ราชินีพลิกสวรรค์ - ตอนที่ 463 ต้องการหรือไม่ต้องการ
ตู้มมม!
เสียงดังอย่างกะทันหันทำให้เจียงหลีและชิงหว่านหันขึ้นไปมองพร้อมกัน
การต่อสู้ระหว่างเจียงเฮ่าและมหาปุโรหิตได้สิ้นสุดลงแล้ว ท่ามกลางพลังอันรุนแรง ร่างที่น่าเกลียดและผอมบางก็ตกลงมาจากฟากฟ้าและร่วงลงต่อหน้าพวกนาง
“ท่ามหาปุหิต! นางฆ่าประมุขสำนัก เร็วเข้า! ฆ่านางเร็วเข้า!” ชิงหว่านร้องอย่างตื่นตระหนกเมื่อเห็นคนที่ปรากฏตัว
แววตาของเจียงหลีดำดิ่ง ไม่พูดสิ่งใด
และในขณะนั้นเองก็มีร่างหนึ่งตกลงมาจากฟากฟ้าอย่างทรงพลัง
เขาตกลงมาเหนือร่างของมหาปุโรหิต
กร็อบ!
เสียงแตกหักดังขึ้น ร่างของมหาปุโรหิตถูกเหยียบลงมาจากท้องฟ้าด้วยเท้าของเขา และร่างกายของเขาเอียงไปมาและล้มลงกับพื้นจมลงไปในซากปรักหักพังทันที
เจียงหลีหัวเราะ
ในขณะที่ร่างของมหาปุโรหิตร่วงลงมาวินาทีนั้น เขาได้ตายไปแล้ว
เจียงเฮ่ายืนเหยียบย่ำอยู่บนศพของมหาปุโรหิต ใบหน้าหล่อเหลาที่เต็มไปด้วยราศีโหดเหี้ยมและดวงตาคมกริบจ้องชิงหว่านเขม็ง “เจ้าพูดว่าจะฆ่าใครนะ”
ชิงหว่านสั่นเทิ้มไปทั้งสรรพางค์กาย แรงกดดันในตัวของเจียงเฮ่ามีมากและกดทับนางจนรู้สึกหายใจไม่ออก
“พี่ใหญ่ ฆ่านางซะ” เจียงหลีเอ่ยเสียงเรียบนิ่ง
“ได้” เจียงเฮ่าพยักหน้าโดยไม่มีความลังเลเลยสักนิด
เมื่อชิงหว่านได้ยินประโยคนี้ก็เผยสีหน้าหวาดผวาถอยหลังหนีด้วยใบหน้าซีดเผือด “อย่า อย่า อย่าฆ่าข้า เจ้าฆ่าข้าไม่ได้ ข้าไม่โทษเจ้าแล้ว ข้าไม่เกลียดแค้นเจ้าแล้ว อภัยให้ข้าเถิด”
เจียงหลีหัวเราะเยาะ “เอาคำว่าให้อภัยของเจ้าลงนรกไปพร้อมเจ้าเถิด!”
เจียงเฮ่าเคลื่อนไหวเงาร่างแต่กลับมีลำแสงหนึ่งที่มีความรวดเร็วยิ่งกว่าเขา
เจียงหลีรู้สึกถึงอ้อมแขนอันเบาหวิว คิดไม่ถึงว่าเจ้าเปี๊ยกจะตัดหน้าเจียงเฮ่าพุ่งเข้าใส่ชิงหว่าน อุ้งเท้าอวบอ้วนสีชมพูคู่นั้นไม่เพียงแต่ข่วนคอของนางเท่านั้น แต่ยังข่วนไปที่ใบหน้าของนางอีกด้วย
“…”
“…”
เจียงหลีและเจียงเฮ่าตะลึงค้างพร้อมกัน
ทันใดนั้นเจียงเฮ่าก็แสดงสีหน้าเรียบนิ่งให้กับเจ้าเปี๊ยกที่ชิงตัดหน้าเขาไปก่อนจะหันกลับมามองเจียงหลี “อาหลี นี่คือตัวอะไร”
“สัตว์เลี้ยงของข้าเอง จงรักภักดีต่อข้ามากเชียวล่ะ” เจียงหลียักคิ้วหลิ่วตาเผยรอยยิ้มที่ยากจะอธิบาย
เจ้าเปี๊ยกจอมเย็นชา หลิวหลีปราดตามองศพของชิงหว่านด้วยแววตาเย็นยะเยือกและท่าทางรังเกียจ มันหันกลับมาแล้วก็กระโดดเข้าไปในอ้อมแขนของเจียงหลีทันที ท่าทางทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของนั้นทำให้เจียงเฮ่าดูแล้วเกิดอาการหมั่นเขี้ยว
“ยินดีกับพี่ใหญ่ด้วยที่เลื่อนขั้นเป็นหลิงหวังแล้ว” เมื่อเจียงหลีเห็นสีหน้าของเจียงเฮ่าดำดิ่งเรื่อยๆ ก็รีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนาทันที
แต่เจียงเฮ่ากลับไม่ค่อยยินดีสักเท่าไหร่ “แค่เลื่อนขั้นธรรมดาภายใต้หลิงหวง ไม่นับว่ายิ่งใหญ่อะไร”
เจียงหลีแอบกัดลิ้นของตัวเอง
ถ้าคำพูดของเจียงเฮ่าถูกปล่อยให้ได้ยินจากคนอื่นคงจะคิดว่าเขาหยิ่ง อย่างไรก็ตาม นางรู้ดีว่าเพราะร่างกายของเจียงเฮ่า ให้เขาอยู่ระดับต่ำกว่าอาณาเขตหลิงหวงคงไม่ค่อยรู้สึกประสบความสำเร็จเท่าใดนัก
“อาหลี ให้ข้าช่วยประคองเจ้าขึ้นมาเถอะ” เจียงเฮ่าพูดพลางยื่นมือไปจับแขนของเจียงหลีประคองนางให้ลุกขึ้นมาจากซากปรักหักพัง “เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง ได้รับบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า”
เมื่อเจียงหลียืนอย่างมั่นคงแล้วก็ส่ายหน้า “ข้าไม่เป็นไร เพียงแต่พลังวิญญาณของข้าถูกถอนออกไป พักประเดี๋ยวเดียวก็หายแล้วล่ะ”
“ข้ามีหินวิญญาณแล้วก็ผลึกวิญญาณ” สิ้นเสียงของเจียงเฮ่าก็ยกมือขึ้นมาหยิบหินวิญญาณและผลึกวิญญาณมากมายมากองตรงหน้าเจียงหลี
เจียงหลียิ้มอย่างขมขื่น พี่ชายคนนี้คงขุดของเก่าที่เก็บหลายปีออกมาจากกระเป๋าวิเศษหมดแล้วสินะ
“พี่ใหญ่ ข้าเองก็มี” เจียงหลีเอ่ยขึ้นอย่างอดไม่ได้
“ข้าให้เจ้าก็หยิบไปสิ” เจียงเฮ่ากลับดื้อรั้นเอาหินวิญญาณและผลึกหินวิญญาณให้นาง
“ท่านให้ข้ามาหมด แล้วท่านจะทำอย่างไร” เจียงหลีกล่าว
เจียงเฮ่ากลับส่ายศีรษะอย่างไม่สนใจ “หากเจ้าไม่ใช้ข้าก็เป็นห่วง”
เจียงหลีถอนหายใจเงียบๆ “พี่ใหญ่ ท่านอย่าทำเยี่ยงนี้เลย สำนักพรตเสวียนหมิงถูกพวกเราล้มล้างหมดแล้ว น่าจะมีทรัพยากรอยู่ไม่น้อย ข้าไม่จนตรอกหรอกนะ”
“เจ้าดูดซับได้มาก” เจียงเฮ่ากล่าวอย่างหงุดหงิด
“…” เจียงหลีพูดไม่ออก นี่กำลังกล่าวหาว่านางเป็นชูชกใช่หรือไม่
หากเป็นเช่นนี้จริง นางก็ต้องพูดเหตุผลดีๆ กับพี่ชายคนนี้เสียแล้ว
“อาหลี ตอนนี้เจ้าไม่มีแรงเหลือแล้ว เดี๋ยวข้าช่วยเจ้าอุ้มมันเอง” เจียงเฮ่าจ้องไปที่เจ้าเปี๊ยกที่อยู่ในอ้อมแขนของเจียงหลี
เจียงหลียิ้มให้เล็กน้อยเพื่อเป็นการปฏิเสธ “ไม่เป็นไร มันไม่ชอบให้ใครเข้าใกล้ มีแค่ข้าคนเดียวเท่านั้นเจ้าค่ะ”
เจียงเฮ่าหรี่ตา แสงอันตรายส่องประกายระหว่างดวงตาของเขา “นิสัยแปลกขนาดนี้เชียวรึ”
สัตว์ร้ายตัวหนึ่งเงยหน้าขึ้นจากอ้อมแขนของเจียงหลี และดวงตาสีซีดของมันมองมาที่เขาอย่างไม่พอใจ อืม ตี้จวินอย่างข้าก็แปลกแบบนี้แหละ แล้วเจ้าจะทำไม
“หลิวหลีเก่งกาจมากแล้วมันก็ภักดีมาก มันเคยช่วยข้าด้วย พี่ใหญ่ห้ามแกล้งมันนะ” เจียงหลีกล่าว
แววตาของเจียงเฮ่าวูบไหว ความอันตรายในดวงตาพลันหายไป “เคยช่วยเจ้ารึ”
เจียงหลีพยักหน้า
“ได้ ข้าทราบแล้ว” เจียงเฮ่าพยักหน้าแล้วไม่มองสัตว์ร้ายบางตัวอีก
เมื่อดูดซับพลังจากผลึกวิญญาณสองก้อน ร่างกายของเจียงหลีก็ฟื้นฟูขึ้นมาได้เอง เพียงแต่ว่าพลังวิญญาณยังไม่กลับมาเต็มเปี่ยมเหมือนเดิมเท่านั้น
ยังไม่รู้ว่าสถานการณ์ในสำนักพรตเสวียนหมิงเป็นเช่นไร เจียงหลีและเจียงเฮ่าเดินลงมาข้างล่างด้วยกัน เมื่อพบเจอเหล่าลูกศิษย์สำนักพรตเสวียนหมิง เจียงเฮ่าก็ถือโอกาสจัดการเสีย
“จริงสิพี่ใหญ่ มู่ชิงเหยียนก็อยู่ที่นี่” จู่ๆ เจียงหลีก็นึกขึ้นมาได้ เรื่องนี้ต้องบอกให้เจียงเฮ่ารับรู้สักหน่อย
หลังของเจียงเฮ่าชะงักค้างเมื่อได้ยินชื่อของ ‘มู่ชิงเหยียน’ ก็ตื่นจากความทรงจำของเขาราวกับมีพายุพัดหมุนไปทั่วทั้งตัวเขาอย่างบ้าคลั่ง
“นาง…”
“เมื่อหลายเดือนก่อน ข้าเจอนางที่อื่น ภายหลังนางก็ได้มาอยู่กับข้า ตอนแรกข้าคิดจะพานางกลับไปเจอพี่ใหญ่ที่ฮวงเสิน คิดไม่ถึงว่าพวกท่านจะมาตามหาข้าเสียก่อน” เจียงหลีรีบบอกเรื่องที่ตัวเองเคยพบเจอมู่ชิงเหยียนให้กับเจียงเฮ่า
เจียงเฮ่านิ่งเงียบ ยากที่จะคาดเดาว่าดีใจหรือขุ่นเคือง
เจียงหลีเดินมาหยุดตรงหน้าเขา ปรายตามองเขาแล้วพูดอย่างจริงจัง “พี่ใหญ่ หากท่านคิดมีใจให้นาง อย่าได้ยอมแพ้ให้กับสิ่งที่ไร้ความหมาย นางเป็นสตรีที่ปล่อยวางความคับแค้นใจเก่าๆ เหล่านั้นได้ ท่านเป็นถึงบุรุษ ทำไมท่านถึงเป็นคนขี้ขลาดแบบนี้”
“…” เจียงเฮ่าไร้คำใดๆ ที่จะเอื้อนเอ่ย
หลังจากนั้นไม่นาน เขามองไปที่เจียงหลีและพูดขึ้นด้วยสายตาที่สับสน “พ่อของนาง ฆ่าพ่อของเรา”
“พวกเราก็ฆ่าพ่อและญาติของนางเช่นกัน ทั้งยังโค่นล้มราชวงศ์ของนางอีก ถึงอย่างไรคนที่เราฆ่าตายก็ไม่ใช่นาง” เจียงหลียิ้มอย่างช่วยไม่ได้
บางทีอาจเป็นเพราะนางใช่เจียงหลีจริงๆ สำหรับความแค้นในสายเลือดนี้ นางไม่ใช่คนที่ลืมไม่ลงเหมือนเจียงเฮ่า
นางได้เพียงแต่หวังว่า คนข้างกายนางสามารถมีความสุขได้ เมื่อเห็นคู่รักแยกทางกันเพราะเรื่องในอดีตเหล่านี้ มันทำให้นางรู้สึกเศร้าใจจริงๆ
“ไว้ข้าค่อยคิดดูดีๆ” ในที่สุดเจียงเฮ่าก็ให้คำตอบที่คลุมเครือเหลือเกิน
เจียงหลีพยักหน้าไม่บีบคั้นเขาอีก
เรื่องของความรัก คนนอกไม่สามารถตัดสินใจแทนได้ นางได้ทำในสิ่งที่ควรทำไปแล้ว ที่เหลือขึ้นอยู่กับวาสนาของพวกเขา
สำนักพรตเสวียนหมิงได้ล่มสลายแล้ว
เมื่อเจียงเฮ่าผู้เป็นหลิงหวังยืนขึ้นมา สาวกลูกศิษย์ที่เหลือต่างเลิกต่อต้าน
เจียงเฮ่าก็เห็นมู่ชิงเหยียนที่มีประสบการณ์การสังหาร
เมื่อมองไปที่กลุ่มคนที่คุ้นเคย เจียงหลีก็เต็มไปด้วยอารมณ์ตื้นตัน สิ่งที่นางไม่ชอบที่สุดคือการพลัดพราก ตอนนี้ได้กลับมารวมกันอีกครั้งเป็นเรื่องที่ดีจริงๆ
“เจียงหลี นับแต่นี้สำนักพรตเสวียนหมิงได้ถูกลบชื่อออกจากซีฮวงดินแดนตะวันตกแล้ว แต่พื้นที่ที่อยู่ภายใต้เขตอำนาจนั้นก็ยังมีอยู่ อย่างไรดีล่ะ เจ้าต้องการหรือไม่ต้องการ” กงเสวี่ยฮวาหัวเราะร่าแล้วเดินมาพูดต่อหน้าเจียงหลี
“หืม” เจียงหลีมองเขาอย่างแปลกใจ
ในขณะเดียวกันนางปราดตามองก็เห็นหนานอู๋เฮิ่น เฟิงสิงอวิ๋น เจียงเฮ่า ลู่เสวียน เหวินเหรินชิ่งชิ่งและมู่ชิงเหยียนที่ต่างจดจ้องมาที่นาง