รู้สึกตัวอีกที-ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว-原來我是世外高人 - บทที่ 481 ในเมื่อรู้จักกองกำลังฮวงเฉวียน เหตุใดจึงยังไม่ปล่อยอุ้งเท้าสุนัขของเจ้าอีก!
- Home
- รู้สึกตัวอีกที-ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว-原來我是世外高人
- บทที่ 481 ในเมื่อรู้จักกองกำลังฮวงเฉวียน เหตุใดจึงยังไม่ปล่อยอุ้งเท้าสุนัขของเจ้าอีก!
บทที่ 481 ในเมื่อรู้จักกองกำลังฮวงเฉวียน เหตุใดจึงยังไม่ปล่อยอุ้งเท้าสุนัขของเจ้าอีก!
ผู้เฒ่าอมตะออกจากหุบเหวไร้ก้นบึ้ง
เขาสามารถเรียกญาณศาสตราของดาบมารให้มาหาเขาที่นี่ได้
แต่เขาก็ไม่ได้ทำเช่นนั้น
เขากล่าวไปแล้วว่าต้องการจะมอบของขวัญการพบหน้าให้กับดาบมารอมตะ และตอนนี้เขาก็กำลังจะเตรียมของขวัญสำหรับดาบมารอมตะ
เพียงหนึ่งก้าวก็เคลื่อนผ่านหลายแสนลี้ เขาเดินทางด้วยความเร็วที่มากเสียยิ่งกว่าแสง มาถึงบริเวณที่สัมผัสได้ว่ามีผู้แข็งแกร่งอยู่จำนวนมากมาย
“อ๊ะ ใช่แล้ว หลังจากที่ดาบมารมาแล้ว ข้าจะให้มันได้ดื่มเลือดของสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งเหล่านี้…”
ผู้เฒ่าอมตะยิ้มออกมา นี่จะเป็นของขวัญที่เขาเตรียมไว้ให้กับดาบมารอมตะเมื่อพบหน้า
“เจ้าเป็นใคร? รีบออกไปจากดินแดนของพวกข้าเสีย!”
ในตอนนั้นเองก็มีเสียงคนดังตวาดมาจากด้านล่าง ในน้ำเสียงมีความโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก
เขาจะไม่โกรธได้อย่างไร!?
ในฐานะตระกูลจักรพรรดิโบราณ เขาจะสามารถปล่อยใครก็ไม่รู้มาหยุดอยู่เหนือดินแดนของพวกเขาได้อย่างไร?
นี่นับเป็นการยั่วยุพวกเขาครั้งใหญ่อย่างไม่ต้องสงสัย!
“รนหาที่ตาย เจ้ากล้าจะหยุดอยู่เหนือดินแดนของตระกูลจักรพรรดิโบราณตามใจชอบอย่างนั้นหรือ!?”
คนผู้นั้นกล่าวออกมาเสียงเย็นเยียบ ร่างกายของเขาขยับไหว พริบตาเดียวก็โผล่ไปอยู่บนฟ้า เผชิญหน้ากับผู้เฒ่าอมตะด้วยจิตสังหารในแววตา
“มีที่ใดในอาณาจักรแห่งนี้ที่ข้าจะไม่สามารถหยุดอยู่ด้านบนได้กัน?”
ผู้เฒ่าอมตะหัวเราะเบา ๆ พร้อมส่ายหน้า ความเหยียดหยามปรากฏขึ้นในแววตาของเขา
แตกต่างไปจากวันวาน ในตอนนี้เขายังจะไปที่แห่งใดไม่ได้อีก?
เขาแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก เขาได้บรรลุขอบเขตเทียนตี้นานแล้ว ทั้งยังเหนือยิ่งกว่าเทียนตี้ทั่วไปอย่างมาก
ทว่าบนร่างของเขาตอนนี้ไม่มีปราณของเทียนตี้อยู่ มีเพียงปราณในขอบเขตจักรพรรดิทั่วไปเท่านั้น
ตัวของเขานั้นไปเปลี่ยนไปแล้ว เขากลายเป็นคนของอาณาจักรม่อเยวียนอย่างสมบูรณ์ ไม่นับว่าเป็นสิ่งมีชีวิตในอาณาจักรแห่งนี้ เป็นสิ่งมีชีวิตภายนอกไปแล้ว
หากเขาปลดปล่อยลมปราณของตัวเองออกมาอย่างเต็มที เขาจะถูกเจตจำนงฟ้าดินของอาณาจักรแห่งนี้โจมตี
เขาไม่ได้กลัว แต่รู้สึกว่ามันจะต้องยุ่งยากไม่น้อย ดังนั้นเขาถึงระงับปราณของตัวเองลงไปบางส่วน ไม่ปล่อยออกมาอย่างเต็มที่
“เหอะ เจ้าช่างอวดโอ้เสียจริง!”
คนผู้นั้นยิ้มเย้ย “เจ้าคิดหรือว่าหลังจากกลายเป็นจักรพรรดิแล้วจะสามารถทำสิ่งใดก็ได้ตามต้องการอย่างนั้นหรือ? ทั้งแก่และโง่งมเสียจริง หากเป็นสถานที่อื่นเจ้าคงทำเช่นนี้ได้ แต่ทว่าเจ้ามาผิดที่แล้ว นี่ไม่ใช่สถานที่ที่จักรพรรดิตัวน้อยอย่างเจ้าจะสามารถทำสิ่งใดก็ได้!”
เขาเริ่มลงมือ พลังของเขาแข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่ง ทรงพลังมหาศาล เปี่ยมด้วยลมปราณของจักรพรรดิ เขาเป็นถึงตี้หวงผู้หนึ่ง!
แต่ทว่าต่อหน้าผู้เฒ่าอมตะ เขานับว่าอ่อนแอจนไม่มีค่าอันใดให้เอ่ยถึงได้เลย
ผู้เฒ่าอมตะยื่นมือข้างหนึ่งออกมา พลังอันแข็งแกร่งถูกส่งออกมาพุ่งตรงเข้าคว้าจับคอของคนผู้นั้นเอาไว้แน่น ก่อนจะลากเขาไปด้านหน้าทันที
มารดามันเถอะ!
นี่…นี่ชายผู้นี้น่ากลัวถึงเพียงนี้เชียวหรือ!?
คนผู้นั้นตกใจกลัว ภายในใจร่ำร้องว่าเหตุใดตนเองถึงโชคร้ายนัก วันดี ๆ ของเขายังผ่านมาไม่ถึงสองวันเสียด้วยซ้ำ เหตุใดจึงต้องมาพบกับผู้ที่แข็งแกร่งน่ากลัวถึงเพียงนี้ด้วย?
มารดามันเถอะ หากรู้ตั้งแต่แรก เขาคงไม่ออกมาทำอะไรเช่นนี้ หากต้องการจะมาหยุดอยู่เหนือดินแดนของตระกูลเขาก็เชิญ เขาจะไม่มาทำอะไรเช่นนี้แน่!
เขาจวนเจียนจะร้องไห้ออกมา ภายในใจยังกล่าวว่าคนผู้นี้แข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่ง แต่กลับจงใจระงับขอบเขตตนเองเอาไว้ ทำให้เขาเข้าใจความแข็งแกร่งที่แท้จริงของคนผู้นี้ผิดไป…
บัดซบ!
นี่เป็นหลุมขนาดใหญ่!
ภายในใจของเขาคล้ายเต็มไปด้วยรสขม เขายังมีวันดี ๆ ไม่ถึงสองวันเสียด้วยซ้ำ!
เดี๋ยวนะ…
หลี่จิ่วเต้าเป็นคนส่งคนผู้นี้มาใช่หรือไม่?
อยู่ ๆ จะมีตัวตนอันทรงพลังและน่าหวาดเกรงเช่นนี้ปรากฏขึ้นมาได้อย่างไร เขานึกถึงหลี่จิ่วเต้าขึ้นมาในทันที
เขาขัดแย้งกับหลี่จิ่วเต้าทีไรก็ไม่เคยได้รับสิ่งดี ๆ กลับมา แม้กระทั่งกองกำลังฮวงเฉวียนก็ยังไม่ได้รับอะไรดี ๆ กลับมา มีแต่จะยิ่งเลวร้ายลงไปเรื่อย ๆ
ถูกต้องแล้ว เขาไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นบรรพชนตระกูลหาน!
นี่คือดินแดนแห่งใหม่ของตระกูลหาน
เมื่อกล่าวถึงเรื่องนี้แล้ว ก็ต้องพูดถึงกองกำลังฮวงเฉวียนที่แสนจะหน้าเลือด
เขาตามหากองกำลังฮวงเฉวียนเพื่อจ้างวานสังหารหลี่จิ่วเต้า ผลที่ออกมาคือไม่อาจแตะต้องผมสักเส้นของหลี่จิ่วเต้าได้ แต่เขากลับถูกกองกำลังฮวงเฉวียนบีบให้ขายตระกูลหานทั้งตระกูลให้กับพวกมัน ต้องกลายเป็นทาสรับใช้กองกำลังฮวงเฉวียนไปตลอดกาล!
ประเด็นสำคัญคือ หัวหน้าตำหนักย่อยของกองกำลังฮวงเฉวียนกลับบอกว่าตระกูลหานมีคนมากเกินไป หากอยู่ในตำหนักสาขาก็ง่ายต่อการถูกเปิดเผย จึงไม่ให้พวกเขาอยู่ในตำหนักสาขา แต่บอกให้พวกเขาออกไปอยู่ด้านนอกแทน!
นี่มันอะไรกัน!
ด้านนอกอันตรายเป็นอย่างยิ่ง เห็นได้ชัดว่ากองกำลังฮวงเฉวียนไม่ใส่กับความเป็นตายของพวกเขา!
ตำหนักย่อยแห่งนั้นของกองกำลังฮวงเฉวียนซ่อนเร้นอย่างลึกลับ ยากที่จะหาพบ กระทั่งพวกเขาเองยังไม่รู้ถึงสถานที่ตั้งของตำหนักย่อยกองกำลังฮวงเฉวียนอย่างเจาะจงเลยด้วยซ้ำ!
ด้านนอกแตกต่างออกไป
เมื่ออยู่ด้านนอก หากหลี่จิ่วเต้าต้องการจะตามหาพวกเขา หลี่จิ่วเต้าเพียงแค่ให้กองกำลังจักรพรรดิโบราณอื่น ๆ ออกตามหา จะต้องพบตัวพวกเขาอย่างแน่นอน
ไม่ว่าพวกเขาจะปกปิดซ่อนเร้นอย่างไรก็ไม่สามารถกล่าวได้ว่าพวกเขาจะรอดพ้นจากการค้นหาของกองกำลังจักรพรรดิโบราณเหล่านี้
กองกำลังฮวงเฉวียนให้พวกเขาอยู่ด้านนอก แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าไม่ต้องการจะดูแลอะไรพวกเขานัก ทั้งยังไม่ต้องการจะข้องเกี่ยวกับหลี่จิ่วเต้าอีก จึงตั้งใจส่งพวกเขาให้หลี่จิ่วเต้าเพื่อขจัดความโกรธของหลี่จิ่วเต้าให้หยุดลงที่นี่
สิ่งที่เลวร้ายและหน้าเลือดที่สุดก็คือกองกำลังฮวงเฉวียนเลือกจะเก็บรุ่นเยาว์ที่มีความสามารถของตระกูลหานไว้ในตำหนักสาขา เท่ากับเป็นการยึดรากฐานตระกูลหาน!
หากไม่มีรุ่นเยาว์ที่มีความสามารถ ตระกูลหานของเขาก็ตายลงไปแล้วหลงเหลือเพียงชื่อเท่านั้น!
หัวหน้าตำหนักย่อยฉลาดเฉลียวเป็นอย่างมาก นี่เป็นการฆ่านกสองตัวด้วยก้อนหินก้อนเดียว เนื่องจากการทำเช่นนี้สามารถทำให้ความโกรธของหลี่จิ่วเต้าสงบลงได้!
ทว่าเวลาล่วงผ่านมานาน หลี่จิ่วเต้ากับกองกำลังจักรพรรดิโบราณกลับยังคงไม่มีการเคลื่อนไหวใด ทำให้เขาเข้าใจว่าเรื่องราวทั้งหมดจะจบลงแล้ว หลี่จิ่วเต้าไม่ได้ต้องการจะตามล่าสังหารพวกเขาจนถึงที่สุด
แต่ผู้ใดจะทราบว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเพียงการเข้าใจผิดเอง!
คนของหลี่จิ่วเต้าพบตัวพวกเขาแล้ว!
“หลี่จิ่วเต้า ให้โอกาสพวกเราอีกสักครั้งได้หรือไม่!”
จักรพรรดิหานกล่าวออกมาทั้งน้ำตา
“อะไรคือหลี่จิ่วเต้า หลี่จิ่วเต้าคือผู้ใด?”
ผู้เฒ่าอมตะขมวดคิ้ว เขาไม่รู้จักหลี่จิ่วเต้า ไม่เคยได้ยินชื่อของคนผู้นี้เสียด้วยซ้ำ
“เอ๊ะ?”
จักรพรรดิหานงงงวย คนผู้นี้ไม่รู้จักหลี่จิ่วเต้าอย่างนั้นหรือ?
ทันใดนั้นเขาก็ดีใจอย่างบ้าคลั่ง ไม่ใช่คนที่หลี่จิ่วเต้าส่งมาก็นับว่าเป็นเรื่องง่ายแล้ว!
“น้องชาย เจ้า…รู้จักกองกำลังฮวงเฉวียนหรือไม่? ข้าจะบอกความจริงให้ เบื้องหลังของพวกเราคือกองกำลังฮวงเฉวียน ถ้าหากเจ้าหยุดเพียงเท่านี้ ข้าก็จะสามารถทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้! พวกเราเพียงแค่แยกย้ายไปตามทางของตนเอง อย่าหาว่าข้าไม่เตือน ความพิโรธของกองกำลังฮวงเฉวียนไม่ใช่สิ่งที่เจ้าจะแบกรับได้!”
ภายในใจของจักรพรรดิหานผ่อนคลายลง ทั้งยังเรียกขานผู้เฒ่าอมตะว่าเป็นน้องชาย
กองกำลังฮวงเฉวียนมีชื่อเสียงเลื่องลือ ผู้เฒ่าอมตะเองก็ทรงพลังน่าหวาดเกรงเป็นอย่างมาก จะต้องไม่ใช่สิ่งมีชีวิตในยุคปัจจุบันอย่างแน่นอน อีกฝ่ายน่าจะเคยได้ยินชื่อเสียงของกองกำลังฮวงเฉวียนมาก่อน
เขาไม่เชื่อว่าผู้เฒ่าอมตะจะไม่เกรงกลัว อย่างไรเสียกองกำลังฮวงเฉวียนก็น่าสะพรึงกลัวเกินไป ผู้ใดตกเป็นเป้าหมายของกองกำลังฮวงเฉวียนล้วนไม่สามารถหลบหนีได้
อ๊ะ แน่นอนว่ามีข้อยกเว้น
ข้อยกเว้นนั่นคือหลี่จิ่วเต้า!
แต่ไม่จำเป็นต้องกังวล ผู้เฒ่าอมตะไม่รู้จักกับหลี่จิ่วเต้า อีกทั้งกองกำลังฮวงเฉวียนก็น่าสะพรึงกลัวจริง ๆ!
พอจะพูดได้ว่า การเข้าร่วมกองกำลังฮวงเฉวียนก็มีประโยชน์อยู่บ้าง
จักรพรรดิหานลอบยิ้มในใจ กล่าวกับตัวเองว่าคราวนี้มีโอกาสเกินครึ่งที่จะไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้น!
“น้องชาย?”
เมื่อได้ยินจักรพรรดิหานเรียกเขาเช่นนั้น ทั้งยังกล่าวถึงกองกำลังฮวงเฉวียน ใบหน้าของผู้เฒ่าอมตะก็แปรเปลี่ยน
เขาย่อมรู้จักกองกำลังฮวงเฉวียน ทั้งยังรู้จักอย่างลึกซึ้งอีกด้วย!
ครั้งหนึ่งเมื่อเขายังอยู่ในอาณาจักรแห่งนี้ เขาได้สังหารผู้คนไปไม่น้อย ทำให้ผูกความแค้นกับคนจำนวนมาก จึงมีผู้จ้างวานกองกำลังฮวงเฉวียนมาเพื่อตามล่าสังหารเขา
เขาต้องดิ้นรนออกไปภายนอกอาณาจักร ถึงเช่นนั้นก็ยังคงถูกกองกำลังฮวงเฉวียนส่วนหนึ่งไล่สังหาร
กองกำลังฮวงเฉวียนนั้นน่าสะพรึงกลัวอย่างแท้จริง เขาเกือบจะตายลงหลายครั้ง จึงไร้ซึ่งทางเลือกอื่นนอกจากต้องออกจากอาณาจักรแห่งนี้ไปดิ้นรนภายนอก
“กองกำลังฮวงเฉวียนอย่างนั้นหรือ?”
ผู้เฒ่าอมตะมองไปยังจักรพรรดิหานด้วยสีหน้าแปลกประหลาด
จักรพรรดิหานช่างทำในสิ่งที่ไม่สมควรทำเสียจริง เขาเกลียดชังคับแค้นกองกำลังฮวงเฉวียนเป็นอย่างยิ่ง แต่จักรพรรดิหานผู้นี้ถึงกลับหยิบเอากองกำลังฮวงเฉวียนมาข่มขู่เขา!
เหอะเหอะ ถึงก่อนหน้านี้เขาจะเกรงกลัวกองกำลังฮวงเฉวียน ทว่าตอนนี้…เขาไม่กลัวแม้แต่น้อย!
ตอนนี้ขอบเขตของเขาไม่เพียงแต่จะสูงเป็นอย่างมาก เบื้องหลังของเขาก็ยังมีอาณาจักรม่อเยวียน เขาต้องกลัวสิ่งใด!
แม้ว่าเขาจะรู้ว่าเบื้องหลังของกองกำลังฮวงเฉวียนอย่างอาณาจักรฮวงเฉวียนจะทรงพลังเป็นอย่างมาก เขาก็ยังไม่กลัว
อาณาจักรม่อเยวียนเองก็ไม่ได้อ่อนแอไปกว่าอาณาจักรฮวงเฉวียน!
“เฮ้ น้องชาย ดูเหมือนเจ้าจะรู้จักกองกำลังฮวงเฉวียน”
จักรพรรดิหานหัวเราะ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นอย่างกะทันหัน แล้วตวาดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ในเมื่อรู้จักกองกำลังฮวงเฉวียน เหตุใดจึงยังไม่ปล่อยอุ้งเท้าสุนัขของเจ้าอีก! เจ้าคิดว่าชีวิตของตนเองยืนยาวเกินไปหรืออย่างไร?”
เขาเห็นสีหน้าแปลกประหลาดของผู้เฒ่าอมตะ จึงคิดไปว่าผู้เฒ่าอมตะเกรงกลัวต่อกองกำลังฮวงเฉวียน
เมื่อคิดทบทวนดูแล้ว ผู้ที่รู้จักกองกำลังฮวงเฉวียน ไม่เกิดความรู้สึกหวาดกลัวได้อย่างไร
ตอนนั้นเอง ภายในใจของเขาเต็มไปด้วยความั่นใจเป็นอย่างยิ่ง ไม่มีท่าทียอมประนีประนอมอีกต่อไป ทั้งยังผยองเป็นอย่างยิ่ง
‘เป็นครั้งแรกที่ข้ารู้สึกดีที่ได้เข้าร่วมกองกำลังฮวงเฉวียน!’
จักรพรรดิหานคิดขึ้นมาอย่างดีใจสุดชีวิต