รู้สึกตัวอีกที-ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว-原來我是世外高人 - บทที่ 802 หลี่จิ่วเต้า ‘เจ้าเรียกที่นี่ว่าแดนลุ่มหลงหรือ!’
- Home
- รู้สึกตัวอีกที-ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว-原來我是世外高人
- บทที่ 802 หลี่จิ่วเต้า ‘เจ้าเรียกที่นี่ว่าแดนลุ่มหลงหรือ!’
บทที่ 802 หลี่จิ่วเต้า ‘เจ้าเรียกที่นี่ว่าแดนลุ่มหลงหรือ?!’
“เอ่ยวาจาโอหัง สมควรต้องถูกถล่มเช่นนี้! นี่หรือ หลี่จิ่วเต้า!”
“อวดเบ่งไม่ดูสถานที่เอาเสียเลย! เมื่ออยู่เบื้องหน้าโลงกระดูก เจ้าไม่มีสิทธิ์อวดดี!”
ต้นบรรพจารย์ทั้งแปดใช้วาจาโอหังเป็นที่สุด สะใจกันยิ่งนัก
โลงกระดูกบุกมา สังหารได้ในพริบตา!
นี่แหละคือความเก่งกาจของโลงกระดูก!
“หา ไม่จริงกระมัง!”
“ห่างชั้นกันมากเพียงนั้นเลยหรือ”
สิ่งมีชีวิตในเมืองบรรพกาลไม่อาจรับได้ สีหน้าย่ำแย่กันถ้วนหน้า หากหลี่จิ่วเต้ายังสู้ไม่ไหว ผู้ใดเล่าจะยับยั้งโลงกระดูกได้
แย่แน่ พลังพิศวงลางร้ายจักบุกมาเต็มกำลัง ท้ายที่สุด พวกเขาก็ต้องถูกความพิศวงลางร้ายกลืนกิน กลายเป็นสิ่งมีชีวิตพิศวงลางร้าย!
“เป็นไปได้อย่างไรกัน!”
สุนัขดำมีสีหน้าแปลกไป มันเชื่อไม่ลง แม้ว่านี่เป็นเพียงร่างจำแลงของคุณชาย ทว่าในใจ คุณชายย่อมแข็งแกร่งไร้เทียมทาน ไม่มีทางถูกโลงกระดูกกำจัดไปได้ง่าย ๆ!
ต่อให้พลังที่โลงกระดูกสำแดงออกมาจะสยดสยองมากก็ตาม มันก็ไม่เชื่อ!
ต้องมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้นระหว่างนั้นแน่!
นอกเมืองชิงซาน ริมลำธาร
“ข้าศึกษาศาสตร์แห่งคุณชายจนบัดนี้ ยังอีกไกลกว่าจะถึงขั้นสมบูรณ์ กระนั้นยามนี้ก็ทรงพลังมากแล้ว ร่างจำแลงที่มีจิตสำนึกคุณชายอยู่ด้วยมีหรือจะอ่อนแอปานนั้น! เป็นไปไม่ได้เลย!”
แม้แต่ต้นหลิวก็ไม่เชื่อ
…..
ภายในเมืองชิงซาน
หลี่จิ่วเต้าส่งป้าหวังข้างบ้านกลับไปแล้ว ป้าหวังข้างบ้านนำพุทราหวานมาให้ เอ่ยว่าเป็นของดีประจำถิ่นจากทางไกลที่บุตรสาวนำกลับมาให้ รสชาติดีเยี่ยม ขอให้เขารับไว้ชิมดู
เขากัดไปคำหนึ่ง รสชาติหวานมากจริง ๆ จึงหยิบอีกสองสามลูกให้ลั่วสุ่ย ส่วนตัวเขาเอนกายบนเก้าอี้โยก หยิบแท็บเล็ตขึ้นมา
ทว่า เขาได้ยินวาจาอะไรนี่
เขาได้ยินว่าต้นบรรพจารย์ทั้งแปดตนนั้นเย้ยหยันถากถางอย่างไร หาว่าเขาไร้น้ำยา มีปัญญาแค่คุยโวอวดเบ่งเท่านั้น!
“ไร้น้ำยาหรือ”
เขาหัวเราะ ตั้งจิตออกไป ร่างพลันปรากฏขึ้นที่นั่นอีกครั้ง
“ข้าเพียงไปส่งแขกเพียงชั่วครู่ พวกเจ้าต้องยินดีเนื้อเต้นกันเพียงนี้เชียวหรือ?”
เขาเอ่ยกลั้วหัวเราะ “ไม่ต้องทำถึงขนาดนั้นก็ได้!”
หมายความว่าอย่างไร?
หลี่จิ่วเต้าเอ่ยว่าเพราะมีแขกมาเยือน ร่างแยกจึงสูญเสียจิตสำนึกและถูกกำจัดอย่างนั้นหรือ
เหอะ ๆ มีเพียงคนโง่ที่เชื่อถ้อยคำของหลี่จิ่วเต้า!
ต้นบรรพจารย์พิศวงลางร้ายทั้งแปดไม่เชื่อแม้แต่น้อย มองว่าหลี่จิ่วเต้าแค่ต้องการรักษาหน้าไปอย่างนั้น!
ภายในเมืองบรรพกาล หลังสุนัขดำได้ยินคำกล่าวของคุณชายก็ถึงบางอ้อ
“อย่างนี้นี่เอง!”
มันคลี่ยิ้ม เข้าใจแล้วทุกอย่าง
คุณชายกำลังเล่นแท็บเล็ตอยู่กระมัง ต่อมา มีแขกมาหาคุณชาย คุณชายจึงต้องวางแท็บเล็ต เป็นผลให้ร่างแยกนี้สูญเสียพลัง ถึงได้ถูกโลงกระดูกกำจัด
“เช่นนี้จึงจะถูก!”
มันก็ว่า ด้วยพลังขอบเขตของคุณชาย ต่อให้เป็นเพียงร่างแยก ก็ไม่มีทางถูกกำจัดได้ง่าย ๆ บัดนี้ มันได้คำตอบแล้ว
“หาข้ออ้างก็ควรให้แนบเนียนหน่อย! ที่เจ้าว่ามานั้น ผู้ใดจะเชื่อ!”
“ปากแข็งไปก็ไม่มีประโยชน์!”
ต้นบรรพจารย์พิศวงลางร้ายทั้งแปดเอ่ยเสียงเย้ยหยัน
หลี่จิ่วเต้าหัวเราะ คร้านจะอธิบาย มีอันใดต้องอธิบายอีก ต่อจากนี้ ถล่มโลงกระดูกนี้ให้ราบคาบก็พอ
ตึง!
เวลานั้น มีเสียงดังออกจากโลงกระดูกอีกครั้ง คลื่นพลังสยดสยองแผ่ซ่านออกมา หมายจะบดขยี้ภาพร่างหลี่จิ่วเต้าอีกครั้ง
ทว่าครั้งนี้ มันทำไม่สำเร็จ เมื่อคลื่นพลังสยดสยองโถมทับไปถึงหลี่จิ่วเต้า กลับถูกลบล้างทั้งหมด ไม่อาจประชิดตัวชายหนุ่มได้เลย
หลี่จิ่วเต้ารู้ดีว่าโลงกระดูกนี้ทรงพลังยิ่ง มิฉะนั้น ต้นบรรพจารย์พิศวงลางร้ายทั้งแปดคงไม่กล้าโลดเต้นกันเช่นนี้ เขาเพิ่มพลังของตนขึ้นไปอีก
สีหน้าต้นบรรพจารย์พิศวงลางร้ายทั้งแปดเปลี่ยนไป เหตุใดหลี่จิ่วเต้าถึงไม่เป็นอะไรเลย? หรือว่าคำกล่าวเมื่อครู่จะเป็นความจริง?!
ตึง! ตึง! ตึง!
ดูเหมือนสิ่งมีชีวิตในโลงกระดูกเริ่มมีน้ำโห ทั้งโลงศพสั่นสะท้านรุนแรง และมีเสียงดังออกมา คลื่นพลังน่าพรั่นพรึงซัดสาดดั่งเกลียวคลื่น สสารมืดมิดบางอย่างพวยพุ่ง ปรี่เข้าไปทำร้ายศัตรู
หลี่จิ่วเต้ามีสีหน้าราบเรียบ ยื่นมือข้างหนึ่งออกไป ลบล้างพลังทั้งหมดได้ในพริบตา!
ตู้ม!
เวลานั้น กระดูกท่อนหนึ่งร่วงหล่นจากโลง นี่คือกระดูกแขนซึ่งไม่ใหญ่นัก ทว่าพลังที่แฝงไว้นั้นน่ากลัวถึงขีดสุด!
มันบุกตรงเข้ามา บดขยี้ทุกอย่างจนแหลกลาญ กระดูกแขนท่อนนั้นดุดันยิ่งกว่าอาวุธชิ้นไหน ๆ จิตสังหารทะยานขึ้นฟ้า!
อวกาศนอกอาณาจักรแตกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยนับล้าน ลำธารแห่งกาลเวลาอันยาวนานขาดสะบั้น ศึกนี้น่าครั่นคร้ามเหลือเกิน สิ่งมีชีวิตในเมืองบรรพกาลไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง หัวใจแทบหยุดเต้น!
เสียงดังฟึ่บ กระดูกแขนบุกเข้ามาด้วยพละกำลังรุนแรงพร้อมบ่อนทำลายสรรพสิ่ง มีเสียงระเบิดดังสนั่นตามหลังมันมา ทุกสิ่งทุกอย่างพังพินาศ!
หลี่จิ่วเต้าตาลุกวาว จับร่องรอยกระดูกแขนท่อนนี้ได้ในอึดใจเดียว ขณะที่กระดูกแขนท่อนนี้กำลังจะทะลุศีรษะของตน เขาก็คว้ากระดูกแขนท่อนนั้นไว้ฉับพลัน
มีพลังที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นไหลเวียนออกจากกระดูกแขน หมายจะฝ่าออกจากมือของหลี่จิ่วเต้า
ทว่า ทั้งหมดนี้ล้วนเปล่าประโยชน์!
มือข้างนั้นของหลี่จิ่วเต้ากำราบพลังทั้งหมดของกระดูกแขนไว้!
นอกจากนี้ หลี่จิ่วเต้ารีดเร้นกำลังบดขยี้กระดูกแขนท่อนนั้นจนแหลกเหลวไม่มีชิ้นดี กลายเป็นผุยผง กระจายออกไปตามฝ่ามือของหลี่จิ่วเต้าที่ผายออก
“น่ากลัว!”
“พลังระดับใดกันนี่!”
ต้นบรรพจารย์พิศวงลางร้ายทั้งแปดกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก ร่างกายหนาวสะท้าน นั่นคือกระดูกจากโลงกระดูกเชียวนะ แต่กลับถูกบดขยี้เป็นผุยผงง่าย ๆ เยี่ยงนี้ ทั้งหมดนี้เกินความคาดหมายของพวกมันไปมาก!
ฟึ่บ! ฟึ่บ! ฟึ่บ!
เวลานั้น กระดูกอีกจำนวนมากร่วงหล่นลงจากโลง ประสานเข้าด้วยกันอย่างรวดเร็ว กลายเป็นสิ่งมีชีวิตโครงกระดูก บุกเข้าไปหมายสังหารหลี่จิ่วเต้า
หลี่จิ่วเต้าต่อสู้ประชิดตัวกับสิ่งมีชีวิตโครงกระดูกด้วยวิชาการต่อสู้ของตน สิ่งมีชีวิตโครงกระดูกนี้สามารถจู่โจมด้วยกระดูกทุกท่อนในร่าง ยากจะป้องกันยิ่งนัก
ทว่า หลี่จิ่วเต้านั้นเชี่ยวชาญทั้งรุกทั้งรับ ไม่มีช่องโหว่สักนิด เรียกได้ว่าต่อสู้ได้ในระดับไร้ที่ติ ไม่นานนักสิ่งมีชีวิตโครงกระดูกก็ถูกกำราบ ตกอยู่ในสภาวะย่ำแย่!
ตึง! ตึง! ตึง!
หลี่จิ่วเต้าใช้ทั้งมือทั้งเท้า รุนแรงเปี่ยมกำลัง อัดสิ่งมีชีวิตโครงกระดูกจนแตกสลายกลายเป็นผง ไม่มีโอกาสก่อร่างขึ้นใหม่!
เขาบุกออกไปข้างหน้า หมายจะอัดโลงกระดูกนี้ให้แหลกลาญ นี่คือแหล่งกำเนิดพลังเหล่านั้น หลังทำลายโลงกระดูกนี้ได้ ทุกอย่างจักยุติลง!
ทว่า เวลานั้นเอง วังวนประหลาดปรากฏก่อนจะโถมทับเข้าใส่หลี่จิ่วเต้า พาหลี่จิ่วเต้าไปยังดินแดนอีกแห่ง
“แดนลุ่มหลง หลังเข้าไปแล้วจะไม่สามารถออกมาได้อีก ดื่มด่ำกับชีวิตข้างในนั้นเถิด!”
เสียงชราดังออกจากโลงกระดูก มีสิ่งมีชีวิตบางอย่างอาศัยอยู่ในโลงกระดูกจริง ๆ บัดนี้กำลังส่งเสียงหัวเราะเย็นยะเยือก
แดนลุ่มหลงนั้นสำแดงภาพคนหรือสิ่งที่ผู้เข้าไปอาลัยอาวรณ์ที่สุด จนผู้ที่อยู่ข้างในถลำลึกลงไปทีละน้อย จนไม่อาจตั้งสติได้ ออกมาไม่ได้อีก
ไม่ว่าผู้ใด ล้วนมีคนหรือสิ่งที่อาลัยอาวรณ์ในใจ นี่คือการโจมตีที่รุนแรงที่สุด ไม่มีสิ่งมีชีวิตตนใดทลายออกมาได้เลย
“ความมืดมิดหวนคืน ไม่ควรถูกปราบปรามขับไล่ นี่เป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น จากนี้ไป ยังมีสิ่งมีชีวิตอีกมหาศาลที่จะตื่นขึ้นจากความมืดมิด…”
มันกล่าวต่อ ไม่มีสิ่งมีชีวิตตนใดเคยได้ยินภาษานี้มาก่อน ทว่ากลับเข้าใจความหมายของวาจานี้ทั้งหมด
ความหมายของวาจาเหล่านี้ถูกส่งเข้าไปถึงส่วนลึกของวิญญาณทุกคน
“ความมืดมิดทยอยตื่นขึ้นแล้ว ทั้งหมดจักต้องผันแปร นั่นคืออารยธรรมมืดมิดอันรุ่งโรจน์ที่สุด พวกเจ้าล้วนเป็นสักขีพยาน จะได้เห็นจุดเริ่มต้นของความยิ่งใหญ่นี้!”
มีเสียงดังออกจากโลงกระดูกอีกครั้ง คล้ายว่ากำลังประกาศศักดา สิ่งมีชีวิตในเมืองบรรพกาลต่างเงียบงัน อนาคตจะเป็นอย่างไร? ดูท่าจะไม่น่าอภิรมย์เท่าใดนัก!
“พวกข้ารู้สึกซาบซึ้ง และรู้สึกเป็นเกียรติสูงสุดที่ได้เป็นผู้ติดตามก่อนกาล พวกเราช่างโชคดียิ่งนัก!”
“อารยธรรมมืดมิดจงเจริญ สร้างความรุ่งโรจน์สูงสุดอย่างหาที่เปรียบไม่ได้!”
ต้นบรรพจารย์พิศวงลางร้ายกู่ร้อง ตอบสนองกับถ้อยคำที่ดังออกจากโลงกระดูก
ขณะเดียวกัน หลี่จิ่วเต้ามาถึงอีกดินแดนหนึ่ง
“แดนลุ่มหลง? เจ้าเรียกที่นี่ว่าแดนลุ่มหลงหรือ?! ผู้ใดจะลุ่มหลงจนสูญเสียความเป็นตัวเองในดินแดนเยี่ยงนี้กัน!”
หลี่จิ่วเต้าปากกระตุก พูดสิ่งใดไม่ออกจากใจจริง ก่อนมา เขาได้ยินเสียงที่ดังออกจากโลงกระดูกแล้ว และรู้ว่าที่นี่ถูกเรียกว่าแดนลุ่มหลง
โดยปกติ สถานที่ที่ถูกขนานนามว่าแดนลุ่มหลงควรเต็มไปด้วยความรื่นรมย์อันชวนให้อาวรณ์จนทำใจจากไปไหนไม่ได้มิใช่หรือ?
ทว่า ที่นี่กลับเต็มไปด้วยความอัปลักษณ์ มีสิ่งมีชีวิตน่าขยะแขยงคลานไปทั่ว มองปราดเดียวก็รู้สึกพะอืดพะอม มีเพียงผู้ที่วิกลจริตเท่านั้นถึงสูญเสียตนเองเพราะลุ่มหลงในสถานที่เยี่ยงนี้!
นี่มันได้ผลตรงกันข้าม ยิ่งทำให้รู้สึกอยากหนีไปจากที่นี่ต่างหาก!
อันที่จริง แต่เดิมที่นี่ควรฉายภาพคนหรือสิ่งที่หลี่จิ่วเต้าอาลัยอาวรณ์ที่สุด จนหลี่จิ่วเต้าแยกแยะจริงเท็จไม่ออก ถลำลึกลงไปจนไม่ได้สติ ไม่อยากออกมาอีก
นอกจากนี้ ก่อนเข้ามา หลี่จิ่วเต้าไม่ควรได้ยินเสียงจากโลงกระดูกด้วยซ้ำ
ทว่า หลี่จิ่วเต้านั้นเป็นตัวตนระดับใดกัน มีหรือที่จะเผยภาพความคิดในใจออกมาง่าย ๆ
เป็นไปไม่ได้เลย!
เขายังคงได้ยินเสียงของโลงกระดูกอย่างแจ่มแจ้ง
มิหนำซ้ำ แดนลุ่มหลงแห่งนี้ยังเผยโฉมหน้าที่แท้จริงออกมาต่อหน้าหลี่จิ่วเต้า ในเมื่อแดนลุ่มหลงไม่สามารถฉายภาพคนหรือสิ่งที่หลี่จิ่วเต้าอาลัยอาวรณ์ในใจ จึงเผย ‘ภาพมายา’ ต่าง ๆ ออกมาให้หลี่จิ่วเต้าเห็น หมายจะใช้ ‘ภาพมายา’ นี้รั้งหลี่จิ่วเต้าไว้
น่าเสียดาย สิ่งนี้ไม่อาจตบตาหลี่จิ่วเต้าได้ ภาพที่หลี่จิ่วเต้าเห็นคือโฉมหน้าดั้งเดิมของแดนลุ่มหลง!
แดนลุ่มหลงแห่งนี้สร้างขึ้นด้วยพลังมืดมิด ย่อมอัปลักษณ์อยู่แล้ว!
“ไปล่ะ!”
หลี่จิ่วเต้าไม่ต้องการอยู่ที่นี่ต่อแม้เพียงเสี้ยวลมหายใจ เนื้อตัวส่องแสงสว่างไสว ทะลวงออกจากที่แห่งนี้
“ทำได้เพียงอวดดีเท่านั้น! หาได้มีความสามารถแท้จริงไม่!”
“ใช่แล้ว! ลำพังเขาน่ะหรือคิดขัดขวางพวกเรา ไม่รู้จักเจียมเนื้อเจียมตัวเอาเสียเลย!”
ด้านนอก ต้นบรรพจารย์พิศวงลางร้ายทั้งแปดพากันถากถางหลี่จิ่วเต้าอีกแล้ว สิ่งสำคัญคือพวกมันต้องการเอาใจโลงกระดูก สะท้อนให้เห็นถึงความทรงพลังของโลงกระดูก!
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
เวลานั้นเอง หลี่จิ่วเต้าทะลวงออกจากแดนลุ่มหลง ฝ่าออกจากด้านใน
“น่ารำคาญจริง ข้าจักจับพวกเจ้ามัดกระสอบคนละใบเพื่อปิดปากพวกเจ้าเสีย!”
หลังหลี่จิ่วเต้าออกมาได้ ก็ได้ยินวาจาเย้ยหยันของต้นบรรพจารย์พิศวงลางร้ายทั้งแปดพอดี เขาขมวดคิ้ว ไม่สบอารมณ์นัก
จากนั้น เขาโบกมือไปมา กระสอบแปดใบปรากฏฉับพลัน ครอบต้นบรรพจารย์พิศวงลางร้ายทั้งแปดเข้าไปพร้อมสรรพ
เมื่อโบกมืออีกครั้ง ต้นบรรพจารย์พิศวงลางร้ายทั้งแปดกระเด็นไปอีกด้าน หายลับไปทันที!
“เป็นไปได้อย่างไรกัน!?”
เสียงผิดคาดดังออกจากโลงกระดูก คิดไม่ถึงเลยว่าหลี่จิ่วเต้าจะฝ่าออกจากแดนลุ่มหลงได้!
“ไม่มีสิ่งใดเป็นไปไม่ได้! ข้าจักบดขยี้โลงศพของเจ้าเอง!”
หลี่จิ่วเต้าบุกออกไปข้างหน้า!