ร้านขายอสูรดวงดาว Astral Pet Store - ตอนที่ 609-610
ตอนที่ 609 โชคร้าย
“ฆาตกร!”
“ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามันเพิ่งจะเกิดขึ้น”
“ฉันคิดว่าพวกเขาเป็นนักรบอสูรกิตติมศักดิ์!”
คนอื่นๆ ที่อยู่หลังเคาน์เตอร์ต่างตกตะลึง นักรบอสูรบางคนที่ผ่านไปมาถูกดึงดูดให้หยุดเพื่อดูเหตุการณ์ให้ชัดเจนขึ้น
พวกเขากระตือรือร้นที่จะดูการแสดงดังกล่าวเพื่อเติมชีวิตชีวาให้กับชีวิตแสนน่าเบื่อของพวกเขา
”เกิดอะไรขึ้น?”
ชายชราผมหงอกก้าวเข้ามาในอาคารพร้อมกับหญิงสาวที่ดูเหมือนเลขากำลังเดินอยู่ข้างๆ เขาเหลือบมองฝูงชน และสังเกตเห็นคนแปลกหน้า จากนั้นเขาเห็นชายวัยกลางคนนอนอยู่เหนือสระโลหิต
“ผู้อาวุโสเฟิง!”
“ผู้อาวุโสเฟิงอยู่ระดับกิตติมศักดิ์ขั้นสูงสุด เรื่องนี้คงจะสนุกน่าดู!”
บรรดาผู้เห็นเหตุการณ์ยิ้มสนุก และก้มหัวเพื่อแสดงความเคารพ
ผู้อาวุโสเฟิงเป็นคนสำคัญของตระกูลหาน ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักรบอสูรกิตติมศักดิ์
”แกเป็นใคร? กล้าดียังไงบุกเข้ามาในตระกูลหาน!” หญิงสาวสวยก้าวมาข้างหน้าด้วยใบหน้านิ่ง ใครก็ตามที่ก่อเหตุฆาตกรรมที่นี่จะต้องชดใช้ ชายที่เสียชีวิตไม่ได้เป็นเพียงนักรบอสูรขั้นสูงธรรมดา เขาเป็นหน้าเป็นตาของตระกูลหาน
ผู้หญิงคนนี้เป็นนักรบอสูรระดับแปด
“คุณหนูยู่เชียน”
“เธอจบการศึกษาจากสถาบันผู้กล้าและติดอันดับหนึ่งในสามของชั้นเรียน เธอยังสามารถเอาชนะนักรบอสูรกิตติมศักดิ์ทั่วๆไปได้ ไม่ต้องพูดถึงนักรบอสูรระดับปรมาจารย์คนอื่นๆ”
“อัจฉริยะไม่จำเป็นต้องมีเหตุผลใช่ไหม? คนที่อาจถูกมองว่าเป็นตัวปัญหาไม่มีความหมายอะไรเลยสำหรับเธอ”
ผู้ชมแสดงความชื่นชมต่อหญิงสาว
“นักรบอสูรกิตติมศักดิ์?”
หลี่หยวนเฟิงหันไปหาชายชราผมหงอก และเมินเฉยต่อหญิงสาวที่แสดงความโกรธของเธอ ชายชราอยู่ที่ระดับกิตติมศักดิ์ขั้นสูงสุด เขาน่าจะเป็นคนดูแลที่นี่
หวืด!
หลี่หยวนเฟิงยกมือขึ้น ชายชราผมหงอกปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าเขา
การเคลื่อนไหวกะทันหันนั้นทำให้ผู้ชมตื่นตาตื่นใจ พวกเขาอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมาเมื่อได้เห็นอีกครั้ง
นั่นเร็วมาก!
ผู้อาวุโสเฟิงรู้สึกงุนงง
เกิดอะไรขึ้น?
เขาแค่ยืนอยู่ตรงนั้น เขามาทำอะไรใกล้หมอนี่!?
นอกจากนี้ เขายังรู้สึกว่ามีบางอย่างที่ไม่สามารถบรรยายได้กักขังเขาไว้ เขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ และไม่สามารถระดมพลังดวงดาวได้ พลังดวงดาวทั้งหมดถูกเก็บไว้ภายใน
มันเป็นการครอบงำที่สมบูรณ์!
”แก…”
ผู้อาวุโสเฟิงสูญเสียสีบนใบหน้า
“แกรู้จักตระกูลหลี่ที่เคยอยู่ที่นี่ไหม?”หลี่หยวนเฟิงประสานมือไว้ด้านหลัง และจ้องไปที่ชายชราอย่างเย็นชา
หลี่หยวนเฟิงดูเหมือนชายหนุ่ม แต่จริงๆ แล้วเขาแก่พอที่จะเป็นปู่ทวดของชายคนนี้ได้ ชายชราเป็นเหมือนเด็กสำหรับเขา ทั้งในด้านอายุและพลัง
“ตระกูลหลี่…?”
ผู้อาวุโสเฟิงคิดอะไรบางอย่างออก “หมายถึงตระกูลหลี่ที่เคยมีนักรบอสูรในตำนานใช่หรือเปล่า?”
“ถ้าไม่มีนักรบอสูรในตำนานที่นามสกุลหลี่อีก งั้นก็น่าจะใช่ พวกเขาไปไหน?”
ผู้อาวุโสเฟิงพยายามแอบหนีออกจากการกักขังขณะที่พวกเขาคุยกัน แต่ต้องแปลกใจที่ทำไม่ได้ เขาไม่เคยพบใครที่สามารถทำเช่นนี้กับเขาได้
นี่เป็นทักษะลับบางอย่างใช่หรือเปล่า?
หรือว่า…
แม้แต่การคิดถึงคำนั้นก็ทำให้หัวใจของเขาเต้นรัว
นักรบอสูรในตำนาน?
ชายหนุ่มคนนี้เป็นนักรบอสูรในตำนานใช่ไหม!
ผู้อาวุโสเฟิงกลัวการเดาของเขาเอง “คุณเป็นใคร?”
“นั่นไม่ใช่สิ่งที่แกควรจะรู้ แค่ตอบคำถามของฉัน”หลี่หยวนเฟิงกล่าว ความอดทนของเขากำลังจะหมด เขาเริ่มรู้สึกว่าต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นกับตระกูลหลี่ พวกเขาคงไม่ละทิ้งถิ่นฐานของบรรพบุรุษ…นั่นคือเหตุผลที่เขาทำร้ายชายวัยกลางคนคนนั้น เขาหงุดหงิด
ผู้อาวุโสเฟิงหน้าซีดกว่าเดิม “ตระกูลหลี่ที่คุณพูดถึงหายไปเมื่อห้าร้อยปีก่อน ผมเพิ่งได้ยินมาจากคนอื่น มีนักรบอสูรในตำนานอยู่ในเมืองฐาน และหนึ่งในนั้นเป็นสมาชิกของตระกูลหลี่ น่าเสียดายที่นักรบอสูรในตำนานคนนั้นเสียชีวิตไปนานแล้ว โชคร้ายเกิดขึ้นกับตระกูลและพวกเขาก็หายตัวไป”
“ห้าร้อยปีที่แล้ว?”
หลี่หยวนเฟิงไม่อยากจะเชื่อ
“หมายความว่าไง ตาย? นักรบอสูรในตำนานที่แกพูดถึงชื่ออะไร?”หลี่หยวนเฟิงตะโกนถามคำถามของเขา
ผู้อาวุโสเฟิงรู้สึกเครียดเพิ่มมากขึ้น กระดูกของเขากำลังจะแตก เขาต้องการปลดปล่อยพลังดวงดาว แต่เขาทำไม่ได้ เขาถูกกักขัง พลังดวงดาวของเขากลัวอะไรบางอย่าง และพวกมันไม่ยอมออกจากร่างของเขา
เขาจ้องไปที่หลี่หยวนเฟิง เขาผลักความคิดที่เป็นลางร้ายที่แวบเข้ามาในหัวของเขาออกไป “นักรบอสูรในตำนานคนนั้นชื่อหลี่ หยวนเฟิง และเขาเป็นที่รู้จักในนามผู้ไล่ตามตะวัน!”
หลี่หยวนเฟิงยังคงตะลึง ซูหลิงเยวี่ยและซูผิงเองก็เช่นกัน
ซูผิงเดาสถานการณ์โดยรวมได้ ซึ่งทำให้เขาโกรธ
หลี่หยวนเฟิงกลับมารู้สึกตัวอีกครั้ง
เขาต่อสู้ในถ้ำลึกเป็นเวลาแปดร้อยปี เขาไม่ได้ทำอย่างนั้นเพราะเขาโง่ เขาทำอย่างนั้นเพราะเขาอยากจะทำ!
เขาไม่ได้ผิดแปลกไปจากนักรบอสูรในตำนานอื่น ๆ เขาไม่ต้องคิดเยอะเพื่อทำความเข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนั้น
“ฉันอยู่ในถ้ำลึกแปดร้อยปี ฉันจากไปแปดร้อยปีแล้ว และตอนนี้แกมาบอกว่าฉันตายไปแล้ว…”
หลี่หยวนเฟิงยิ้มเยาะ แต่ความเย็นในดวงตาของเขาช่างน่ากลัว
“แกคิดว่าคนที่อยู่ในถ้ำลึกโง่จริงๆหรอ?
“ฉันเต็มใจไปถ้ำลึกและหอคอยสัญญาว่าจะปกป้องตระกูลหลี่ตลอดไป แต่พวกเขากลับไม่รักษาสัญญานั้น!”
เขากำหมัดแน่น แววตาของเขาเฉียบคมกว่าเดิม
ตระกูลหลี่หายตัวไปเมื่อห้าร้อยปีก่อน ตอนนั้นเขาอยู่ในถ้ำลึกเป็นเวลาสามร้อยปีแล้ว!
เขาอยู่ต่อไปอีกห้าร้อยปีหลังจากที่ตระกูลหลี่หายตัวไป!
เขากำลังปกป้องมนุษยชาติ และเขาคิดว่าเขากำลังปกป้องตระกูลหลี่ด้วย!
แต่ไม่มีตระกูลหลี่ให้เขาปกป้องอีกต่อไป
หลังจากเกษียณอายุแล้ว บางทีเขาอาจไม่สามารถช่วยเหลือมนุษยชาติได้มากขนาดนั้น แต่อย่างน้อยที่สุดเขาก็สามารถปกป้องตระกูลหลี่ได้อีกหลายชั่วอายุคน!
เขาและเพื่อนของเขาเต็มใจที่จะปกป้องถ้ำลึก ทำไมหอคอยไม่ปกป้องตระกูลของพวกเขา!
หลี่หยวนเฟิงโกรธมาก เขาโกรธมาก
ผู้อาวุโสเฟิงตะลึงกับคำพูดของหลี่หยวนเฟิง
ถ้ำลึก?
แปดร้อยปี?
ผู้อาวุโสเฟิงหรี่ตาลง
มีเพียงนักรบอสูรในตำนานเท่านั้นที่สามารถปกป้องถ้ำลึกได้!
ชายหนุ่มผู้นี้เป็นนักรบอสูรในตำนานของตระกูลหลี่หรอ?
“ท่านครับ ท่านคือ?” ผู้อาวุโสเฟิงถาม เขาพูดด้วยความเคารพ เขารู้สึกว่าการที่ชายหนุ่มจะฆ่าเขาไม่ใช่เรื่องยาก
ถ้าชายหนุ่มไม่ได้ใช้ทักษะลับบางอย่าง เขาก็ต้องอยู่ในระดับตำนาน!
“ฉันชื่อหลี่หยวนเฟิง นักรบอสูรในตำนานจากตระกูลหลี่ ที่แกบอกว่าหายไปนานแล้ว!”หลี่หยวนเฟิงชำเลืองมองผู้อาวุโสเฟิงและคนอื่นๆ
ตอนที่ 610 เปลวไฟของตำนาน
หลี่หยวนเฟิง?
ผู้อาวุโสเฟิงยอมรับความจริงนั้นได้อย่างยากลำบาก
หลี่หยวนเฟิงบรรพบุรุษของตระกูลหลี่
เป็นไปไม่ได้!
ตระกูลหลี่ถูกกำจัดไปเมื่อห้าร้อยปีก่อน และนักรบอสูรในตำนานคนนั้นน่าจะตายในถ้ำลึก เขากลับมาจากความตายอย่างงั้นหรอ? ผู้อาวุโสเฟิงสงสัย แต่หลี่หยวนเฟิงมาจากเขตอนุทวีปอย่างแน่นอนพิจารณาจากรูปร่างหน้าตาของเขา และเพราะเขารู้จักนักรบอสูรกิตติมศักดิ์ขั้นสูงสุดเกือบทั้งหมดของเขตอนุทวีป แต่เขาไม่รู้จักหลี่หยวนเฟิง
หลี่หยวนเฟิงไม่สามารถเป็นนักรบกิตติมศักดิ์ธรรมดาๆได้
นักรบอสูรกิตติมศักดิ์ที่สามารถเอาชนะนักรบอสูรคนอื่น ๆ ได้จะต้องมีชื่อเสียงโงดัง
ผู้อาวุโสเฟิงไม่ใช่คนเดียวที่ตกใจ คนอื่นที่เฝ้าดูก็งง
พวกเขาได้ยินการสนทนา ตอนแรกพวกเขาคิดว่าผู้อาวุโสเฟิงกำลังจะทำอะไรบางอย่างกับชายหนุ่มที่ดูอ่อนเยาว์คนนี้ เพราะจู่ ๆ ผู้อาวุโสเฟิงก็เข้าหาเขา แต่ทั้งสองกลับจบลงด้วยการพูดคุยกัน
ต้องยืนใกล้กันถึงจะคุยกันอย่างงั้นหรอ?
การสนทนาและท่าทีของผู้อาวุโสเฟิงยิ่งทำให้สับสนมากขึ้นไปอีก
ผู้อาวุโสเฟิงพูดด้วยความเคารพ
บุคคลนั้นอ้างว่าเขาเป็นนักรบอสูรในตำนาน!
ตำนาน นั่นเป็นคำที่ทำให้ใครๆ ก็ต้องประหลาดใจ!
พวกเขาสามารถบอกได้จากทีท่าของผู้อาวุโสเฟิงว่าคำกล่าวอ้างของชายหนุ่มดูน่าจะเป็นความจริง
แต่…
ทำไมนักรบอสูรในตำนานถึงมาที่ตระกูลหาน?
ทันใดนั้น ฝูงชนคนหนึ่งก็พูดอะไรบางอย่าง “ท่าน? บรรพบุรุษ?”
ในตอนแรกเขาเกือบจะไม่ได้ยิน แต่ในไม่ช้าเขาก็รู้สึกตื่นเต้นมากขึ้น ชายวัยกลางคนพุ่งออกจากฝูงชนและวิ่งไปหาหลี่หยวนเฟิง คุกเข่าลงพูดด้วยน้ำเสียงสั่น “ท่านครับ เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้พบท่าน ผมเป็นหนึ่งในทายาทที่ไม่คู่ควรของท่าน!!”
หลี่หยวนเฟิงตัวแข็ง
ผู้อาวุโสเฟิงก็เช่นกัน แต่ในไม่ช้าเขาก็ทำหน้านิ่งและตะโกนใส่ชายวัยกลางคนว่า “ไปให้พ้น! ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่แกจะมีสิทธิพูด!”
จากนั้นเขาก็หันไปหาหลี่หยวนเฟิงและอธิบายว่า “ท่านหลี่ เขาเป็นสมาชิกในตระกูลหานของเรา เขาคงเสียสติไปแล้วแน่ๆ ผมคิดว่าเขาแค่พยายามจะคุยกับท่านเพราะเขารู้ว่าท่านเป็นนักรบอสูรในตำนาน”
ผู้อาวุโสเฟิงพูดกับหญิงสาวที่ชื่อยู่เชียนว่า “เชียน เอาตัวชายคนนี้ออกไป อย่าลืมลงโทษเขา!”
หญิงสาวที่ชื่อยู่เชียนตะลึงกับเหตุการณ์แปลกๆ ที่เกิดขึ้นไม่ต่างจากใครๆ เช่นเดียวกับคนอื่นๆ เธอคิดว่าผู้อาวุโสเฟิงเป็นคนที่พุ่งเข้าไปข่มขู่ชายหนุ่มเพื่อจะสอนบทเรียนให้เขา แต่ความเป็นจริงกลับตรงกันข้าม น่าแปลกใจยิ่งกว่าที่พบว่าผู้อาวุโสเฟิงยอมรับตัวตนของชายหนุ่มที่ดูอ่อนเยาว์นั่น
ดังนั้นบุคคลนั้นจึงอยู่ในระดับตำนานจริงๆ!
”ค่ะ”
ยู่เชียนเหลือบมองหลี่หยวนเฟิงก่อนที่เธอจะเข้าไปจับชายวัยกลางคนคนนั้น
ชายวัยกลางคนตะโกนทันที “ท่านครับ ผมไม่ใช่สมาชิกในตระกูลของหาน ผมทำงานที่นี่ แต่ในตัวของผมมีเลือดของตระกูลหลี่!”
”หุบปาก!”ยู่เชียนหยุดชายคนนั้น “มีสติหน่อยหานจินซง ถ้านายไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของตระกูลหานแล้วนายเป็นใคร? ทรยศต่อนามสกุลของตัวเองเพียงเพื่อที่จะได้พูดคุยกับนักรบอสูรในตำนานเนี่ยนะ? จากวันนี้ไปนายไม่คู่ควรที่จะอยู่กับเรา นายจะถูกไล่ออกจากตระกูล!”
ยู่เชียนภาคภูมิใจกับสถานะที่สูงส่งในตระกูลหาน และคำตัดสินของเธอก็ถือเป็นที่สิ้นสุด
เธอยกมือขึ้น
อย่างไรก็ตาม จู่ ๆ เธอก็สั่นสะท้านก่อนจะพุ่งกระเด็นออกไป แรงผลักทำให้เธอลอยไปได้หลายสิบเมตร ท่าที่เธอกระแทกพื้นไม่สวยงาม เลือดไหลออกมาจากมุมปากของเธอ
นั่นเป็นสิ่งที่ไม่คาดคิด ยู่เชียนลุกขึ้นและสับสน
เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอถูกโจมตีได้ยังไง!
“ฉันรู้สึกได้ถึงเลือดของตระกูลหลี่ในตัวนาย” หลี่หยวนเฟิงกล่าวกับชายวัยกลางคนที่คุกเข่า
ชายคนนั้นถอนหายใจด้วยความโล่งอก “ท่านครับ ขอบคุณ!”
ในทางกลับกัน ผู้อาวุโสเฟิงไม่ยินดีกังผลลัพธ์นั้น “ท่าน อย่าไปเชื่อเขา เขาเป็นสมาชิกของตระกูลหานของเรา บางทีใครบางคนในตระกูลย่อยของเขาอาจเจอลูกหลานตระกูลหลี่และแต่งงานด้วยนั่น น่าจะเป็นเหตุผลที่เขามีเลือดขอตระกูลหลี่”
“ไม่จริง!” ชายวัยกลางคนประท้วง
เขาไม่เคยรวบรวมความกล้าที่จะต่อต้านผู้อาวุโสเฟิง นักรบอสูรกิตติมศักดิ์ผู้มีอำนาจสูงสุดในการกำหนดชีวิตและความตายของเขาได้ แต่วันนี้เขาไม่สนใจ “ท่านครับ ผมมาจากตระกูลหลี่ ผมถูกบังคับให้เปลี่ยนนามสกุลเป็นหาน เมื่อเราได้ยินว่าท่านเสียชีวิต ไม่ช้าตระกูลอื่นๆ ก็เข้ามาโจมตีเรา และหอคอยก็ไม่ปกป้องเราอีกต่อไป
“ตระกูลอื่นๆ โลภมรดกของเรา เนื่องจากเราไม่ได้รับการปกป้องจากหอคอย พวกเขาทั้งหมดต่างคิดว่าเพราะตระกูลของเราเคยมีนักรบอสูรในตำนาน เราก็คงจะมีสมบัติเหลืออยู่บ้าง
“ตระกูลต่างๆต่อสู้กับเราและตระกูลหานใช้ประโยชน์จากสิ่งนั้นรวมตระกูลหลี่เป็นหนึ่ง เราถูกบังคับให้ละทิ้งนามสกุลหลี่ และกลายเป็นส่วนหนึ่งของพวกเขา เราละอายใจเกินกว่าจะไปพบท่านได้ เราสมควรได้รับการฝึกฝน เรามีเลือดของตระกูลหลี่อยู่ในตัว เราถูกบังคับให้ใช้ชีวิตร่วมกับตระกูลหานต่อไป แต่เราไม่เคยล้มเลิกความคิดที่จะนำตระกูลหลี่กลับมา เพราะในตระกูลของเรามีนักรบอสูรในตำนาน!!”
ดวงตาของชายวัยกลางคนเต็มไปด้วยน้ำตา
หลี่หยวนเฟิงกำหมัดแน่นเมื่อเขาได้ยินว่าหอคอยละทิ้งตระกูลหลี่ และสมาชิกที่รอดตายถูกบังคับให้ใช้นามสกุลหาน
เขายังไม่ตาย!
เขาอาจจะตกอยู่ในอันตรายอย่างมาก ทำให้รู้สึกว่าเขากำลังจะตาย แต่เขาไม่ได้ตาย!
เขาจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเขาต้องผ่านอันตรายถึงชีวิตมามากแค่ไหนในช่วงแปดร้อยปีในถ้ำลึก!
อาจมีบางครั้งที่ข่าวบอกเป็นนัย และหอคอยคิดว่าเขาตายแล้ว เป็นไปได้ว่าหอคอยหยุดปกป้องตระกูลของเขาเพราะอย่างนั้น!
แต่เมื่อเขาเข้าไปในถ้ำลึก หอคอยสัญญาว่าจะปกป้องตระกูลของเขาตลอดไป!
หอคอยควรปกป้องตระกูลของเขา แม้ว่าเขาจะตายในถ้ำลึกไปแล้วก็ตาม!
ท้ายที่สุดพวกเขากล้าหาญอยู่ในถ้ำลึกเพื่อต่อสู้กับอสูรร้าย และโอกาสตายก็สูงมาก!
หากตระกูลของพวกเขาต้องทนทุกข์ทรมานหลังจากที่พวกเขาตาย นักรบอสูรในตำนานคนไหนจะเต็มใจไปปกป้องถ้ำลึก?
ตระกูลหลี่ไม่ได้หายไป ยังคงอยู่ที่นี่ แต่สมาชิกต้องละทิ้งนามสกุลหลี่ ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาไม่อาจยอมรับได้
”บอกฉันมา เกิดอะไรขึ้น?”
หลี่หยวนเฟิงกำหมัดแน่ แต่แม้ว่าจะโกรธ เขาก็สามารถรักษาความสงบของเสียงเอาไว้ได้
ชายวัยกลางคนพยักหน้าและบอกหลี่หยวนเฟิงทุกสิ่งที่เขารู้
ย้อนกลับไปในสมัยนั้น อำนาจของตระกูลหลี่เริ่มค่อยๆ ลดลงเมื่อมีข่าวออกมาว่าหลี่ หยวนเฟิงเสียชีวิตแล้ว
หลายสิบปีแรกนั้นดีเพราะอิทธิพลของหลี่หยวนเฟิงยังคงเหลืออยู่ แต่หลายตระกูลเริ่มโลภในทรัพย์สินของตระกูลหลี่ ในภายหลังตระกูลหลี่ประสบกับการต่อสู้หลายครั้งซึ่งกินเวลากว่าหลายทศวรรษ
พวกเขาต้องรับมือกับการลอบสังหาร สายลับ อุบาย และการโจมตีทุกประเภท ในที่สุดตระกูลหลี่ก็ไม่สามารถทนได้
นั่นเป็นช่วงเวลาที่มืดมนที่สุดสำหรับตระกูลหลี่
พอตระกูลหานเข้ามา ตระกูลหลี่ก็สูญเสียศักดิ์ศรีทั้งหมด
โชคดีที่พวกเขามีสมาชิกบางคนที่มีความสามารถค่อนข้างมาก มีผู้หญิงคนหนึ่งที่เป็นผู้ฝึกสอนอัจฉริยะ และเธอได้เสียสละตัวเองเพื่อพัฒนาสายสัมพันธ์กับนายน้อยตระกูลหานในตอนนั้น เธอให้ประโยชน์แก่ตระกูลหานด้วยทักษะผู้ฝึกสอนของเธอ ในที่สุดเธอก็ซื้อโอกาสให้สมาชิกในตระกูลหลี่ได้เป็นส่วนหนึ่งของตระกูลหาน
นายน้อยคนนั้นเป็นอัจฉริยะและเขามีพลังมหาศาล อย่างไรก็ตามจากนั้นเขาก็เสียชีวิตไม่นานหลังจากที่เขาได้เป็นผู้นำาตระกูลขณะที่เขาต่อสู้กับตระกูลอื่นในอาณาจักรลับ
แต่กฎที่เขาตั้งไว้ยังคงยู่
ถึงกระนั้นสมาชิกคนอื่น ๆ ของตระกูลหานก็ยังไม่สามารถยอมรับผู้มาใหม่ได้ และในที่สุดก็บังคับให้พวกเขาเปลี่ยนนามสกุล
สมาชิกในตระกูลหลี่มีนามสกุลต่างกัน และพวกเขาถูกตระกูลหานล้างสมองแต่พวกเขายังจำได้ ไม่มีใครสามารถลบความจริงที่ว่าตระกูลหลี่เคยมีนักรบอสูรในตำนาน พวกเขาภูมิใจที่มีสายเลือดตระกูลหลี่!
ตระกูลหานปลูกฝังพวกเขาเกี่ยวกับความยิ่งใหญ่ของตระกูลหาน และนักรบอสูรผู้ยิ่งใหญ่มากมายของพวกเขา แต่ไม่มีสิ่งใดเทียบได้กับนักรบอสูรในตำนาน!
แน่นอนว่าทายาทบางคนของตระกูลหลี่ได้หลอมรวมเข้ากับตระกูลหานอย่างเต็มที่
พวกเขากลายเป็นสมาชิกที่แท้จริงของตระกูลหาน
เมื่อเวลาผ่านไปและมาจนถึงปัจจุบัน มีเพียงไม่ถึงสิบสองคนที่จำได้ว่าพวกเขามาจากตระกูลหลี่
จะมีน้อยลงและอาจจะไม่มีเหลืออีกเลยในอนาคต
ตลอดเวลามีสมาชิกในตระกูลหานบางคนที่ไม่ยอมรับอดีตสมาชิกของตระกูลหลี่ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมคนอย่างหานจินซง ชายวัยกลางคนจึงไม่ได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้สูงขึ้นในตระกูลหาน พวกเขาถูกทดสอบและลงโทษอยู่เสมอ และเขาต้องทนกับเรื่องทั้งหมดนั้น
พวกเขาต้องทำไม่ว่าจะเจ็บปวดแค่ไหน
หากพวกเขาต่อสู้ พวกเขาจะถูกกำจัดไปตลอดกาล
นั่นคือเหตุผลว่าทำไมพวกเขาถึงยังอยู่ที่นี่ พวกเขามีความเชื่ออย่างแน่วแน่ว่าในเมื่อตระกูลหลี่เคยมีนักรบอสูรในตำนาน พวกเขาก็สามารถมีอีกได้!
นั่นคือความเชื่อมั่นของพวกเขา!
หานจินซงคงไม่ก้าวขึ้นมาถ้าไม่ใช่เพราะหลี่หยวนเฟิงดูเหมือนนักรบอสูรในตำนานจากตระกูลของเขา เขากลัวว่ามันจะเป็นการทดสอบอีกครั้ง
ถ้าเขาก้าวเข้าไปในกับดักของตระกูลหาน การเสียสละและความพยายามทั้งหมดจะสูญเปล่า ตระกูลหานจะตรวจหาคนที่ยังคงยึดติดกับสายเลือดของตระกูลหลี่ และเขาจะกลายเป็นคนบาปที่ทำลายพวกเขาโดยไม่ได้ตั้งใจ
แต่ถึงกระนั้น เขาไม่สามารถนิ่งเฉยได้
พวกเขาได้ยินข่าวจากหอคอยที่ว่าหลี่หยวนเฟิงเสียชีวิต
หานจินซงไม่คิดว่าตระกูลหานจะใช้สิ่งนั้นเพื่อมาเป็นกับดัก นั่นเป็นหนึ่งในเหตุผลที่หานจินซงตัดสินใจก้าวออกมาพูด