย”
เจียงหลีและมู่ชิงเหยียนก้มลงมองพร้อมกัน
“หินวิญญาณ” มู่ชิงเหยียนแปลกใจ นางยังถือว่ามาจากตระกูลระดับกลาง แต่เมื่อได้เห็นวังเทียนอู่กงแล้ว นางถึงตระหนักว่าทั้งสองมีความแตกต่างราวกับฟ้าและเหว ไม่สงสัยเลยว่าเหตุใดเฟิ่งเอ้อร์ถึงกลัวกงเสวี่ยฮวา
“นี่มันมหาเศรษฐีที่แท้จริง” เจียงหลีเก็บสายตาที่มองสิ่งก่อสร้างกลับมา
กงเสวี่ยฮวากล่าวอย่างภาคภูมิใจ “วังเทียนอู่กงมีมานานนับพันปีและครองตำแหน่งของกลุ่มอำนาจระดับสูงในซีฮวง เรื่องภาพลักษณ์ภายนอกนี้ก็ต้องทำให้ดูดีเป็นธรรมดา”
“อวดดี” เจียงหลีหัวเราะเยาะเขาไม่ได้
กงเสวี่ยฮวาพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ไปกันเถอะ ข้าจะพาพวกเจ้าไปยังที่พัก พวกเจ้าไปพักผ่อนกันก่อน แล้วพรุ่งนี้ข้าจะพาพวกเจ้าไปดูรอบๆ พร้อมจะไปพบท่านพ่อข้า ดูก่อนว่าว่างเจอพวกเจ้าพรุ่งนี้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม หากท่านพ่อข้าไม่ว่าง แต่ท่านแม่ข้าว่างแน่นอน”
“เราแค่ผ่านมา ไม่ต้องไปรบกวนนายท่านและฮูหยินหรอก” เจียงหลีกล่าว
“ไม่รบกวน ไม่รบกวน” กงเสวี่ยฮวาโบกมือของเขาครั้งแล้วครั้งเล่า
จากนั้นเขาพาหญิงทั้งสองไปยังลานที่ใช้ตอนรับแขกของวังเทียนอู่กง เขาสั่งให้สาวใช้ที่อยู่ภายในให้ดูแลพวกเขาให้ดีแล้วจากไป
เจียงหลีเดิมทีเป็นจักรพรรดินีอยู่แล้ว มู่ชิงเหยียนก็เป็นถึงองค์หญิง ย่อมไม่ถูกแรงกดดันในวังเทียนอู่กงนี้กดจนทำอะไรไม่ถูก
หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ ทั้งสองกลับไปที่ห้องของตนเพื่อพักผ่อน
เดิมทีเจียงหลีกำลังวางแผนที่จะฝึกฝนอยู่พักหนึ่ง แต่ไม่คิดว่า ทันทีที่เขาเริ่มฝึกฝนนางก็ถูกดึงดูดเข้าสู่ห้วงความฝัน
“ลู่เจี้ย!” คนที่ครุ่นคิดทั้งวันทั้งคืน พบตัวเองในความฝัน เจียงหลีกระโดดเข้าหาเขาด้วยความปีติยินดี
ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลากางแขนออกเพื่อรับนางเข้าสู่อ้อมแขน
“นานแล้วที่เจ้าไม่ได้มาหาข้า” เจียงหลีโอบกอดอย่างสบายๆ แนบแก้มเข้ากับหน้าอกกว้าง น้ำเสียงของนางฟังดูเย้ายวนเล็กน้อย