รู้สึกตัวอีกที-ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว-原來我是世外高人 - บทที่ 832 เพิ่งแต่งงานใหม่ เข้าใจได้!
- Home
- รู้สึกตัวอีกที-ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว-原來我是世外高人
- บทที่ 832 เพิ่งแต่งงานใหม่ เข้าใจได้!
บทที่ 832 เพิ่งแต่งงานใหม่ เข้าใจได้!
สัตว์อสูรคิดหนี ทว่าง่ายดายเช่นนั้นที่ไหน หลี่จิ่วเต้าหมายหัวมันไว้แต่แรก เห็นมันเป็นวัตถุดิบอาหาร ย่อมไม่มีทางปล่อยไป
เขาสะบัดใบหญ้าในมือพร้อมตวัดออกไป แสงกระบี่เร็วจนทะลุขีดจำกัด ฟาดฟันลงบนตัวสัตว์อสูรในพริบตา
สัตว์อสูรตกตะลึง กลัวจนวิญญาณแทบสลาย พลังที่แฝงอยู่ในกระบี่นี้น่าพรั่นพรึงเกินไป หากโดนตัวมันจริง ๆ มันต้องสิ้นชีพลงอย่างแน่นอน!
เป็นไปได้อย่างไร?
มันเชื่อไม่ลงเลย ระดับผู้เป็นนิรันดร์อย่างมันจะตายได้อย่างไร นอกเสียจากมีผู้บรรลุใหม่เข้าแทนที่มันถึงจะดับสูญลง
ปัจจัยภายนอกอย่างอื่นไม่มีทางกำจัดมันได้
ต่อให้ฟ้าดินสลาย สรรพสิ่งล่มจม ระดับอย่างมันก็ไม่มีวันตาย
ทว่าหลังกระบี่นี้ฟาดฟันเข้ามา มันรับรู้ถึงภัยคุกคามจากความตายได้จริง ๆ กระบี่นี้สามารถปลิดชีพมันได้!
มันมิกล้าเคลื่อนไหวอีก ขนทั้งตัวชื้นไปด้วยเหงื่อเย็น มันมิเคยมีความรู้สึกผวาเช่นนี้มานานเท่าใดแล้ว แต่บัดนี้กลับถูกความกลัวเกาะกุมจิตใจ!
“เจ้ามานี่เสีย!”
หลี่จิ่วเต้าโบกต้นวิเศษสัตตะ ทันใดนั้น ม่านแสงมงคลเจ็ดสีก็ทาบทับลงบนสัตว์อสูรตัวนี้ ลบล้างพลังทั้งหมดของมันออกไป
“ไป!”
ราชาทั้งห้าเด็ดขาดมาก ทันทีที่หลี่จิ่วเต้าลงมือจัดการสัตว์อสูรตัวนั้น พวกเขาก็ร่วมมือโจมตีหินห้าประภา ไล่ต้อนมันจนต้องล่าถอยและช่วยยมราชแห่งสิบขุมนรกไว้ ก่อนจะพากลับไปยังปรโลก
จากนั้น ปรโลกหายไปอย่างรวดเร็ว
ด้านวิหารโบราณปริภูมิเวลา ธารปริภูมิเวลาไหลหลากเชี่ยวกราก สิ่งมีชีวิตน่าประหวั่นพรั่นพรึงบางคนลืมตาตื่นขึ้นมา
ทว่ามันมิได้ลงมือ เพียงแต่ชำเลืองหลี่จิ่วเต้าแวบหนึ่ง จากนั้นวิหารโบราณปริภูมิเวลาก็หายไปจากที่นี่ด้วย
แผนการของสองกองกำลังใหญ่อย่างปรโลกและปริภูมิเวลาต้องเสียเปล่า!
“ไม่ฆ่าข้าได้หรือไม่”
สัตว์อสูรเอ่ยขอความเมตตา ว่ามันยอมสยบให้กับหลี่จิ่วเต้า รับใช้หลี่จิ่วเต้าเช่นวัวเช่นควาย
ขอบเขตระดับมันนั้นบรรลุได้ยากยิ่ง มันไม่อยากตายไปทั้งอย่างนี้จริง ๆ ต้องการมีชีวิตรอดต่อไป
“ไว้ค่อยว่ากัน ข้ายังไม่ฆ่าเจ้าในระยะอันสั้นนี้ เลือดเนื้อสด ๆ จึงจะยอดเยี่ยมที่สุด”
หลี่จิ่วเต้าต้องการหั่นสด ๆ ยามอยากกินเฉกเช่นปลาหมึกตัวนั้น เช่นนั้นจึงจะถือว่าสดใหม่
อย่าให้เอ่ยเลยว่าสัตว์อสูรระทมปานใด มันคือตัวตนเหนือขอบเขตนิรันดร์ขึ้นไปเชียวนะ ระดับขอบเขตเช่นนี้ ไม่ว่าในอาณาจักรใดล้วนเป็นกำลังสูงสุด เป็นที่ยกย่องของทุกเผ่าทุกตระกูล
แต่มันกลับตกต่ำถึงเพียงนี้…
นับแต่ประวัติศาสตร์เริ่มต้นขึ้น น่ากลัวว่าคงมิมีสิ่งมีชีวิตระดับเดียวกับมันตนใดน่าเวทนาเท่ามันแล้วกระมัง!
ทว่าตายดีปานใดมิสู้อยู่อย่างลำเค็ญ ถึงอย่างไรมันก็รักษาชีวิตไว้ได้แล้ว เรื่องวันหน้าค่อยว่ากันวันหน้าแล้วกัน
“เส้นทางสู่ความสุขมักเต็มไปด้วยอุปสรรค วันนี้เกิดเรื่องราวขึ้นมากมาย กระนั้นก็ถือเป็นประสบการณ์อันน่าจดจำ เพิ่มสีสันให้กับงานมงคลของพวกเจ้า”
หลี่จิ่วเต้าเข้ามาอยู่ข้างกายสือเฟิงพร้อมเอ่ยยิ้ม ๆ “มิหนำซ้ำ พวกมันยังส่งตัวเองมาเป็นของขวัญแต่งงานให้เจ้า”
ราบเรียบมิมีกระโตกกระตาก คุณชายก็คือคุณชาย!
ศึกนี้ดุดันสยดสยองนักหนา ฝ่ายปรโลกและฝ่ายปริภูมิเวลาต่างส่งกำลังรบระดับเกินจินตนาการออกมาต่อสู้ สุดท้ายคุณชายกลับมิได้เก็บมาใส่ใจเลยสักนิด
สือเฟิงสะท้อนใจอย่างยิ่งยวด นึกโชคดีที่เขาได้พบคุณชาย เปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาให้ต่างจากเดิมอย่างสิ้นเชิง เขาได้สัมผัสถึงความมหัศจรรย์นับคณาที่เดิมเขามิเคยมีโอกาสได้สัมผัส
“ดำเนินงานแต่งต่อเถิด อาศัยช่วงทำความสะอาดสถานที่ ให้พ่อครัวปรุงอาหารให้ทุกคนเพิ่มได้พอดี”
หลี่จิ่วเต้าเอ่ยยิ้ม ๆ
สิ่งมีชีวิตจำนวนมากเดือดพล่าน หนนี้พวกเขามาไม่เสียเที่ยวจริง ๆ ได้กินเลือดเนื้อของสัตว์อสูรระดับนี้สักคำ ต่อให้ต้องมอบของขวัญล้ำค่าเพียงใดก็นับว่าคุ้มแล้ว!
ผ่านไประยะหนึ่ง พ่อครัวปรุงเสร็จเรียบร้อยก็ยกเนื้ออสูรที่ตุ๋นจนสุกแล้วไปยังโต๊ะแต่ละโต๊ะ งานแต่งเริ่มดำเนินต่อ
เป็นเช่นที่สิ่งมีชีวิตเหล่านี้คิด สัตว์อสูรเหล่านี้คือเนื้อวิเศษเสมือนโอสถสวรรค์ที่มิมีสิ่งใดเทียบเทียม เพียงได้สูดดมก็ช่วยให้พวกเขาได้รับผลประโยชน์มหาศาล การรีดเร้นวิชาในร่างทวีความเร็ว
โต๊ะของหลี่จิ่วเต้ามิได้กินเนื้อของสัตว์อสูรชนิดนี้ เขาลงมือด้วยตนเอง หั่นเนื้อชิ้นหนึ่งลงจากตัวสัตว์อสูรผู้อยู่เหนือขอบเขตนิรันดร์ นำไปตุ๋นต้มแล้วยกมากินกับพวกลั่วสุ่ย
เสียงหัวเราะสนุกสนานหวนคืนสู่ที่นี่อีกครั้ง สิ่งมีชีวิตทุกตนที่มาเข้าร่วมงานแต่งต่างปีติยินดี และงานแต่งก็จบลงไปท่ามกลางบรรยากาศแช่มชื่นเช่นนี้
รัตติกาลโรยตัว หลังสือเฟิงรับรองแขกเหรื่อเรียบร้อยแล้วก็รีบร้อนกลับไปที่ห้องเพื่อเข้าหอ
ฉินซินนั่งอยู่ข้างเตียงด้วยความประหม่านิดหน่อย สองมือกำเข้าด้วยกัน สือเฟิงเลิกผ้าคลุมศีรษะของฉินซินขึ้น ท่ามกลางแสงสะท้อนจากเปลวเทียน เขาอดมองค้างด้วยความหลงใหลมิได้
งดงามเหลือเกิน สะพรั่งยิ่งกว่าวันปกติเสียอีก สือเฟิงเรียกน้องหญิงอย่างห้ามใจไม่อยู่ ก่อนจะก้มจุมพิตนาง
พวกเขาสองคนกอดรัดฟัดเหวี่ยงพร้อมเอนกายลงเตียง นี่เป็นครั้งแรกของทั้งคู่ หัวใจจึงต่างเต้นระรัว
“เดี๋ยวก่อน”
เวลานั้น คล้ายว่าสือเฟิงนึกบางอย่างขึ้นมาได้และหยุดสิ่งที่ทำอยู่
“เป็นอันใดไปหรือท่านพี่”
ฉินซินถามด้วยใบหน้าแดงก่ำเพราะความเอียงอาย ไยต้องหยุดในจังหวะเข้าด้ายเข้าเข็มด้วย
“ต้าเต๋อนำยาลูกกลอนมาให้ข้าจำนวนหนึ่ง เอ่ยว่าให้ข้ากินก่อนเข้าหอ จะมีประโยชน์ต่อข้ามาก”
สือเฟิงนำกล่องไม้ออกมาหนึ่งกล่อง ด้านในมียาลูกกลอนกลมหกเม็ด ทันทีที่เปิดออกก็มีกลิ่นหอมของยาโชยชาย
“ต้าเต๋อไม่ทำร้ายพวกเราหรอก ท่านพี่ลองกินดูเถิด อย่าให้เสียน้ำใจต้าเต๋อเลย” ฉินซินเอ่ย
“ได้!”
สือเฟิงหยิบออกมาหนึ่งเม็ด กลืนกินลงไปพร้อมหลอมละลายในร่าง พริบตาเดียว เขาก็ร้อนเร่าขึ้นมา เปี่ยมไปด้วยกำลังวังชา แม้แต่สายตาก็เปลี่ยนไปด้วย!
ฉินซินเห็นท่าทางของสือเฟิงแล้วไฉนเลยจะยังไม่รู้ว่ายาลูกกลอนของต้าเต๋อคือสิ่งใด!
นางสบถด้วยสีหน้าแดงระเรื่อ “ต้าเต๋อเป็นเพียงเด็กอมมือแท้ ๆ กลับรู้เรื่องพวกนี้มากกว่าเราเสียอีก! ทว่า…เช่นนี้ก็ดีเหมือนกัน นี่เป็นครั้งแรกของพวกเราทั้งคู่ มีมันคอยช่วยคงดียิ่งขึ้น”
“เช่นนั้นก็กินเพิ่มอีกหลาย ๆ เม็ดเลยแล้วกัน!”
สือเฟิงกินห้าเม็ดที่เหลือรวดเดียวจดหมด จากนั้น คนทั้งคนเสมือนลุกเป็นไฟ ฤทธิ์ยารุนแรงยิ่งนัก!
“!!!”
คราวนี้ ฉินซินแค้นใจต้าเต๋อเหลือแสน!
ยาลูกกลอนที่เป็นประโยชน์อันใดกัน ยาลูกกลอนที่เป็นผลเสียชัด ๆ!
ภายในห้องหนึ่ง
ต้าเต๋อกำลังสวดมนต์ ทันใดนั้น เขาพลันสังหรณ์ใจขึ้นมาก่อนจะหัวเราะฮ่า ๆ “สือเฟิงคงได้ลิ้มรสความยอดเยี่ยมของยาลูกกลอนไห่โก่วแล้วสิท่า! ไม่ต้องขอบคุณข้าหรอก ข้าเข้าอกเข้าใจผู้อื่น!”
ภายในห้องของสือเฟิง เสียงวาบหวามนั้นดังต่อเนื่องตลอดทั้งคืน กระทั่งฟ้าสว่างแล้วก็ยังไม่หยุด
“เพิ่งแต่งงานใหม่ เข้าใจได้”
หลี่จิ่วเต้าหัวเราะเบา ๆ เมื่อรู้ว่าสือเฟิงยังไม่ออกจากห้องก็เอ่ยว่าเข้าใจได้
…
ณ ดินแดนฮวง
สายลมเย็นเยียบพัดโชย ในสถานที่หนาวเหน็บแห่งหนึ่งซึ่งมีหิมะขาวโพลนปกคลุม ทุกสิ่งในทัศนวิสัยล้วนเป็นสีขาว
ที่นี่พิศวงอยู่นิดหน่อย มีความแตกต่างจากที่อื่น ในส่วนลึกสุดของธารน้ำแข็งมีน้ำวนกำลังก่อตัว ซ้ำยังกำลังดูดกลืนสสารระดับสูงที่พวยพุ่งอยู่ในปฐพี
ขณะเดียวกัน ที่นี่มีอักขระลึกลับเข้าใจยากบางอย่างไหลเวียน บุปผาเหมันต์บานสะพรั่งราวกับมีบางสิ่งอยู่ข้างใต้กำลังโลดแล่นรุนแรง!
นั่นคือหัวใจสีขาวหิมะดวงหนึ่ง แต่เดิมนั้นเงียบเชียบไร้สุ้มเสียง ต่อมา เพราะได้ดูดกลืนสสารระดับสูงเข้าไปมาก จึงทลายความเงียบเชียบและเต้นโครมครามขึ้น
หลังมันเริ่มเต้นตึกตัก น้ำวนก็ขยายตัวอย่างเห็นได้ชัด แล้วยังดูดกลืนสสารระดับสูงเร็วขึ้นกว่าเดิมด้วย ไวกว่าก่อนนี้หลายเท่าตัว!
เห็นได้ชัดว่านี่มิใช่หัวใจธรรมดา