รู้สึกตัวอีกที-ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว-原來我是世外高人 - บทที่ 821 ปริมาณถูกจำกัด ผู้มาใหม่จะแทนที่คนเก่าแก่!
- Home
- รู้สึกตัวอีกที-ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว-原來我是世外高人
- บทที่ 821 ปริมาณถูกจำกัด ผู้มาใหม่จะแทนที่คนเก่าแก่!
บทที่ 821 ปริมาณถูกจำกัด ผู้มาใหม่จะแทนที่คนเก่าแก่!
พลังความมืดอันมีแหล่งที่มาเกี่ยวข้องกับกระโปรงสีขาวแห่งความตาย ต้นหลิวจะไม่เกิดจิตสังหารได้อย่างไร นี่คือศัตรูตัวฉกาจที่ไม่อาจปล่อยไปได้!
“ไม่ต้องตื่นตระหนกไป นี่เป็นพลังความมืดที่สามารถควบคุมได้ ไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใด”
ชายวัยกลางคนที่ดูภูมิฐานเอ่ยออกมา บอกต้นหลิวว่าไม่จำเป็นต้องกังวล
ในขณะเดียวกันภายในใจของเขาก็ตกตะลึง ต้นหลิวแข็งแกร่งถึงเพียงนี้เชียว?
พลังความมืดถูกผนึกเอาไว้ในพื้นที่พิเศษ ไม่มีทางที่จะรั่วไหลออกมาได้ การที่ต้นหลิวสามารถสัมผัสถึงมันได้ นับว่าเกินความคาดหมายของเขาเป็นอย่างยิ่ง!
“พลังความมืดที่สามารถควบคุมได้? หมายความว่าอย่างไร?”
ต้นหลิวขมวดคิ้ว
“พลังแห่งความมืดนี้ถูกผนึกเอาไว้แล้ว ไม่สามารถออกมาได้ สหายไม่จำเป็นต้องกังวลแต่อย่างใด!”
ภายในแววตาของชายวัยกลางคนผู้นี้เต็มไปด้วยความอยากรู้ระหว่างเอ่ยถามออกมา “สหายเป็นผู้ที่สามารถทะลวงขอบเขตนิรันดร์ขึ้นไปของสถานที่แห่งนี้หรือ?”
เขามั่นใจเป็นอย่างมากว่าต้นหลิวสามารถทะลวงขอบเขตนิรันดร์ขึ้นไปยังขอบเขตที่สูงกว่าได้ สิ่งนี้ทำให้เขาแทบไม่อยากจะเชื่อ ขอบเขตนิรันดร์นับเป็นเพดาน ไม่มีทางก้าวข้ามขึ้นไปได้ เกรงว่าต่อให้มีพรสวรรค์น่าตื่นตะลึงเพียงใดก็จะถูกกำจัดเอาไว้
แต่ต้นหลิวสามารถทำได้
เขาไม่อยากจะเชื่อ ในขณะเดียวกันก็อดตกตะลึงไม่ได้ นี่ไม่อาจนับเป็นเรื่องดีแต่อย่างใด…
เหนือขอบเขตนิรันดร์ขึ้นไปนั้น มีจำนวนอยู่อย่างจำกัด ไม่อาจมีมากเกินไปได้ หากมีขอบเขตใหม่เกิดขึ้นเช่นนี้ คนเก่าแก่ที่อยู่ในขอบเขตก็จะอ่อนแอลง ทุกสิ่งจะค่อย ๆ ถูกถ่ายทอดไปยังผู้ที่สามารถก้าวขึ้นไปยังขอบเขตใหม่
ด้วยเหตุนี้เอง ขอบเขตที่เหนือกว่าขอบเขตนิรันดร์จึงถูกผนึกเอาไว้ ด้วยสิ่งมีชีวิตเก่าแก่ในขอบเขตไม่ต้องการจะสูญสลายไป
ใช่แล้ว
การที่ขอบเขตนิรันดร์ถูกผนึก ปิดกั้นซึ่งความหวังจะก้าวหน้าอย่างสมบูรณ์ ล้วนเป็นสิ่งมีชีวิตเก่าแก่ในขอบเขตเหล่านี้ทำ ดังนั้นในช่วงกาลเวลายาวนานจนไม่อาจนับ จึงไม่มีสิ่งมีชัวิตใดสามารถทลายขอบเขตนิรันดร์ขึ้นไปได้
ยิ่งไปกว่านั้นเหนือขอบเขตนิรันดร์ขึ้นไปล้วนไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถทำความเข้าใจได้
ตอนนี้กลับมีผู้มาใหม่อย่างต้นหลิวปรากฏตัวออกมา นี่นับว่าเป็นปัญหาใหญ่ หมายความว่ามีสิ่งมีชีวิตเก่าแก่กำลังค่อย ๆ ดับสูญไป!
“มีส่วนเกี่ยวข้องกับพลังความมืดหรือไม่?”
ชายวัยกลางคนที่ดูมีภูมิฐานคิดในใจ
ด้วยการรุกรากของความมืด ทำให้เกิดปัญหาขึ้นกับสิ่งมีชีวิตเก่าแก่ทั้งหลาย นำไปสู่การเสื่อมลงของผนึก ทำให้เกิดโอกาสทลายขอบเขตขึ้นมาใช่หรือไม่?
ต้นหลิวไม่ได้ตอบคำถามของชายวัยกลางคนผู้ทรงภูมิฐาน ทว่าเอ่ยถามกลับ “เหตุใดจึงต้องผนึกพลังความมืดเอาไว้? พวกเจ้าคิดจะทำสิ่งใด? พลังความมืดระดับนี้ พวกเจ้าควรขจัดมันจนสิ้น!”
พลังความมืดในสถานที่แห่งนี้ไม่ได้แข็งแกร่งเกินไปนัก หากชายผู้ทรงภูมิฐานต้องการ ย่อมสามารถกำจัดมันได้อย่างแน่นอน “เช่นนั้นแล้วพวกเขาต้องการทำสิ่งใดกับพลังความมืดนี้?”
“เพื่อต่อสู้”
ชายทรงภูมิฐานกล่าว “พลังความมืดกำลังเยื้องกรายเข้ามา นี่เป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ในอนาคตย่อมต้องเกิดการต่อสู้กับพลังความมืด พวกข้าหลงเหลือพลังความมืดส่วนนี้เอาไว้ ก็เพื่อใช้ฝึกฝนเตรียมการรับมือกับพลังความมืดล่วงหน้า”
“ข้าเกือบจะเข้าใจแล้ว…”
ต้นหลิวหรี่ตาลง “พวกเจ้าล่อสิ่งมีชีวิตจากเทวโลกเข้ามา ก็เพื่อให้ความมืดกลืนกินพวกเขา จากนั้นก็ปล่อยให้คนของเจ้าได้ต่อสู้?”
การกระทำเช่นนี้ ย่อมสามารถช่วยเหลือการต่อสู้ในอนาคตได้อย่างแน่นอน อย่างไรเสียการซ้อมต่อสู้ล่วงหน้า ก็ย่อมสามารถทำให้พร้อมรับการต่อสู้มากยิ่งขึ้น
ทว่าวิธีเช่นนี้ไร้มนุษยธรรมอย่างถึงที่สุด สิ่งมีชีวิตในเทวโลกที่ถูกความมืดกลืนกินไปแล้ว ย่อมต้องกลายเป็นเหยื่อสังเวย ไม่อาจมีชีวิตรอดอยู่ต่อ
“เป็นเช่นนั้นจริง”
ชายทรงภูมิฐานยอมรับ ไม่ได้ปิดบังแต่อย่างใด ระดับต้นหลิว แม้ต้องการจะซ่อนเร้นความจริง ก็ไม่มีทางทำสำเร็จ
“การซ้อมต่อสู้เป็นเรื่องดีก็จริง ทว่าไยพวกเจ้าจึงต้องใช้สิ่งมีชีวิตเทวโลกเป็นเหยื่อสังเวยด้วย? พวกเจ้าต้องการจะซ้อมต่อสู้เช่นนี้ ก็ใช้คนของพวกเจ้าเองเสีย!”
ต้นหลิวกล่าว “ข้าต้องการให้เจ้าปล่อยสิ่งมีชีวิตเทวโลกเหล่านี้ หยุดใช้พวกเขาเป็นเครื่องมือเพื่อฝึกฝน!”
มันรู้เรื่องราวเหล่านี้แล้ว ย่อมไม่อาจเพิกเฉยได้ สิ่งมีชีวิตเทวโลกเองก็มีเลือดเนื้อชีวิตจิตใจเช่นเดียวกัน เหตุใดจึงใช้พวกเขาเป็นเครื่องสังเวย?
โหดเหี้ยมและเลือดเย็นเกินไปแล้ว!
“สหายอย่าได้ล้อเล่นเลย ข้ารู้ว่าสหายเป็นคนของที่แห่งนั้นซึ่งสามารถทลายออกจากขอบเขตนิรันดร์ได้ ทำให้บางทีอาจเต็มไปด้วยความรู้สึกต่อสถานที่แห่งนั้น”
ชายทรงภูมิฐานพูดขึ้นมา “แต่สิ่งที่ข้าอยากจะบอกกับสหายก็คือ ต่อให้สหายมีความผูกพันต่อสถานที่แห่งนั้น มันก็ถูกลิขิตว่าไม่อาจคงอยู่ต่อไปได้! ความรู้สึกเช่นนี้มีเพียงแต่จะทำร้ายตัวของสหายเอง!”
หลังจากนั้นเขาก็อธิบายให้ต้นหลิวฟัง
“เหนือขอบเขตนิรันดร์ขึ้นไป ถูกจำกัดจำนวนเอาไว้ ไม่สามารถเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมได้ ทุกครั้งที่มีผู้มาใหม่ปรากฏขึ้น คนเก่าจะค่อย ๆ ดับสูญไป…”
เขาเอ่ยต่อ “สหายกลายเป็นผู้มาใหม่ แม้ว่าจะไม่อาจแน่ใจได้ว่าสิ่งมีชีวิตเก่าแก่ใดจะดับสลาย แต่ก็ย่อมต้องมีหนึ่งชีวิตเก่าแก่สูญสิ้นไปอย่างแน่นอน!”
“ยังมีเรื่องเช่นนี้ด้วย?”
ต้นหลิวเลิกคิ้ว นี่เป็นครั้งแรกที่มันเคยได้ยินเรื่องนี้ ไม่น่าแปลกใจเลยที่มันรับรู้อยู่เสมอว่ามีพลังบางอย่างกำลังค่อย ๆ หลั่งไหลเข้าหามันทีละน้อย จากนั้นก็ถูกมันดูดซับจนกลายเป็นพลังของตนเอง
เดิมทีมันคิดว่านี่เกิดจากการฝึกฝนของตัวมันเอง แต่เมื่อได้ฟังคำพูดของชายทรงภูมิฐานแล้ว ความจริงกลับกลายเป็นเช่นนี้!
“สิ่งนี้ไม่อาจย้อนกลับได้ สหายอาจไม่สามารถยอมรับได้ในตอนนี้ แต่วันข้างหน้า สหายก็จะกลายเป็นเหมือนกับพวกเรา ค่อย ๆ ยอมรับเรื่องราวทั้งหมด”
ชายทรงภูมิฐานกล่าว “ข้าหวังว่าสหายจะเข้าร่วมกับพวกเรา เช่นนั้นแล้วข้ากับสหายก็จะสามารถต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันได้ ปกป้องสหายให้ปลอดภัยผ่านพ้นช่วงนี้…สหายต้องรู้ไว้ ไม่มีผู้ใดอยากตาย สิ่งมีชีวิตเก่าแก่เหล่านั้นเองก็ไม่อยากตาย ดังนั้นเขาจะต้องมาโจมตีสังหารสหายอย่างแน่นอน ขอเพียงแค่สหายตาย สิ่งมีชีวิตเก่าแก่ตนนั้นก็จะไม่มีภัยคุกคามอีกต่อไป”
หากเป็นก่อนหน้านี้ เขาคงจะไม่เอ่ยเช่นนี้กับต้นหลิว
เขาเองก็เป็นสิ่งมีชีวิตเก่าแก่ ย่อมต้องอยู่ข้างเดียวกับสิ่งมีชีวิตเก่าแก่อื่น ๆ
กล่าวตามความจริงแล้ว ยามนั้นพวกเขาเหล่าสิ่งมีชีวิตเก่าแก่ได้บรรลุข้อตกลงบางอย่างร่วมกัน หากมีผู้มาใหม่ พวกเขาจะร่วมมือกันกำจัด
ทว่าสถานการณ์ในตอนนี้ไม่อำนวยเช่นนั้น
ความมืดเยื้องกราย อนาคตถูกกำหนดให้ยากลำบากอย่างถึงที่สุด ต้นหลิวที่สามารถทะลวงผ่านขอบเขตนิรันดร์ได้ภายใต้ผนึกการปิดกั้น เขาเชื่อว่าศักยภาพของต้นหลิวอาจมากเสียยิ่งกว่าสิ่งมีชีวิตเก่าแก่คนอื่น ๆ
นอกจากนั้น เนื่องจากการมาเยือนของความมืด เหล่าสิ่งมีชีวิตเก่าแก่จึงไม่ได้รวมกันเป็นหนึ่งแต่อย่างใด ต่างฝ่ายต่างวางแผนการของตนเอง ทำให้ข้อตกลงนี้ถูกยกเลิกไปนานแล้ว
ดังนั้น เขาจึงยื่นกิ่งมะกอกให้ต้นหลิว หวังดึงต้นหลิวมาเป็นพวก
“ต่อสู้ร่วมกับเจ้า? เจ้าคิดสิ่งใดอยู่! ไม่ว่าอนาคตจะเกิดการเปลี่ยนแปลงเช่นไร ข้าก็ไม่มีวันกลายเป็นเหมือนพวกเจ้า!”
ต้นหลิวเอ่ยขึ้นมาอย่างเด็ดขาด
เพื่อจะให้ตนเองสามารถคงอยู่ได้ยืนยาว จึงปิดผนึกขอบเขตนิรันดร์ หากเป็นมันคงไม่ทำเรื่องเช่นนี้ออกมา
นอกจากนี้ การใช้สิ่งมีชีวิตอื่นเป็นเหยื่อสังเวย มันยิ่งไม่สามารถทำได้!
“สหายจะปฏิเสธข้าจริงหรือ? พวกเราไม่ต้องพูดถึงอนาคตอันห่างไกลอย่างเรื่องนิสัยใจคอของสหายจะเปลี่ยนไปหรือไม่ พวกเรามาพูดถึงอนาคตอันใกล้เสียดีกว่า”
ขายทรงภูมิฐานเอ่ย “ข้าได้กล่าวไปแล้ว การมาใหม่ของสหายทำให้สิ่งมีชีวิตเก่าแก่ต้องร่วงโรย คนผู้นั้นจะต้องไม่มีทางเต็มใจยอมรับ จะต้องพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อกำจัดสหายอย่างแน่นอน ข้าคิดว่ามีความเป็นไปได้อย่างมากที่เขาจะมาพบสหายในอีกไม่ช้า อีกทั้งยังมีโอกาสที่สิ่งมีชีวิตเก่าแก่ผู้อื่นจะร่วมมือด้วย…”
เขาเล่าว่าสิ่งมีชีวิตเก่าแก่เหล่านี้มีความสัมพันธ์อันดีต่อกันไม่มากก็น้อย มีความเป็นไปได้ที่จะร่วมมือกันสูงมาก
“สหายแน่ใจหรือว่าตนเองจะสามารถต้านทานได้? กล่าวตามตรงแล้ว ภายในหมู่สิ่งมีชีวิตเก่าแก่ ข้าเองก็มีผู้ที่มีความสนิทสนมด้วย ถ้าหากเข้าร่วมกับพวกข้า ข้าย่อมสามารถปกป้องเจ้าตลอดระยะเวลาจนปลอดภัยอย่างแน่นอน!”
เขากล่าว
“จะสามารถต้านทานได้หรือ? นำคำว่า ‘หรือ’ ออกไปเสีย! ไม่มีสิ่งใดที่ไม่อาจต้านทานได้!”
สีหน้าของต้นหลิวสงบนิ่ง
มันติดตามข้างกายคุณชาย เช่นนั้นจะไม่สามารถต้านทานได้อย่างไร หากสิ่งมีชีวิตเก่าแก่เหล่านั้นเข้ามายุ่งย่ามกับมันจริง มันก็ไม่รังเกียจที่จะทำให้สิ่งมีชีวิตเก่าแก่เหล่านั้นไม่อาจกลับไปได้!
บ้ายิ่งหนัก!
ชายทรงภูมิฐานขมวดคิ้ว วาจาของต้นหลิวช่างใหญ่โตเกินไปเสียจริง ไม่ได้เห็นสิ่งมีชีวิตเก่าแก่อยู่ในสายตาเลย
“สหายเต๋าคิดว่าตนเองสามารถทลายขอบเขตภายใต้สถานการณ์ที่ถูกปิดกั้นเอาไว้ จึงหลงนึกว่าตนเองเก่งกาจไร้เทียมทานอย่างนั้นหรือ?”
เขามองต้นหลิวด้วยดวงตาเป็นประกายวาววับ “พวกข้ามาถึงขอบเขตนี้นานแล้ว ระดับย่อมดำรงอยู่เหนือเกินกว่าที่เจ้าสามารถคิดจินตนาการได้โดยสิ้นเชิง! ทุกด้านล้วนไม่อาจคาดเดาได้! หากสหายมีความคิดผยองเช่นนี้ ข้าก็ขอแนะนำให้เลิกเสียโดยไว้ที่สุด อย่าได้ส่งตัวเองไปสู่หนทางตาย!”
“นี่ไม่ใช่ความผยอง แต่เป็นความเชื่อมั่น หากเจ้าไม่เข้าใจข้า ก็อย่าได้เอ่ยเช่นนั้นออกมา!”
ต้นหลิวกล่าว
ส่วนพวกเมิ่งจีนั้นต่างอดตกตะลึงกับสิ่งที่ได้ยินไม่ได้ ขอบเขตเหนือนิรันดร์คือสิ่งใด? ยังมีเรื่องการแทนที่ด้วย!
ผู้มาใหม่จะแทนที่สิ่งมีชีวิตเก่าแก่!
การฝึกฝนจะสามารถส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตอื่นเช่นนี้ได้หรือ?
แนวความคิดที่พวกเขาได้ฟังครั้งแรกนี้ ไกลเกินกว่าความรู้ความเข้าใจของพวกเขา!
ทว่าหลังจากพวกเขาได้ยินชายทรงภูมิฐานเอ่ยขู่ขวัญต้นหลิวแล้ว ภายในใจต่างอดขบขันขึ้นมาไม่ได้
พวกเขาทุกคนต่างมีความเชื่อมั่นในตัวคุณชาย ไม่มีทางที่คนเก่าแก่เหล่านั้นจะสามารถคุกคามต้นหลิวได้!
“เช่นนั้นก็ไม่มีสิ่งใดต้องพูดอีกแล้ว สหายคิดอยากตาย ข้าเองก็ไม่จำเป็นต้องหยุดยั้ง”
ชายทรงภูมิฐานไม่เอ่ยสิ่งใดอีก เพียงเอ่ยไล่ต้นหลิวเสียงเย็นชา “เช่นนั้นสหายก็โปรดจากที่นี่ไปเสียเถิด…”
“ข้าย่อมต้องไปจากที่นี่ ไม่คิดรั้งอยู่ต่อ ทว่าก่อนหน้านี้ข้าก็พูดไปแล้ว พวกเขาล้วนเป็นผู้บริสุทธิ์ ไม่สมควรกลายเป็นเหยื่อสังเวย ข้าจะพาพวกเขาไปด้วย”
ต้นกลิวกล่าว “ถ้าพวกเจ้าต้องการเตรียมพร้อมต่อสู้จริง ๆ ก็ทำกันภายในหมู่พวกเจ้าเอง อย่าได้ทำร้ายผู้บริสุทธิ์!”
“สหายคิดจะตั้งตนเป็นศัตรูกับข้าหรือ?”
สีหน้าของชายทรงภูมิฐานเปลี่ยนเป็นเย็นเยียบ “หากทำเช่นนั้นจริง สหายจะเป็นการตัดรอนหนทางตนเอง ใต้หล้าจะไม่มีที่ยืนสำหรับสหาย ทำให้ตายเร็วยิ่งขึ้น!”
“ปากเจ้าเอาแต่พูดเรื่องความเป็นตายของข้า…ขออภัยด้วย เจ้ายังไม่อาจตัดสินความเป็นตายของข้าได้” ต้นหลิวตอบกลับ
“ไม่รู้จักแยกแยะ!”
ชายทรงภูมิฐานตวาดเสียงเย็นชา “ให้หน้าเจ้า แต่เจ้ากลับไม่รับ ในเมื่อเจ้าไม่ยอมจากไปด้วยตนเอง เช่นนั้นข้าก็จะส่งเจ้าออกไป!”
ลมหายใจของเขาแผ่ออกมาอย่างเต็มที่ เขาเรียกทวนมาไว้ในมือชี้ไปทางต้นหลิว พร้อมจะลงมือ
“ตกลง เช่นนั้นให้ข้าได้ดูฝีมือของเจ้าเสีย!”
ต้นหลิวไร้ความกลัวเกรง ร่างกายเปล่งแสงเจิดจ้า เตรียมพร้อมจะต่อสู้
กระโปรงสีขาวแห่งความตายมันยังไม่กลัว เช่นนั้นมันจะกลัวชายทรงภูมิฐานผู้นี้ได้อย่างไร?
ย่อมไม่มีทาง!