ร้านขายอสูรดวงดาว Astral Pet Store - ตอนที่ 840 กระทืบเจ้าดวงดาว
“เจ้าดวงดาว?”
ซูผิงหรี่ตาเล็กน้อยเมื่อเห็นชายหนุ่ม ประสบการณ์ของเขาจากสนามบ่มเพาะและการเยี่ยมชมที่พำนักศักดิ์สิทธิ์กับพันธมิตรดวงดาวก็เพียงพอที่จะบอกได้อย่างง่ายดายว่าชายหนุ่มไม่ใช่นักรบระดับดวงดาว!
ซูผิงไม่คาดคิดมาก่อนว่าต้นไม้โบราณบนดาวเคราะห์สีน้ำเงินจะดึงดูดเจ้าดวงดาว
เจ้าดวงดาวทุกคนเป็นผู้ครอบครองระบบดาวเคราะห์ทั้งดวง!
อย่างไรก็ตาม ระบบเดิมของดาวเคราะห์สีน้ำเงินไม่มีดาวเคราะห์ดวงอื่นที่มีชีวิต การเป็นเจ้าแห่งภูมิภาคนี้ไม่ถือว่าน่าทึ่ง แต่ระบบอื่นๆ ในสหพันธ์จะมีดาวเคราะห์ที่มีชีวิตมากมาย
ภายในขอบเขตของสหพันธ์แม้แต่ดาวเคราะห์ที่ไม่เหมาะสำหรับการเอาชีวิตรอดก็สามารถดัดแปลงและทำให้อยู่อาศัยได้
พูดง่ายๆ ก็คือเจ้าดวงดาวสามารถสั่งนักรบระดับดวงดาวได้มากมาย พวกเขาทรงพลังมาก!
“นายคือเจ้าแห่งดาวเคราะห์สีน้ำเงิน?”
ชายหนุ่มในชุดแปลก ๆ หันกลับมามองซูผิง จากนั้นเขาก็หรี่ตาลง “สภาวะว่างเปล่า? เทคนิคการปกปิดของนายน่าทึ่งมาก แม้แต่ฉันก็มองไม่เห็น”
“ขอโทษที แต่ฉันอยู่ในสภาวะว่างเปล่าจริงๆ” ซูผิงกล่าวอย่างเศร้าโศก
ชายหนุ่มหัวเราะคิกคักและพูดว่า “นายยังโกหกต่อหน้าฉันอีกหรอ? นายคงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมคนระดับดวงดาวเหล่านั้นหนีไปสินะใช่ไหม?”
“พวกเขาบุกรุกโลกของฉันอย่างโจ่งแจ้ง พวกเขาสมควรได้รับมัน” ซูผิงกล่าวพร้อมกับปรับอารมณ์ของเขา
เขาสามารถฆ่าผู้ที่อยู่ในระดับดวงดาวได้อย่างง่ายดาย แต่ช่องว่างระหว่างเขากับเจ้าดวงดาวยังกว้างเกินไปมาก!
เจ้าดวงดาวทุกคนสามารถฆ่ายอดฝีมือระดับดวงดาวได้อย่างง่ายดาย!
“ผู้แข็งแกร่งไล่ล่าคนอ่อนแอเป็นกฎสากล พวกเขาไม่สามารถเอาชนะนายได้ และยังเข้ามาบุกรุก สิ่งที่เกิดคือสิ่งที่พวกเขาสมควรได้รับแล้วล่ะ” ชายหนุ่มกล่าวด้วยรอยยิ้มสบายๆ “ฉันคิดว่านายมีพรสวรรค์ นายเก่งพอ ๆ กับนักรบระดับดวงดาวที่ดีที่สุดที่ฉันรู้จัก นายสนใจที่จะทำงานให้ฉันไหม?”
ดวงตาของซูผิงเป็นประกาย เขาถามว่า “คุณจะทำยังไงถ้าผมปฏิเสธ?”
ชายหนุ่มยิ้มและพูดว่า “อวดดีอย่างที่ฉันคิดไว้แหละ ถ้านายปฏิเสธ… ก็ง่ายๆ ฉันจะทำลายสิ่งที่ฉันไม่มี ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์นี้แปลกและฉันต้องการมัน นายคงแค้นฉันแน่ ถ้าฉันไว้ชีวิตนาย นายอาจสร้างปัญหาให้ฉันเมื่อนายกลายเป็นเจ้าดวงดาว”
เขาพูดอย่างเป็นกันเองและฟังดูมีเหตุผลพอสมควร
อย่างไรก็ตาม ซูผิงเงียบไป
เขารู้ว่าผู้ชายคนนี้พูดถูก เขามีเพียงสองทางเลือก: ยอมจำนนหรือตาย
ซูผิงมองขึ้นไปบนท้องฟ้า สงสัยว่าท่านหญิงเขียวบนรีอาจะปลดปล่อยพลังของเธอออกจากร้านและเอาชนะชายหนุ่มคนนี้ได้หรือไม่
ชายหนุ่มมองไปยังที่ที่ซูผิงมองและกล่าวอย่างเป็นกันเองต่อว่า “ดาวเคราะห์ดวงนั้นไม่ได้อยู่ที่นี่ แต่มันบินมาทางนี้ ฉันรู้สึกเหมือนถูกปกคลุมไปด้วยพลังลึกลับ นายรู้ไหมว่าทำไม?”
ซูผิงไม่ได้พูดอะไร เขาพยายามสื่อสารกับท่านหญิงเขียวผ่านทางกระแสจิต
ในขณะนั้นเอง วังวนปรากฏขึ้นระหว่างชั้นบรรยากาศของดาวเคราะห์สีน้ำเงินและรีอา และยานอวกาศรูปสามเหลี่ยมก็บินออกมา
ยานอวกาศลอยอยู่ระหว่างดาวเคราะห์ทั้งสองแล้วเปลี่ยนเส้นทาง บุกเข้ามาในชั้นบรรยากาศของดาวเคราะห์สีน้ำเงินและบินตรงมายังต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์
”ฮะ?”
ทั้งซูผิงและชายหนุ่มสังเกตเห็นยานอวกาศที่มาอย่างไม่คาดคิด การแสดงออกของซูผิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย ยังมีมาอีกหรอ? แต่ในไม่ช้าเขาก็ตกตะลึงกับสิ่งที่เขาเห็น เพราะเขาสังเกตุสัญลักษณ์บนยานอวกาศได้
มันเป็นสัญลักษณ์ของพันธมิตรดวงดาว!
หวืด!
ยานอวกาศหลบเลี่ยงมงกุฎใหญ่ จากนั้นจึงบินมายังที่ที่ซูผิงและชายหนุ่มอยู่ก่อนจะหยุดนิ่ง
ประตูยานอวกาศถูกเปิดออก และเหล่านักรบระดับดวงดาวก็บินออกมา!
เมื่อพวกเขาออกจากยานอวกาศและทิ้งระยะห่างจากผู้นำด้วยความเคารพ คนสองคนก็ลอยออกจากยานอวกาศ พวกเขาไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้นำสาวและรองผู้นำ
ซูผิงรู้ว่าใครกำลังมาเพราะเขาจำยานอวกาศได้ แต่เขาไม่ได้ผ่อนคลายมากนัก จนกระทั่งเห็นใบหน้าที่คุ้นเคยทั้งหมด ผู้นำยังอยู่รอด ดังนั้นเขาจึงยังมีโอกาสได้รับต้นไม้แห่งกฎ!
“ต้นไม้ใหญ่อะไรอย่างนี้!” หญิงสาวที่เพิ่งลอยออกจากยานอวกาศตั้งข้อสังเกตและเงยหน้ามอง เธอหันกลับมาและเห็นซูผิงกับชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆเขา
“นายเป็นใครกันแน่?”
เธอดูไม่พอใจ ในขณะที่ซูผิงมีเสื้อผ้าเปื้อนเลือด
ชายหนุ่มยิ้มอย่างไม่ใส่ใจเมื่อเห็นหญิงสาวและรอง เขาขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเสียงที่ไม่เป็นมิตรของเธอ แล้วถามว่า “เธอเป็นใคร?”
ซิลวี่เป็นกาแลคซีขนาดใหญ่ที่มีระบบสุริยะมากมาย มีเจ้าดวงดาวหลายร้อยคน ไม่นับผู้ที่มาจากกาแล็กซีอื่นที่เดินทางไปที่นั่นเพื่อความสนุกสนานหรือการผจญภัย เป็นเรื่องปกติที่พวกเขาจะไม่รู้จักกัน
”ฮึ ฉันซิงเยวี่ยเซินเอ๋อร์จากพันธมิตรดวงดาว!” หญิงสาวประกาศอย่างภาคภูมิใจ
เป็นครั้งแรกที่ซูผิงและสมาชิกส่วนใหญ่ในพันธมิตรดวงดาวได้ยินชื่อจริงของเธอ ซูผิงค่อนข้างแปลกใจที่พบว่าชื่อของหญิงสาวนั้นไร้สาระพอๆ กับตัวเธอเอง
“พันธมิตรดวงดาว?” ชายหนุ่มขมวดคิ้วขณะค้นหาความทรงจำของเขา จากนั้นเขาก็เปลี่ยนท่าทางและพ่นลมหายใจ “เธอมาจากเซรุปรันไม่ใช่เหรอ? คิดจะมาทำอะไรที่นี่?”
“พวกเรากำลังจะทำอะไรอย่างงั้นหรอ?”
ซิงเยวี่ยเซินเอ๋อร์หัวเราะและพูดว่า “นายทำร้ายคนจากพันธมิตรของฉัน แต่นายถามฉันว่าฉันมาทำอะไร? ขอดูหน่อยสิ … นายกำลังพยายามขโมยต้นไม้แปลก ๆ นี้จากคนของฉันหรอ? ฉันจะให้เวลานายสามวิ ออกไปจากที่นี่ซะก่อนที่ฉันจะส่งนายไปลงนรก!”
สมาชิกของพันธมิตรดวงดาวพูดไม่ออก
พวกเขาเฝ้าดูสถานการณ์และเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พวกเขาไม่คาดคิดว่าผู้นำของพวกเขาจะเย่อหยิ่งขนาดนี้ ขนาดที่ขอให้เจ้าดวงดาวหลีกทาง!
ชายคนนี้โดนข่ม!
ซูผิงเลิกคิ้วเช่นกันหลังจากได้ยินสิ่งที่หญิงสาวพูด แต่เขาโล่งใจเล็กน้อย ไม่ว่าในกรณีใดผู้หญิงคนนี้ก็อยู่ข้างเขา
”เธอพูดอะไร?”
ชายหนุ่มตอนนี้ทั้งน่ากลัวและเย็นชา “เธอคิดว่าฉันจะต้องยอม เพราะเธอมีคนมากกว่าหรือยังไง?”
“ฉันไม่จำเป็นต้องคุยกับนาย สอง!” ซิงเยวี่ยเซินเอ๋อร์กล่าวอย่างเฉยเมย และนับถอยหลัง
รองผู้นำถัดจากแธอได้ปลดปล่อยพลังอันลึกซึ้งของเขาแล้ว ก่อนหน้านี้เขาเคยทำตัวเหมือนรูปปั้นหรือหุ่นเชิด แต่เขากลายเป็นศูนย์กลางของความสนใจอย่างรวดเร็ว รัศมีของเขาสร้างแรงกดดันมหาศาลต่อสมาชิกพันธมิตรแล้ว
กระแสน้ำก็เพิ่มขึ้นในทะเลเบื้องล่างราวกับว่าดึงดูดรัศมีของเขา
ฉากนี้ทำให้คนส่วนใหญ่บนดาวเคราะห์ทั้งสองดวงหายใจไม่ออก
ซูผิงเพิ่งออกไปอาละวาดและเอาชนะยอดฝีมือระดับดวงดาวหลายคน แต่แล้วก็มีคนที่น่ากลัวยิ่งกว่าปรากฏตัวขึ้น!
รัศมีของชายคนนั้นได้เปลี่ยนแปลงสภาพอากาศและกระแสน้ำในทะเลไปแล้ว พลังของเขาช่างเหลือเชื่อ!
ชายหนุ่มก็ปล่อยรัศมีอันทรงพลังออกมาเช่นกัน ซึ่งทำให้มิติรอบตัวเขาบิดเบี้ยว พลังพิเศษกำลังแผ่ออกจากร่างกายของเขา ซึ่งเป็นพลังแห่งศรัทธา เพียงเล็กน้อยก็เพียงพอที่จะบดขยี้ภูเขาและเจาะทะลุดาวเคราะห์ได้!
ใบหน้าของสมาชิกพันธมิตรเปลี่ยนไปและเลือกที่จะถอยอย่างรวดเร็ว พวกเขาไม่ต่างจากมดเมื่อเจ้าดวงดาวต่อสู้ และพวกเขาจะถูกฆ่าอย่างไม่เลือกหน้า!
”หนึ่ง!”
หญิงสาวค่อยๆ ยกนิ้วก้อยของเธอขึ้น
วินาทีถัดมา รองก็เบิกตากว้างอย่างโกรธจัด เงาที่น่าสยดสยองสูงหลายพันเมตรปรากฏขึ้นที่ด้านหลังของเขา เงาดูเหมือนจะอยู่ที่อื่น มันหายไปอย่างรวดเร็วในร่างของรอง ทำให้เขาเติบโตกลายเป็นร่างยักษ์ขนดก
ปัง! ไอรีนโนเวล
เขาพุ่งออกไปเหมือนรถไฟ ทะเลที่อยู่ใต้เขาถูกแยกออกเมื่อเขาก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับคลื่นขนาดใหญ่!
ชายหนุ่มก็ลงมือเช่นกัน และเงาที่น่าสยดสยองก็โผล่ขึ้นมาข้างหลังเขา เขารวมเข้ากับมันและต่อสู้กับรอง
ทั้งสองปะทะกันที่ยอดไม้ แล้วทั้งสองก็หายวับไป
ซูผิงและสมาชิกของพันธมิตรตระหนักว่าชายสองคนได้เข้าไปในมิติลึกแล้ว!
พวกเขาไม่จำเป็นต้องฉีกมิติเปิดด้วยซ้ำ พวกเขาสามารถเข้าไปในมิติชั้นลึกโดยไม่ใช้อะไรรนอกจากความคิด
ไม่มีใครกล้าดูการต่อสู้ ซิงเยวี่ยเซินเอ๋อร์เป็นคนเดียวที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะทำเช่นนั้น
อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าเธอจะค่อนข้างมั่นใจในผลลัพธ์ เธอยืนรอสบายๆ
ทุกคนบนดาวเคราะห์ทั้งสองต่างตกตะลึง โดยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
เวลาเดินช้ามาก แต่เนื่องจากซูผิงเชี่ยวชาญกฎแห่งมิติ ซูผิงสามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าคลื่นสีดำกำลังลอยขึ้นและไหลลงสู่ความว่างเปล่า ราวกับว่าสิ่งมีชีวิตที่น่าสะพรึงกลัวกำลังอาละวาด!
ครึ่งนาทีผ่านไป
สามสิบวินาทีนี้รู้สึกเหมือนสามเดือน
ทันใดนั้น
มีเสียงดังบูม จากนั้นความว่างเปล่าก็กระจายห่างออกไปหนึ่งหมื่นเมตร ผู้ชายที่มีเกล็ดอยู่เต็มตัวถูกเหวี่ยงออกไป เขาคือเจ้าดวงดาวหนุ่มอย่างแน่นอน
เขาบินไปพร้อมกับสิ่งที่ดูเหมือนเท้าลิงหนาบนหน้าอกของเขา แล้วเขาก็ตกลงไปในทะเล
ปัง!
พื้นผิวของทะเลระเบิด คลื่นยกสูงยาวหลายพันเมตร หลุมดูเหมือนจะปรากฏขึ้นที่ด้านล่างของทะเลหลังจากการระเบิด น้ำทะเลไหลกลับเข้าไป
หลังจากนั้นรองผู้นำและชายหนุ่มก็ต่อสู้เพื่อออกจากมิติลึกอีกที่หนึ่ง คราวนี้ชายหนุ่มสูญเสียแขนข้างหนึ่งไป และรองกำลังไล่ตามเขาด้วยขวานแวววาวในมือ
ชายหนุ่มคำรามอย่างโกรธจัดและหนีเข้าไปในความว่างเปล่าอีกครั้ง
”แกควรรู้ตัวเองดี!”
ซิงเยวี่ยเซินเอ๋อร์หัวเราะทันทีราวกับว่าเธอรู้อยู่แล้ว
เจ้าดวงดาวมีความแข็งแกร่งไม่เท่ากัน
เธอบังเอิญเป็นหนึ่งในเจ้าดวงดาวที่แข็งแกร่งกว่า!
ดังนั้นเธอจึงสังเกตได้ง่าย ๆ ว่าชายหนุ่มคนนี้อ่อนแอกว่ารองของเธอมาก!
สมาชิกพันธมิตรต่างตกตะลึง ไม่คิดว่ารองที่เงียบขรึมจะน่ากลัวขนาดนี้ เขาสามารถบดขยี้เจ้าดวงดาวได้!
ไม่น่าแปลกใจที่ผู้นำจะมั่นใจตอนที่เธอบอกให้ชายคนนั้นหลีกทาง
ดังนั้น…เจ้าดวงดาวอาจแข็งแกร่งกว่าเพื่อนคนอื่นมาก !
ไม่นานหลังจากนั้น เสียงระเบิดก็ดังขึ้นและจางหายไปก่อนที่ใครจะสังเกตเห็นต้นกำเนิด สองนาทีต่อมา ชายคนหนึ่งก้าวออกมาจากช่องว่างข้างๆ ซิงเยวี่ยเซินเอ๋อร์ซึ่งเขาก็คือรองผู้นำนั่นเอง
ปัจจุบันเขาดูเหมือนเป็นการผสมผสานระหว่างลิงกับหมี เขาถือขวานไว้ในมือข้างหนึ่งและอีกข้างหนึ่งถือแขนที่ขาด เขาพูดในขณะที่ขนบนตัวของเขาเริ่มที่จะหดกลับ “เขาหนีไปแล้ว”
”ช่างเถอะ เจ้าดวงดาวทุกคนเก่งในเรื่องการหลบหนีอยู่แล้ว” ซิงเยวี่ยเซินเอ๋อร์พยักหน้า เธอไม่ได้ไล่ตามส่วนหนึ่งเพราะความหยิ่งของเธอ และอีกส่วนหนึ่งเป็นเพราะเธอรู้ว่าเธอไม่สามารถหยุดชายคนนั้นไม่ให้วิ่งหนีได้แม้ว่าเธอจะโจมตีก็ตาม
เจ้าดวงดาวอาจแข็งแกร่งกว่าคนในระดับเดียวกันมาก แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะป้องกันไม่ให้ผู้อ่อนแอกว่าหลบหนี เว้นแต่จะมีความแตกต่างของพลังอย่างคาดไม่ถึง!
ซูผิงรู้สึกโล่งใจหลังจากได้ยินการสนทนาของพวกเขา “ขอบคุณที่ช่วยผมไว้”
“ฉันควรจะเป็นคนพูดแบบนั้น” ซิงเยวี่ยเซินเอ๋อร์มองไปที่ซูผิง ความเย่อหยิ่งบนใบหน้าของเธอหายไปแล้ว และเธอพูดด้วยรอยยิ้มหวาน ๆ ว่า “เราคงจะถูกทำลายล้างหากคุณไม่เตือนฉัน”
”ยอดเยี่ยม”
ซูผิงยิ้มและคิดว่า ฉันแค่เตือนเธอเพราะฉันไม่อยากสูญเสียต้นไม้แห่งกฎต่างหาก
“ขอบคุณสำหรับคำเตือน น้องทำลายสวรรค์!”
“เราทุกคนเป็นหนี้ชีวิตคุณ น้องทำลายสวรรค์ คุณทำดีกับเรามาก!”
“น้องทำลายสวรรค์มาหาฉันได้เลยนะถ้านายต้องการอะไร!”
สมาชิกพันธมิตรดวงดาวทั้งหมดผลัดกันกล่าวขอบคุณอย่างอบอุ่นและสุภาพ
ซูผิงได้รับความเคารพจากพลังต่อสู้ของเขาด้วยอยู่แล้ว นอกจากนี้ผู้นำของพวกเขายังบอกพวกเขาว่าพวกเขาไม่สามารถอยู่รอดได้หากปราศจากการเตือนอย่างทันท่วงทีของซูผิง ซึ่งช่วยพวกเขาทั้งหมดทางอ้อม
“คุณตามผมมาได้ยังไง?” ซูผิงถามด้วยความสงสัย
”แอ่ก!” โอนีลอยู่ในฝูงชน เขาไอและพูดอย่างเชื่องช้า “ผู้นำของเราต้องการขอบคุณคุณด้วยตนเองหลังจากที่เราหนีออกจากที่พำนักศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นเธอจึงขอให้ผมนำทาง แต่แล้วผมก็พบว่าดาวเคราะห์ของผมหายไปเมื่อเราไปถึงที่นั่น…”
เขาแสดงท่าทางแปลก ๆ ขณะที่พูด
คนอื่นๆ พยายามอย่างเต็มที่เพื่อระงับเสียงหัวเราะ เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้ยินเหตุการณ์ทำนองนี้!
“ผมติดต่อตระกูลไลเยฟาทันที และในที่สุดก็รู้ว่าดาวเคราะห์ของผมถูกผลักออกมา เราจึงติดตามมา โชคดีที่ผู้นำของเรามียานอวกาศขนาดใหญ่ ซึ่งช่วยให้เรามาถึงได้ทันเวลา” โอนีลเกาหัว รู้สึกเหมือนเป็นตัวตลก
ซูผิงไอแล้วเปลี่ยนเรื่อง “แล้วเกิดอะไรขึ้นเมื่อคุณออกจากที่พำนักศักดิ์สิทธิ์?”
การกล่าวถึงที่พำนักศักดิ์สิทธิ์ทำให้ทุกคนในปัจจุบันมีใบหน้าเคร่งขรึมเมื่อพวกเขามองหน้ากันและกัน