ราชินีพลิกสวรรค์ - ตอนที่ 460 สงครามทำลายหลิงหวัง
ประมุขสำนักพรตเสวียนหมิงคำรามด้วยความโกรธ เขาเองก็สัมผัสได้ถึงความน่าสะพรึงกลัวใน
วรยุทธ์ของเจียงหลี
ในเวลานี้การโจมตีของมหาปุโรหิตได้มาถึงข้างหลังของเจียงหลีแล้ว พลังที่ไร้ขอบเขตได้โจมตีเจียงหลีโดยตรงทำให้นางกระเด็นกลิ้งกลางอากาศไปมาหลายตลบและได้ทลายฝ่ามือพลังปีศาจของนาง
พรวด! กระอักเลือดออกจากปาก สายตาเฉียบคมของนางจ้องไปยังมหาปุโรหิต
เพี๊ยะ!
เสียงอันดังกึกก้องของแส้ยาวได้ฟาดอกเสื้อของมหาปุโรหิตให้เปิดออก แส้ยาวนั้นทำให้เสื้อคลุมของเขาฉีกขาดเป็นเสี่ยงๆ เผยให้เห็นร่างผอมบางของชายชรา
ชายชราคนนี้มีรูปลักษณ์น่าเกลียดยิ่ง แววตาเย็นเยียบวาวโรจน์กลับทำให้คนรู้สึกหวาดหวั่นในใจ
เพื่อต้องการช่วยสำนักพรตเสวียนหมิงเขาไม่ห่วงแม้แต่ตัวเอง จึงรับจูเสียไปเต็มๆ
ขณะนั้นเองบาดแผลที่หลังของเขาเหวอะหวะและมีเลือดออกตลอดเวลา
เมื่อเห็นว่าประมุขสำนักพรตเสวียนหมิงไปไหนไม่รอดแล้ว เขาจึงเบนสายตากลับมามองคนที่ใช้แส้ยาวฟาดเขาไม่ยั้งอย่างชั่วร้ายและมือผอมบางของเขาก็คว้าจูเสียเอาไว้
“จูเสีย!” เจียงหลีในท่าที่มั่นคงรีบตะโกนจูเสียทันที
เมื่อได้ยินเสียงเรียกของผู้เป็นเจ้าของ จูเสียก็กลายร่างเป็นลำแสงเย็นเยียบ ส่งเสียง ชิ่ว ส่องผ่านนิ้วผอมเรียวแล้วบินกลับมาหามือเจียงหลี
สายตาแหลมคมของมหาปุโรหิตกวาดมองไปทั่วตัวเจียงหลีแต่เขากลับไม่ตามไป แต่ทว่ามาอยู่ข้างๆ ประมุขสำนักด้วยความรวดเร็ว เพื่อถ่ายเทพลังวิญญาณในร่างกายช่วยเขาขจัดพลังควบคุมจิตในหัวสมองของเขา
ในที่สุดประมุขสำนัขพรตเสวียนหมิงก็สามารถกระโดดออกมาจากพลังควบคุมจิตได้ ยามนี้เขามีสีหน้าขาวซีด เหงื่อเย็นเฉียบไหลรินไม่หยุด เขามองไปที่เจียงหลีด้วยแววตาอาฆาต เจตนาสังหารในดวงตาดูเหมือนจะเป็นจริง
ทั้งสามเปลี่ยนตำแหน่งกัน แต่ยังคงเป็นสองต่อหนึ่งเหมือนเดิม
“ฆ่านางซะ!” ประมุขสำนักพรตเสวียนหมิงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา เขาไม่คิดจะต้องการสิ่งของในตัวเจียงหลีอีกแล้ว เขาแค่อยากฆ่านางเพื่อล้างแค้นเท่านั้น
มหาปุโรหิตพยักหน้าและไหวตัวพุ่งเข้าใส่เจียงหลี
เจียงหลีหรี่ตาหลบหลีกไปข้างหลังอย่างรวดเร็ว
แน่นอนในตอนนี้รอบๆ ตัวนาง ดูเหมือนจะมีอุ้งมือผีนับไม่ถ้วนยื่นออกมาจากความว่างเปล่าและพยายามดึงและดักจับนาง
เจียงหลีลืมตาขึ้นและเห็นแสงแวววาวของวิญญาณยุทธ์โครงกระดูกที่อยู่เบื้องหลังมหาปุโรหิต
ฝ่ามือพันคลื่นเหวี่ยงออกทันทีเพื่อต้านทานอุ้งมือผี
เมื่อเห็นว่าเจียงหลีกำลังจะถูกจับโดยอุ้งมือผี พลังที่น่าสะพรึงกลัวได้เข้ามาและเฉือนตรงไปยังมหาปุโรหิต
พลังนั้นกลายเป็นมือยักษ์และบีบมันด้วยฝ่ามือทำให้มหาปุโรหิตต้องถอยหนี
“ระเบิด!”
เสียงของชายคนหนึ่งปรากฏขึ้น แต่ดวงตาของเจียงหลีกลับเป็นประกาย
ฝ่ามือยักษ์ที่กดทับมหาปุโรหิตที่ถอยหลังหนีระเบิดออกอย่างรุนแรง จึงทำให้มหาปุโรหิตต้องลากออกไปหลายจั้งอย่างรวดเร็ว แล้วอุ้งมือผีที่จับตัวเจียงหลีเอาไว้ก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย
เงาร่างของคนๆ หนึ่งมาปรากฏตัวเคียงข้างเจียงหลี นางหันสายตากลับไปมองสบแววตาตื่นตระหนกของผู้เป็นพี่ชาย
“อาหลี เจ้าบาดเจ็บหรือไม่” เจียงเฮ่ากระวนกระวายถามจาดนั้นจึงเอ่ยขึ้นด้วยความรู้สึกผิด “พี่มาสายเสียแล้ว”
เจียงหลีส่ายหน้าแล้วเหลือบสายตามองประมุขสำนักเสวียนหมิงกับมหาปุโรหิตที่อยู่ฝั่งตรงข้าม แล้วเผยรอยยิ้มที่มิอาจบรรยายได้ “ไม่สายหรอก พี่มาได้ทันเวลาพอดี”
หากไม่ใช่เพราะวรยุทธ์ที่มากมายเหลือล้นของนางและไพ่ตายหลายคน มิฉะนั้นไอ้แก่ชาติชั่วนั่นคงได้ฆ่านางตายเป็นร้อยเป็นพันครั้งแล้ว
ตอนนี้กำลังเสริมของนางมาถึงแล้วก็ควรปล่อยให้ไอ้แก่สองคนนี้ได้ลิ้มลองรสชาติของการถูกฆ่าบ้าง!
“พี่ใหญ่ ท่านช่วยข้าลากไอ้แก่สองคนนั้นที” เจียงหลีเชื่อมั่นในความสามารถของเจียงเฮ่า
ฆ่ามหาปุโรหิตให้ตายอาจจะเป็นเรื่องยาก แต่การลากมหาปุโรหิตเอาไว้อาจเป็นไปได้แน่นอน
“ได้” เจียงเฮ่าพยักหน้าอย่างไม่ลังเล
“มาอีกคนหนึ่งแล้ว” สีหน้าของประมุขสำนักพรตเสวียนหมิงมืดมนดูไม่ได้ สาวกของเขาล่ะ ลูกศิษย์ของเขาล่ะไปตายที่ไหนกันหมด
เขากลับไม่รู้ ขณะนี้สำนักพรตเสวียนหมิงก็เกิดความวุ่นวายโกลาหล ยังจะมีหนทางไหนมาช่วยเหลือการต่อสู้ตรงนี้
กงเสวี่ยฮวาเป็นชายชาตรีที่กลัวโลกไม่สงบสุขอยู่แล้ว เพียงแค่เขาต้องการไม่ว่าไฟอะไรเขาก็สามารถจุดขึ้นมาได้
ทั้งยังมีหนานอู๋เฮิ่นและเฟิงสิงอวิ๋นคู่ขาปาท่องโก๋ที่กักเก็บความคับแค้นมาเต็มท้อง ตอนนี้แม้พวกเขาจะมีเพียงไม่กี่คนแต่ก็ยังสามารถพลิกแผ่นดินสำนักพรตเสวียนหมิงได้
บนยอดเขามีเสียงการต่อสู้ปะทะกันอย่างต่อเนื่อง
หนานอู๋เฮิ่นยังคงมีความกังวลอยู่บ้างเขาอยากขึ้นไปช่วยแต่กลับถูกกงเสวี่ยฮวารั้งเอาไว้ “วางใจเถอะ นางปีศาจอย่างเจียงหลีนั่นไม่ตายง่ายๆ หรอก เกรงว่าคนที่จะต้องตายคือศัตรูของนางต่างหาก”
จู่ๆ เขาก็เชื่อมั่นในตัวของเจียงหลีขนาดนี้ เพราะเขาเห็นนางต่อสู้กับมู่เหยี่ยนฉือกับตา และสัมผัสได้ถึงความน่าสะพรึงกลัวของฝ่ามือพลังปีศาจ แต่เขากลับคิดไม่ถึงว่าเจียงหลีไม่ได้สู้หนึ่งต่อหนึ่ง แต่สู้กันหนึ่งต่อสอง นางต้องการใช้ฝ่ามือพลังปีศาจแต่กลับถูกตัดขาดสะบั้นไปแล้ว
ในเวลานี้บนซากปรักหักพังของภูเขา สถานการณ์ที่ไม่เอื้ออำนวยต่อเจียงหลีในคราแรกในที่สุดก็สวนทางกลับกัน
สองต่อสอง!
หลิงจงสองคนปะทะกับหลิงหวังสองคน!
“ไม่ว่าจะมากันกี่คน จุดจบของพวกเจ้าก็มีเพียงทางเดียวเท่านั้น นั่นก็คือความตาย!” ประมุขสำนักพรตเสวียนหมิงเอ่ยขึ้นอย่างดุดันชั่วร้าย
เจตนาฆ่าอันน่าหวาดกลัวพุ่งออกมาจากดวงตาของเขา
เจียงหลียกยิ้มประชดประชัน “นอกจากเจ้าจะใช้ปากฆ่าคนแล้วเจ้ายังจะทำอะไรได้อีก”
“เจียงหลี!” ประมุขสำนักพรตเสวียนหมิงตวาดด้วยความโกรธา
“ข้าอยู่นี่ไง สบายใจได้ ก่อนที่เจ้าจะตายข้าไม่ไปไหนหรอก” เจียงหลีแสยะยิ้มเผยความหนาวเย็นผิดปกติ
“ฆ่าพวกมัน!” ประมุขสำนักพรตเสวียนหมิงออกคำสั่งกับมหาปุโรหิต
มหาปุโรหิตพยักหน้าอีกครั้งโดยไร้ซึ่งความคิดคัดค้าน
เจียงหลีสบตากับเจียงเฮ่า ส่งกระแสจิตกันเงียบๆ ในใจ
เจียงเฮ่าไหวร่างออกไป ดึงภาพหลอนนับไม่ถ้วนข้ามกลางอากาศและเข้ามาหาเพื่อต่อสู้กับมหาปุโรหิตในทันที
ในขณะที่เจียงหลีพุ่งร่างเขาถามโถมใส่ประมุขสำนักพรตเสวียนหมิง
“เจ้าเด็กหลิงจงขั้นเก้า จึๆ” มหาปุโรหิตมองขั้นฝึกของเจียงเฮ่าได้อย่างทะลุปรุโปร่ง ดวงตาเผยแววเหยียดหยามออกมา
สำหรับนางปีศาจเจียงหลีนั่นแล้วมีไพ่ตายเยอะเกินไป วรยุทธ์ก็แปลกประหลาด
แต่คนตรงหน้าคนนี้
เขาไม่เชื่ออีกแล้ว หรือว่าจะเป็นปีศาจที่สามารถก้าวขั้นกระโดดมาท้าทายได้
“หลิงจงขั้นเก้าก็สามารถฆ่าเจ้าตายได้เช่นกัน” เจียงเฮ่ามีสีหน้าเย็นชา แววตาก็เย็นยะเยือกไร้ที่เปรียบ
ถ้าเขามาช้ากว่านี้ไปนิดเดียว ไม่รู้ว่าน้องสาวของเขาจะถูกไอ้แก่สารเลวสองคนนี้รังแกอย่างไรบ้าง
“จองหอง!” มหาปุโรหิตตะโกนเสียงเย็นเยียบ พลังอันรุนแรงพุ่งเข้ากดดันเจียงเฮ่า
พลังอันเหลือล้นก่อตัวเป็นพายุส่งเสียงหวีดหวิวอย่างต่อเนื่อง
ทันใดนั้นเจียงเฮ่ารู้สึกว่าผีกำลังร้องไห้และหมาป่าหอนไปทั่วร่างกายของเขา เงาผีอันหนักอึ้ง
“กลอุบายหลอกลวง” เจียงเฮ่าตะโกนคำราม ด้วยแสงสีทองบนร่างกายของเขา วิญญาณยุทธ์ของเขาถูกปล่อยออกมาทีละดวง และวิญญาณยุทธ์สีทองแต่ละดวงมีพลังแห่งการฆ่าพุ่งเข้าชนมหาปุโรหิต
ตู้มๆ!
ภายใต้การปะทะกันของพลังที่น่าสะพรึงกลัวทั้งสอง ภูเขาแข็งกล้าก็ถูกตัดขาดโดยอีกชั้นหนึ่งอย่างกะทันหัน
ควันที่เต็มไปด้วยดินปืนบดบังการมองเห็น
มหาปุโรหิตเหาะขึ้นไปบนท้องฟ้า กางอุ้งมืออันผอมบางของเขาออกแล้วจับตัวเจียงเฮ่าขึ้นไป และหลังจากนั้นในเวลานี้พลังอันน่าสะพรึงกลัวได้ปะทุออกมาในควันดินปืน พลังนั้นแข็งแกร่งกว่าแต่ก่อนมาก
การบีบอัดของผู้เป็นราชาถูกกดลงมาจากบนฟ้าตกลงมาใส่ร่างของมหาปุโรหิต
เขาลืมตาขึ้นทันทีถอยหนีไปข้างหลังด้วยสีหน้าตื่นตระหนก มองไปยังควันที่ยังไม่จางหายและเผยสีหน้าอันเหลือเชื่อ
เป็นไปได้อย่างไร!
เป็นไปไม่ได้ที่จะเลื่อนขั้นไปเป็นหลิงหวังในการต่อสู้ นี่มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
การจะเลื่อนขั้นไปสู่อาณาเขตที่ยิ่งใหญ่กว่านั้นต้องผสานเข้ากับวิญญาณยุทธ์ดวงใหม่ เขาจะทำเช่นนี้ในขณะต่อสู้ได้อย่างไร