ลำนำบุปผาพิษ - บทที่ 1053+1054
บทที่ 1053 เจ็บไหม? รู้จักเจ็บแล้วสินะ?
ความเจ็บปวดนั้นเสียดแทงเข้าไปถึงกระดูก ทำให้ร่างเธอสั่นสะท้านอยู่กลางอากาศตามสัญชาตญาณ ร่วงหล่นลงมา…
เพียงแต่ถึงอย่างไรเธอก็เป็นยอดฝีมือที่พลังวิญญาณใกล้บรรลุขั้นแปดแล้ว ร่างกายมีปฏิกิริยาตอบโต้อันตรายตามสัญชาตญาณ ดังนั้นยามที่เย่หงเฟิงแทงมีดเข้ามา สมองเธอยังไม่ทันมีปฏิกิริยาอะไร ร่างกายก็ตอบสนองไปก่อนสมองแล้ว กล้าวเนื้อตรงส่วนนั้นบิดเกร็ง เดิมทีมีดนี้ของเย่หงเฟิงสามารถแทงทะลุหัวใจเธอได้ ผลคือเบี่ยงทิศทางไปเล็กน้อย แทงเฉียดหัวใจไป…
และสองแขนของเธอก็ไม่ได้อยู่ว่างๆ เช่นกัน ทันทีที่ถูกโจมตี ก็โยนเย่หงเฟิงที่อยู่บนหลังลอยละลิ่วไปทันที!
การโยนครั้งนี้ของเธอใช้เรี่ยวแรงไม่น้อยเลย ศีรษะของเย่หงเฟิงแทบจะกระแทกเข้ากับต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ไม่ไกล หากว่าหนนี้กระแทกเข้าจริงๆ สามารถกระแทกศีรษะเย่หงเฟิให้แหลกเละเหมือนแตงโมได้เลย!
เงาสีขาวสายหนึ่งวาบเข้ามา สักดเย่หงเฟิงไว้กลางอากาศ โอบเธอไว้ในอ้อมแขนแล้วร่อนลงสู่พื้นโดยตรง
“พี่หลงซี พวกเราทำได้แล้ว! ฉันได้เลือดหัวใจของหล่อนมาแล้ว!” เย่หงเฟิงเอ่ยร้องด้วยความยินดีอยู่ในอ้อมแขนของเขา กอดคอเขาไว้
กู้ซีจิ่วก็ร่อนลงพื้นแล้วเช่นกัน มีดนั้นของเย่หงเฟิงโหดเหี้ยมยิ่งนัก แทงเข้าที่หลังเธอ ทะลุมาโผล่ที่ทรวงอกเธอ เป็นบาดแผลแทงทะลุอย่างแท้จริง โลหิตฉีดพ่นออกมาจากปากแผลหน้าหลังทั้งสองแห่ง หลังจากเธอร่อนถึงพื้นร่างกายก็ส่ายโงนเงน แทบจะล้มลงไปกองบนพื้น เมื่อได้ยินเสียงร่ำร้องด้วยความยินดีของเย่หงเฟิงเธอก็เงยหน้ามองหลงซือเย่ทันที นัยน์ตาเต็มไปด้วยความตกตะลึงเหลือเชื่อ
สีหน้าของหลงซือเย่ซีดเซียวยิ่งนัก มองเธออยู่เช่นกัน ทว่าเม้มริมปากไว้ไม่พูดอะไรสักคำ และไม่มีทีท่าว่าจะก้าวเข้ามาดูอาการเธอด้วย
ส่วนเย่หงเฟิงก็อิงแอบอยู่ในอ้อมแขนของหลงซือเย่เสมือนวิหคน้อย ในมือยังคงกุมมีดเล่มนั้นไว้ เห็นได้ชัดว่ามีเล่มนั้นเป็นมีดชนิดพิเศษ บนตัวมีดมีท่อลำเลียงอยู่ บัดนี้ในช่องลำเลียงนั้นเต็มไปด้วยโลหิตสดๆ โลหิตสีแดงฉานเสียดแทงสายตาคน
“เพราะอะไร?” เบื้องหน้าของกู้ซีจิ่วมืดมัวไปหมด ทว่าฝืนค้ำยันไว้ น้ำเสียงแหบห้าว เธอกำมือแน่น มองดูหลงซือเย่ “เพราะอะไร?!”
“ง่ายมาก กู้ซีจิ่ว การจะเลาะเส้นเอ็นของสัตว์ร้ายเทพสัชฌะนี้สิ่งที่ต้องใช้ไม่ใช่เลือดสาวพรหมจรรย์ทั่วๆ ไป แต่ต้องการเลือดจากหัวใจของเธอ แบบนั้นถึงจะทำให้เอ็นที่เลาะออกมาเรียบลื่นยืดหยุ่น ถึงจะสร้างแส้ปราบมารชั้นเลิศออกมาได้จริงๆ พี่หลงซีรู้ว่าวรยุทธ์ของฉันไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ดังนั้นจึงคิดจะทำแส้แบบนี้ให้ฉันมาโดยตลอด เพียงแต่เงื่อนไขทั้งหมดไม่สมบูรณ์ จนกระทั่งเธอเอาตัวเองมาส่งให้ถึงหน้าประตู…” เย่หงเฟิงยิ้มสดใสเสียยิ่งกว่าบุปผา
“เป็นแบบนี้เหรอ?” กู้ซีจิ่วไม่ได้สนใจเย่หงเฟิง เธอจ้องมองเพียงหลงซือเย่ น้ำเสียงก็แผ่วหวิว
หลงซือเย่ก็จ้องมองเธอเช่นกัน ถึงแม้สีหน้าจะยังซีดขาวอยู่ ทว่าริมฝีปากบางกลับค่อยๆ เม้มเป็นรอยยิ้ม “เจ็บไหม? รู้จักเจ็บแล้วสินะ?”
ถึงแม้เขาจะไม่ได้เอ่ยตอบเธอตรงๆ แต่กลับเป็นการยอมรับโดยปริยาย กู้ซีจิ่วถอยหลังไปทันที!
มีดที่แทงเธอเล่มนั้นไม่เพียงแต่มีรูปลักษณ์พิสดารเท่านั้น บนคมมีดก็เห็นได้ชัดว่าเติมบางอย่างลงไป ตรงบาดแผลปวดร้าวเป็นอย่างยิ่ง เสมือนมีต่อทั้งรังรุมต่อยอยู่ตรงนั้น หยาดเหงื่อเย็นเฉียบขนาดเท่าเม็ดถั่วผุดขึ้นบนหน้าผากเธอ สีหน้าก็ซีดเผือดลงเรื่อยๆ
ถึงแม้มีดนั้นจะแทงไม่ถูกหัวใจเธอ แต่ก็เฉียดโดนเล็กน้อย ซ้ำยังเป็นบาดแผลทะลุ หากมิใช่เพราะเธอมีจิตใจกล้าแกร่งพลังวิญญาณสูงส่ง ยามนี้คงนอนพังพาบอยู่บนพื้นขยับเขยื้อนไม่ได้ไปแล้ว!
ถึงกระนั้น เบื้องหน้าเธอก็ยังคงมืดมัวลงอยู่ดี เธอขบริมฝีปากไว้แน่นถึงทำให้ตัวเองไม่ล้มลงไปได้
เรื่องราวเป็นเช่นนี้เอง กู้ซีจิ่วทราบแล้วว่าสองคนที่อยู่ตรงหน้านี้อยากให้เธอตาย แต่ว่าเธอตายไม่ได้!
ตี้ฝูอียังรอเธออยู่ที่โรงเตี๊ยม…
————————————————————————————-
บทที่ 1054 พี่…พี่ช่วยรักษาฉันก่อนสิคะ
เธอถูกลอบทำร้าย ตี้ฝูอีอยู่ที่นั่นอาจถูกลอบำร้ายเช่นกัน เธออยากกลับไปดู ต้องการใช้วิชาเคลื่อนย้ายไป
เมื่อก่อนเธอได้รับบาดเจ็บหนักทว่าไม่ได้กะทบถึงการใช้วิชาเคลื่อนย้าย แต่หนนี้ไม่ใช่ เธอใช้ออกมาไม่ได้เลย เธอถึงขั้นที่ไม่อาจโคจรพลังวิญญาณมาสกัดจุดรักษาได้ ทำได้เพียงถอยหลังไปเรื่อยๆ…
บางทีหลงซือเย่อาจทราบแล้วว่าถูกทำร้ายที่หัวใจจะต้องตายแน่นอน จึงไม่ได้ไล่ต้อนเธอ แค่ยืนมองเธออย่างเย็นชาอยู่ตรงนั้น มองโลหิตที่ทะลักออกมาจากด้านหลังและด้านหลังของเธอ อาบย้อมชุดสีม่วงอ่อนของเธอจนกลายเป็นสีม่วงคล้ำ…
ยามนี้คนที่ใจดำอำมหิตกลับเป็นเย่หงเฟิง “พี่หลงซี ฆ่าเธอเถอะ! ฆ่าเธอเลย! จะปล่อยให้เธอมีชีวิตต่อไปไม่ได้!”
เมื่อเห็นหลงซือเย่ไม่มีททีท่าว่าจะลงมืออีก เธอจึงทนไม่ไหวพุ่งออกมาด้วยตัวเอง ชักกรี่เล่มหนึ่งออกมาหมายจะแทงใส่กู้ซีจิ่ว
กู้ซีจิ่วก็ทราบถึงอันตราย ในช่วงเวลาคับขันมนุษย์สามารถระเบิดศักยภาพมหาศาลออกมาได้ เมื่อเห็นเย่หงเฟิงแทงกระบี่เข้ามา เธอก็พยายามบิดส้นเท้าสุดชีวิต กระบี่นั้นจึงเฉียดเอวของเธอไป!
เย่หงเฟิงนึกไม่ถึงว่าเธอบาดเจ็บจนกลายเป็นแบบนี้แล้วยังมีความสามารถในกลาบหลบหลีกอีก ยิ้มเย็นๆ แวบหนึ่ง “ฉันจะคอยดูว่าเธอจะหลบไปได้ถึงไหน?!” ตวัดกระบี่ขึ้นมาอีกครั้ง! กระบี่นี้โหดเหี้ยมยิ่งนัก ฟันไปที่คอของกู้ซีจิ่ว
หากกู้ซีจิ่วถูกกระบี่นี้ของเธอฟันเข้า ศีรษะต้องขาดสะบั้นอย่างแน่นอน
และการเคลื่อนไหวเมื่อครู่ของกู้ซีจิ่วก็เป็นขีดจำกัดที่สามารถทำได้ในยามนี้แล้ว เบิกตามองกระบี่เล่มนั้นพุ่งเข้ามา เธอไม่มีเรี่ยวแรงจะหลบหลีกแล้ว หัวใจหนาวยะเยือก ปิดตาลง
ส่วนหลงซือเย่พลันยกมือขึ้นมา คล้ายว่าจะทำอะไรทว่าสุดท้ายก็ไม่ได้ทำ
‘ชิ้ง!’ แสงสีขาวสายหนึ่งราวกับโบยบินลงมาจากฟากฟ้า โจมตีลงบนกระบี่ของเย่หงเฟิงโดยตรง!
เกิดเสียงโลหะแตกร้าวที่ทำให้คนเสียวฟันดังขึ้น กระบี่ยาวที่สร้างจากเหล็กกล้าเล่มนั้นของเย่หงเฟิงแตกสลายกลายเป็นเศษซากทันที
นี่ยังไม่ได้กล่าวถึงแรงกระแทกมหาศาลที่ทำให้ทรวงอกของเย่หงเฟิงปานได้รับแรงปะทะอย่างหนัก ร่างกายลอยละลิ่วออกไปปานว่าวกระดาษ หากมิใช่หลงซือเย่เหินกายมาช่วยเธอลงไปได้ทันเวลา คาดว่าเธอคงกระแทกเข้ากับต้นไม้จนกระดูกหัก…
รอจนหลงซือเย่พาเย่หงเฟิงร่อนลงสู่พื้น ยามที่เงยหน้าขึ้นอีกครั้ง เบื้องหน้าก็ไม่มีร่องรอยของกู้ซีจิ่วแล้ว
เธอถูกคนช่วยไปแล้ว!
เขาถึงขั้นมองไม่เห็นด้วยซ้ำว่าคนที่ช่วยเหลือกู้ซีจิ่วเป็นผู้ใด…
เขาตื่นตะลึงงันอยู่ตรงนั้น สายลมพัดพาอาภรณ์สีขาวบนร่างเขาให้โบกสะบัดจนเกิดเสียงหวีดหวิว ต้นไม้ใหญ่รอบข้างบ้างก็หักโค่นบ้างก็เอียงกะเทเร่เองจากยามที่เขาต่อสู้กับสัตว์ร้ายเทพสัชฌะ และด้านหลังก็คือสัตว์ร้ายเทพสัชฌะที่เพิ่งสิ้นชีพตัวนั้น แสงอัสดงตรงขอบฟ้าแดงฉานปานโลหิต ส่องสะท้อนพสุธาเย็นยะเยือก
ถึงแม้เย่หงเฟิงจะถูกเขาช่วยเหลือไว้ แต่ทั้งร่างกลับถูกกระทบกระเทือนทั้งเจ็บทั้งชาเสมือนจะพังทลายแล้ว นั่งยองๆ อยู่ตรงนั้นกระอักโลหิตออกมาอย่างรุนแรง ชัดเจนยิ่งนักว่าเธอได้รับบาดเจ็บสาหัสแล้ว!
“พี่หลงซี…ใครช่วยเธอกัน? พี่…พี่ทำไมไม่ตามไป…ไม่ได้นะ…จะปล่อยให้เธอรอดไม่ได้นะ” เห็นได้ชัดว่าเธอยังไม่ถอดใจ
หลงซือเย่ราวกับไม่ได้ยินสิ่งที่เธอพูดเลย ดึงมีดสั้นเล่มนั้นที่มีโลหิตจากหัวใจของกู้ซีจิ่วอยู่เต็มเปี่ยมมาจากมือเธอ โลหิตที่อยู่บนมีดกระเด็นลงบนมือตน ทรุดกายลงนั่งยองๆ แล้วเริ่มเลาะเอ็นสัตว์ร้ายเทพสัชฌะตัวนั้น เขาดูสงบเยือกเย็นยิ่งนัก แต่มือกลับสั่นสะท้านน้อยๆ…
“พี่หลงซี ฉันบาดเจ็บแล้ว พี่…พี่ช่วยรักษาฉันก่อนสิคะ เดี๋ยวค่อยเลาะเอ็นสัตว์ร้ายตัวนี้ก็ยังไม่สาย…”
เริ่มแรกที่เย่หงเฟิงถูกกระแทกทั้งร่างชาหนึบไปหมด นอกจากระอักโลหิตออกมาแล้วเธอถึงขั้นไม่มความรู้สึกอื่นใดเลย
แต่หลังจากค่อนๆ คลายตัวลง ความเจ็บปวดนั้นถึงได้ตีขึ้นมา รู้สึกเพียงว่าเส้นเลือดเส้นเอ็นในร่างคล้ายว่าจะขาดสะบั้น เบื้องหน้ามืดมนเป็นพักๆ ดวงวิญญาณเสมือนหลุดออกจากร่าง!
————————————————————————————-