รู้สึกตัวอีกที-ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว-原來我是世外高人 - บทที่ 828 สะเทือนเลือนลั่น กองทัพใหญ่ปรโลกและปริภูมิเวลาเยื้องกราย
- Home
- รู้สึกตัวอีกที-ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว-原來我是世外高人
- บทที่ 828 สะเทือนเลือนลั่น กองทัพใหญ่ปรโลกและปริภูมิเวลาเยื้องกราย
บทที่ 828 สะเทือนเลือนลั่น กองทัพใหญ่ปรโลกและปริภูมิเวลาเยื้องกราย!
“ฆ่า!”
ขุนพลผีทั้งหมดต่างพุ่งเข้าโจมตีหลี่จิ่วเต้า พวกมันรู้ซึ้งถึงความน่ากลัวของเขาดี ไม่เช่นนั้นครั้งก่อนพวกมันคงไม่ยอมละทิ้งแผนจัดการกับหลี่จิ่วเต้า
ขณะเดียวกัน อสูรร้ายปริภูมิเวลาทั้งหมดก็ลงมือ พวกมันสร้างทะเลปริภูมิเวลา ผนึกปริภูมิเวลาเอาไว้ หยุดยั้งการไหลของเวลา
หลี่จิ่วเต้าลงมือ ข้างหนึ่งถือใบหญ้า อีกข้างถือต้นวิเศษสัตตะ
ใบหญ้าถูกฟันออก ปราณกระบี่พุ่งทะลวง นี่คือกระบี่สวรรค์ ตามที่บรรพจารย์ฝูได้กล่าวไว้บอกว่านี่เป็นสมบัติโดยกำเนิด เปี่ยมด้วยพลังอันไร้ที่สิ้นสุด!
เขาทำตามวาจาของตนเอง ไม่มอบโอกาสอันใดให้กับขุนพลผีแม้แต่น้อย ปราณกระบี่ถูกวาดออกไป กวาดล้างทุกสิ่ง ผีทั้งหมดกลายเป็นเพียงขี้เถ้าปลิวว่อน สูญสลายสิ้น!
ขณะเดียวกัน มืออีกข้างก็โบกต้นวิเศษสัตตะ พลันประกายแสงประหลาดเปล่งออกมา ต้นวิเศษสัตตะชะล้างทุกสิ่ง สลายปริภูมิที่ถูกผนึกเอาไว้ทำให้กาลเวลาไหลไปตามปกติ!
“ข…แข็งแกร่ง!”
“ทรงพลังยิ่งนัก!”
สิ่งมีชีวิตทั้งหมดดวงตาเบิกกว้างอ้าปากค้าง รู้สึกไม่อยากจะเชื่อ
พวกเขารู้ว่าหลี่จิ่วเต้านั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก แต่ไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้!
นั่นคือเหล่าผู้แข็งแกร่งจากปรโลก ลึกล้ำเป็นอย่างยิ่ง ในความคิดของพวกเขาแล้ว แม้หลี่จิ่วเต้าจะสามารถเอาชนะเหล่าผู้แข็งแกร่งจากยมโลกได้ ก็ควรจะชนะแบบหวุดหวิด
แต่ผลลัพธ์กลับห่างไกลจากนั้นเป็นอย่างมาก
ชายหนุ่มลงมือสังหารภายในพริบตา หนึ่งกระบี่ ขุนผลผีล้วนมลายสิ้น!
อีกทั้งเหล่าอสูรร้ายปริภูมิเวลาเองก็ไม่รอดพ้น ประหนึ่งเปราะบางเป็นอย่างยิ่ง พริบตาเดียวการโจมตีและพลังทั้งหมดก็ถูกสลายไป!
นี่เป็นตัวตนเช่นใดกัน?
หนังศีรษะของพวกเขาต่างชาหนึบ รู้สึกหวาดหวั่นเป็นอย่างยิ่ง!
ฟิ้ว~
ขณะนั้นเอง พลันมีสายลมเย็นยะเยือกพัดผ่าน ฟ้าดินมืดสลัวลง ดวงตะวันที่ลอยอยู่เหนือสวรรค์เก้าชั้นพลันหายลับ สิ่งที่ปรากฏขึ้นมาแทนก็คือจันทราสีแดงโลหิตดวงโต!
มีเสียงแตรสัญญาณดังขึ้นทำให้คนรู้สึกหวาดผวา คล้ายได้ยินเสียงฝีเท้ากองทัพนับพัน ม้านับแสนตรงเข้ามา ร่างกายของพวกเขาหนาวเหน็บ หยาดเหงื่อพรั่งพรูออกมา
“นี่…มันอันใดกัน!?”
“มีกองทัพกำลังมาจริง ๆ!”
มีสิ่งมีชีวิตร้องอุทานออกมา ใบหน้าต่างซีดเซียว แม้ห่างไกลก็ยังเต็มไปด้วยความน่ากลัว ทหารปรโลกจำนวนนับไม่ถ้วนกำลังเคลื่อนทัพมา
กองทัพใหญ่ปรโลกกำลังเคลื่อนทัพมาอย่างนั้นหรือ?!
พวกเขาทั้งหมดต่างตื่นตัว วันนี้หนึ่งในกองกำลังที่ลึกลับที่สุดกำลังจะสำแดงพลังออกมาให้เห็นใช่หรือไม่?
กองทัพปรโลกที่กำลังกรีฑามา แม้อยู่ระยะไกลก็ยังคงเปี่ยมด้วยปราณหยินอันไร้ที่สิ้นสุด
ปราณหยินหนาวเหน็บจนถึงขั้วกระดูก สิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่ต่างพากันตัวสั่นระริก พวกเขาสัมผัสได้ถึงความหนาวเหน็บอันไร้สิ้นสุด แตกต่างจากความหนาวเย็นทั่วไป ความหนาวเหน็บนี้ตกเข้าไปยังส่วนลึกของจิตวิญญาณพวกเขาโดยตรง!
น่าหวาดกลัวเกินไปแล้ว พวกเขารู้สึกว่าไฟชีวิตของตนเองเริ่มมอดลง ประหนึ่งสามารถถูกปราณหยินที่แผ่ออกมาดับทิ้งไปได้ทุกเมื่อ!
นี่คือความแข็งแกร่งของปรโลกอย่างนั้นหรือ?
ปากของพวกเขาแห้งผาก จะไม่ให้ตื่นกลัวได้อย่างไรกัน กองทัพยมโลกยังไม่ทันมาถึง ไฟแห่งชีวิตของพวกเขาก็แทบจะมอดดับลง หวนคืนสู่ความตายเสียแล้ว!
ขณะเดียวกันก็มีสถานที่แปลกประหลาดปรากฏขึ้น ดูเหมือนกับเมืองโบราณสักแห่ง เต็มไปด้วยพระราชวังมากมาย ทั้งหมดล้วนก่อขึ้นจากหินต่าง ๆ ที่ดูแปลกประหลาด!
มีประตูขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นเบื้องหน้า มีโครงกระดูกและหัวกระโหลกแขวนเอาไว้เต็มไปหมด ส่องแสงชวนพิศวงออกมา!
ด้านในมีแม่น้ำโลหิต แสงสีชาดส่องทะลุขึ้นไปบนฟ้า หยาดโลหิตเข้มข้นส่งกลิ่นคาวอย่างถึงที่สุด แม้จะอยู่ห่างไกลมาก กลิ่นคาวก็ยังส่งผ่านมาถึง ทำให้สิ่งมีชีวิตจำนวนมากอดอาเจียนออกมาไม่ได้ อาเจียนเสียจนแทบจะขย้อนเครื่องในออกมาด้วย ไม่อาจทานทนต่อกลิ่นคาวได้
…
“จะเทียบกลิ่นอย่างนั้นหรือ? ที่สุดในใต้หล้าย่อมเป็นกลิ่นผสมของพวกเรา!”
ภายในลานเล็ก ๆ ของหลี่จิ่วเต้า ถังขยะกล่าวออกมา มันกับกระโถนรวมกันย่อมเป็นกลิ่นที่ดีที่สุดในใต้หล้า
แม้ว่าพวกมันจะไม่สามารถไปงานแต่งของสือเฟิงได้ แต่พวกมันก็ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก จึงขอให้เมิ่งจีช่วยนำของขวัญที่พวกมันเตรียมไว้ส่งไปให้ด้วย
ตอนนี้พวกมันทั้งหมดต่างก็กำลังดูเหตุการณ์ตรงนั้น!
…
ปรโลกปรากฏขึ้น เส้นทางน้ำพุเหลืองแพร่ขยาย กองทัพปรโลกเดินบนเส้นทางน้ำพุเหลืองตรงเข้ามา
ประตูขนาดใหญ่มโหฬารคือประตูนรก ส่วนแม่น้ำโลหิตก็คือแม่น้ำลืมเลือน ด้านในเต็มไปด้วยผีร่อนเร่ แมลงและงูอย่างหนาแน่น ณ สถานที่แห่งนั้นเกิดการต่อสู้ตลอด มีเสียงร้องอย่างเจ็บปวดดังออกมาต่อเนื่อง
เหนือแม่น้ำโลหิตมีสะพานแห่งหนึ่งทอดเชื่อมสองฝาก นั่นคือสะพานไน่เหอ
หัวสะพานมีคนกำลังต้มน้ำแกง นางเป็นหญิงชราที่มีผมสีขาวโพลน ใช้ช้อนทัพพีขนาดใหญ่คนแกงในหม้อที่มีไอน้ำลอยออกมา
“น้ำแกงยายเมิ่ง ลืมสิ้นทุกห้วงคะนึง หลังจากดื่มน้ำแกงยายเมิ่งแล้ว ก็ก้าวข้ามสะพานไน่เหอเสีย อย่าได้มองย้อนหลับไป จงก้าวต่อไปด้านหน้า…”
หญิงชราผู้หนึ่งรำพึงเสียงต่ำกับตนเอง
ทันใดนั้น นางหันกลับมามองด้านนิกายอวี้ซวีพร้อมแสยะยิ้มมืดหม่น “พวกเจ้าต้องการน้ำแกงยายเมิ่งสักชามหรือไม่? มันอร่อยยิ่ง…”
ด้วยรอยยิ้มสยดสยองที่มาอย่างกะทันหัน ทำให้สิ่งมีชีวิตในนิกายอวี้ซวีแทบจะตกใจตาย!
แปลกและน่าหวาดกลัวเกินไปแล้ว!
“นี่คือ…ปรโลก!”
จักรพรรดินีและหยวนอีเองก็อยู่ที่นี่ พวกนางจะจำไม่ได้ได้อย่างไร ในเมื่อพวกนางล้วนเคยเห็นปรโลกมาก่อน
อีกด้านหนึ่ง หลี่จิ่วเต้าเลิกคิ้วเล็กน้อย
“ประตูนรก เส้นทางน้ำพุเหลือง แม่น้ำลืมเลือน สะพานไน่เหอ...”
เขารำพึงกับตนเองว่าทั้งหมดล้วนดูคุ้นเคยเป็นอย่างยิ่ง นี่มันคือปรโลกในตำนานเรื่องเล่าของดาวเคราะห์สีฟ้าไม่ใช่หรือ?
ก่อนหน้านี้ก็มีศาสนาพุทธและพระอมิตาภะพุทธเจ้า ตอนนี้เป็นปรโลก ดูท่าแล้วตำนานเรื่องเล่าในดาวเคราะห์สีฟ้าจะไม่ใช่เรื่องไร้มูล แต่เป็นความจริง!
‘มีผู้ฝึกตนไปที่ดาวเคราะห์สีฟ้าแล้วทิ้งตำนานเรื่องเล่าเหล่านี้เอาไว้อย่างนั้นหรือ?’
หลี่จิ่วเต้าคิดขึ้นมาในใจ
‘หรือบางทีอาจเป็นตัวละครในตำนานเหล่านั้นที่เคยปรากฏขึ้นในดาวเคราะห์สีฟ้าจริง ๆ?’
เขาคิดขึ้นมาอีกครั้ง
‘ปรโลกออกมาแล้ว เช่นนั้นจะสามารถเห็นสรวงสวรรค์ได้หรือไม่? อีกทั้งยังมีซุนหงอคงอีก?’
เขารู้สึกคาดหวังขึ้นมา หากตำนานของดาวเคราะห์สีฟ้าเป็นเรื่องจริง เช่นนั้นสรวงสวรรค์และซุนหงอคงก็ควรมีตัวตนอยู่จริง
แปดเซียนข้ามทะเล แต่ละคนต่างสำแดงพลังของตนออกมา ฉางเอ๋อร์ทะยานขึ้นดวงจันทร์ โฮวอี้ยิงตะวัน สาวทอผ้ากับหนุ่มเลี้ยงวัว… สิ่งเหล่านี้จะสามารถพบเห็นได้ใช่หรือไม่?
ตู้ม!
ความว่างเปล่าระเบิดออก อีกด้านหนึ่งมีสายธารแห่งปริภูมิเวลาไหลเชี่ยว อักขระกฎเกณฑ์ไหลเวียน ตำหนักปริภูมิเวลาทั้งหลายปรากฏออกมา น่าหวาดหวั่นไม่แพ้กัน ชวนให้คนตื่นตกใจกลัว!
ด้านในมีภาพแปลก ๆ ปรากฏขึ้นอย่างต่อเนื่อง ฉากในยุคสมัยแล้วสมัยเล่าโผล่ขึ้นมา จากนั้นก็มีสิ่งมีชีวิตจำนวนมากกระโดดออกมาจากภาพเหล่านั้น
ขณะเดียวกันก็มีสมบัติต่าง ๆ ลอยออกมา แต่ละอย่างล้วนน่าหวาดกลัวเกินกว่าจะจินตนาการถึง!
สิ่งมีชีวิตทั้งหมดตกตะลึง นี่คือการปรากฏตัวของยอดฝีมือจากทุกยุคทุกสมัยหรือ?
สิ่งมีชีวิตเหล่านั้นพากันสื่อสารทางสายตา เพื่อยืนยันความคิดของตนเอง เหล่าสิ่งมีชีวิตที่ออกมานั้น ล้วนแล้วแต่เป็นยอดฝีมือจากทุกยุคทุกสมัย!
“พวกข้าเคยช่วยเหลือพวกเจ้ามาก่อน เช่นนั้นก็ถึงเวลาที่พวกเจ้าต้องตอบแทนแล้ว วันนี้จำต้องระดมพวกเจ้าในยามที่แข็งแกร่งที่สุดออกมาช่วยต่อสู้!”
มีสิ่งมีชีวิตตนหนึ่งเดินออกมาจากตำหนักปริภูมิเวลา บนร่างเปี่ยมด้วยแสงสว่างเจิดจ้า มันเองก็เป็นอสูรร้ายตนหนึ่งเช่นเดียวกัน ดวงตาทั้งสองข้างใหญ่ประหนึ่งดวงดารา น่าตื่นตะลึง!
ฝ่ายปริภูมิเวลาเองก็เคลื่อนพลครั้งใหญ่ ต้องการจะสยบอาณาจักรแห่งนี้ ทำให้กฎปริภูมิฟื้นกลับมา
“ยามที่แข็งแกร่งสุดอย่างนั้นหรือ? ย่อมได้! จะต้องสู้กับผู้ใด?”
“เพื่อตอบแทนบุญคุณ วันนี้ไม่ว่าจะเป็นผู้ใดก็ตาม ข้าจะสังหารมันให้!”
สิ่งมีชีวิตจากหลายยุคสมัยแสดงท่าทางภาคภูมิใจ พวกเขาทั้งหมดต่างไร้เทียมทาน เป็นตัวตนเหนือชั้นในยุคสมัยหนึ่ง!
“สวรรค์ หรือนี่จะเป็นการต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งยุคสมัย!”
“คิดไม่ถึงเลยว่าจะได้ชมการต่อสู้เช่นนี้!”
สิ่งมีชีวิตทั้งหมดต่างสั่นสะท้านเป็นอย่างยิ่ง สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ล้มล้างความรู้ความเข้าใจเดิมของพวกเขาไปโดยสิ้นเชิง พลังของปรโลกและปริภูมิเวลาที่สำแดงออกมานั้นน่ากลัวเกินไป
ไม่ต้องสงสัยเลย การต่อสู้ครั้งนี้ถูกกำหนดให้จารึกส่งต่อไปให้ชนรุ่นหลังได้รับรู้!