ร้านขายอสูรดวงดาว Astral Pet Store - ตอนที่ 569 ไปเยือนสถาบันผู้กล้า
ซูผิงใช้เวลาสักครู่เพื่อทำความเข้าใจสิ่งที่ชายวัยกลางคนถาม
เขาหน้าตึงทันทีที่ได้สติ
หวืด!
เขารีบพุ่งเข้าไปใกล้ชายวัยกลางคน
“ นายพูดว่าอะไรนะ?” ซูผิงจ้องมองชายคนนั้นอย่างเย็นชา
ชายวัยกลางคนรู้สึกหนาวสั่นที่กระดูกสันหลัง และรู้สึกว่าหายใจลำบาก ดวงตาของซูผิงทำให้จิตใจของเขาว่างเปล่า
“ ผม ผม…”
เขาตะกุกตะกักและไม่รู้ว่าจะทำยังไง
เขาประหลาดใจกับปฏิกิริยาของตัวเองเมื่อเขารวบรวมสติได้ เขาซึ่งเป็นนักรบอสูรระดับแปดถูกชายหนุ่มทำให้ตัวสั่น
“ อาจารย์ของผมบอกให้ผมมาหาซูหลิงเยวี่ยน้องสาวของคุณ…” ชายวัยกลางคนพูดออกมาได้ในที่สุด แม้ว่าเขาจะพยายามอย่างเต็มที่ให้ไม่ดูน่าอายต่อหน้าชายหนุ่มมากเกินไป แต่น้ำเสียงของชายวัยกลางคนก็ยังคงสั่นเทา
“ เธอไม่ได้อยู่ที่สถาบันผู้กล้าเหรอ? ทำไมแกถึงไม่เจอเธอ?” ซูผิงตะโกน
เขาไม่ได้พยายามที่จะระงับความโกรธ
ซูหลิงเยวี่ยหายไป?
เขาเชื่อมั่นว่าสถาบันผู้กล้าจะต้องมีระบบเฝ้าระวังอย่างแน่นอน
แม้ว่าพวกเขาจะไม่มีกล้องรักษาความปลอดภัย แต่เขาก็เชื่อมั่นว่าพวกเขาจะมีกำลังและอำนาจในการค้นหาเธอ
“ ผมไม่รู้ อาจารย์ของผมคิดว่าเธอกลับบ้านมาแล้ว เราได้ยินเกี่ยวกับการโจมตีของอสูรร้ายในเมืองฐานหลงเจียง เราคิดว่าเธอคงต้องเดินทางมาเมื่อได้ยินข่าว ดังนั้นอาจารย์ของผมจึงบอกให้ผมมาที่นี่ และ…” ในที่สุดชายวัยกลางคนก็พูดออกมาได้ เขารู้สึกว่าเขาจะเป็นลมภายใต้การจ้องมองของซูผิง
ซูผิงกำลังอารมณ์เสีย
เขาไม่รู้ว่าซูหลิงเยวี่ยกลับมาแล้วหรือยัง
เขาบอกให้หานยู่เซียงดูแลเธอให้ดี แต่แล้วเธอก็หายไป
หานยู่เซียงสมควรตาย!
ซูผิงต้องสงบสติอารมณ์ ชายวัยกลางคนรู้สึกเครียด เขาเป็นเพียงผู้ส่งสาร การระบายความโกรธกับเขาจะไม่เกิดผลอะไร
ซูผิงโทรหานายกเทศมนตรีเซี่ยจินชุ่ยทันที “คุณซู?”
เซี่ยจินชุ่ยรู้สึกประหลาดใจกับสายของซูผิง “ มีอะไรให้ผมช่วยครับ?”
“ ท่านช่วยค้นหาบันทึกการเข้าออก ดูว่าน้องสาวของผมกลับมาหรือยังให้ผมได้ไหม?” ซูผิงถาม “ แน่นอนครับ”
เซี่ยจินชุ่ยรับคำ นั่นเป็นคำขอที่แปลกประหลาด แต่เซี่ยจินชุ่ยไม่ได้ถามอะไรเพิ่มเติมเพราะเขาฟังออกจากน้ำเสียงว่าซูผิงอารมณ์ไม่ดี
ในไม่ช้าเซี่ยจินชุ่ยก็โทรกลับมาบอกผลให้ซูผิงฟัง
ไม่
ไม่มีวี่แววว่าซูหลิงเยวี่ยกลับมา
เธอไม่ได้อยู่ที่นี่…
ใจของซูผิงหนักอึ้ง
เขาโทรโดยที่รู้อยู่แล้วว่าคำตอบจะเป็นแบบนี้ ถ้าเธอกลับมา เธอก็คงจะกลับบ้านไปแล้ว เธอไม่สามารถซ่อนตัวอยู่ที่ไหนสักแห่งได้นานจนลูกศิษย์ของหานยู่เซียงจะต้องเดินทางมาตามหาเธอ
ใบหน้าของซูผิงขุ่นมัวยิ่งกว่าเดิมเมื่อเขาจำได้ว่าเมืองฐานหลายแห่งต้องเผชิญหน้าจากการโจมตีของอสูรร้าย หากซูหลิงเยวี่ยบังเอิญผ่านเมืองฐานเหล่านั้นในช่วงปิดเมือง เธอจะต้องอยู่ในเมืองฐานเหล่านั้น และเธออาจตกอยู่ในอันตราย
ซูหลิงเยวี่ยมีมังกรจันทราเหมันต์ แต่ถ้าเธอเจอกับราชาอสูรร้ายล่ะ?
ซูผิงโทรหาตระกูลฉิน
ในไม่ช้าฉินตู้หวงก็บอกเกี่ยวกับเมืองฐานที่ถูกโจมตี ซูผิงค้นหาทางออนไลน์และติดตามเส้นทางระหว่างสถาบันผู้กล้าและเมืองฐานหลงเจียง
เมื่อเปรียบเทียบแล้วซูผิงสังเกตเห็นว่าเมืองฐานเหล่านั้นไม่ได้อยู่ระหว่างทาง กล่าวได้ว่าถ้าซูหลิงเยวี่ยพยายามจะกลับบ้านเธอก็จะไม่ต้องเจอกับอสูรร้ายใด ๆ !
“ เธอหายไปได้ยังไงและตั้งแต่เมื่อไหร่?” ซูผิงหันไปจ้องชายวัยกลางคนเหมือนดาบที่ฟันเขาได้
ชายวัยกลางคนรู้สึกว่าหัวใจของเขาเต้นรัว เมื่อสักครู่นี้ เขาไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับชายหนุ่มคนนี้มากนัก อย่างไรก็ตามเขาเริ่มกลัวเมื่อเห็นชายหนุ่มเปลี่ยนไปเป็นคนละคน
ในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่าทำไมอาจารย์ของเขาถึงย้ำให้เขาเป็นประพฤติตัวดีๆกับซูผิง
“เรื่องเกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ก่อน ไม่นานหลังจากที่ราชาสวรรค์ต่างโลกมาถึงเมืองฐานหลงเจียง คุณหานบอกว่าเขาเห็นเธอครั้งสุดท้ายตอนน้องสาวของคุณอยู่ในหอคอยมังกรของมหาวิทยาลัย” ชายวัยกลางคนกล่าวด้วยเสียงต่ำ
“หนึ่งอาทิตย์?!”
ซูผิงไม่อยากจะเชื่อ
สนามพลังปรากฏอยู่ข้างหลังเขา อุณหภูมิลดลงเมื่อปีศาจปรากฏตัว
พวกเขามาบอกฉันหลังจากที่เธอหายไปเป็นอาทิตย์? หานยู่เซียงเพิ่งจะมาบอกฉันตอนนี้?! ซูผิงหายใจเข้าลึก ๆ และกำหมัดแน่น เขาสังเกตเห็นถังยู่หรานและจงหลิงถงยืนอยู่ด้านข้าง และหญิงสาวทั้งสองกำลังกลัว ทันใดนั้นความโกรธก็จางหายไป
“ ดูแลร้านด้วย” ซูผิงพูดกับพวกเธอ“ ฉันต้องไป อย่าบอกพ่อแม่ของฉัน ฉันไม่อยากให้พวกเขากังวล”
“นายจะไปไหน? ฉันไปกับนายได้นะ” ถังยู่หรานเสนอ
“ไม่เป็นไร จะเร็วกว่าถ้าฉันไปคนเดียว” ซูผิงหันมามองเธอ
ถังยู่หรานเม้มปาก “ ฉันเก่งพอที่จะช่วยนายได้”
“ฉันรู้”
ซูผิงไม่ได้พูดอะไรกับเธอมากไปกว่านี้ “นำทาง พาฉันไปที่สถาบันผู้กล้า” ซูผิงพูดกับชายวัยกลางคน
ชายวัยกลางคนประหลาดใจ เจตนาฆ่าที่มาจากซูผิงทำให้เขากลัว “คุณคิดว่าคุณจะไปทำอะไรได้ที่นั่น? อาจารย์ของผมก็เป็นห่วงเช่นกัน เขากำลังตามหาเธออยู่…”
“ ฉันบอกให้แกนำทาง!”
ซูผิงตะคอก
ทันใดนั้นชายวัยกลางคนรู้สึกว่ามีบางอย่างเจาะเข้าไปในสมองของเขา จิตใจของเขาว่างเปล่า เขาตระหนักว่าเขาเปียกชุ่มด้วยเหงื่อเย็นเมื่อเขาตั้งสติได้ ชายหนุ่มไม่ใช่นักรบอสูรทั่วไป เขาไม่เคยสัมผัสถึงพลังประเภทนี้แม้แต่จากอาจารย์ของเขา
แต่อาจารย์ของเขาอยู่ในระดับกิตติมศักดิ์ขั้นสูงสุด เป็นถึงรองอาจารย์สถาบันผู้กล้า!
“ ผม ผมเข้าใจแล้ว” ชายวัยกลางคนหน้าซีดด้วยความกลัว
“มากับฉัน!” ซูผิงตะโกนไปที่ห้องอสูร
ร่างหนึ่งออกมา มันคือโครงกระดูกน้อย มันขยับเข้าใกล้ซูผิงและยืนอยู่ข้างๆเขาอย่างเงียบ ๆ
ในระหว่างนั้นกระแสความร้อนก็พัดไปทั่ว มังกรเพลิงนรกก้าวออกมาจากห้องอสูร
ชายวัยกลางคนเบิกตากว้างเมื่อเห็นมังกรเพลิงนรก
หนึ่งในสามมังกรที่หายากที่สุด!
แต่มังกรเพลิงนั้นดูแตกต่างไปจากในหนังสือเรียน มันยังมีเกล็ดสีม่วง
ชายหนุ่มคนนี้มีอสูรเช่นนี้ได้ยังไง?
ชายวัยกลางคนกลัวซูผิงมากยิ่งกว่าเดิม
ซูผิงก้าวออกจากประตู และมังกรเพลิงนรกตามเขาไป เขากระโดดขึ้นไปบนไหล่ของมังกรเพลิงนรก และใช้พลังดวงดาวดึงชายวัยกลางคนขึ้นมา “ไปกัน”
โครงกระดูกน้อยหายไปโผล่ที่ไหล่อีกข้าง หลังจากได้รับคำสั่งมังกรเพลิงนรกก็สร้างสายฟ้าสีม่วงขึ้นมา และบินขึ้นสู่ท้องฟ้า
หลังจากที่มังกรเพลิงนรกได้รับร่างใหม่จากต้นกำเนิดมังกรเลือดม่วง มังกรเพลิงนรกก็ได้รับสายเลือดของมังกรเลือดม่วง มันได้เรียนรู้ที่จะบินซึ่งเป็นทักษะพื้นฐานของมังกรเลือดม่วง ด้วยความเร็วที่ค่อนข้างรวดเร็วเช่นเดียวกับอสูรบินที่ระดับเดียวกัน
มังกรตัวใหญ่บินจากไปอย่างรวดเร็ว
ตรงข้ามถนนฉินตู้หวงกระโดดลงมาจากชั้นสองของบ้าน และถามผู้หญิงสองคนที่ยืนอยู่ข้างประตู“คุณซูไปแล้วหรอ?”
ถังยู่หรานเฝ้าดูจนกระทั่งเธอมองไม่เห็นซูผิงก่อนที่เธอจะพยักหน้า
เธอไม่ได้บอกว่าซูผิงไปไหน ฉินตู้หวงเป็นคนที่วางใจได้ แต่ยังไงก็ควรระวังตัว
ฉินตู้หวงลดเสียงลงและถาม “เธอคือคนที่ทำลายตระกูลซือถูและตระกูลหวังจริงๆ หรอ?”
ถังยู่หรานตระหนักว่าชายชราก็สนใจเรื่องของเธอเช่นกัน เธอไม่ได้โกหก “ ใช้” เธอพยักหน้า
ฉินตู้หวงตกใจ เขาจำได้ดีว่าก่อนหน้านี้ถังยู่หรานอยู่แค่ระดับเจ็ด ไม่กี่วันเธอไปถึงระดับกิตติมศักดิ์ และกวาดล้างสองตระกูลใหญ่!
เขาคงไม่กล้าอวดว่าเขาจะสามารถทำลายสองตระกูลใหญ่ได้อย่างง่ายดาย!
ท้ายที่สุดทั้งสองตระกูลเคยมีนักรบอสูรในตำนาน และพวกเขาเข้าร่วมหอคอย ไม่มีใครสามารถคาดเดาได้ว่าทั้งสองตระกูลมีความสามารถเพียงใด
ความจริงที่ว่าผู้หญิงคนนี้สามารถสร้างความยิ่งใหญ่ได้ ทำให้ฉินตู้หวงตระหนักว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ได้อ่อนแอไปกว่าเขามากนัก
แต่เขาเป็นนักรบอสูรในตำนาน!
ในทางกลับกันผู้หญิงคนนี้อยู่แค่ระดับกิตติมศักดิ์ขั้นกลางเท่านั้น!
ฉินตู้หวงอยากจะพูด แต่หยุดคิด
ถังยู่หรานเดาว่าเขากำลังจะพูดอะไร และบอกกับตัวเองว่าเธอดีใจที่ชายชราคนนี้ฉลาด
เธอรู้สึกว่าฉินตู้หวงกำลังจะถามเธอเกี่ยวกับความก้าวหน้าของเธอ แต่เธอจะไม่พูดอย่างแน่นอน นั่นคือความลับของซูผิง ฉินตู้หวงฉลาดพอที่จะไม่ปล่อยให้คำถามนั้นหลุดปากของเขา
ไม่ใช่เรื่องฉลาดที่จะถามเกี่ยวกับความลับของคนอื่น
“ คุณซูต้องการพนักงานอีกหรือไม่? ฉันอยากลอง”ฉินตู้หวงกล่าวในทันที
จงหลิงถงไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่เธอเพิ่งได้ยิน เธอไม่สนใจเส้นทางการบ่มเพาะของนักรบอสูร ถึงกระนั้นเธอก็รู้ว่าชายชราคนนี้อยู่ในระดับตำนาน
ไม่นานก่อนหน้านี้ซูผิงเคยอ้างว่าอย่างน้อยก็ต้องอยู่ในระดับตำนานหากพวกเขาต้องการจะทำงานให้เขา
ผู้ชายคนนี้อยากทำงานให้เขา?
เขาเป็นนักรบอสูรในตำนาน แต่ต้องการทำงานที่นี่เนี่ยนะ?
จงหลิงถงนึกถึงบางสิ่งบางอย่าง เธอมองไปที่ชายชรา
ชายชราคนนี้ต้องเคยได้ยินสิ่งที่ซูผิงพูดในร้านมาก่อน ดังนั้นเขาต้องคอยดูร้านของซูผิงอย่างใกล้ชิด และแอบฟังอยู่ตลอดเวลา!
ไม่น่าแปลกใจที่ชายชราย้ายมาอยู่ฝั่งตรงข้ามถนน!
จงหลิงถงมองเขาอย่างเป็นศัตรู
ฉินตู้หวงสังเกตเห็นสิ่งนั้นซึ่งทำให้เขาประหลาดใจ ในไม่ช้าเขาก็รู้ว่าอะไรอยู่ในใจของผู้หญิงคนนั้น เขาฝืนยิ้มอย่างขมขื่น
ถังยู่หรานเลิกคิ้ว เธอก็เปลี่ยนเป็นศัตรูเช่นกัน แต่ด้วยเหตุผลอื่น เธอตระหนักว่า…มีคนกำลังจะมาแย่งงานของเธอ!