ร้านขายอสูรดวงดาว Astral Pet Store - ตอนที่ 799 สถาบันมีอาหลัก
เขาไม่สามารถเข้าใจได้ว่าซูผิงคิดอะไรอยู่ พาโบลจึงปล่อยให้เรื่องไปเงียบๆ เขาตัดสินใจที่จะทำอย่างดีที่สุดเพื่อฝึกฝนเธอ เขาจะต้องขอบคุณเขาอย่างแน่นอนหากเธอกลายเป็นผู้ฝึกสอนที่ยอดเยี่ยมจริงๆ
”อาจารย์”
จงหลิงถงมองที่ซูผิงและพูดอย่างไม่เต็มใจว่า “ฉันจะกลับมาหาอาจารย์ได้ไหม?”
“แน่นอน” ซูผิงยิ้มและกล่าวว่า “ทุกเวลา ฉันไม่ได้ไล่เธอไปไหน เธอจะยังอยู่ในรีอา”
จงหลิงถงโล่งใจ “นั่นดีมากเลยค่ะ”
“ฝึกให้หนักและพยายามที่จะเป็นผู้ฝึกสอนเก่งๆ เผื่อวันนึงเธอจะได้ช่วยฉันได้” ซูผิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
”ค่ะ”
…
ซูผิงมองพาโบลล โอนีล และผู้มาเยือนคนอื่นๆ รวมถึงจงหลิงถงจากไป ตามอาจารย์คนใหม่ของเธอ
ถังยู่หรานค่อนข้างไม่เต็มใจที่จะเห็นเธอไป พวกเธอกลายเป็นเพื่อนซี้กันไปแล้วหลังจากที่ได้ใช้เวลาร่วมกันเป็นเวลานานในร้านของซูผิง
พวกเธอสนิทกันมากขึ้นเพราะเป็นชาวต่างดาวบนดาวเคราะห์ที่ไม่คุ้นเคย
หลังจากที่จงหลิงถงจากไป ถังยู่หรานก็เข้าหาซูผิงและวิงวอนด้วยดวงตาวาววับ “นายช่วยหาอาจารย์ให้ฉันด้วยได้ไหม?”
”ไม่”
ซูผิงปฏิเสธโดยไม่แม้แต่จะมองเธอ
”ทำไมไม่ล่ะ?”ถังยู่หรานอดไม่ได้ที่จะถาม
“ใครจะทำงานให้ฉันถ้าเธอไป”
“…ฉันสามารถกลับมาได้เสมอตอนที่”
“ไม่” ซูผิงพูดตามความเป็นจริง “เธอเป็นแค่พนักงานชั่วคราว ไม่มีสัญญาระหว่างเรา และฉันก็ไม่ให้เงินเดือนเธอ อย่างไรก็ตามเธอต้องทำหน้าที่ของเธอในฐานะพนักงานและทำงานให้กับร้านของเราอย่างทุ่มเท จะทำอย่างอื่นได้ยังไง?”
“…”
เขาพูดแบบนี้โดยไม่รู้สึกอะไรเลยได้ยังไง?
นายทุนบ้าบออะไรเนี่ย!
ถังยู่หรานแก้มป่อง
เธอยอมแพ้ต่อความผิดหวังอย่างรวดเร็ว เนื่องจากซูผิงไม่ได้สนใจเธอเลย เขาจดจ่ออยู่กับการจัดเรียงบัญชีแยกประเภท เขาไม่ได้สนใจที่จะเงยหน้ามองสายตาเจ็บแค้นใจของเธอ
ปลิงดูดเลือด…ถังยู่หรานโกรธและหันหลังจากไป
ซูผิงเหลือบมองเธอจากด้านหลัง คิดว่าถึงเวลาต้องฝึกเธอแล้ว
ไม่เช่นนั้นกลิ่นอายของลูกค้าระดับดวงดาวอาจทำให้เธอหวาดกลัว เธอจะไม่สามารถทำงานได้ดีในสถานการณ์แบบนี้
ฉันต้องทำแบบเดิมอีกใช่ไหม? แต่ฉันมีของจากระบบที่ช่วยลบความทรงจำในครั้งก่อน แต่ตอนนี้ฉันไม่มีแล้ว… เมื่อพูดถึงของจากระบบ ร้านค้าควรจะรีเฟรชใหม่แล้วใช่ไหม?
เมื่อคิดว่าเป็นไปได้ ซูผิงจึงมองหาสินค้าใหม่ แต่แล้วรัศมีบางอย่างก็เข้ามาใกล้ร้าน
ฮะ?
ซูผิงหรี่ตาและมองออกไปข้างนอก
เขาค่อนข้างอ่อนไหวต่อเจตนาฆ่า คนแปลกหน้าบางคนในนักรบระดับดวงดาวแสดงเจตนาฆ่าอย่างเปิดเผย พวกเขามาที่นี่ทำไม?
…
“ที่นี่คือ?”
คนแปลกหน้าสามคนยืนนิ่งอยู่นอกร้าน ใบหน้าที่เฉยเมยของพวกเขาเปลี่ยนไปเมื่อเห็นแถวยาวนอกร้าน
พวกเขาเคยเห็นร้านค้าที่เป็นที่นิยม แต่ไม่มีร้านไหนได้รับความนิยมเท่าร้านนี้
ลูกค้ารอต่อคิว… เยอะมาก!
คิวยาวเกินขอบเขตของความรู้สึก ยาวจนเกือบถึงเขตเมือง
ชายหนุ่มชุดขาว หรี่ตาและพูดว่า “ฉันตรวจไม่พบสิ่งที่อยู่ภายในร้านนี้ ต้องมีอะไรบางอย่างแน่ๆ”
ชายวัยกลางคนกล้ามบึกตรงกลางขมวดคิ้วและพูดว่า “อย่าใจร้อน ม่านพลังของร้านนี้หายาก นายไม่สามารถซื้อได้หากไม่มีภูมิหลังที่แข็งแกร่ง”
เขาบรรลุข้อสรุปเช่นนี้เพราะเขาพบว่าประสาทสัมผัสของเขาไม่สามารถสัมผัสทะลุกำแพงร้านได้
เขามีฐานบ่มเพาะระดับดวงดาวและได้ฝึกฝนเทคนิคลับสำหรับการรับรู้ขั้นสูง แต่ถึงกระนั้น เขาก็ไม่สามารถตรวจจับอะไรในร้านได้เลย นอกจากสิ่งที่ตาของเขามองเห็น!
“ไปบอกให้เจ้าของร้านออกมาคุยกับเราที่นี่” ชายวัยกลางคนพูดเสียงต่ำ
เขาไม่ได้ก้าวเข้าไปในร้าน เนื่องจากเขากลัวว่าจะมีกับดักอันตรายถึงชีวิตอยู่ภายใน
มีการเปลี่ยนแปลงในท่าทีของชายหนุ่มชุดขาว แต่เขาไม่กล้าที่จะขัดคำสั่ง เขาไม่คิดว่าใครจะกล้าพอที่จะโจมตีเขา
ชายหนุ่มก้าวออกไปตะโกนโดยไม่เข้าไปในร้าน “มีใครอยู่ข้างในไหม? ออกมา!”
ทุกคนในแถวต่างตกตะลึงเมื่อเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
พวกเขาสังเกตเห็นว่าคนแปลกหน้านี่ไม่ธรรมดา โดยเฉพาะชายหนุ่มชุดขาว เขาไม่ได้สนใจที่จะปกปิดการบ่มเพาะระดับสภาวะชะตากรรมของเขา เห็นได้ชัดว่าเขาแข็งแกร่งกว่าคนอื่นๆ
ด้วยเหตุผลนั้นเองที่คนในแถวจึงไม่โวยวายเมื่อพวกเขามาถึง
คนอื่นคงจะตะโกนถ้ามีคนมาแซงคิว
ลูกค้าในแถวกระซิบคุยกัน.ไอรีนโนเวล.
“พวกเขามาที่นี่เพื่อหาปัญหาเหรอ? พวกเขากล้าได้กล้าเสียจริงๆ!”
“เจ้าของร้านเป็นนักรบระดับดวงดาว เขาสามารถทุบและฆ่าคนอย่างพวกเขาได้อย่างง่ายดาย”
“ตึ๊ก ตึ๊ก.. พวกเขาเป็นสมาชิกจากตระกูลไรอันหรือเปล่า? นั่นไม่สมเหตุสมผลเลย พวกไรอันผูกมิตรกับร้านแล้วไม่ใช่หรอ?”
“ดูจากสีผมก็รู้แล้วว่าพวกเขาไม่ได้มาจากตระกูลไรอันหรือแม้แต่ดาวนี้ ดูเหมือนคนต่างดาว”
หูของคนแปลกหน้าทั้งสามกระตุกเมื่อได้ยิน “ระดับดวงดาว” ชายหนุ่มที่ตะโกนทั้งตกตะลึงและตกใจ
มียอดฝีมือระดับดวงดาวในร้านหรอ?
เขาอดไม่ได้ที่จะมองย้อนกลับไปที่ชายวัยกลางคนที่อยู่ข้างหลังเขา และในที่สุดก็โล่งใจเมื่อเห็นความมั่นใจบนใบหน้าของอีกฝ่าย
”ฮะ?”
ซูผิงมาที่ประตูร้านแล้ว เขาสัมผัสได้ว่าคนแปลกหน้าสองคนอยู่ที่สภาวะชะตากรรมขั้นสูงสุดและมีพลังงานจำนวนมหาศาล พวกเขาแข็งแกร่งกว่าบุคคลในสภาวะชะตากรรมขั้นสูงสุดที่ซูผิงเคยเห็นมา
อย่างไรก็ตามคนที่อยู่ตรงกลางนั้นเป็นยอดฝีมือระดับดวงดาวที่ปกปิดความแข็งแกร่งของเขา
“ทำไมถึงมาวุ่นวายที่นี่?” ซูผิงถาม
ถังยู่หรานตามมาเพราะอยากดูอะไรสนุกๆ
”นายนั่นเอง!”
ชายหนุ่มชุดขาวจำซูผิงได้ทันที เขาไม่คาดคิดว่าจะพบเขาเร็วขนาดนั้น เขาพูด “นายฆ่านักเรียนจากสถาบันของฉันในเขตชานเมืองใช่ไหม?”
“ชานเมือง?”
ซูผิงกลอกตาเมื่อได้ยินเช่นนั้น เมื่อรู้ตัวตนของพวกเขา
“อ้อมาจากสถาบันมีอาหลักเหรอ? ใช่ ฉันเป็นคนฆ่าเธอเอง” ซูผิงยอมรับอย่างเปิดเผย
คำพูดของซูผิงลอยออกมาราวกับระเบิด ลูกค้าที่กระซิบอยู่ในแถวต่างตกตะลึง พวกเขาทำได้เพียงมองคนแปลกหน้าสามคนด้วยความตกใจ
พวกเขามาจากสถาบันมีอาหลักหนึ่งในห้าสถาบันการศึกษาที่ดีที่สุดหรอ?
เป็นสถาบันที่เต็มไปด้วยคนมีความสามารถ นักเรียนทุกคนของพวกเขาเป็นอัจฉริยะหนึ่งในพันล้าน!
นักเรียนที่โดดเด่นของพวกเขาสามารถเอาชนะศัตรูที่อยู่เหนือระดับได้อย่างง่ายดาย ส่วนใหญ่ไปถึงระดับดวงดาวเมื่อสำเร็จการศึกษา บางคนถึงกับกลายเป็นเจ้าดวงดาว!
เจ้าดวงดาวแข็งแกร่งพอที่จะครองทั้งจักรวาล!
อย่างไรก็ตามซูผิงฆ่านักเรียนจากสถาบันมีอาหลักหรอ?
ลองนึกภาพปัญหาที่เขาจะต้องเจอสิ!
ทุกคนมองซูผิงด้วยความตกใจ พวกเขารู้ว่าซูผิงเป็นยอดฝีมือระดับดวงดาว แต่สิ่งที่เขาทำมันกล้าหาญเกินไป!
“และแกยังพยายามปฏิเสธ…ห้ะ?”
ผ่านไปได้ครึ่งประโยค ชายหนุ่มชุดขาวก็ตกตะลึง
เขายอมรับในสิ่งที่เขาทำอย่างนั้นหรอ?
เขาขี้เกียจจะอธิบาย
ชายหนุ่มพูดอย่างเศร้าโศก “แกรู้ไหมผลที่จะตามมาจากการฆ่านักเรียนจากสถาบันของฉันคืออะไร?”
“ฉันต้องตอบว่าชีวิตของฉันเองงั้นหรอ?” ซูผิงหัวเราะคิกคัก
อารมณ์ของเขาเริ่มไม่ดีหลังจากรู้ว่าพวกเขาเป็นคนจากสถาบันมีอาหลัก ถึงกระนั้นเขาก็ยังดูสบายๆ แม้เขาจะโกรธเขาโกรธ
เขาได้รับการแจ้งมาว่าชาวต่างดาวที่ไปดาวเคราะห์สีน้ำเงินระหว่างการต่อสู้ก็มาจากสถาบันมีอาหลัก!
พวกเขาไปที่ดาวเคราะห์สีน้ำเงินเพื่อรับสมัครนักเรียนโดยไม่สนใจโลกและเพียงแค่นำเอาอัจฉริยะที่ได้รับการคัดเลือกออกไปโดยไม่แสดงเจตนาที่จะช่วยเหลือใดๆ
แน่นอนว่าพวกเขาไม่จำเป็นต้องช่วยเหลือ
แม้แต่การพิจารณาสถานะของพวกเขาในฐานะสมาชิกของสถาบัน พวกเขาไม่มีความเห็นอกเห็นใจต่อชีวิตของคนทั้งโลกที่ในช่วงที่ตกอยู่ในอันตราย แม้ว่าสถาบันดังกล่าวจะผลิตยอดฝีมือสภาวะเทพดวงดาวได้ ซูผิงก็ยังดูถูกพวกเขาอยู่ดี
ถ้านักเรียนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอะไรคือความเป็นมนุษย์ พวกเขาจะกลายเป็นยอดฝีมือที่แท้จริงได้อย่างไร?
พวกเขาเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตที่น่าสมเพชที่ไล่ตามพลังอย่างเดียวโดยไม่สนอะไร!
“ไม่ใช่แค่ชีวิตของแก แต่ยังรวมถึงครอบครัวของแกด้วย!” ชายหนุ่มชุดขาวประกาศอย่างเย็นชา“ชีวิตของมนุษย์ธรรมดาจะเปรียบได้กับชีวิตของนักเรียนจากสถาบันของฉันได้ยังไง พวกเขาเป็นอัจฉริยะที่ดีที่สุด มีค่ามากกว่าคนธรรมดาหลายล้านเท่า!”
“อย่างนั้นหรอ?”
ซูผิงหัวเราะคิกคักและกล่าวว่า “สำหรับฉันเธอก็เป็นแค่มดไร้ค่า”
”แก!”
ชายหนุ่มชุดขาวโกรธจัด เขาไม่คาดคิดว่าฆาตกรจะเย่อหยิ่งขนาดนี้!
เขาแสดงความกล้าและไม่สำนึกผิดแม้หลังจากที่รู้ว่าพวกเขามาจากสถาบันมีอาหลัก!
“แกคิดว่าแกสามารถทำอะไรก็ได้เพราะมีนักรบระดับดวงดาวสนับสนุนแกอยู่อย่างงั้นหรอ? แม้แต่ยอดฝีมือระดับดวงดาวก็ไม่สามารถทำแบบนั้นได้!” ชายหนุ่มพูดด้วยความโมโห