ร้านขายอสูรดวงดาว Astral Pet Store - ตอนที่ 822 บันไดศพโบราณ
เมฆที่อยู่ด้านหลังม่านพลังกระจายตัว และบันไดกว้างก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าของทุกคน
บันไดดูเหมือนสะพานที่เชื่อมระหว่างท้องฟ้ากับโลก จุดที่ใกล้พวกเขาที่สุดคือที่สวน แต่ปลายอีกด้านหนึ่งอยู่ในวิหารของที่พำนักศักดิ์สิทธิ์ซึ่งอยู่ห่างออกไปหลายพันกิโลเมตร
โลกภายในที่พำนักศักดิ์สิทธิ์คล้ายกับความว่างเปล่า วิหารโดดเดี่ยวลอยเหมือนเกาะ พวกมันดูลึกลับและมีเสน่ห์ โดยมีกลุ่มดาวปรากฏขึ้นเป็นครั้งคราว
ที่พำนักศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้สวยงามและสนุกสนานอย่างที่ทุกคนคาดไว้ แต่กลับเงียบสงัดราวกับดินแดนรกร้าง!
“ที่พำนักศักดิ์สิทธิ์… อยู่ไม่ไกลเราเลย!”
“มันต้องเป็นพลังของกฎ ไม่สิ มันอาจจะเป็นพลังที่ลึกกว่านั้น เป็นสิ่งที่เราไม่เข้าใจ…”
“ทำไมฉันถึงได้กลิ่นความตาย? ผีปอบของฉันกระวนกระวายมาก ดูเหมือนว่าจะมีบางอย่างซ่อนอยู่ที่นี่!”
“อาจมีกับดักโบราณอยู่ในซากเหล่านี้ ทุกคนระวังตัวด้วย” มีคนเตือน
ทุกคนสงสัยและเคร่งขรึม พวกเขาไม่เห็นอันตรายใด ๆ แต่พวกเขาก็รู้สึกหนาวสั่นราวกับว่าอยู่กลางสุสานตอนกลางคืน
มีม่านพลังอื่นอีก!
ภายในโลกใบเล็ก ซูผิงสังเกตเห็นร่องรอยของม่านพลังที่มองไม่เห็นชัดเจน
ในขณะนี้ใบหน้าของเจ้าดวงดาวทั้งสองที่ทลายม่านพลังเปลี่ยนไป หนึ่งในนั้นกระซิบว่า “มีม่านพลังอีกอันหนึ่ง!”
”ฮะ?”
เจ้าดวงดาวบางคนตกตะลึง ใบหน้าของพวกเขาแสดงความกังวล
อย่างไรก็ตามคนอื่นๆ ไม่ได้แสดงความประหลาดใจใดๆ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะสังเกตเห็นมันแล้ว
“ในเมื่อนายเก็บเงินจากเราสำหรับบริการนี้ไปแล้ว ทำไมนายไม่ทำลายมันต่อล่ะ?” หนึ่งในเจ้าดวงดาวแนะนำ
เจ้าดวงดาวคนอื่นๆ พยักหน้าอย่างรวดเร็ว พวกเขาทั้งหมดไม่เต็มใจที่จะจ่ายเป็นครั้งที่สอง
ชายสองคนไม่ได้ดื้อดึงอะไร ส่วนใหญ่เพราะพวกเขาตระหนักว่าม่านพลังที่สองนี้ไม่ซับซ้อนเท่าอันแรก
“ฉันทำเอง” คนตัวอ้วนในสองคนพูดและทำลายม่านพลังทันที
รูนดวงดาวปรากฏและก่อระลอกคลื่นในช่องว่างเหมือนกุญแจ
ภาพลวงตาโบราณสลายไปในเวลาเพียงสิบห้านาที
เมื่อม่านพลังถูกกำจัดออกไปก็เผยให้เห็นลักษณะที่แท้จริงของมัน ราวกับว่าม่านถูกเปิดออก
ฝูงชนที่ส่งเสียงดังเงียบเมื่อเห็นมุมมองที่แท้จริง
ทุกคนกลั้นหายใจและเบิกตากว้างอย่างไม่เชื่อ!
ทุกอย่างยังเหมือนกัน!
วิหารยังคงอยู่ที่นั่นและมีบันไดเหมือนสะพาน
ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือมีร่างกระจัดกระจายไปทุกหนทุกแห่งในความว่างเปล่า!
ศพเหล่านั้นตายในสนามรบหรืออย่างอื่น!
บางร่างเป็นมนุษย์ตัวเล็ก และบางร่างเป็นอสูรร้ายที่ใหญ่เท่าภูเขา เลือดที่ปกคลุมขนของพวกมันแข็งแห้งหมดแล้ว!
บางร่างเหลือเพียงโครงกระดูก ขณะที่บางร่างก็ดูเน่าไปกว่าครึ่งหนึ่ง
สถานที่อันเงียบสงบของเหล่าทวยเทพเต็มไปด้วยซากศพ!
ทุกคนรู้สึกเหมือนเลือดของพวกเขาแข็งตัว นี่คือทัศนะที่แท้จริงภายในที่พำนักศักดิ์สิทธิ์หรือ?
คนระดับดวงดาวที่ขี้ขลาดบางคนคนสั่นและคุกเข่าอ่อนแรง
ซูผิงดูเคร่งขรึม เกิดอะไรขึ้นในที่พำนักศักดิ์สิทธิ์โบราณแห่งนี้? เจ้าของซากศพเหล่านี้ตายไปพร้อมกับสถานที่แห่งนี้หรือเปล่า? หรือพวกเขาคือผู้บุกรุกก่อนหน้านี้?
ไกลออกไป ผู้บ่มเพาะระดับดวงดาวที่เพิ่งขุดดินในสวนเสร็จเข้ามาใกล้ขึ้น และประหลาดใจกับสิ่งที่เห็น
หลังจากเงียบไปหลายนาทีเจ้าดวงดาวก็ก้าวไปข้างหน้าและพูดว่า “ในเมื่อม่านพลังถูกทำลายแล้ว ฉันจะไปก่อน!” จากนั้นเขาก็กระโดดข้ามช่องว่างไปยังที่ที่ศพลอยอยู่
เขาผลักร่างแน่นิ่งร่างหนึ่งออกไปด้วยพลังดวงดาว ก่อนที่เขาจะบินไปที่วิหาร
ร่างกายเคลื่อนออกไปอย่างง่ายดาย หลบทางให้เขา พวกมันไม่สามารถตายไปได้มากกว่านี้แล้ว
คนอื่นๆ หลุดจากอาการมึนงงเมื่อเห็นคนหนึ่งลงมือทำ แม้จะตกใจและหวาดกลัว แต่ความโลภของพวกเขาทำให้พวกเขาก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
โลกเบื้องหลังม่านพลังนี้กว้างใหญ่ พวกเขาไม่ต้องอยู่ด้วยกันอีกต่อไป และสามารถค้นหาสมบัติของตัวเองได้
บูม!
ทันใดนั้นก็มีเสียบงฟ้าร้องดังก้อง และมีคนคำราม
ทุกคนหันไปมอง พวกเขาเห็นว่าเจ้าดวงดาวที่นำหน้าบินอยู่เหนือหน้าผา สายฟ้าปรากฏขึ้นตรงหน้าและโจมตีเขา
เจ้าดวงดาวทำการโจมตีหลายครั้งเพื่อต่อต้านสายฟ้า แต่เขาก็ยังถูกเหวี่ยงกลับไปหลายร้อยเมตร
”เกิดอะไรขึ้น?”
ทุกคนประหลาดใจกับสายฟ้าฟาดอันน่าพิศวง นอกจากซูผิงและชายหนุ่มชุดม่วงแล้ว ทุกคนต่างก็อยู่ในระดับดวงดาวและสามารถบอกได้อย่างง่ายดายว่าสายฟ้านี้มีพลังของบททดสอบสวรรค์ที่แปลกประหลาด มันไม่ใช่สายฟ้าธรรมดา
หวืด! หวืด!
เจ้าดวงดาวมากขึ้นเรื่อยๆ ผลักร่างออกไปและไปถึงหน้าผา เจ้าดวงดาวบางคนสังเกตเห็นความผิดปกติอย่างรวดเร็วและกล่าวว่า “ดูเหมือนว่าจะมีกฎแปลก ๆ ที่กักมิตินี้ไว้ ไม่สิ ถ้าให้พูดให้ชัดกว่านี้ นี่คือมิติของอีกโลกหนึ่งที่เราไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไป!”
”มันเป็นไปได้ยังไงกัน? เมื่อคนๆหนึ่งตาย โลกใบเล็กของเขาก็จะพังทลายลง เว้นแต่ว่าเจ้าของมิตินี้จะยังมีชีวิตอยู่…”
“บางทีเขาอาจผนึกโลกเล็กของเขาไว้ที่นี่ตอนที่เขายังมีชีวิตอยู่ บางที… เราอาจจะอยู่ในโลกใบเล็กที่เจ้าของที่พำนักศักดิ์สิทธิ์สร้างขึ้นแล้วก็ได้”
“ฉันได้ยินมาว่าสำหรับยอดฝีมือสภาวะเทพดวงดาว โลกใบเล็กของพวกเขาจะมีอยู่ตลอดไป นี่น่าจะเป็นตัวอย่าง”
เจ้าดวงดาวรวมตัวกันที่หน้าผาและกระซิบคุยกัน
“ทำไมดูไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับศพเลยล่ะ?”
มีคนสังเกตเห็นว่าร่างกายจำนวนมาก—รวมทั้งมังกร, ฟีนิกซ์, มนุษย์และอสูรยักษ์—กำลังลอยอยู่เหนือหน้าผา พวกมันทั้งหมดถูกทำลาย บางร่างปีกหัก บางร่างมีรูที่หน้าอก
”แปลก…”
“เป็นเพราะพวกมันตายไปแล้วหรอ? กฎข้อนี้สามารถแยกแยะคนเป็นและคนตายได้ ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่แค่กฎข้อเดียว แต่เป็นเส้นทางสมบูรณ์ที่มีกฎมากมาย”
“ขอฉันลองหน่อย”
จู่ๆ เจ้าดวงดาวก็เรียกสิ่งมีชีวิตที่ปลดปล่อยอากาศอันน่าสยดสยองออกมา มันช่างน่ากลัว มันเป็นเนื้อและกระดูกที่เน่าเสีย
อสูรคำรามและโครงกระดูกหลายตัวก็ผุดขึ้นจากพื้น โครงกระดูกมีปีกอยู่บนหลังและมีกระบี่อยู่ในมือ พวกมันทั้งหมดแข็งแกร่ง
เป็นที่น่าสังเกตว่าการอัญเชิญไม่ได้ใช้ศพบนพื้น แต่มาจากใต้พื้น มันเป็นเทคนิคขั้นสูง
หวืด!
โครงกระดูกที่ถูกอัญเชิญลอยออกไปบนหน้าผาทันที
แต่ทันทีที่ทำอย่างนั้น สายฟ้าหลายสายก็ฟาดพวกมันเป็นชิ้นๆ ซากของพวกล่วงตกลงไปใต้หน้าผาลึก
ลมหนาวโหมกระหน่ำจากส่วนลึก ราวกับว่ามีบางสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวกำลังพัดมาที่พวกเขา
“พวกมันทั้งหมดเป็นสิ่งมีชีวิตอันเดธ แต่พวกมันไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าได้ ทำไม?”
เจ้าดวงดาวบางคนขมวดคิ้ว เนื่องจากการคาดเดาของพวกเขาเพิ่งถูกพิสูจน์
โครงกระดูกที่ถูกอัญเชิญนั่นไม่ต่างจากสิ่งมีชีวิตที่ไม่หายใจอื่นๆ เป็นเรื่องแปลกที่พบว่าพวกมันกระตุ้นบททดสอบสวรรค์ได้.Aileen-novel.
ภายในโลกใบเล็ก—
ซูผิงขมวดคิ้วและมองไปที่ร่างที่ลอยอยู่ด้วยท่าทางจริงจัง
“นี่เป็นที่พำนักศักดิ์สิทธิ์หรอ? ผมรู้สึกว่ามันไม่ต่างจากนรกเลย”
“ศพจำนวนมากได้รับการเก็บรักษาไว้เป็นเวลานาน เป็นเพราะม่านพลังหรือเพราะพวกมันแข็งแกร่งเกินไปตอนที่ยังมีชีวิตอยู่?”
สามหมัดแห่งเซินหนงและคนอื่นๆ กระซิบ ถูกข่มขู่เล็กน้อยจากร่างกายรอบตัวพวกเขา
ฉันคิดว่าร่างพวกนั้น… ตายจากการฆ่าตัวตาย
ซูผิงสังเกตร่างกายและรู้สึกหนาว
ในเวลานี้ นอกโลกใบเล็ก เจ้าดวงดาวได้ลองใช้วิธีการต่างๆ มากมาย บางคนที่เชี่ยวชาญกฎแห่งความมืดพยายามปกปิดตัวเองด้วยพลังของพวกอันเดธ แต่พวกเขาก็ยังถูกมองทะลุและถูกโจมตีกลับ
บางคนพยายามฝ่าฟันผ่านบททดสอบสวรรค์ และได้ผลในตอนแรก แต่เมื่อพวกเขาเคลื่อนไปข้างหน้าหลายสิบเมตร สายฟ้าก็มีพลังมากจนต้องถอยกลับ
ในเวลานี้เจ้าดวงดาวบางคนสังเกตุเห็นบันได
”ฮะ? มีการลงทัณฑ์ของสวรรค์อยู่ที่บันไดด้วย แต่ก็ไม่ได้ทรงพลังมากยัก”
เจ้าดวงดาวบางคนเริ่มปีนขึ้นไปและกำลังก้าวไปข้างหน้า
การลงทัณฑ์ของสวรรค์ส่งผลกระทบต่อบันได แต่มันมีพลังน้อยกว่าและสามารถต้านทานได้
คนที่เหลือจึงตัดสินใจลองขึ้นบันไดเช่นกัน
บูม!
เจ้าดวงดาวพยายามจะปีนขึ้นไป แต่แล้วสายฟ้าก็พุ่งเข้าใส่เขา มันทรงพลังพอๆ กับที่อยู่ใกล้หน้าผา
การแสดงออกของเจ้าดวงดาวเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว พวกเขาต่อต้านการโจมตีและถอย
เจ้าดวงดาวคนอื่นๆ งงมาก เนื่องจากเจ้าดวงดาวคนก่อนหน้าไม่ได้ถูกโจมตีรุนแรงขนาดนี้
บูม!
เจ้าดวงดาวที่อยู่ถัดจากชายคนนี้ก็ถูกสายฟ้าฟาดเช่นกัน แต่การโจมตีนั้นไม่ทรงพลัง
“ฮ่าฮ่า ฉันบอกแล้วว่าฉันเป็นคนโชคดี แต่ไม่มีใครเชื่อฉัน!”เจ้าดวงดาวคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้นำของพันธมิตรอู่หวงที่หัวเราะเยาะคนที่ถูกบังคับให้หนี
จากนั้นเขาก็ก้าวต่อไป
เจ้าดวงดาวคนอื่น ๆ มองหน้ากันด้วยความสับสน มันเป็นเรื่องของโชคจริงๆหรอ?
เจ้าดวงดาวผู้ถูกบังคับให้ถอยกลับก้าวไปข้างหน้าอีกครั้ง และพบกับสายฟ้าที่ยังรุนแรงเช่นเดิม!
เจ้าดวงดาวอดไม่ได้ที่จะคำรามด้วยความโกรธหลังจากต้องถอยกลับมาอีกครั้ง “เกิดอะไรขึ้น?”
เขาไม่อยากเชื่อเลย!
ครั้งแรกอาจจะโชคร้าย แต่ทำไมถึงโชคร้ายสองครั้งติดต่อกัน?
บททดสอบสวรรค์ที่นี่ลำเอียงหรอ?
ใกล้ๆ กัน ผู้นำของพันธมิตรพันขนนกกล่าวอย่างเป็นกันเองว่า “ฉันขอบอกว่ามันเป็นเรื่องของความหล่อ”
เขาเดินได้หกขั้นก่อนจะถูกสายฟ้าผ่าครั้งแรก แต่มันก็ไม่ได้รุนแรง เขาจัดการได้อย่างง่ายดาย
หัวหน้ากลุ่มพันธมิตรราชันซึ่งผู้นำคือผู้หญิงหัวเราะและพูดว่า “ฮ่าฮ่า ฉันก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน”
แม้ว่าเธอจะสูงและแข็งแกร่ง แต่เธอก็มีใบหน้าที่มีเสน่ห์
“อย่างนั้นหรอ?”
ผู้นำของพันธมิตรหมัดสวรรค์รู้สึกสงสัย เขาโดนสายฟ้าอันทรงพลังก่อนหน้านี้ มันเป็นเรื่องของรูปลักษณ์จริงๆหรอ?
เขาปรับกล้ามเนื้อทันทีและเปลี่ยนใบหน้า ใบหน้าของเขาหล่อขึ้นมาก เขาขึ้นบันไดอีกครั้ง
บูม!
สายฟ้ารุนแรงอีกสายหนึ่งพุ่งเข้าใส่และบังคับให้เขาต้องถอย
“บ้าเอ้ย!”
ผู้นำของพันธมิตรหมัดสวรรค์รู้สึกโกรธจัด ฉันถูกแยกออกหรอ?
บททดสวรรค์ควรจะเป็นสิ่งที่ไม่มีชีวิตไม่ใช่หรอ?
ผู้คนในโลกใบเล็กก็ประหลาดใจเช่นกัน สถานการณ์บนบันไดนั้นแปลกเกินไป เจ้าดวงดาวบางคนเดินได้สิบขั้นบันไดก่อนที่จะเจอกับสายฟ้าครั้งแรก ขณะที่บางคนก็ไม่สามารถแม้แต่จะก้าวก้าวแรกได้ไม่ว่าจะพยายามกี่ครั้งก็ตาม เห็นได้ชัดว่ามันไม่ใช่สถานการณ์สุ่ม
ดูเหมือนจะมีรูปแบบบางอย่าง และบางคนก็ตกเป็นเป้าหมาย!
“มีบางอย่างผิดปกติ ทำไมพวกเขาถึงไม่โดนอะไรเลยล่ะ?”
“บัดซบ!”
เจ้าดวงดาวที่ถูกเลือกปฏิบัติกระโดดโหยงด้วยความโกรธ
คงจะดีถ้าทุกคนได้รับบททดสอบอย่างเท่าเทียมกัน
แต่นี่มีบางคนที่ได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม มันทำให้โกรธมาก!
พวกเขาทั้งหมดกังวลเมื่อคนอื่นก้าวไปข้างหน้า เนื่องจากสมบัติที่อยู่ข้างหน้าจะถูกนำออกไปก่อน
เจ้าดวงดาวทั้งสองที่ทำลายกำแพงหน้าดำ พวกเขายังตกเป็นเหยื่อของการลงทันฑ์สวรรค์ ยิ่งพวกเขาไปไกลเท่าไหร่ สายฟ้าก็ยิ่งมีพลังมากขึ้นเท่านั้น พวกเขาทำได้แค่ถอยกลับ
มิฉะนั้นพวกเขารู้สึกว่าตัวเองจะถูกฆ่าตาย
มันมีพลังมากกว่าบททดสอบสวรรค์ที่พวกเขาอดทนเพื่อที่จะได้เป็นเจ้าดวงดาว พวกเขาไม่สามารถตามคนอื่นๆได้อย่างสมบูรณ์
“เรากับเขาต่างกันตรงไหน?”
“มันเป็นเพราะภูมิหลังของเราหรือเปล่า?”
“นั่นไม่มีทางเป็นไปได้ บทลงทัณฑ์ของสวรรค์สามารถบอกภูมิหลังของคนเราได้ยังไง? นอกจากนี้ภูมิหลังของพวกเขาไม่ได้เหมือนกันทั้งหมด เท่าที่ฉันรู้ ผู้นำของพันธมิตรอู่หวงและพันธมิตรพันขนนกมาจากกาแล็กซีที่แตกต่างกัน!”
“นั่นแปลกจริงๆ พวกเขากินอาหารแบบเดียวกันหรือเปล่า?”
“เป็นไปไม่ได้!”
“เดี๋ยวก่อน บททดสอบสวรรค์ขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งหรือเปล่า? ยิ่งแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ สายฟ้าก็จะยิ่งมีพลังมากขึ้นเท่านั้น? มันไม่เหมือนกับสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างก้าวข้ามระดับของเราหรอ?”
”ฮะ? มันสมเหตุสมผล จะพูดว่าคนที่ถูกบังคับให้ถอยกลับแข็งแกร่งกว่าคนอื่นหรือไงล่ะ?”
“นั่นคือที่ฉันคิด อย่างไรก็ตามเราหวังว่าความจริงจะไม่เป็นไปในทางตรงกันข้าม หากสายฟ้ารุนแรงกว่าสำหรับผู้ที่แข็งแกร่งกว่า งั้น…”
เจ้าดวงดาวที่ไม่สามารถทำอะไรได้จำต้องรอที่หน้าบันได
ในไม่ช้าผู้นำของพันธมิตรพันขนนก พันธมิตรราชัน และพันธมิตรอื่น ๆ ถูกบังคับให้ถอยหลังโดยสายฟ้าที่ทวีความรุนแรงขึ้น
แต่ผู้นำสาวยังคงเดินหน้าอย่างดื้อรั้น
บททดสอบสวรรค์ที่เธอผ่านมานั้นน่ากลัวมาก มันเต็มไปด้วยความน่ากลัวที่ทุกคนในโลกใบเล็กของเธอรวมทั้งซูผิงตกใจ
ซูผิงไม่ได้ตกใจสายฟ้าฟาด แต่ตกใจที่กับความอดทนที่หญิงสาวทนได้
นอกจากนี้ศพรอบข้างยังทำให้เขารู้สึกขนลุก เขารู้สึกเหมือนมีคนกำลังมองเขาอยู่
“บัดซบจริง!”
หลังจากก้าวไปข้างหน้าหลายสิบก้าว เมื่อเธอไปถึงขั้นที่ 38 ในที่สุด ผู้นำสาวก็ทนไม่ไหวอีกต่อไปและต้องถอย
เธอมองที่พำนักศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ข้างหน้าเธอ ตอนแรกมันดูห่างไกลราวกับห่างออกไปหลายพันกิโลเมตร แต่ตอนนี้อยู่ใกล้มาก ราวกับห่างออกไปเพียงร้อยก้าว!
ถึงกระนั้นร้อยก้าวนี่ก็ยากที่สุด!