ลำนำบุปผาพิษ - บทที่ 1027+1028
บทที่ 1027 จิ้งจอกเฒ่าที่ไหนจะอ่อนเยาว์ปานนี้
“หรงเช่อไล่ตามเจ้า มีความเป็นไปว่าจะรับคำสั่งมาจากผู้บงการอยู่เบื้องหลัง และตัวเขาก็ชอบเจ้าด้วยใจจริง ถ้าคว้าตัวเจ้าไว้ได้ก็นับว่าพวกเขาทำหนึ่งได้ถึงสอง”
กู้ซีจิ่วตะลึง อันที่จริงเธอรู้สึกมานานแล้วว่ารอบกายตนคล้ายมีแหขนาดใหญ่กางอ้าอยู่ เพียงแต่แหนั้นซุกซ่อนไว้มิดชิดเกินไป เธอยังสืบสาวไม่ได้ชั่วขณะ ยามนี้พอได้ฟังข้อสันนิษฐานเช่นนี้จากตี้ฝูอี ก็ดูเหมือนจะเป็นความจริงยิ่งนัก
เธอค่อยๆ นำเรื่องราวนับตั้งแต่รู้จักหรงเช่อมาวิเคราะห์เป็นส่วนๆ รอบหนึ่ง จากนั้นก็นำมาปะติดปะต่อตามที่ตี้ฝูอีพูด ในใจหนาวสะท้านขึ้นมา
หรงเช่อ ดูเหมือนจะวางหมากไว้ข้างกายเธอเสมอจริงๆ! และเรื่องราวบางที่ตนกระทำกลับทำลายตัวหมากของเขาไปโดยโดยไม่ได้ตั้งใจ…
สรุปแล้วตัวการที่ชักใยอยู่เบื้องหลังเป็นเขา หรือว่าหลงฟั่นกันแน่?
เขากับหลังฟั่นเกี่ยวข้องการเพียงการร่วมมือหรือว่าเกี่ยวข้องกันแบบเจ้านายลูกน้อง?
ฟังจากถ้อยคำที่เขาพูดกับหรงเจียหลัว ดูเหมือนการแย่งชิงบัลลังก์จะไม่ใช่เป้าหมายสูงสุดของเขา เช่นนั้นเป้าหมายสูงสุดของเขาคืออะไร? ตำแหน่งของเทพศักดิ์สิทธิ์? หรือว่าปกครองใต้หล้า?
กู้ซีจิ่วมองเด็กชายตัวน้อยที่อยู่ข้างกาย ถึงแม้เจ้าคนที่อยู่ตรงนี้จะมีหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดูหลอกล่อคนได้ แต่สติปัญญาและกลยุทธ์กลับเหนือกว่าจูเก๋อเลี่ยงหลายเท่านัก ช่างเป็นขอเพียงกลยุทธ์ดีผู้บัญชาการอยู่ไกลนับพันลี้ก็ยังมีชัยโดยแท้
ในเมื่อมีบุคคลเช่นนี้อยู่ข้างกาย กู้ซีจิ่วก็คร้านจะใช้สมองตนแล้ว โยนข้อสงสัยเหล่านี้ให้เขาทั้งหมด
ตี้ฝูอีวิเคราะห์ให้เธอฟังรอบหนึ่ง สุดท้ายก็สรุปจุดประสงค์มากมายของอีกฝ่ายออกมาหนึ่งข้อ “หากเขาเป็นคนที่คอยชักใยอยู่หลังม่านมาโดยตลอด เช่นนั้นเป้าหมายสูงสุดของเขาก็คือตำแหน่งเทพศักดิ์สิทธิ์ หากว่าไม่ใช่ เช่นนั้นเป้าหมายสูงสุดของเขาก็คือครอบครองใต้หล้าและ…ตัวเจ้า!”
กู้ซีจิ่วเลิกคิ้วทันที “ตัวข้า?”
ตี้ฝูอียิ้มบางๆ “หญิงงามยอดพธู ย่อมควรคู่ชายชาญ นับประสาอะไรกับเจ้าที่เลิศล้ำกว่าหญิงงามยอดพธูเป็นร้อยเท่าเล่า ย่อมเป็นเป้าหมายที่เขาหมายปอง จะหญิงงามหรือใต้หล้า เขาล้วนปรารถนาทั้งสิ้น”
กู้ซีจิ่วอิ่มเอมใจ “ที่แท้ข้าก็ยอดเยี่ยมถึงเพียงนี้!” พลางเท้าแก้มมองเขา “จะว่าไป มีคนหมายปองข้ามากมายขนาดนี้ เหตุใดท่านจึงไม่หึงหวง? ซ้ำยังวิเคราะห์ออกมาป็นข้อๆ ด้วย”
ตี้ฝูอีพลันดึงเธอเข้าไป ศีรษะของคนทั้งสองคว่ำลงบนหมอนโดยตรง “ข้าไม่จำเป็นต้องหึงหวง เพราะข้ารู้ว่าพวกเขาแย่งเจ้าไปไม่ได้หรอก พวกเขาล้วนดีสู้ข้าไม่ได้ พวกเขาปรารถนาไปก็เปล่าประโยชน์”
วาจานี้ช่างหลงตัวเองนัก!
แต่ก็เป็นความจริงเช่นกัน ในใจของกู้ซีจิ่ว ไม่ว่าตัวตนของตี้ฝูอีจะเป็นอะไร เขาล้วนดีที่สุด
ก่อนจะตกหลุมรักเขา สิ่งที่เธอต้องการคือท่องเที่ยวชื่นชมขุนเขาสายธารยิ้มหยันใต้หล้า หลังจากตกหลุมรักเขาแล้ว กลับรู้สึกว่าต่อให้นอนฟุบพูดคุยกับเขาเช่นนี้ ก็รู้สึกหัวใจหวานชื่นปานน้ำผึ้ง
อันที่จริงนิสัยของเธอเฉยเมยเย็นชา ไม่ค่อยชอบยิ้ม ยามที่พวกจิ้งจอกน้อยอยู่กับเธอ มักจะเห็นเธอเป็นลูกพี่โดยไม่รู้ตัว ในใจจึงค่อนข้างยำเกรงเธอ
แต่ยามที่อยู่กับเขาดวงตามักจะหยีโค้งเสมอ ทำให้คนรู้สึกสดชื่นปานสายลมฤดูใบไม้ผลิ อีกทั้งอารมณ์ดียิ่งนักด้วย
เพียงแต่ยามนี้กู้ซีจิ่วไม่ค่อยสบายใจ เธอนอนฟุบอยู่ตรงนั้นเงียบๆ ครู่หนึ่ง จู่ๆ ก็เงยหน้ามองตี้ฝูอี “ท่านคงไม่ได้ทำแค่นี้ใช่หรือไม่? ต้องเตรียมการขั้นต่อไปไว้เป็นแน่!”
ตี้ฝูอีก็บอกอย่างไม่ปิดบัง “มีแน่นอน…” พลางเล่าแผนการของตนให้เธอฟังรอบหนึ่ง
กู้ซีจิ่วมองเขาอยู่เนิ่นนาน “ขิงแก่ย่อมเผ็ดร้อน! ท่านช่างเป็นจิ้งจอกเฒ่าโดยแท้!”
วิธีการของเขาร้ายกาจเหลือเกิน เห็นทีว่าหนนี้หรงเช่อต้องเสียเปรียบครั้งใหญ่แล้ว ถูกถลกหนังตรงๆ! อาจต้องมอบชีวิตออกมาด้วย!
ตี้ฝูอีหรี่ตามองเธอ “จิ้งจอกเฒ่ารึ?” พลางยกมือชี้ตัวเอง “จิ้งจอกเฒ่าที่ไหนจะอ่อนเยาว์ปานนี้?”
————————————————————————————-
บทที่ 1028 เจ้าจะสังหารสามีหรือ
กู้ซีจิ่วเอ่ยโพล่งออกมาประโยคหนึ่ง “ท่านมันแตงเฒ่าย้อมสีเขียว แสร้งว่าอ่อนเยาว์!”
เขาพลิกตัวแล้วใส่ร่างเธอ มือน้อยๆ ยื่นไปจั๊กจี้รักแร้ของเธอ “เจ้าพูดอีกทีสิ!”
ร่างกายของกู้ซีจิ่วเดิมทีไม่ได้บ้าจี้ แต่มือน้อยๆ ของตี้ฝูอีกลับเสมือนมีกระแสไฟฟ้า อีกทั้งจี้ถูกจุด ทำให้เธอทนไม่ไหวหัวเราะออกมาไม่หยุด “หยุดมือ คิกๆ หยุดมือ…ฮ่าๆ ยอมแล้ว…ยอมแล้ว…”
มือเท้าสับสนวุ่นวายคิดจะผลักเขาออก แต่ตี้ฝูอีมิใช่คนที่เธอสามารถผลักออกตามใจนึก เธอหักใจใช้กำลังผลักออกไปไม่ลง
คนทั้งสองพลิกตลบไปตลบมา กลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนเตียง จู่ๆ กู้ซีจิ่วรู้สึกว่ามีอะไรทิ่มถูกหน้าท้องตน ทำให้เธอเจ็บเล็กน้อย เธอจึงอดไม่ได้ที่จะยื่นมือลงไปคลำดู บังเอิญคว้าถูกบางสิ่งที่ซ่อนอยู่ในเสื้อคลุมของเขาเข้าพอดี…
ตี้ฝูอีที่นอนคว่ำอยู่บนร่างเธอตัวแข็งทื่อทันที ในที่สุดกู้ซีจิ่วก็ทราบได้ว่าสิ่งที่กุมอยู่สรุปแล้วคืออะไร ใบหน้าพลันแดงก่ำ ปล่อยมือออก! ผลักเขาออกไปทันที
ครั้งนี้ตี้ฝูอีไม่ได้เกาะเธอไว้แน่นไม่ยอมปล่อย ถือโอกาสพลิกตัวลงไป นอนเคียงข้างกายเหมือนเดิม หัวใจกู้ซีจิ่วเต้นรัวดั่งตีกลอง “ท่าน…ท่านมันเด็กลามก!”
ว่ากันตามเหตุผลแล้ว เด็กในช่วงวัยนี้น่าจะยังไม่เจริญพันธุ์นี่ ควรจะเล็กกระจิ๋วหลิวอยู่สิ เขาทำได้ยังไง?
บหน้าอ่อนวัยของตี้ฝูอีก็ค่อนข้างแดงก่ำเช่นกัน “ข้าบอกแล้วไง ข้าไม่เหมือนเด็กทั่วไป”
จากนั้นก็มองเธอแล้วเอ่ยขู่ “อย่าได้ท้าทายขีดจำกัดด้านนี้ของข้าอีก มิฉะนั้น…ข้าอาจทำเรื่องที่ปรับเปลี่ยนมุมมองทั้งสามของเจ้าใหม่”
กู้ซีจิ่วกระเด้งตัวขึ้นมา พลางถีบเขาไปทีหนึ่ง “เจ้ากล้าหรือ!”
ตี้ฝูอีฉวยโอกาสกลิ้งคราหนึ่ง หลบหลีกบาทาไร้เงานี้ของเธอ “เจ้าจะสังหารสามีหรือ?”
กู้ซีจิ่วไม่กล้ารั้งอยู่บนเตียงต่อแล้ว กระโดดลงพื้นอย่างปราดเปรียว “ชิ ข้าไม่ได้บอกว่าจะแต่งให้เจ้าเสียหน่อย!”
ทั้งสองทะเลาะกันอยู่พักหนึ่ง แต่กลับทำให้กู้ซีจิ่วที่เดิมทีอารมณ์หมองผ่อนคลายขึ้นไม่น้อย ไม่หดหู่ถึงเพียงนั้นอีก
ตามที่ตี้ฝูอีกล่าว เร็วสุดคือค่ำวันนี้ ช้าสุดคือคำวันพรุ่ง เมืองหลวงของอาณาจักรเฟยซิงจะต้องเกิดความวุ่นวายขึ้นแน่นอน หรงเช่อก็จะเคลื่อนไหว
แน่นอนว่ากระเป๋าของตี้ฝูอีก็อ้าคอยท่านานแล้ว รอให้เขามุดเข้ามา…
ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร เธอล้วนไม่เข้าไปก้าวก่าย ดังนั้นเธอจะทำใจให้สงบแล้วรอฟังข่าวอยู่ที่นี่ก็พอ
เธอไม่กล้าแช่อยู่ที่ห้องตี้ฝูอีนานนัก เลี่ยงไม่ให้หลงซือเย่แคลงใจ เอ่ยขึ้นว่า “ท่านพักผ่อนก่อนเถอะ ไม่แน่นะหลับไปสักงีบพอตื่นขึ้นมา ท่านอาจกลับเป็นปกติแล้ว” แล้วเปิดประตูเดินออกไป
ห้องพักของเธออยู่ชั้นสอง ห่างจากห้องพักของตี้ฝูอีค่อนข้างไกล ถึงขั้นที่มีห้องโถงโรงเตี๊ยมคั่นกลางอยู่
ยามที่กู้ซีจิ่วเดินผ่านห้องโถงฝีเท้าหยุดชะงักลง หลงซือเย่ยืนอยู่หน้าราวบันไดห้องโถง ไม่ทราบเช่นกันว่ารออยู่นั้นนานแค่ไหนแล้ว
เมื่อได้สิงเสียงเคลื่อนไหว เขาจึงหันหลังมา มองกู้ซีจิ่วแวบหนึ่ง “เขาเป็นยังไงบ้าง?”
กู้ซีจิ่วใจเต้นนิดๆ “ยังเป็นแบบนั้นอยู่”
เธออยู่ในห้องของตี้ฝูอีประมาณครึ่งชั่วยาวแล้ว หลงซือเย่ยืนอยู่ที่นี่เห็นได้ชัดว่ารอเธออยู่
เธออยู่ในห้องตี้ฝูอีนานถึงเพียงนี้ หลงซือเย่จะสงสัยขึ้นมาหรือเปล่า?
เธอกระแอมคราหนึ่ง “เมื่อกี้ฉันไปหารือเรื่องวิชายุทธ์บางอย่างกับเขามา เลยถือโอกาสตรวจอาการให้เขาคร่าวๆ ด้วย…”
หลงซือเย่พยักหน้านิดๆ ไม่ได้ถามมากความ “ซีจิ่ว พวกเราออกไปเดินเล่นกันเถอะ ฉันมีเรื่องจะพูดกับเธอ”
กู้ซีจิ่วมองท้องฟ้าด้านนอก เป็นยามกะสองแล้ว…
“เรื่องที่คุณจะคุยด่วนมากไหม? ถ้าไม่ด่วนพวกเราค่อยคุยกันพรุ่งนี้ไหม? ดึกมากแล้ว ฉันอยากพักสักหน่อย”
หลงซือเย่มองเธอครู่หนึ่ง กล่าวอย่างเย็นชา “จะคุยเรื่องอาการป่วยของเขา ในเมื่อเธอไม่มีเวลา งั้นก็ช่างเถอะ! ฉันก็ไม่ได้อยากคุยกับเธอหรอกถ้าไม่จำเป็น!” พลางหมุนกาย สาวเท้าก้าวออกไปด้านนอก!
————————————————————————————-