ลำนำบุปผาพิษ - บทที่ 1021-1022
บทที่ 1021 เป็นเขาที่ไว้ใจผิดคน!
หรงเช่อมองเขาอยู่ครู่ใหญ่ ส่ายหัวน้อยๆ “เสด็จพี่ ท่านช่างจิตใจดีเสียจริง ดีกับข้ามากเช่นกัน แต่น่าเสียดาย… ”
“น่าเสียอายอะไร?” หรงเจียหลัวขมวดคิ้ว เขารู้สึกผิดปกติขึ้นมารางๆ แล้ว
หรงเช่อแย้มยิ้ม “เสด็จพี่ ท่านยังจำได้ไหมว่าผู้ใดลอบปองร้ายท่าน ทำให้ท่านกลายเป็นผีดิบ?”
หรงเจียหลัวมองรอยยิ้มของเขา หัวใจพลันดิ่งวาบทันที “ผู้ใด?”
หรงเช่อหมุนพัดจีบในมือคราหนึ่ง ด้ามพัดชี้ไปทางตน “ข้าเอง!”
สีหน้าหรงเจียหลัวแปรเปลี่ยนในทันใด “อะไรนะ?!”
เขาคิดจะลุกขึ้นมา แต่ร่างกายกลับไร้เรี่ยวแรงเสมือนถูกถอดกระดูกออก เขาเงยหน้าขึ้นมาทันที “เจ้าทำอะไรกับข้าอีก?”
หรงเช่อยังคงนั่งประจันหน้ากับเขา เอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ไม่ได้ทำอะไร เพียงวางยาชนิดหนึ่งไว้ในรถม้าคันนี้ ทำให้เสด็จพี่ไม่อาจใช้พลังยุทธ์ใดๆ ได้ ขยับเขยื้อนไม่ได้”
หรงเจียหลัวหน้าซีด ตะโดนเสียงดัง “จิ้งจอกดำ!” ผู้ที่บังคับรถม้าอยู่ด้านนอกคือจิ้งจอกดำ วรยุทธ์ของจิ้งจอกดำก็ล้ำเลิศเช่นกัน ถึงแม้จะเทียบกับหรงเจียหลัวไม่ได้ แต่ก็พอฟัดพอเหวี่ยงกับหรงเช่อ
เสียงตะโกนนี้ของหรงเจียหลัวดังไม่น้อย ทว่าด้านนอกกลับไม่มีความเคลื่อนไหวเลย
หรงเช่อส่ายศีรษะ “เสด็จพี่ ข้าติดตั้งเขตแดนเล็กๆ ไว้ในรถม้าคันนี้ เสียงของท่านส่งไปไม่ถึงด้านนอกหรอก”
เหงื่อเย็นเฉียบไหลลงมาจากหน้าผากหรงเจียหลัว เขามองหรงเช่ออยากไม่อยากจะเชื่อ “เพราะเหตุใด? เพราะเหตุใดถึงลอบปองร้ายข้า? ข้าถามตัวเองดูแล้วไม่มีตรงไหนที่ผิดต่อเจ้าเลย…”
แพขนตาของหรงเช่อหลุบลงเล็กน้อย “ท่านไม่ได้ผิดต่อข้าตรงไหนเลย เป็นข้าที่ผิดต่อท่าน”
หรงเจียหลัวชะงักไปครู่หนึ่ง กล่าวอย่างหม่นหมอง “เป็นเพราะตำแหน่งรัชทายาทนี้หรือ? เจ้าก็อยากเป็นจักรพรรดิสินะ? เจ้าสังหารข้าแล้วก็ยังมีหรงฉู่อยู่ ราชบัลลังก์นี้ไม่มีส่วนของเจ้าหรอก…”
หรงเช่อเม้มริมฝีปากบางนิดๆ เอ่ยอย่างเฉยเมย “ความจริงแล้วข้าไม่สนใจราชบัลลังก์นี้หรอก เพียงแต่ ยามนี้กลับทำได้เพียงครองบัลลังก์ก่อนแล้วค่อยว่ากัน ส่วนหรงฉู่ วันงพรุ่งนี้ข้าน่าจะได้รับข่าวว่าเขาถูกลอบสังหารไปแล้ว..”
สายตาของเขาร่อนลงบนหน้าหรงเจียหลัว “และนักฆ่าที่สังหารเขาก็ถูกส่งไปในนามของเสด็จพี่”
มือเท้าของของหรงเจียหลัวเย็นเฉียบ ถึงเขาจะจิตใจดีแต่มิได้โง่เขลา ย่อมทราบว่าทั้งหมดที่เขาพูดหมายความว่าอย่างไร ในราชวงศ์มีอยู่เพียงสามคนที่มีความเป็นไปได้ที่สุดว่าจะได้ขึ้นครองราชย์
เขา หรงฉู่ และหรงเช่อที่เรืองอำนาจขึ้นมาในช่วงไม่กี่ปีนี้…
ในศึกครั้งนี้ หรงเช่อมีความชอบยิ่งนัก มีคุณูปการด้านการรบเป็นที่เลื่องลือ และข่าวการทัพรายงานคุณูปการนี้ตัวเขาหรงเจียหลัวเป็นเขียนรายงานเองกับมือ จักรพรรดิซวนก้ส่งคนมาปูนบำเหน็จตกรางวัลอยู่หลายครั้ง ไม่ว่าจะในกองทัพหรือในอาณาจักรหรงเช่อก็มีบารมีค่อนข้างมากแล้ว
หากตัวเขาและหรงฉู่ล้วนสิ้นชีพไป เช่นนั้นราชบัลลังก์นี้ก็ย่อมตกเป็นของหรงเช่อ
คาดการณ์ได้ว่าไม่ว่าจะเป็นฝ่ายองค์รัชทายาทหรือว่าฝ่ายหรงฉู่ก็ล้วนไม่คัดค้านทั้งสิ้น
นกกระสาสู้กับหอยกาบ ชาวประมงได้รับผลประโยชน์
ที่แท้น้องชายที่เขาไว้ใจยิ่งนักมาโดยตลอดถึงจะเป็นผู้มีชัยในตอนสุดท้าย!
“เจ้าแปด แผนการของเจ้าช่างยอดเยี่ยมโดยแท้!” หรงเจียหลัวโศกหมอง ยามนี้เขายังไม่ฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บ พลังยุทธ์สิบส่วนใช้ออกมาไม่ได้เลยสักส่วน ปะกอบกับถูกพิษเข้าไปอีก ไม่เหลือความหวังเลยสักนิด
เป็นเขาที่ไว้ใจผิดคน!
หรงเจียหลัวหลับตาลง “เจ้าลงมือเถอะ!”
ด้านหนึ่งไม่มีความเคลื่อนไหวอยู่พักใหญ่ หรงเจียหลัวลืมตาขึ้นอย่างประหลาดใจ มองเห็นหรงเช่อโบกพัดมองเขาด้วยรอยยิ้ม แววตาน่าพิศวง
“เหตุใดไม่ลงมือเล่า? เจ้าบอกเรื่องพวกนี้กับข้า มิใช่คิดจะทำให้ข้าได้กระจ่างแจ้งก่อนตาย แล้วสังหารข้าหรอกหรือ?”
หรงช่อหลุบตาลงทอดถอนใจ “เสด็จพี่มีเมตตาต่อข้าถึงเพียงนี้ ข้าไม่อาจหักใจสังหารท่านด้วยมือตนได้”
หรงเจียหลัวกำหมัด “หรือเจ้าคิดจะบีบให้ข้าฆ่าตัวตาย?”
“เสด็จพี่ทำได้ไหมล่ะ?”
————————————————————————————-
บทที่ 1022 เจ้าจะฆ่าก็ลงมือเสีย
“อย่าเรียกข้าว่าพี่! ข้าไม่มีน้องชายอย่างเจ้า! เจ้าจะฆ่าก็ลงมือเสีย อย่าได้หมายว่าข้าจะยอมฆ่าตัวตาย!”
หรงเช่อยังคงยิ้มอยู่เช่นเดิม เพียงแต่นัยน์ตากลับมีความสลดพาดผ่านแวบหนึ่ง “ข้าก็รู้อยู่แล้วว่าท่านทำไม่ได้…ดังนั้น…คอยอีกหน่อยเถิด”
เชาหยิบขลุ่ยไผ่เลาหนึ่งออกมา เป่าบรรเลงอย่างเอ้อระเหย
คอย? ยังต้องคอยอะไรอีก?
หรงเจียหลัวไม่มีทางคาดคิดว่าเขาจะปล่อยตนไปหลังจากที่เผยความลับทั้งหมดออกมาแล้ว เพียงแต่ในรถคันนี้มีแค่ตนกับเขา ถ้าเขาไม่ลงมือแล้วจะให้ผู้ใดมาลงมือ?
หรงเจียหลัวได้รับคำตอบที่เฝ้ารออยู่อย่างรวดเร็ว จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงจิ้งจอกดำร้องตะโกนอยู่ด้านนอก “เหยี่ยวไสยดำ! เหยี่ยวไสยดำมากมายเหลือเกิน!”
จากนั้นรถม้าก็โยกไหวทันที เห็นได้ชัดว่าจิ้งจอกดำที่อยู่ด้านนอกกำลังพยายามบังคับรถม้าหลบหลีกอย่างสุดชีวิต
ร่างกายหรงเจียหลัวไร้เรี่ยวแรง เมื่อถูกโยกเช่นนี้ ร่างกายจึงพุ่งถลาไปด้านหน้าทันที ถูกหรงเช่อยื่นพัดมากดไว้…
เหยี่ยวไสยดำเป็นสัตว์ปีกดุร้ายชนิดหนึ่ง เป็นวิหคที่มีพลังวิญญาณขั้นห้า สามารถฉีดทึ้งแรดได้ด้วยกรงเล็บ รถม้าที่เดินทางด้วยการเหินบินหวาดเกรงว่าจะพบวิหคชนิดนี้ระหว่างทางเป็นที่สุด เจอเพียงตัวเดียวก็ทำให้สารถีวุ่นวายหัวหมุนแล้ว แต่ยามนี้พวกเขากลับพบเจอเป็นฝูง! มีถึงสามสิบสี่สิบตัว!
พลังวิญญาณของจิ้งจอกดำคือขั้นห้า หากพบเหยี่ยวไสยดำเพียงตัวเดียว เขายังพอรับมือได้ แต่ยามนี้พบพานมากมายในคราวเดียว เขาหน้าเปลี่ยนสีอย่างสมบูรณ์แล้ว!
หรงเช่อชักพัดกลับ มองหรงเจียหลัวเป็นครั้งสุดท้ายแวบหนึ่ง “เสด็จพี่ ชาติหน้าก็เลือกเกิดในครรภ์ดีๆ แล้วกัน ครั้งนี้ขออภัยด้วย!” ประสานมือคารวะคราหนึ่ง เรือนกายไหววูบ พุ่งออกจากรถไป…
ภายในรถเหลือหรงเจียหลัวที่ขยับตัวแทบไม่ได้อยู่เพียงผู้เดียว ในที่สุดเขาก็ทราบแผนการทั้งหมดของหรงเช่ออย่างแจ่มแจ้งแล้ว
สาเหตุมิใช่เขาหักใจสังหารด้วยมือตนไม่ลง แต่เป็นการสร้างอุบัติเหตุอย่างหนึ่งขึ้น!
อย่างไรเสียหากเขาลงมือด้วยตัวเอง เป็นไปได้ว่าอาจหลงเหลือเบาะแสอันใดไว้บนร่างศพ ถูกคนสืบพบได้ แต่ยามนี้เขาสร้างอุบัติเหตุที่สมบูรณ์แบบอย่างหนึ่งขึ้น ถูกโจมตีระหว่างทาง เขากับจิ้งจอกดำล้วนต่อสู้หลั่งโลหิตอยู่ด้านนอก เหลือไว้เพียงเขาที่จะตกตายไปพร้อมกับรถม้าคันนี้…
ความคิดเขาเพิ่งแล่นมาถึงตรงนี้ นอกรถม้าก็มีเสียงจิกข่วนแว่วเข้ามา รวมถึงเสียงโหวกเหวกโวยวายด้วยความโกรธของจิ้งจอกดำกับหรงเช่อ…
ชัดเจนยิ่งนัก เหยี่ยวไสยดำมากมายเกินไป จิ้งจอกดำกับหรงเช่อต้านทานไม่ไหว ทำให้เหยี่ยวไสยดำกว่าสิบตัวกรูเข้ามากระแทกรถม้า
‘แคว่ก! แคว่ก! แคว่ก! แคว่ก…’ รถม้าถูกการโจมตีของเหยี่ยวไสยดำฉีกทึ้งออกเป็นชิ้น หรงเจียหลัวช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ร่วงหล่นลงไปดุจอุกกาบาต…
“องค์รัชทายาท!” เสียงตะโกนจนเสียงแทบหลงของจิ้งจอกดำแว่วเข้าหู
“เสด็จพี่รัชทายาท!” นี่คือเสียงตะโกนด้วยความตกใจของหรงเช่อ
หรงเจียหลีวหลับตาลง ร่างเขาไม่มีพลังวิญญาณเลยสักนิด ร่วงหล่นจากระดับความสูงกว่าสองพันเมตรไหนเลยจะยังมีทางรอด?
….
จิ้งจอกดำมือเท้าสั่นสะท้าน สืบหาร่องรอยของผู้เป็นนายอย่างบ้างคลั่งด้วยความยากลำบาก
วินาทีที่หรงเจียหลัวร่วงหล่นลงไปเขาก็กระโดดตามไปอย่างไม่แยแสสิ่งใดทั้งสิ้น ทว่าถูกหรงเช่อใช้แส้ม้วนตัวดึงขึ้นไป
เขาหันกลับไปมองทันที เห็นหรงเช่อขี่สิงโตเวหาตัวหนึ่งโผบินลงมาอย่างรวดเร็วเช่นกัน จิ้งจอกดำกำลังร่อนลงบนหลังสิงโตเวหาตัวที่เขาขี่อยู่
สิงโตเวหาอีกตัวกลายเป็นอาหารของเหยี่ยวไสยดำฝูงนั้นแล้ว…
ถึงแม้ทั้งสองจะขี่สัตว์พาหนะบินตามลงมาอย่างรวดเร็วแล้ว แต่สุดท้ายก็ยังไม่เร็วเท่าการร่วงหล่นอย่างไร้แรงโน้มถ่วงของหรงเจียหลัว ทั้งสองเบิกตามองเขาลอยละลิ่ว ร่วงดิ่งลงไปในป่าดงดิบที่อยู่ด้านล่าง…
พวกเขาตระเวนไปทั่วสถานที่ที่หรงเจียหลัวร่วงลงมา ว่ากันตามเหตุผลแล้วต่อให้เขาหล่นลงมาตาย ศพก็ควรอยู่ในรัศมีหนึ่งกิโลเมตรรอบบริเวณนี้
แต่คนทั้งสองไม่สนใจอาการบาดเจ็บทำการค้นหารอบบริเวณนี้อย่างถี่ถ้วนปานร่อนตะแกรงมาสองชั่วยามเต็ม ก็ไม่พบร่องรอยของหรงเจียหลัวเลย