ร้านขายอสูรดวงดาว Astral Pet Store - ตอนที่ 885 ซูจินเอ๋อ
เมื่อเห็นผลลัพธ์ เจ้าดวงดาวก็ถามผู้เข้าแข่งขันอย่างเย็นชาและไม่เห็นอกเห็นใจใดๆ “ใครจะเป็นคนต่อไป?”
คำพูดของเขาปลุกทุกคนให้ตื่นจากความตกใจ หลายคนลังเล
เจ้าดวงดาวเยาะเย้ยและเพิกเฉยต่อพวกเขา เขาเพียงถามเจ้าดวงดาวอีกคนหนึ่งว่า “ปล่อยอีกตัวมา!”
เจ้าดวงดาวรับคำสั่ง เธอเองก็เป็นเจ้าดวงดาว แต่เห็นได้ชัดว่าขั้นต่ำกว่า เธอบินไปยังทวีปและเก็บมังกรปีศาจกะโหลกจากนั้นเธอก็หยิบขวดออกมาแล้วปล่อยมังกรปีศาจกะโหลกอีกตัว ซึ่งอยู่ในวัยผู้ใหญ่เช่นกัน แต่ตัวใหญ่กว่าตัวแรก!
บางคนสีหน้าเปลี่ยนทันทีหลังจากเห็นแบบนั้น
หลายคนหวังว่าคนอื่นจะทำให้อสูรร้ายหมดแรงก่อนจะถึงตาของพวกเขา อย่างไรก็ตามการพยายามหาประโยชน์จากผู้อื่นจะไม่ได้ผลที่นี่
แม้ว่ามังกรเหล่านี้จะหายาก แต่ก็ยังมีอีกหลายหมื่นตัวในซิลวี่ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะใช้จนหมด และต้องนำตัวเดิมมาใช้ซ้ำ
ในไม่ช้าผู้เข้าแข่งขันอีกแปดคนหรือมากกว่านั้นเลือกที่จะถอย พวกเขาไม่คิดว่าพวกเขาจะแข็งแกร่งกว่าราชินีแห่งท้องทะเล
ราชาศักดิ์สิทธิ์ดูแย่มากตอนที่เขาเลือกที่จะถอย เขาไม่คิดว่าราชินีแห่งท้องทะเลซึ่งเป็นคู่ต่อสู้ที่เขาคุ้นเคยจะตายแบบนั้น เธอมีโอกาสสูงที่จะได้เป็นเจ้าดวงดาวและครอบครองระบบดาวเคราะห์
มันแย่มากสำหรับเขาที่เห็นคู่ต่อสู้เก่าของเขาตาย เขายังตระหนักถึงความโหดร้ายของโลก
เจ้าดวงดาวด้านนอกสามารถช่วยเธอได้ทันเวลาอย่างแน่นอน
ยังมียอดฝีมือสภาวะเทพดวงดาวอยู่ที่นี่อีกด้วยซึ่งสามารถช่วยชีวิตเธอได้ด้วยความคิดเพียงอย่างเดียว ถึงกระนั้นพวกเขาเพียงแค่มองเธอตาย
นอกจากนี้ยังทำให้เขาตระหนักว่าสิ่งที่เรียกว่าอัจฉริยะที่อาจารย์ของพวกเขาชื่นชอบนั้นคงไม่ต่างจากมดเมื่อมองจากสายตาของคนใหญ่คนโตในจักรวาลอันกว้างใหญ่นี้
พวกเขาเป็นแค่มดที่มีลวดลายสวยงาม
ในอีกด้านหนึ่ง—ธิดาศักดิ์สิทธิ์พันใบผู้ซึ่งเป็นความหวังของสถาบันนกขมิ้นศักดิ์สิทธิ์— กัดฟันและยอมถอย เธอไม่เพียงแต่กลัวมังกรเท่านั้น แต่เธอยังกลัวซูผิง จักรพรรดิมังกร และทายาทของเทพแห่งดาบอีกด้วย
เธอสิ้นหวังที่จะเอาชนะอัจฉริยะเหล่านั้นในการทดสอบครั้งนี้
ดังนั้นเธอจึงคิดว่าน่าจะดีกว่าที่จะเก็บแรงไว้ต่อสู้เพื่อเหรียญเงิน
ถ้าเธอทำไม่ได้ เธอก็จะยังคงมีชื่อเสียงถ้าเธอได้รับรางวัลที่สาม
หลังจากที่ผู้เข้าแข่งขันถอยออกไป มีเพียงหกคนที่เหลืออยู่ในสนาม ได้แก่ ซูผิง, โอเอซิส เกรย์จักรพรรดิมังกร หลิงหู่เจี้ยน, ซูจินเอ๋อ และฮายาลิม
“พวกคุณคนไหนจะสู้ก่อน?” เจ้าดวงดาวถามอีกครั้ง
หลิงหู่เจี้ยนก้าวขึ้นมาและพูดอย่างเย็นชาว่า “ผม!”
เจ้าดวงดาวเหลือบมองเขาและพยักหน้าเล็กน้อย
ภูมิภาคถูกเปิดขึ้นในไม่ช้า หลิงหู่เจี้ยนบินเข้าไปพร้อมกับดาบไม้ของเขา
ทุกคนมองไปที่เขา ศิษย์ในตำนานของยอดฝีมือสภาวะเทพดวงดาวมีโอกาสดีที่จะชนะการแข่งขัน
ในไม่ช้าการต่อสู้เริ่มขึ้นในภูมิภาคนั้น
คราวนี้หลิงหู่เจี้ยนไม่ได้ต่อสู้ด้วยดาบไม้ เขาเรียกอสูรออกมาและผสานเข้าด้วยกัน และพุ่งเข้าใส่มังกรปีศาจกะโหลก
เขาชักดาบ มันคือดาบสีเงินวาววับ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเป็นสมบัติลับที่ทรงพลัง มันมีกฎที่ไร้ที่ติมากมาย การแกว่งดาบทุกครั้งสามารถตัดผ่านช่องว่างและตรงไปยังมิติชั้นสาม แม้แต่มิติชั้นสี่ในบางครั้ง
ชายหนุ่มกับมังกรต่อสู้กันอย่างบ้าคลั่ง พวกเขาค่อยๆไปถึงมิติชั้นห้าและต่อสู้ที่นั่น
ผู้ชมการถ่ายทอดสดตกใจและเงียบ
เขาแข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อ ตามที่คาดหวังจากศิษย์ของยอดฝีมือสภาวะเทพดวงดาว เขาซ่อนความแข็งแกร่งของเขาไว้
คนที่เคยพ่ายแพ้หลิงหู่เจี้ยนรู้สึกโกรธและว่าโดนดูถูก เพราะในที่สุดพวกเขาก็ตระหนักว่าชายคนนั้นไม่ได้ชักดาบของเขาเพราะเขามีเมตตาต่อพวกเขาต่างหาก
พวกเขาคงจะตายหากชายหนุ่มนั่นชักดาบ ไม่มีใครสามารถต้านทานการโจมตีของเขาได้!
“ศิษย์หนุ่มของเทพแห่งดาบค่อนข้างมีพรสวรรค์”
ในวิหารบนท้องฟ้า ไฮถัวและคนอื่นๆ กำลังดูการต่อสู้อยู่
พวกเขาพยักหน้าเล็กน้อยเมื่อเห็นชายหนุ่มต่อสู้กับมังกรดุร้าย มันเป็นการแสดงความสามารถที่ไม่ธรรมดาสำหรับคนที่อยู่ในสภาวะชะตากรรมที่เข้าใจเทคนิคดาบที่ลึกซึ้งอย่างนี้
“เทพแห่งดาบมีศิษย์เก่งขนาดนี้เลยหรอ คนที่เข้าใจเทคนิคของเขาตอนยังเป็นแค่นักรบสภาวะชะตากรรม เขาจะอยู่ยงคงกระพันหลังจากที่เขาไปถึงเจ้าดวงดาว!” โหยวหยิงกล่าว
ฮวนเลี่ยเซิ่นมองไปที่เขาและพูดว่า “นายชอบเขาหรอ?”
”ฮึ” โหยวหยิงพ่นลมหายใจและพูดว่า “ไม่ ฉันสนใจเฉพาะผู้ที่มีศักยภาพของสภาวะเทพดวงดาวเท่านั้น เจ้าดวงดาวเป็นเพียงมดสำหรับฉัน”
การต่อสู้ภายในภูมิภาคได้สิ้นสุดลงในไม่ช้า
หลิงหู่เจี้ยนแสดงวิชาดาบที่น่ากลัวในขณะที่อยู่ในมิติชั้นห้าซึ่งเต็มไปด้วยพลังแห่งกฎ ในที่สุดเขาก็ฆ่ามังกรมังกรกะโหลกได้ การต่อสู้เปลี่ยนความประทับใจของผู้เข้าแข่งขันคนอื่นๆ ที่มีต่อเขา บ้างก็กลัว บ้างก็ตกตะลึง
“ปล่อยมา!”
ต่อมาจักรพรรดิมังกรก็ก้าวขึ้นไป มังกรปีศาจกะโหลกอีกตัวได้รับการปลดปล่อย
จักรพรรดิมังกรใช้กำลังเต็มที่ เขาสร้างค่ายกลมังกรสิบตัวซึ่งค่อนข้างยอดเยี่ยม มังกรทุกตัวหายากและได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี มังกรหลักทั้งสามยังมีไหวพริบระดับ A+—แม้ว่าพวกมันจะมีการบ่มเพาะของเจ้าดวงดาวขั้นต้น แต่พวกมันก็สามารถต่อสู้กับเจ้าดวงดาวขั้นสูงได้!
จักรพรรดิมังกรต่อสู้อย่างไม่เกรงกลัวเนื่องจากเขาได้รับการเสริมกำลังจากมังกรทั้งสิบ การโจมตีค่อยข้างไปได้ดีและยังควบคุมได้ดี
ไม่นาน—หลังจากสูญเสียมังกรสามตัวและบางตัวบาดเจ็บ—ในที่สุดจักรพรรดิมังกรก็เอาชนะมังกรปีศาจกะโหลกได้
นักเรียนในสถาบันสุสานมังกรรู้สึกโล่งใจหลังจากที่เขาได้รับชัยชนะ
เมื่อจักรพรรดิมังกรต่อสู้จบแล้ว โอเอซิส เกรย์ก็ลงมือเช่นกัน อสูรของเขาครึ่งหนึ่งเป็นมังกรและที่เหลือก็ค่อนข้างแข็งแกร่ง ด้วยเทคนิคลับที่เขารู้ เขาสามารถปลดปล่อยพลังอันยิ่งใหญ่ได้
อย่างไรก็ตามเขาประมาทมังกรปีศาจกะโหลกไปเล็กน้อย เขาไม่เคยรู้ว่าพลังแห่งกฎของศัตรูน่ากลัวเพียงใด จนกระทั่งเขาได้ต่อสู้กันจริงๆ มันมีพลังทำลายล้างสูงมาก เขาต้องถอยหลังอยู่ตลอดเวลา
ในที่สุด—หลังจากเปิดใช้งานกายาและเปิดเผยเทคนิคลับของเขา—เขาก็สามารถเอาชนะมันได้
อย่างไรก็ตาม เขาสูญเสียอสูรไปครึ่งหนึ่ง และก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นกัน
เมื่อพิจารณาจากสถานะของเขาแล้ว เขาจะไม่มีโอกาสชนะหลิงหู่เจี้ยนหรือจักรพรรดิมังกรแม้แต่นิดหากไม่มียาฟื้นฟูชั้นยอด ถึงกระนั้นเขาก็ยังได้รับความชื่นชมจากสาธารณชน และแน่นอนว่าจะติดหนึ่งในสิบอันดับแรกแน่นแน ดูเหมือนว่าโอเอซิส เกรย์จะผิดหวังอย่างมากตอนที่เขาออกจากภูมิภาค เขาตระหนักถึงช่องว่างระหว่างเขากับจักรพรรดิมังกร เขาดูถูกจักรพรรดิมังกรอยู่เสมอ แต่เขากลับถูกตบหน้า มันน่าผิดหวังจริงๆ
“นายจะขึ้นไปไหม?”
ในขณะนี้ได้ยินเสียงรื่นรมย์อยู่ใกล้ ๆ ซูผิงหันไปมอง และพบว่าผู้หญิงที่ชื่อซูจินเอ๋อกำลังพูดกับเขาอยู่
ผู้หญิงคนนี้แต่งตัวแบบโบราณ ดูเหมือนว่าเธอจะจะได้รับวัฒนธรรมโบราณมาจากดาวเคราะห์สีน้ำเงิน
“ผมยังไงก็ได้” ซูผิงกล่าว
ซูจินเอ๋อทำหน้าบูดบึ้งแล้วพูดกับเจ้าดวงดาว “งั้นฉันไปก่อน”
ในไม่ช้าซูจินเอ๋อก็เข้าไปในภูมิภาค ผู้หญิงที่เข้าร่วมในการแข่งขันเอาตัวรอดนั้นถือว่าธรรมดามาก เพราะเธอรวมตราได้แค่สิบชิ้น
เธอไม่แพ้ในการต่อสู้สิบครั้งจากรอบที่แล้วแต่ไม่มีชัยชนะใดของเธอที่ได้มาง่าย ๆ
ไม่มีใครคาดคิดว่าเธอจะมีความกล้าที่จะอยู่ต่อหลังจากได้เห็นมังกรปีศาจกะโหลก
เธอไม่ได้อยู่ในการจัดอันดับความนิยม ไม่ได้อยู่ในการจัดอันดับการทำนายแชมป์
“ผู้หญิงคนนี้มาจากไหน? เธอก็ดูดี แต่ทำไมถึงโง่แบบนี้”
“มันก็สมเหตุสมผลดีนิ ผู้หญิงสวยมักจะไม่ค่อยฉลาด”
“นายจะพล่ามอะไรนักหนาเนี่ย? มีสภาวะเทพดวงดาวที่เป็นผู้หญิงนะเว้ย พวกเธอจะปิดปากนายให้ไม่มีโอกาสได้พูดอีกถ้านายยังพูดแบบนี้อยู่!”
“เธอดูเหมือนจะมั่นใจมากนะ การได้รับชัยชนะสิบครั้งคงเป็นไปไม่ได้หากเธอเป็นแค่คนธรรมดา เธอคงซ่อนพลังเอาไว้” ไอลีนโนเวล
ในขณะที่ทุกคนกระซิบ เจ้าดวงดาวก็เคร่งขรึมหลังจากเห็นซูจินเอ๋อจากนั้นเขาก็พยักหน้าและอนุญาตให้เธอเข้าไป ในไม่ช้ามังกรปีศาจกะโหลกก็สังเกตเห็นซูจินเอ๋อ และการต่อสู้ก็เริ่มขึ้นในทันที
อย่างไรก็ตามซูจินเอ๋อเรียกแค่อสูรเพื่อมาเพิ่มความแข็งแกร่งของเธอ จากนั้นเธอก็พุ่งไปหามังกรด้วยมือเปล่า
“เธอคล่องแคล่วมาก!”
เธอแสดงความเชี่ยวชาญอย่างมากในเทคนิคการเคลื่อนไหวร่างกายตอนที่เธอโจมตี โดยเข้าใกล้เป้าหมายเหมือนผีและตบอสูรให้เข้าไปในมิติชั้นห้า ดับไฟบางส่วนบนร่างกายของอสูรและทิ้งรอยลึกไว้บนผิวหนัง
มังกรกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด หลังจากนั้นก็ยิ่งรุนแรงขึ้น
อย่างไรก็ตามซูจินเอ๋อบินเหมือนผีเสื้อและต่อยเป็นพักๆ
เธอใช้เวลาเพียงห้านาที มังกรก็ทรุดตัวลงด้วยหมัดของเธอ กระดูกและอวัยวะภายในของมันแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
“กฎทรงพลังอะไรขนาดนี้! ไหนจะการโจมตีที่แปลกประหลาดเหล่านั้นอีก!”
หลิงหู่เจี้ยนและคนอื่นๆ ตกตะลึงกับการแสดงของเธอ พลังแห่งกฎในหมัดของหญิงสาวไม่สนใจการปกป้องจากเกล็ดมังกร แต่พุ่งตรงเข้าไปในร่างของมัน ทุกการโจมตีของเธอนั้นแม่นยำ
”ฮะ?”
ซูผิงรู้สึกประหลาดใจเช่นกัน เขามองผู้หญิงคนนั้นอย่างครุ่นคิด
ผู้หญิงคนนั้นต่อสู้ราวกับว่าเธอมองเห็นทุกจุดอ่อน ซึ่งทำให้เธอสามารถโจมตีได้ตรงจุด สายตาและการควบคุมของเธอดีมากจนแม้แต่นักดาบอัจฉริยะอย่างหลิงหู่เจี้ยนก็ยังด้อยกว่า
มีอัจฉริยะมากมายในจักรวาลอันกว้างใหญ่นี้ ซูผิงมีทัศนคติที่เคร่งขรึม มีอัจฉริยะมากมายในซิลวี่เช่นกัน เขาสงสัยว่าดาวดวงไหนจะได้เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ
อย่างไรก็ตามเขายังคงมั่นใจว่าจะคว้าแชมป์ได้ แม้ว่ามันจะยากกว่ามากก็ตาม ซูจินเอ๋อกลับมา เธอตบมือ ยิ้ม ขยิบตาให้ซูผิง และกลับสู่ตำแหน่งของเธอ
ซูผิงตระหนักว่าผู้หญิงคนนั้นปฏิบัติต่อเขาแตกต่างไปด้วยเหตุผลบางอย่าง สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกสับสนเล็กน้อย แต่เลือกที่จะไม่คิดมาก เขากำลังจะก้าวเข้าไป แต่ฮายาลิมพูดกับเจ้าดวงดาวเสียก่อน
ผู้หญิงคนนี้อยู่ในที่หนึ่งมาระยะหนึ่ง เธอแทบจะไม่ได้ต่อสู้เลยในรอบชนะสิบครั้ง คู่ต่อสู้ของเธอล้มเหลวทั้งหมด มันค่อนข้างแปลก
หลายคนเชื่อว่าเธอคงเข้าใจกฎแห่งเวทมนตร์หรือกฏล่อลวง
การเข้าใจกฎดังกล่าวไม่ใช่เรื่องแปลก
การต่อสู้ที่ดุเดือดเริ่มขึ้นเมื่อเธอเข้าไป
เธอเรียกอสูรแปดตัวของเธอออกมาและต่อสู้กับมังกรอย่างไม่เร่งรีบ การร่วมมือกันของเธอกับอสูรนั้นไร้ที่ติ พวกมันมีพลังทำลายล้างสูง อสูรของเธอเพียงอย่างเดียวได้สร้างความเสียหายอย่างมากต่อมังกร เธอจะโจมตีและผลักมังกรกลับทุกครั้งที่มันจะทำลายค่ายกลอสูร จากนั้นเธอก็จะทิ้งระยะอีกครั้ง
หนึ่งชั่วโมงต่อมามังกรกะโหลกก็ถูกฆ่าในที่สุด
ทุกคนค้นพบว่าผู้หญิงคนนี้ไม่มีอะไรที่น่าอัศจรรย์ นอกเหนือไปจากการควบคุมอสูรของเธออย่างสมบูรณ์
ความสามารถของเธออยู่ในระดับสูงสุดด้วยเช่นกัน แต่ก็ไม่ได้ยอดเยี่ยมเท่ากับจักรพรรดิมังกรหรือหลิงหู่เจี้ยน
มันเป็นการโจมตีทางจิตหรือเปล่า? จิตของเธอปราบมังกร… ซูผิงหรี่ตาลง การต่อสู้ที่ยืดเยื้อทำให้เขาสามารถตรวจพบได้อย่างคลุมเครือว่าผู้หญิงคนนั้นมีพลังจิตที่สุดยอด ซึ่งหลอมรวมเป็นสนามพลังที่น่าสะพรึงกลัวและส่งผลต่อมังกร
เขาหันไปมองและพบว่าซูจินเอ๋อสนใจเธอเช่นกัน ในทางกลับกันหลิงหู่เจี้ยนมีท่าทางที่น่ากลัวขึ้น ในขณะนี้เจ้าดวงดาวกล่าวกับซูผิงซึ่งเป็นคนสุดท้ายว่า “ถึงตาคุณแล้ว”
ซูผิงละสายตาและพยักหน้าเล็กน้อย
เขาเพียงแค่บินเข้าไปในลานประลอง
“เขาคือเด็กที่ก้าวข้ามอนุสรณ์ทุกสายร้อยชั้นใช่ไหม?”
“ฉันหวังว่าจะได้เห็นอะไรดีๆ”
บนท้องฟ้าสูง ไฮถัวและคนอื่นๆ มองไปที่เขาด้วยความสนใจอย่างมาก
การแสดงของซูจินเอ๋อและฮายาลิมกระตุ้นความสนใจของพวกเขา พวกเขาคิดที่จะเชิญชวนพวกเธอมาเป็นศิษย์
ดวงตาของโหยวหยิงเป็นประกาย เขาตัดสินใจจะคุยกับฮายาลิมหลังการแข่งขัน พลังจิตและสนามพลังของเธอทำให้เขาพอใจ เธอเป็นอัจฉริยะที่เขาชอบที่สุด
เขาตรวจพบพลังอันโหดร้ายที่อยู่เบื้องหลังแรงกดดันทางจิตนั้น
เธอเป็นผู้หญิง แต่เธอต้องผ่านการฝึกฝนอย่างโหดร้ายมาแน่นอน เพื่อจะได้มาซึ่งจิตสังหารแบบนี้
ซูผิงก้าวเข้าไปข้างในขณะที่พวกเขาเฝ้าดู ดึงดูดความสนใจของมังกรปีศาจกะโหลก
มันเป็นมังกรปีศาจกะโหลกอีกตัว มันลอยอยู่บนท้องฟ้ากว้างใหญ่และเพลิดเพลินกับอิสระที่ได้กลับมา
“ออกมา” ซูผิงกระซิบเพื่อเรียกมังกรเพลิงนรกและมังกรอสนีบาตเกล็ดขาว
ขาวน้อยสังเกตเห็นมังกรดุร้ายขณะที่มันออกมา มันคำรามอย่างระมัดระวังเมื่อรู้ว่ามังกรเป็นภัยคุกคาม
ซูผิงไม่ได้พูดอะไร เขาแค่ผสานกับขาวน้อย และให้มังกรเพลิงนรกต่อสู้เคียงข้างเขา
เขาไม่ได้วางแผนที่จะเรียกขาวน้อยออกมาในตอนแรก แต่เนื่องจากมันเป็นมังกรเหมือนกัน จึงเป็นโอกาสที่ดีที่มันจะได้เรียนรู้วิธีต่อสู้กับมังกรตัวอื่น