รู้สึกตัวอีกที-ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว-原來我是世外高人 - บทที่ 444 การฆ่าอันไร้ที่สิ้นสุด โลหิตจะหลั่งรินไปทั่วทั้งอาณาจักร!
- Home
- รู้สึกตัวอีกที-ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว-原來我是世外高人
- บทที่ 444 การฆ่าอันไร้ที่สิ้นสุด โลหิตจะหลั่งรินไปทั่วทั้งอาณาจักร!
บทที่ 444 การฆ่าอันไร้ที่สิ้นสุด โลหิตจะหลั่งรินไปทั่วทั้งอาณาจักร!
ณ แดนหยิน จวินโจว
นี่คือแคว้นที่ใหญ่ที่สุดของแดนหยิน ทั้งยังเป็นแคว้นที่ทรงพลังมากที่สุด ทิ้งห่างจากแคว้นอื่น ๆ ในแดนหยิน
ในตอนนี้อาจกล่าวได้ว่า ที่แห่งนี้เป็นแคว้นที่ทรงพลังที่สุดในโลก
ยอดนิกายอย่างตระกูลไป๋ปรากฏตัวที่จวินโจวร่วมมือกับกองกำลังจากยุคโบราณก่อตั้งสถานศึกษาเทียนตี้ รวบรวมกำลังรบระดับสูงเกือบทั่วทั้งโลกมายังสถานที่แห่งนี้
เจตจำนงฟ้าดินได้ส่งคำเตือนว่าสิ่งมีชีวิตจากอาณาจักรเทียนหยวนจะมาเยือนอีกครั้ง พวกเขาคำนวณกันว่าจวินโจวอาจจะเป็นสถานที่แรกที่ถูกทะลวงเข้ามา กลายเป็นปากทางเข้าของสิ่งมีชีวิตจากอาณาจักรเทียนหยวน
ดังนั้น พวกเขาจึงสร้างสถานศึกษาเทียนตี้ขึ้นที่จวินโจว เพื่อรับสมัครผู้มีความสามารถจากทั่วทุกมุมโลก รวบรวมเหล่าผู้แข็งแกร่งเอาไว้ที่เดียวกัน ดำเนินการป้องกันและฝึกฝนให้พวกเขาสามารถต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตจากอาณาจักรเทียนหยวนในสมรภูมิครั้งแรกได้
เวลาสำคัญเป็นอย่างมาก
เมื่อสิ่งมีชีวิตจากอาณาจักรเทียนหยวนมาถึงที่นี่เป็นครั้งแรก ไม่ต้องสงสัยเลยว่านั่นจะเป็นช่วงเวลาสำคัญที่สุด หากปล่อยให้สิ่งมีชีวิตจากอาณาจักรเทียนหยวนทั้งหมดสามารถเข้ามาได้อย่างสมบูรณ์ สงครามจะต้องยากลำบากอย่างถึงที่สุด
วิธีที่ได้ผลลัพธ์ดีที่สุดคือ การขับไล่สิ่งมีชีวิตจากอาณาเทียนหยวนออกไปตั้งแต่ครั้งแรก ปิดกั้นไม่ให้สิ่งมีชีวิตจากอาณาจักรเทียนหยวนเข้ามาได้
ทว่าเรื่องนี้ก็ยังเป็นสิ่งที่ยากจะทำ
จวินโจวนั้นกว้างใหญ่ไพศาล พวกเขาไม่รู้ตำแหน่งจุดที่อาณาจักรเทียนหยวนจะบุกเข้ามาอย่างแน่นอน
นอกจากนี้สภาพฟ้าดินยังเลวร้ายเกินไป ทำให้พวกเขาขาดแคลนกำลังรบระดับสูงอย่างมาก แม้ว่าพวกเขาจะพบจุดที่สิ่งมีชีวิตจากอาณาจักรเทียนหยวนจะบุกเข้ามา แต่ก็เป็นเรื่องยากที่จะต่อกรอีกฝ่ายได้
แต่ไม่ว่าจะเป็นเช่นไร พวกเขาก็จะไม่ยอมแพ้ สู้จนถึงที่สุด!
พวกเขาไม่มีทางทอดทิ้งโลกที่เติบโตขึ้นมา หากต้องกลายไปเป็นทาสของสิ่งมีชีวิตต่างอาณาจักร พวกเขายอมตายในสนามเพื่อปกป้องโลกยังจะดีกว่า!
ตู้ม!
ณ สถานที่แห่งหนึ่งในจวินโจว พลันเกิดการระเบิดขึ้นกลางความว่างเปล่า
สิ่งมีชีวิตที่ร่างกายมีแสงลอยวนเวียนเดินออกมาจากความว่างเปล่าที่ถูกระเบิด
คนผู้นั้นเป็นเผ่ามนุษย์วัยกลางคน สีหน้าเฉยเมย ในมือถือเคียวสีดำ ทันทีที่ลืมตาก็ปล่อยลำแสงน่าสะพรึงกลัวออกมา ราวกับสามารถทะลุทะลวงฟ้าดินได้!
ปราณอันน่าหวาดหวั่นแผ่ซ่าน เขาทรงพลังและน่ากลัวเกินไป ประหนึ่งจักรพรรดิผู้ครอบครองโลกหล้า ยืนอยู่ตำแหน่งสูงเทียมฟ้า ทอดสายตามองลงมาด้วยความไร้อารมณ์
ราวจักรพรรดิในหมู่จักรพรรดิ!
เพราะเขาเป็นถึงตี้จวินผู้หนึ่ง!
ทั้งยังอยู่จุดสูงสุดของตี้จวินที่ตี้จวินธรรมดาไม่อาจเปรียบเทียบได้!
ในตอนนั้นเองกฎแห่งสวรรค์และโลกก็ปรากฏออกมาด้านบนเหนือศีรษะชายวัยกลางคน เมฆดำควบแน่นพร้อมประกายอสนีบาตอย่างรวดเร็ว บดบังท้องฟ้าดวงตะวัน
เปรี้ยง! เปรี้ยง! เปรี้ยง!
อสนีบาตอันน่าสะพรึงกลัวฟาดลงมาจากเมฆดำเส้นแล้วเส้นเล่าด้วยพลังของกฎเกณฑ์ อสนีบาตทุกสายล้วนมีพลังมากพอจะทำลายโลก!
“ไร้ประโยชน์!”
เมฆปรากฏ สายฟ้าโจมตี ชายวัยกลางคนไม่แปลกใจที่ได้เห็นเหตุการณ์นี้
สีหน้าของเขายังคงเรียบเฉยไร้ซึ่งความหวาดกลัว เขาโบกเคียวสีดำในมือ หมอกทมิฬแผ่กระจายสะกัดกั้นการโจมตีทั้งหมดจากสายฟ้า!
“พลังของเจ้าไม่ได้อยู่ข้างใน แต่อยู่ข้างนอก เช่นนั้นแล้วจะสามารถข่มข้าได้อย่างไร!?”
สีหน้าของชายวัยกลางคนไม่แยแส เขากระโดดขึ้นไปบนท้องฟ้า เมื่อถึงเมฆสายฟ้าเขาก็ลงมือทำลายเมฆที่เกิดขึ้นจากพลังฟ้าดินให้สลายไป!
เขาเป็นผู้มาจากภายนอก
ย่อมถูกเจตจำนงฟ้าดินโจมตีทันทีที่ย่างกรายเข้ามา
ทว่ามันก็เป็นไปตามที่เขาพูด พลังส่วนใหญ่ของเจตจำนงฟ้าดินอยู่ภายนอกโลก ไม่ใช่ภายใน มันจึงไม่อาจทำอะไรเขาได้
เมื่อเมฆสายฟ้าถูกทำลาย กฎแห่งสวรรค์และโลกก็สลาย ชายวัยกลางคนยืนตระหง่านกลางทองฟ้า ลมปราณของเขายิ่งน่ากลัวมากขึ้นเรื่อย ๆ
“ในที่สุด…ก็มาถึงแล้ว!”
เขากล่าวออกมาด้วยเสียงเย็นชา “เช่นนั้นให้ข้าเป็นทัพหน้า เป็นผู้แรกที่เป่าแตรเริ่มการสังหารในอาณาจักรแห่งนี้!”
ใช่แล้ว
เขาเป็นสิ่งมีชีวิตจากอาณาจักรเทียนหยวน
แม้ว่าการป้องกันที่ถูกสร้างขึ้นจากเจตจำนงฟ้าดินจะยังไม่ถูกทำลายโดยสมบูรณ์ แต่พวกเขาก็สามารถสร้างรอยร้าวขึ้นมาได้
เขาเข้ามาผ่านรอยแยกนั้น
และนี่ก็หมายความว่าเวลาที่สิ่งมีชีวิตทั้งหมดในอาณาจักรเทียนหยวนจะเข้ามาได้อยู่อีกไม่ไกล!
“ฆ่า!”
เขาถือเคียวในมือพุ่งตรงไปทีเดียวก็ถึงอาณาจักรโบราณแห่งหนึ่ง
ที่แห่งนี้รุ่งเรืองเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตจำนวนนับไม่ถ้วน เป็นอาณาจักรเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน เต็มไปด้วยผู้แข็งแกร่งมากมาย กระทั่งมหาจักรพรรดิก็ยังมี
หลังจากที่เขามาถึง สิ่งมีชีวิตทั้งหมดในอาณาจักรโบราณก็ตื่นตระหนก จิตวิญญาณสั่นสะท้าน ความหวาดกลัวอันไร้ขอบเขตเกาะกุมเต็มหัวใจ
ภายใต้บารมีจักรพรรดิอันแข็งแกร่งของเขา ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดที่สามารถต้านทานได้
“เจ้า…เจ้าเป็นใคร!?”
มหาจักรพรรดิแห่งอาณาจักรโบราณตื่นจากการหลับใหลทันที เขาอายุมากแล้ว ปราณที่มีริบหรี่ดั่งเปลวเทียน
เขาเป็นมหาจักรพรรดิที่รอดชีวิตมาโดยบังเอิญตั้งแต่สมัยโบราณกาล เคยเข้าร่วมสมรภูมิครั้งใหญ่ แต่ได้รับบาดเจ็บสาหัส หลงเหลือเพียงลมหายใจเฮือกสุดท้าย สภาพอาการของเขานับว่าย่ำแย่เป็นอย่างยิ่ง
“เป็นคนที่ฆ่าเจ้า!”
ชายวัยกลางคนนาม ‘เหลิงเจี้ยน’ กล่าวออกมาสั้น ๆ ขณะเหวี่ยงเคียวในมือตัดหัวมหาจักรพรรดิชราผู้นั้นทิ้ง
เขามาเพื่อฆ่า ทำให้โลหิตนองไปทั่วทุกหนแห่งบนอาณาจักรแห่งนี้!
สมัยโบราณ สิ่งมีชีวิตจากอาณาจักรเทียนหยวนเคยมายังอาณาจักรแห่งนี้แล้วก่อสงครามครั้งใหญ่
ในยามนั้นสิ่งมีชีวิตบนอาณาจักรแห่งนี้ต่างคิดว่าอาณาจักรเทียนหยวนต้องการจะปกครองและเหยียบย่ำอาณาจักรแห่งนี้เอาไว้ใต้เท้าพวกมัน
แต่ความจริงแล้ว…สิ่งมีชีวิตจากแดนเทียนหยวนไม่ได้มาเพื่อปกครองที่แห่งนี้
พวกเขามาเพื่อฆ่าเท่านั้น!
พวกเขาต้องการจะสังหารทุกชีวิตบนอาณาจักรแห่งนี้ และย้อมทุกหนแห่งด้วยเลือด!
ควับ ควับ ควับ!
เขากวัดแกว่งเคียวสีดำในมือไปมาด้วยสีหน้าเฉยเมย สังหารสิ่งมีชีวิตไปจำนวนมากจนเลือดหลั่งรินรวมกันกลายเป็นธารโลหิตทั่วทุกมุมของอาณาจักรโบราณ
“ได้โปรด ปล่อยลูกของข้าไปเถิด! เขา…เขาเพิ่งจะเกิด ยังไม่ทันจะลืมตาดูโลกเสียด้วยซ้ำ!”
หญิงสาววัยกลางคุกเข่าลงบนพื้นขณะตระกองกอดทารก นางก้มหัวให้เหลิงเจี้ยนอ้อนวอนขอความเมตตา หวังว่าเหลิงเจี้ยนจะยอมปล่อยทารกในอ้อมแขนของนางไป
“ไม่มีอะไรให้ลืมตาดูแล้ว”
เหลิงเจี้ยนตวัดเคียวในมือตัดหัวปลิดชีพหญิงวัยกลางคนและทารกในอ้อมแขน
“ที่แห่งนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการนองเลือด!”
เขากล่าวออกมาอย่างเย็นชา ก่อนเริ่มออกไปฆ่าสังหารภายนอก!
…
“อะไรกัน! มาเร็วกว่าที่คาดไว้มาก!”
“สิ่งมีชีวิตจากอาณาจักรเทียนหยวนเข้ามาแล้ว!”
ในตอนนั้นเอง ยอดฝีมือจากทุกหนแห่งก็รับรู้ถึงการแจ้งเตือนจากเจตจำนงฟ้าดินได้ มีสิ่งมีชีวิตจากอาณาจักรเทียนหยวนเข้ามายังอาณาจักรแห่งนี้แล้ว!
พวกเขาต่างตกอยู่ในความสับสนวุ่นวาย คาดไม่ถึงว่าสิ่งมีชีวิตจากอาณาจักรเทียนหยวนจะมาเร็วถึงเพียงนี้!
ก่อนหน้านี้ เมื่อเจตจำนงฟ้าดินได้แจ้งเตือนเป็นครั้งแรก พวกเขารู้สึกว่ายังมีเวลาเตรียมตัวอีกสักพักใหญ่ พลังจากฟ้าดินสามารถสะกัดกั้นสิ่งมีชีวิตจากอาณาจักรเทียนหยวนได้ช่วงหนึ่ง
ทว่าสิ่งมีชีวิตจากอาณาจักรเทียนหยวนนั้นน่ากลัวและแข็งแกร่งเกินว่าที่คาด พวกเขาใช้เวลาเข้ามายังอาณาจักรแห่งนี้รวดเร็วกว่าที่คิดเอาไว้มาก
สิ่งนี้ทำให้พวกเขาล้วนแต่กระสับกระส่าย
เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้คนในอาณาจักรแห่งนี้เกิดความตื่นตระหนัก ในตอนนี้พวกเขาจึงยังไม่ได้เผยแพร่เรื่องราวของอาณาจักรเทียนหยวนให้ทุกคนทราบกัน
เดิมทีพวกเขาวางแผนจะค่อย ๆ แง้มเรื่องราวออกมาทีละน้อย เพื่อให้สิ่งมีชีวิตบนอาณาจักรแห่งนี้ได้เตรียมตัวพร้อม
ทว่าในตอนนี้จะเตรียมตัวอะไรก็ไม่ทันแล้ว!
สิ่งมีชีวิตจากอาณาจักรเทียนหยวนได้มาถึงแล้ว!