รู้สึกตัวอีกที-ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว-原來我是世外高人 - บทที่ 791 เงาดำยกโลง กำราบลงได้ทั้งหมด
- Home
- รู้สึกตัวอีกที-ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว-原來我是世外高人
- บทที่ 791 เงาดำยกโลง กำราบลงได้ทั้งหมด
บทที่ 791 เงาดำยกโลง กำราบลงได้ทั้งหมด!
เสียงปี่สั่วน่าดังขึ้น ดุเดือดเลือดพล่านไปทั้งพื้นที่!
นี่มันเครื่องดนตรีประเภทใดกัน น่ากลัวเกินไปแล้ว เสียงที่ถูกเป่าออกมาทิ่มแทงตรงเข้าไปในวิญญาณ!
เสียงของขลุ่ยชะงักงัน เขาไม่อาจบรรเลงต่อ ยากจะตั้งสมาธิ
อีกด้าน กระดิ่งสัมฤทธิ์ในมือบรรพจารย์อวิ๋นหยุดส่งเสียงในพริบตานั้น รอยร้าวเล็ก ๆ ปรากฏ ก่อนจะคลี่แผ่ออกไปประดุจใยแมงมุม เห็นได้ชัดว่าเสียงปี่สั่วน่านั้นมิได้มีเพื่อจู่โจมวิญญาณเพียงอย่างเดียว
บรรพจารย์โม่ บรรพจารย์เถื่อนต่างผวาในใจ พยัคฆ์ขาว นกฉงหมิง มังกรฟ้าห้าขาขนลุกขนชันไปทั้งตัว เสียงของปี่สั่วน่าทะลุทะลวงได้น่าพรั่นพรึงยิ่งนัก!
“มีลูกไม้เช่นนี้ด้วยหรือ?!”
สีหน้าต้นหลิวเปลี่ยนไปเล็กน้อยเช่นกัน มันคิดไม่ถึงเลย เสียงของปี่สั่วน่าเป็นเอกลักษณ์ยิ่งนัก น่าสะท้านใจเป็นที่สุด!
ก้อนหินเป่าต่อไปด้วยความดื่มด่ำ ลำนำส่งวิญญาณค่อย ๆ ดังออกมาด้วยการบรรเลงจากมัน
“ปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไปไม่ได้! ฆ่า!”
พยัคฆ์ขาวคำราม ไม่มีทางตายง่าย ๆ เยี่ยงนี้ หัวเสือที่ถูกบั่นขาดงอกขึ้นใหม่
มันกระโจนขึ้นสูง บุกเข้าไปตนแรก เสียงปี่สั่วน่าสยดสยองตั้งแต่เพิ่งเริ่มบรรเลง จะปล่อยให้ก้อนหินเป่าต่อไปได้อย่างไร!
ขืนเป็นเช่นนั้นต้องเกิดเรื่องใหญ่แน่!
“ฆ่า!”
นกฉงหมิง มังกรฟ้าห้าขา บรรพจารย์โม่ บรรพจารย์อวิ๋น บรรพจารย์เถื่อน และบรรพจารย์ขลุ่ยตระหนักถึงเรื่องนี้เช่นกัน พวกเขารีบตามเข้าไป บุกสังหารไปข้างหน้า
“ลุยด้วยกันเลย!”
สายตาผู้นำตระกูลเทียนทอประกายเหี้ยมเกรียม รับรู้ถึงภัยคุกคามใหญ่หลวงจากลำนำส่งวิญญาณของก้อนหิน เขาและผู้เป็นนิรันดร์อีกห้าตนบุกเข้าไปเช่นกัน
จะเห็นได้ว่า พวกเขาไม่เหมือนกับกำลังรบระดับผู้เป็นนิรันดร์ตนอื่น ตามตัวพวกเขามีหมอกดำรายล้อม พลังมืดมิดอันน่ากลัวคลี่แผ่ ต้นหลิวเห็นดังนั้นชักหนักอึ้งในใจ
“เกิด… อะไรขึ้น!”
“ยกโลงศพมานี่ได้จริง ๆ หรือ?!”
สีหน้าพวกเขาเปลี่ยนไปอย่างมาก คล้อยตามลำนำส่งวิญญาณที่ดังออกไป ฟ้าดินพลันมืดมัว บรรยากาศโศกาขจรขจาย ปรากฏการณ์ประหลาดเกิดขึ้นภาพแล้วภาพเล่า
กระดาษเงินกระดาษทองโปรยปรายลงจากท้องฟ้า แยกไม่ออกว่าเป็นของจริงหรือภาพมายา โลงศพมากมายปรากฏ แต่ละโลงล้วนมีเงาดำสี่ร่างคอยยก ราวกับข้ามผ่านกาลเวลาอันยาวนานเพื่อมาฌาปนกิจศพให้พวกตน!
เส้นขนพากันตั้งชัน ก้อนหินผู้นี้มีภูมิหลังเช่นไร เหตุใดถึงน่าพรั่นพรึงถึงเพียงนี้?!
เทียบกับคราวก่อน ก้อนหินในเวลานี้น่ากลัวขึ้นตั้งไม่รู้กี่เท่า
ตู้มตู้มตู้ม!
พวกเขาระเบิดพลัง ไม่มีทางยอมจำนนง่าย ๆ ต่างคนต่างสำแดงฤทธิ์เดช บุกตรงเข้าไปหมายสลายปรากฏการณ์เงาดำยกโลงนี้ และกำราบก้อนหิน!
หนึ่งโลงมีเงาดำยกอยู่สี่ร่าง กำลังก้าวไปหากำลังรบระดับผู้เป็นนิรันดร์เหล่านั้น
“ไสหัวไปเสีย!”
พยัคฆ์ขาวคำรามกราดเกรี้ยว พลังในกายปะทุออกมาเต็มพิกัด กรงเล็บข้างหนึ่งตวัดออกไป ฟ้าดินสั่นสะท้านตอบรับ กฎระเบียบต่าง ๆ แหลกสลายไปตาม ๆ กัน!
ทว่า เงาดำทั้งสี่ผู้ยกโลงโจมตีออกไป กำราบพยัคฆ์ขาวได้ในพริบตา ซ้ำยังโยนพยัคฆ์ขาวเข้าไปในโลงศพพร้อมปิดฝา
นกฉงหมิงกระพือทะเลเพลิงขึ้นท่วมท้นนภา ลำพังสะเก็ดไฟเล็ก ๆ ก็สามารถแผดเผาท้องฟ้าจนสิ้นซาก ทว่า ทั้งหมดนั่นล้วนสูญเปล่า เงาดำทั้งสี่ผู้ยกโลงประชิดตัวนกฉงหมิง โยนนกฉงหมิงเข้าไปในโลงศพ
ตู้ม!
มังกรฟ้าห้าขาว่ายเวียนไปตามชั้นเมฆา อ้าปากพ่นอสนีบาต ผสานกันเป็นตาข่ายสายฟ้า ถล่มใส่โลงศพที่เข้ามาใกล้มัน
แต่นั่นก็เปล่าประโยชน์ เงาดำยกโลงเข้ามาใกล้ ตั้งรับอสนีบาตที่ถล่มลงมาและปรี่ไปหามังกรฟ้าห้าขา
มังกรฟ้าห้าขาหันหลังคิดหนี สุดท้ายกลับถูกจับได้และโยนลงไปในโลงศพประหนึ่งไส้เดือนตัวหนึ่ง!
บรรพจารย์โม่ บรรพจารย์อวิ๋น บรรพจารย์เถื่อน บรรพจารย์ขลุ่ย และกำลังรบระดับผู้เป็นนิรันดร์ทั้งหกจากตระกูลเทียนก็ประสบพบเจอกับเหตุการณ์เดียวกัน
พวกเขาสำแดงมหาวิชามากมาย อีกทั้งเรียกยอดศาสตราออกมาหลายชิ้น ทว่าก็เปล่าประโยชน์ ทั้งหมดล้วนถูกโยนลงไปในโลงศพ!
“อะไรกัน!”
“นี่มันเป็นไปได้อย่างไร?!”
สิ่งมีชีวิตในชั้นเก้าต่างผวาเกินบรรยาย พวกเขาคอยจับตาดูสถานการณ์ด้านนี้กันทั้งหมด หลังได้เห็นผลลัพธ์เช่นนี้ พวกเขาตกใจแทบตาย!
กำลับรบระดับผู้เป็นนิรันดร์สิบสามตนเชียวนะ ถูกกำราบด้วยลำนำเพียงบทเดียวหรือ?!
ยากจะเชื่อ รู้สึกว่าเป็นเพียงเรื่องเหลวไหล กำลังรบผู้เป็นนิรันดร์แต่ละตนล้วนไร้เทียมทานในใต้หล้า กวาดล้างได้ทุกสิ่ง แต่กลับเปราะบางสู้ลำนำบทเดียวไม่ได้ ถูกโยนเข้าไปในโลงศพได้อย่างง่ายดายเชียวหรือ?!
ความศรัทธาในใจพังครืน รู้สึกกดดันเหลือแสน เหตุใดถึงเป็นเช่นนี้ ระดับผู้เป็นนิรันดร์ตกอยู่ในสภาพอนาถาเยี่ยงนี้ได้ด้วยหรือ?!
มีเสียงดังออกจากโลงศพเหล่านั้น กำลังรบระดับผู้เป็นนิรันดร์ดีดดิ้นไปมาสุดชีวิตอยู่ด้านใน หมายจะทลายโลงศพออกมา
ทว่า สุ้มเสียงนั้นหายไปในไม่ช้า
แต่ละโลงต่างมีกฎระเบียบเวียนวน พลังสูงส่งโถมทับปราบปรามพวกเขา จนไม่อาจขัดขืน
“ไม่มีประโยชน์ ทั้งหมดนี้ล้วนไม่ส่งผลอันใด พวกเราก้าวสู่ขอบเขตนิรันดร์แล้ว ไม่แตกไม่ดับ พวกเจ้าทำอะไรพวกเราไม่ได้หรอก!”
เสียงคำรามกราดเกรี้ยวของผู้นำตระกูลเทียนดังออกจากโลงศพหนึ่ง ขอบเขตนิรันดร์ เป็นขอบเขตซึ่งไร้เทียมทาน ต่อให้โลกาวินาศ พวกเขาก็ไม่มีวันตาย
ทว่าไม่นาน เขาก็ต้องตกตะลึง ผู้เป็นนิรันดร์ก็ถูกปลิดชีพได้เหมือนกัน!
เสียงโหยหวนดังออกจากโลงศพข้างเคียง ภายในนั้นมีการเข่นฆ่าเกิดขึ้น กฎระเบียบบางอย่างซัดสาดออกจากลำนำส่งวิญญาณ แทรกซึมเข้าไปในโลง ผู้เป็นนิรันดร์หรือ ไม่แตกไม่ดับหรือ ล้วนถูกบดขยี้จนพินาศในพริบตา!
กฎระเบียบนั้นสะท้านโลกันตร์ เหนือชั้นกว่าขอบเขตความเข้าใจไปมาก ผู้เป็นนิรันดร์ไม่แตกไม่ดับก็จริง ทว่า เมื่ออยู่ภายใต้กฎระเบียบนี้ แม้แต่ผู้เป็นนิรันดร์ในโลงก็ต้องถูกสังหาร ตายไปอย่างสมบูรณ์!
เงียบสงัด!
สถานที่แห่งนั้นเงียบสงัด ไม่เหลือสุ้มเสียงอื่นใด!
ในโลงศพที่เหลือก็ไร้เสียงอื่นใด ผู้นำตระกูลเทียนหุบปากทันควัน ผู้เป็นนิรันดร์ที่ถูกฆ่าเป็นคนของพวกเขาตระกูลเทียน คนผู้นั้นไม่เหลือร่องรอยแม้แต่น้อย ราวกับไม่เคยปรากฏตัวในใต้หล้านี้มาก่อน!
แม้กระทั่งความทรงจำเกี่ยวกับผู้เป็นนิรันดร์คนนั้นก็ค่อย ๆ หายไปจากสมองของเขา!
นี่คือการตายอย่างแท้จริง ไม่เหลือความหวังฟื้นขึ้นมาอีก!
ผู้เป็นนิรันดร์ทั้งหมดล้วนตกตะลึง ว่าง่ายขึ้นมาถ้วนหน้า เดิมคิดว่าพวกตนไม่มีวันตาย บัดนี้ความจองหองไม่หลงเหลือ พวกเขาตายได้ ก้อนหินมีพลังพอจะฆ่าพวกเขา!
“คนของตระกูลเทียน ฆ่าให้หมด…”
ต้นหลิวเอ่ยเสียงเบา
“อย่านะ! ขอโอกาสพวกเราสักครั้งเถิด!”
“ขอร้องล่ะ!”
หลังผู้เป็นนิรันดร์ตระกูลเทียนได้ยินเสียงของต้นหลิวก็รีบร่ำไห้ร้องขอความเมตตา พวกเขาไม่อยากตาย มิฉะนั้น พวกเขาก็คงไม่เข้าร่วมกับความมืดมิด
“เป็นไปไม่ได้!”
ต้นหลิวเอ่ยด้วยสุ้มเสียงเย็นชา “หากคราวก่อนพวกเจ้ารู้จักรามือ บางทีข้าอาจปล่อยพวกเจ้าไป แต่พวกเจ้าไม่ได้เป็นเช่นนั้น! วันนี้ ตระกูลเทียนจักไม่เหลือแม้แต่ชื่อ!”
ลำนำส่งวิญญาณปะทุ กฎระเบียบสูงส่งปรากฏขึ้นในโลงศพอีกห้าโลง ปลิดชีพผู้เป็นนิรันดร์ตระกูลเทียนในนั้น
พยัคฆ์ขาวและผู้เป็นนิรันดร์ตนอื่นเงียบไม่พูดจา กลัวภัยจะถึงตัว ถูกสังหารไปด้วย
ฟึ่บ!
เวลานั้นเอง ดาบโลหิตเล่มใหญ่เหินเข้ามาจากฟากฟ้า ฟันเข้าใส่ก้อนหิน
พลังของลำนำส่งวิญญาณถูกดาบเล่มนี้ทลาย หมอกดำห้อมล้อมแผ่ขยายออกไปในใต้หล้า ความมืดมิดกลายเป็นเฉดสีหลักเพียงหนึ่งเดียว!
ก้อนหินตกตะลึง รีบเอี้ยวตัวหลบ มันระแวงขึ้นมาในใจ รู้ว่าไม่มีทางต้านทานดาบเล่มนี้ได้!
มันตอบสนองได้ไวยิ่ง แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่อาจหลบพ้นทั้งหมด ครึ่งร่างถูกฟันขาด ซ้ำยังมีพลังมืดมิดแผ่ขยายออกไปตามตัวอย่างรวดเร็ว หมายจะดูดกลืนมันเข้าไป!
ต้นหลิวลงมือ ก้านหลิวหนึ่งพลิ้วไหวอาบไปด้วยแสงสีเขียวเข้มข้น ทาบทับลงบนตัวก้อนหิน ขับไล่พลังมืดมิดออกไป พร้อมช่วยฟื้นสภาพให้มัน
“ฮ่า ๆ ข้าว่าแล้วว่าพวกเจ้าคือฝูงตั๊กแตนหลังสารทฤดู โลดเต้นได้ไม่นานหรอก! คราวนี้ข้าจะคอยดูว่าพวกเจ้าจะตายหรือไม่!”
ผู้นำตระกูลเทียนหัวเราะลั่น ทลายฝาโลงเหินออกมา
พลังจากลำนำส่งวิญญาณถูกลบล้าง โลงศพจึงสิ้นอำนาจ พวกพยัคฆ์ขาวก็ทลายโลงศพออกมาตาม ๆ กัน
“โอหังนักหรือ! ท่านผู้ยิ่งใหญ่ออกโรงแล้ว พวกเจ้าลองโอหังดูอีกสิ!”
“ฌาปนกิจศพให้เราหรือ! พวกเราต่างหากต้องเป็นฝ่ายฌาปนกิจศพพวกเจ้า!”
ผู้เป็นนิรันดร์ตระกูลเทียนอีกสี่ตนที่เหลือเอ่ยด้วยท่าทางเหี้ยมเกรียม
สายลมหมุนเวียนผลัดเปลี่ยน ก่อนนี้ชะตาของพวกเขายังอยู่ในกำมือของก้อนหินและต้นหลิว บัดนี้กลับตรงกันข้าม ชะตาของก้อนหินและต้นหลิวอยู่ในมือพวกเขา!
ดาบโลหิตออกโรงแล้ว ไม่เห็นหรือว่าก้อนหินยังถูกตัดจนขาดเป็นสองท่อนในดาบเดียว นี่คือความห่างชั้นที่ไม่อาจก้าวข้าม!
อีกด้าน พยัคฆ์ขาวและผู้เป็นนิรันดร์ตนอื่นไม่พูดจา
พวกมันไม่กล้าพูดจาบุ่มบ่าม ยามนี้ ผู้เป็นนิรันดร์ยังถูกสังหารได้ทุกเมื่อ พวกมันไม่เข้าไปยุ่งกับการต่อสู้ในระดับนี้เป็นการดีกว่า
หากเป็นไปได้ พวกมันอยากหนีไปจากที่นี่มากกว่า ที่นี่สยองเกินไป ไม่รู้เลยว่าอาจจบชีวิตลงเมื่อใด
“บอกให้เจ้านายของพวกเจ้าออกมาเสีย!”
เสียงเยียบเย็นของดาบโลหิตดังออกมา มันไม่ได้เก็บต้นหลิวและก้อนหินมาใส่ใจนัก มันให้ความสำคัญกับหลี่จิ่วเต้าผู้อยู่เบื้องหลังต้นหลิวและก้อนหินมากกว่า
สองครั้งแล้ว ที่มันเสียท่าให้กับหลี่จิ่วเต้า มันทนให้เกิดเรื่องเช่นนี้ไม่ได้ หากไม่ใช่ว่ายามนี้ยังไม่ถึงเวลา ร่างจริงของมันคงบุกมาฆ่าหลี่จิ่วเต้านานแล้ว
บัดนี้ ดาบโลหิตมีเพียงเสี้ยวจิตของมันเท่านั้น
“เจ้าไม่มีสิทธิ์!”
ต้นหลิวแค่นเสียงเย็น ลงมือทันที ดาบโลหิตและกระโปรงสีขาวแห่งความตายตัวนั้นเป็นพวกเดียวกันอย่างไม่ต้องสงสัย ไม่มีอันใดต้องพูดกันอีก ทั้งคู่ล้วนเป็นศัตรู!
มันลืมชั่วขณะที่กระโปรงสีขาวแห่งความตายปรากฏออกมาไม่ได้ มันพุ่งเป้าเจาะจงมาที่คุณชาย กล่าวว่าคุณชายคือตัวแปรผิดแผก ต้องถูกกำจัด นี่คือศัตรูที่ไม่ตายไม่ยอมเลิกราแน่นอน!
เวลานั้น มันลอบสาบานกับตนเองว่าจะพัฒนาขึ้นโดยเร็ว เพื่อกำจัดเหล่าศัตรูให้คุณชาย นี่เป็นแรงกระตุ้นให้มันพากเพียรฝึกฝน
“ปากกล้าไม่เบา เช่นนั้นขอข้าวัดหน่อยว่าเจ้ามีปัญญาเพียงใด!”
ดาบโลหิตบุกเข้า ปราศจากความดูแคลน มันสัมผัสได้ว่าต้นหลิวในตอนนี้ไม่เหมือนอดีต ไม่ใช่ตัวตนต่ำต้อยไร้น้ำยาอีกแล้ว
“ไปสู้กันนอกอาณาจักร”
ต้นหลิวหายตัวไปจากที่นี่ ไม่ได้ต่อสู้กับดาบ
มันไม่ได้ไม่สนสิ่งใดเหมือนอย่างดาบโลหิต ทันทีที่การต่อสู้ระหว่างพวกมันปะทุ ย่อมต้องเป็นที่ประหวั่นพรั่นพรึงไปทั่ว ถึงครานั้น แม้แต่ชั้นเก้านี้ก็อาจถูกถล่มจนพินาศ ต้องมีสิ่งมีชีวิตสังเวยไปตั้งไม่รู้เท่าใด
เสียงดังฟึ่บ ดาบโลหิตไล่ตามไป สำหรับมันนั้น สมรภูมิอยู่ที่ไหนก็ไม่สำคัญ!
“ไม่นะพี่ใหญ่!”
ผู้นำตระกูลเทียนหน้าเขียวในบัดดล ดาบโลหิตไปง่าย ๆ เช่นนี้ แล้วพวกเขาเล่า?!
ก้อนหินยังอยู่ที่นี่!
“อ้อ จะฌาปนกิจศพพวกเราหรือ”
ก้อนหินหัวเราะ ชักดาบหินเล่มหนึ่งออกมาพร้อมบุกไปหาผู้นำตระกูลเทียน
การจะสังหารพวกผู้นำตระกูลเทียน มันทำได้โดยไม่จำเป็นต้องมีลำนำส่งวิญญาณ
พยัคฆ์ขาวและผู้เป็นนิรันดร์ตนอื่นรีบหลบไปอยู่อีกด้านด้วยกลัวจะติดร่างแห นอกจากนี้ พวกมันยังนึกโชคดีไม่น้อย ยังดีที่พวกมันไม่ได้ซี้ซั้วเอ่ยอันใดออกไป!
มิฉะนั้น พวกมันต้องถูกเชือดไปด้วยแน่!