ร้านขายอสูรดวงดาว Astral Pet Store - ตอนที่ 536 กลับบ้าน
ผ่านไปครึ่งวัน
ซูผิงลืมตาขึ้นเมื่อนาฬิกานับถอยหลังปรากฏขึ้นในความคิดของเขา
มังกรที่รวมตัวกันอยู่ด้านนอกค่อยๆออกไป มังกรเลือดม่วงบางตัวจะเหยียบกล่องที่ซูผิงอยู่ตอนที่พวกมันกำลังเดินขึ้นเขา
มังกรเลือดม่วงที่มีหน้าที่เฝ้าหัวเราะเยาะ มันได้รู้จากผู้นำของพวกมันว่ามนุษย์ทุเรศนี่ทำให้มังกรเฒ่าอารมณ์เสียดังนั้นเขาจะถูกเก็บไว้ในกล่องจนถึงวันสุดท้ายของชีวิต
“ ตอนนี้แกกำลังมองอะไรอยู่? รู้สึกเป็นเกียรติซะที่โดนพวกเรามังกรเหยียบ” มังกรเลือดม่วงกล่าวด้วยความหยิ่งผยอง
ซูผิงมองมันด้วยหางตา คำพูดเย่อหยิ่งเหล่านั้นไม่ได้ทำให้เขาขุ่นเคือง เขาไม่จำเป็นต้องใส่ใจมังกรที่ไม่มีความสำคัญนี่
ฉันต้องฝึกฝนให้หนักขึ้นหลังจากกลับไป ฉันจะต้องไปให้ถึงระดับตำนานให้เร็วที่สุด ซูผิงวางแผนถึงสิ่งที่เขาควรทำหลังจากกลับไป เขาแทบจะไม่สามารถสู้กับอะไรในอาณาจักรมังกรเลือดม่วงได้เลย ในขณะนี้เขาจะหลีกเลี่ยงไม่กลับมาที่นี่ เขาต้องจดจ่อกับชีวิตของเขาในโลกความจริง
ในที่สุดการนับถอยหลังก็มาถึงเลขศูนย์
มังกรเลือดม่วงยังคงเย้ยหยันซูผิง แต่จู่ๆภูเขาก็เริ่มสั่นและวังวนมืดมิดก็กลืนกินเขาไปทั้งตัว นักโทษคนนั้นหายไปแล้ว
ความกะทันหันทำให้มังกรเลือดม่วงหน้าซีด มังกรเลือดม่วงรีบเข้าไปตรวจสอบ แต่ไม่สามารถพบร่องรอยของซูผิงได้ มันรีบไปรายงานทันที
มังกรเฒ่าที่อยู่ในระดับดวงดาวและมังกรเลือดม่วงตัวอื่นกำลังตรวจสอบต้นกำเนิดมังกรบนยอดเขา พวกมันตกใจที่พบว่าต้นกำเนิดมังกรจำนวนมากสูญหายไป มันเป็นจำนวนที่น่าจะเพียงพอสำหรับการรักษามังกรในสภาวะชะตากรรมที่บาดเจ็บกว่าร้อยตัว และช่วยให้มังกรสิบตัวขึ้นสู่ระดับตำนานได้! “ ไอ้บ้านั่น!”
“ ช่างเป็นมนุษย์ที่น่ารังเกียจ ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าอสูรร้ายจะมาใช้ต้นกำเนิดมังกรของเราเพื่อสร้างร่างกายขึ้นใหม่ ไม่ต้องพูดถึงว่ามันยังได้รับสายเลือดส่วนหนึ่งของเรา มันควรจะถูกประณาม!”
“ เมื่อมันตายเราจะไปตามล่าหามังกรตัวนั้น และถลกหนังมัน!”
มังกรเลือดม่วงโกรธมาก
ตอนนั้นเองที่พวกมันได้รับแจ้งเกี่ยวกับการหายตัวไปของนักโทษ
มังกรเลือดม่วงสองตัวที่พาซูผิงลงเขาไปไม่อยากจะเชื่อ พวกมันจ้องมังกรที่มารายงาน “ แกพูดว่าอะไร? มันหนีไป? มันถูกขังและไม่มีพลัง ไม่ต้องพูดถึงว่าฉันใช้มิติกักขังรอบตัวมัน แล้วมันจะหนีไปได้ยังไง?!”
มังกรส่งสารมีความรู้สึกหวาดกลัวขณะที่มังกรเฒ่าและผู้นำมังกรตัวอื่นจ้องมองมัน มังกรส่งสารกล่าวด้วยความตกใจกลัวอย่างแท้จริงว่า “นายท่าน ผมเฝ้าดูเขาอย่างระมัดระวัง จู่ๆมันก็เริ่มสั่นไหวและมีบางอย่างดูดมันเข้าไป”
“เจ้าโง่!” มังกรเลือดม่วงตัวหนึ่งทุบหัวมังกรส่งสาร
มังกรส่งสารเบิกตากว้างด้วยความกลัว ไม่สามารถหลับตาได้ ก่อนที่หัวของมันจะถูกบดขยี้ มังกรตายและมีวิญญาณลอยออกมา วังวนที่นำไปสู่อาณาจักรแห่งความตายปรากฏขึ้นรอบ ๆ จิตวิญญาณพยายามลากมันเข้าไปข้างใน
“ ท่านช่วยข้าด้วย ไม่ใช่ความผิดของข้า!”
“ ไปซะ! แกไม่สามารถแม้แต่จะจัดการมนุษย์ตัวเล็ก ๆ ได้ เราไม่ต้องการแก!”
วังวนกินวิญญาณซึ่งยังคงวิงวอนและดิ้นรน แต่ความพยายามนั้นไร้ผล
“ ฉันจะไปดู” มังกรตัวหนึ่งพูดก่อนที่มันจะพุ่งลงจากภูเขา
ด้านบน
“ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามนุษย์นั้นไปแล้ว”
“ไม่น่าแปลกใจที่มนุษย์นั่นไม่กังวลเลยที่มาที่นี่ มันมีแผนอยู่แล้ว!”
“ แต่เราได้ตรวจค้นอย่างละเอียดแล้ว มันไม่มีสมบัติที่สามารถสร้างผลกระทบเช่นนี้ได้ มันใช้วิธีอะไร?” มังกรเลือดม่วงตัวอื่น ๆ พูดคุยกันด้วยความขุ่นเคือง พวกมันเพิ่งขังซูผิงเมื่อครึ่งวันก่อน และเขาก็หนีไปแล้ว ดูเหมือนว่าคำขู่ของพวกมันที่จะกักขังเขาไปตลอดชีวิตเป็นเพียงเรื่องตลกสำหรับเขา
มังกรเฒ่าไม่พอใจมาก มันจำสิ่งที่ซูผิงพูดว่าจะไม่มีอะไรหยุดเขาได้ถ้าเขาต้องการจากไป มังกรเฒ่าตระหนักว่าซูผิงพูดความจริง
แท้จริงแล้วมันคือสิ่งมีชีวิตที่เต็มไปด้วยความลึกลับ มังกรเฒ่าเชื่อว่าหากสามารถขุดหาความลึกลับเหล่านั้นออกมา และสร้างเป็นของตัวเองได้ มันจะอยู่ยงคงกระพัน!
“หามัน ค้นหาทั้งโลก!” มังกรเฒ่าออกคำสั่งหลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง
ซูผิงกลับมาที่ร้านของเขาในขณะที่อาณาจักรมังกรเลือดม่วงทั้งหมดถูกพลิกเพื่อหาเขา
เขาปรากฏตัวอีกครั้งในห้องอสูร เขาสังเกตเห็นว่าโจแอนนากำลังจ้องมองมาที่เขาทันทีที่เขาโผล่ออกมา ซูผิงสับสนมองดูตัวเองและเห็นว่าเสื้อผ้าของเขาขาดหายไประหว่างต่อสู้ เขายืนเปลือยเปล่าอยู่ โครงกระดูกน้อยกระจัดกระจายไปทั่วเท้าของเขาราวกับชิ้นส่วนกระดูก หนามมังกรได้ปิดผนึกพลังทั้งหมดของเขา โครงกระดูกน้อยก็ถูกตรึงเช่นกัน และสูญเสียพลังทั้งหมดไปเหมือนกัน
แม้แต่ราชาโครงกระดูกก็ไม่สามารถต้านทานหนามมังกรได้
“ หนามมังกร…” ซูผิงจ้องไวัตถุขนาดใหญ่สีแดงเลือดที่อยู่ตรงหน้าเขา มันคือหนามมังกรที่ติดอยู่บนอกของเขา
หลังจากที่เขากลับมาหนามมังกรก็ถูกดึงออกจากอกของเขา ระบบได้รักษาบาดแผลทั้งหมด และนำหนามมังกรออกมาด้วย
ซูผิงวางหนามมังกรไว้ในพื้นที่เก็บของ จากนั้นเขาก็หยิบเสื้อผ้าและใส่
“ว่าไง? เธอคิดอะไร? มีอะไรที่น่าสนใจหรอ?” ซูผิงถามโจแอนนา
โจแอนนาค่อยๆมองออกไป “ ไม่มีอะไรน่าดู นายไม่มีอะไรเลยนอกจากร่างกายของมนุษย์ ฉันเห็นมามากเกินพอแล้ว”
ซูผิงตอบว่า“ เธอกำลังพูดถึงอะไร? ฉันกำลังถามถึงเสื้อผ้าของฉัน”
โจแอนนาหันกลับมา ซูผิงบอกให้โครงกระดูกน้อยซึ่งยังคงนอนอยู่ที่พื้นให้ไปพักในคอกเลี้ยงดูเพราะพื้นเย็นเกินไป
โครงกระดูกน้อยไม่เห็นด้วย กระดูกที่กระจัดกระจายเริ่มกลิ้งไปด้านหน้าคอกเลี้ยงดู กองกันอยู่ตรงนั้น
ซูผิงพูดไม่ออก มันขี้เกียจเกินกว่าจะเดินกลับไปที่คอกเลี้ยงดู
ซูผิงมองโครงกระดูกน้อยอย่างอ่อนโยน มันคืนชีพหลายครั้งเกินไปในระหว่างต่อสู้ โครงกระดูกน้อยจะฟื้นขึ้นมาได้เองเว้นแต่ว่ามันจะถูกโจมตีโดยมังกรระดับดวงดาวหรือมังกรเลือดม่วงตัวอื่น ๆ ที่อยู่บนยอดเขา ซูผิงต้องยอมรับว่าโครงกระดูกน้อยกลายเป็นอสูรที่แข็งแกร่งมากหลังจากได้รับสายเลือดของราชาโครงกระดูก ไม่ใช่สิแม้แต่สิ่งมีชีวิตที่อยู่ในสภาวะชะตากรรมขั้นสูงสุดก็ไม่สามารถฆ่าโครงกระดูกน้อยได้ง่ายๆ ซูผิงมองโครงกระดูกน้อยเป็นครั้งสุดท้ายและออกจากห้องอสูร เขาผลักประตูให้เปิดออก และทักทายถังยู่หรานและจงหลิงถง เขาไปที่ห้องทดสอบและเรียกมังกรเพลิงนรกออกมา
ตูม!
มังกรเพลิงนรกเข้ามาในห้องทดสอบ โชคดีที่ห้องทดสอบมีขนาดกว้างขวาง แม้แต่มังกรที่มีขนาดมากกว่าหนึ่งพันเมตรอย่างมังกรเฒ่าก็สามารถอยู่ในห้องได้
ในขณะที่เขาจ้องไปที่มังกรเพลิงนรกที่ปัจจุบันมีสายเลือดมังกรเลือดม่วงอยู่ส่วนหนึ่ง ซูผิงแทบจะสัมผัสได้ถึงพลังงานที่ลึกซึ้งในอสูรของเขา ซูผิงคิดว่ามังกรตัวอื่น ๆ ในระดับกิตติมศักดิ์จะต้องตกตะลึงกับพลังมังกรเพลิงนรก พวกมันจะคุกเข่าต่อหน้าอสูรตัวนี้!
ซูผิงร่ายคาถาระบุมังกรเพลิงนรก
มังกรเพลิงนรก
คุณสมบัติ: อสูรตระกูลมังกร
ระดับ: ระดับเก้าขั้นกลาง
พลังต่อสู้: 25
ไหวพริบ: สูงกว่าค่าเฉลี่ย
ทักษะพรสวรรค์: พรสวรรค์ด้านความคล่องตัวระดับพื้นฐาน
ทักษะทางสายเลือด: ลมหายใจมังกรเลือดม่วง, วิญญาณเลือดมังกร
ความสามารถ: เปลวเพลิงปีศาจ, วิญญาณมังกร, สายฟ้าคำราม, กรงเล็บยักษ์ มารคำราม กลิ่นอายมังกร…ซูผิงประทับใจกับทักษะทั้งหมด เขาไม่คิดว่ามังกรเพลิงนรกจะไปถึงระดับเก้าขั้นกลางแล้ว เหมือนโครงกระดูกน้อยหลังกลับมามีชีวิต แต่เทียบกับโครงกระดูกน้อย ระดับพลังของมังกรเพลิงนรกไม่ดีนัก มันดูเหมือนสายเลือดของโครงกระดูกน้อยจะบริสุทธิ์กว่า