ลำนำบุปผาพิษ - บทที่ 1239+1240
บทที่ 1239 ก้าวเดินผิด ชีวิตเปลี่ยน
เคราะห์ดีที่ทั้งสองมีถุงใส่ของที่ใหญ่และแข็งแรงยิ่งนักติดตัว ซื้อของมากมายขนาดนั้นจึงไม่กลัวเป็นภาระอันใด
…
วันแต่งงานกำหนดจัดขึ้นในวันที่สิบห้าของเดือนจันทรคติแรก
วันที่ทุกคนจะได้อยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตา
กู้เซี่ยเทียนรู้สึกอยู่ลึกๆ ในใจว่าวันนี้กระชั้นเกินไป! เพราะตอนที่ตี้ฝูอีส่งคนมาแจ้งข่าวเขา ฤกษ์งามยามดีนี้ห่างไปอีกเพียงแค่สองเดือน!
ยามกู้เซี่ยเทียนได้รับข่าวสารนี้ รู้สึกประหนึ่งมีลาภก้อนใหญ่หล่นทับ ตัวเขาเปล่งประกายแวววาว ส่องแสงเรืองรอง ทว่ารู้สึกว่าเจ็บปวดที่หน้าผาก
คนอื่นแต่งลูกสาวทั้งสองฝ่ายจะต้องหาแม่สื่อเจรจาเห็นพ้องต้องกัน จากนั้นหาคนดูวันมงคลสักสองสามวัน ให้พ่อแม่ฝ่ายหญิงเลือก พ่อแม่ฝ่ายหญิงค่อนข้างมีสิทธิ์เลือกกำหนดวันได้ จากนั้นค่อยมีขั้นตอนต่างๆ เช่น ส่งเทียบหมั้น ทาบทาม และอื่นๆ
ทว่าทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายไม่เปิดโอกาสให้เขาเลือกเลย เพียงส่งเทียบแจ้งเขาเท่านั้น
ตอนที่กู้เซี่ยเทียนได้รับเทียบเชิญนี้ยังงงงวย คิดว่าเป็นเทียบที่ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายเชิญเขาไปร่วมงาน จนกระทั่งวินาทีที่เปิดดู เขาจึงรู้ว่าเขาต้องแต่งลูกสาวในอีกสองเดือนแล้ว!
เขาถือเทียบนั้น แทบจะไม่อยากเชื่อว่านี่คือเรื่องจริง!
หากองครักษ์มู่อวิ๋นไม่ได้เป็นคนถือเทียบนี้มาเอง กู้เซี่ยเทียนแทบจะคิดว่ามีใครเล่นตลกอันใดกับเขา
ถึงแม้การกระทำของทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายค่อนข้างเผด็จการ ไม่ได้ให้ความเคารพเขาขนาดนั้น แต่กู้เซี่ยเทียนก็ไม่กล้าปฏิเสธอันใด น้อมส่งมู่อวิ๋นด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ซาบซึ้งสุดแสน เขายุ่งขึ้นมาทันทีดังลมชักเฉียบพลัน
ช่วงหลายปีมานี้จวนแม่ทัพค่อนข้างอับโชค ไม่มีเรื่องมงคลมาเนิ่นนาน ครานี้เป็นเรื่องมงคลอันยิ่งใหญ่ เขาย่อมกระตือรือร้นจัดการเป็นอย่างดี
ข่าวคราวสวะไร้ค่านางนั้นของจวนแม่ทัพกู้จะแต่งให้ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายราวกับติดปีกบิน ภายในไม่กี่วันก็แพร่สะพัดไปทั่วทั้งทวีปซิงเยวี่ย
เดิมทีจวนแม่ทัพที่วิเวกวังเวงก็เริ่มเปลี่ยนเป็นมีชีวิตชีวา ผู้คนหลั่งไหลไปมาเพื่อแสดงความยินดี ยังไม่ทันถึงวันงาน ภายในจวนแม่ทัพก็ครึกครื้นดังสาดน้ำมันลงบนเปลวเพลิง
วันต่อมาหลังจากที่ข่าวแพร่สะพัดออกไป ภายในวังหลวง จักรพรรดิองค์ใหม่มีรับสั่ง แต่งตั้งกู้ซีจิ่วเป็นองค์หญิง จักรพรรดิองค์ใหม่จะเตรียมสินสอดทองหมั้น ชุดแต่งงานให้กู้ซีจิ่วด้วยพระองค์เอง…
สำหรับกู้เซี่ยเทียนแล้วถือเป็นเรื่องมงคลอันยิ่งใหญ่อีกเรื่องหนึ่ง
ลูกสาวที่ทำให้เขาผิดหวังมากที่สุดคนนี้เคยทำให้จวนแม่ทัพต้องอับอาย เขาแทบจะหวังว่าเด็กคนนี้ไม่เคยเกิดมา ยามนี้เป็ดขี้เหร่กลับกลายเป็นหงส์ทอง เป็นลูกที่โดดเด่น เป็นหน้าเป็นตาในหมู่ลูกสาวลูกชายมากที่สุด!
ท่ามกลางความยินดีปรีดา ภายในใจของกู้เซี่ยเทียนกลับค่อนข้างอ้างว้าง
ในวันนี้ลูกสาวมีอนาคตอันสดใส เพียงแต่น่าเสียดายที่แม่ของนาง หลัวซิงหลานไม่ได้เห็นมัน…
ถ้าหาก…ถ้าหากปีนั้นเขาไม่ได้มีความสัมพันธ์กับเหลิ่งเซียงอวี้ ป่านนี้ครอบครัวจะมีความสุขกลมเกลียวกันขนาดไหน? น่าเสียดายที่อดีตไม่อาจย้อนหวนคืนและไม่อาจเริ่มต้นใหม่ได้…
ก้าวเดินผิด ชีวิตเปลี่ยน
บนโลกนี้ไม่มียารักษาโรคเสียใจ
ตามประเพณีของอาณาจักรเฟยซิง ชายหญิงที่หมั้นหมายกัน ไม่อาจพบเจอกันได้สามเดือนก่อนวันแต่งงาน ดังนั้น วันต่อมาหลังจากกู้เซี่ยเทียนได้รับเทียบงานแต่ง ก็รีบไปวังของทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย เพื่อรับตัวลูกสาวกลับ
คาดไม่ถึงยามเฝ้าประตูของวังค้ำนภาบอกเขาว่า ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายแต่งงานไม่มีประเพณีเยี่ยงนี้ นางต้องอยู่ที่วังค้ำนภาก่อน รอหนึ่งวันก่อนแต่งงานค่อยส่งนางกลับ
กู้เซี่ยเทียนรู้สึกอยู่ลึกๆ ว่าแบบนี้ไม่เหมาะสม แต่ยากที่จะโต้แย้งกันด้วยเหตุผล บอกว่าแบบนี้ไม่เป็นไปตามประเพณีโน้นนี้
เหตุใดยามเฝ้าประตูคนนั้นไม่อาจตัดสินใจได้ แต่กลับไม่เข้าไปรายงานด้านใน กู้เซี่ยเทียนพูดจนปากเปียกปากแฉะ ยามเฝ้าประตูคนนั้นก็ทำเหมือนไม่ได้ยิน ทำให้กู้เซี่ยเทียนเดือดดาลเป็นที่สุด
เขาไปวังค้ำนภาสามวันติดต่อกันโดยไม่มีผลลัพธ์ใด ในความสิ้นหวัง เขาทำได้เพียงเข้าวังขอความเมตตาจากองค์จักรพรรดิ
————————————————————————————-
บทที่ 1240 ทิวาร่วมเคียง ราตรีแยกเตียง
จักรพรรดิองค์ใหม่ก็คือหรงเจียหลัว เขาตัดสินใจอยู่นาน ท้ายที่สุดจึงร่างหนังสือฉบับหนึ่งส่งไปที่วังค้ำนภา
ไม่รู้ว่าเขาเขียนอะไรในหนังสือนั้น กล่าวโดยสรุปก็คือให้ตี้ฝูอีใจอ่อน ยินยอมส่งนางกลับจวนแม่ทัพครึ่งเดือนก่อนการแต่งงาน…
ถึงแม้เรื่องราวจะไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ ทว่ายังดีที่ได้เจอหน้าลูกสาวก่อนครึ่งเดือน ในที่สุดกู้เซี่ยเทียนก็หยุดสร้างปัญหาแล้วกลับไปตั้งหน้าตั้งตาเตรียมจัดแจงเรื่องสินเดิมเจ้าสาว
……
กู้ซีจิ่วรู้สึกมาตลอดว่าตัวเองเป็นคนที่สร้างปาฏิหาริย์ได้อย่างง่ายดาย ทว่าเธอรู้สึกว่าปาฏิหาริย์ที่เธอสร้างขึ้นหลายปีมานี้รวมกันแล้วยังมหัศจรรย์เทียบไม่ได้กับปาฏิหาริย์ที่เธอเพิ่งสร้างขึ้นเร็วๆ นี้
ผู้อื่นเลื่อนจากขั้นหกครึ่งเป็นขั้นแปดต้องใช้เวลาอย่างน้อยที่สุดสามถึงห้าปี ซ้ำยังเป็นเรื่องที่อัจฉริยะในหมู่อัจฉริยะจะทำสำเร็จได้
ทว่าขั้นตอนนี้เธอทำสำเร็จโดยใช้เวลาแค่เพียงหนึ่งเดือนกับอีกยี่สิบวัน!
ตอนวงแหวนเรืองแสงบางๆ ที่ร่างกายบรรลุขั้นแปดหมุนวนอยู่รอบตัวเธอ กู้ซีจิ่วแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง
เธอตกตะลึงอยู่พักใหญ่ หลังจากมั่นใจว่าไม่มีอะไรผิดพลาดแล้ว จึงดีใจวนอยู่ในห้องรับรองสามรอบ
บัดนี้เธอกลับมาที่จวนแม่ทัพแล้ว ห่างจากตี้ฝูอีมาห้าวัน ยังเหลืออีกสิบวันก่อนจะถึงวันแต่งงาน
เธอยกแขนมองดูมือน้อยอันนุ่มลื่นของตัวเอง ปลดปล่อยลมหายใจออกมาเล็กน้อย
หลังกลับจากวังเงือก เธออยู่กับตี้ฝูอีมาโดยตลอด
ทิวาร่วมเคียง ราตรีแยกเตียง
ครึ่งเดือนนี้ ทั้งสองคนนอกจากแยกกันนอนตอนกลางคืนแล้ว แทบจะเป็นเงาตามตัวติดกัน
ขนาดนอนตอนกลางคืนยังเพียงแค่นอนแยกห้อง แต่ไม่ได้แยกเรือน ตี้ฝูอีไม่ได้ให้เธอนอนห้องรับแขก แต่ให้เธอนอนภายในห้องนอนของตัวเอง ห้องนอนแบ่งแยกในนอก กู้ซีจิ่วนอนด้านใน เขานอนด้านนอก
จากที่ตี้ฝูอีพูด ห้องนอนของเขานี้สมดุลธรรมชาติดีเยี่ยม เป็นสถานที่ฝึกฝนที่ดี กู้ซีจิ่วเหมาะที่จะฝึกฝนด้านใน
ถึงแม้ตี้ฝูอีจะซื้อของใช้ในพิธีวิวาห์เหล่านั้นด้วยตัวเอง ทว่าเรื่องรายละเอียดเล็กน้อยอย่างเช่นตกแต่งห้องโถงจัดงาน เชิญแขก มู่เฟิงและคนอื่นๆ เป็นคนจัดการ
ภายในระยะเวลาครึ่งเดือน ตัวตี้ฝูอีเองไม่เพียงแต่ฝึกฝนฟื้นฟู ยังดูแลให้กู้ซีจิ่วฝึกฝนด้วยกัน
ไม่เพียงดูแลฝึกฝนด้วยกัน ซ้ำยังส่งยาลูกกลอนมาให้เธอกินวันละหนึ่งเม็ด บอกว่ามันมีประโยชน์ต่อการฝึกฝน
ก็มีประโยชน์จริงอย่างว่า หลังจากที่เธอกินยาลูกกลอนนั่น กินอิ่ม นอนหลับสบาย ไม่ฝันแม้เพียงสักครั้ง แต่ละวันฝึกฝนลำบากขนาดนั้น เธอกลับยังรู้สึกว่าตัวเองสดชื่นแจ่มใสตลอด
เธอเข้าใจการแพทย์ดี และมีประสบการณ์มานาน แต่เธอกลับดูส่วนผสมของยาลูกกลอนนั้นไม่ออก
ตี้ฝูอีก็จ้องมองให้เธอกินอยู่ทุกวัน ทำให้เธอไม่มีเวลาจะตรวจสอบส่วนผสมของยาลูกกลอนนี้เลย
โชคดีที่ยาลูกกลอนนี้ดีต่อร่างกายของเธอ ทำให้พลังวิญญาณของเธอพัฒนามากขึ้นทุกวัน เวลาเพียงครึ่งเดือนก็เลื่อนจะถึงขั้นแปดแล้ว!
แน่นอนว่า พลังวิญญาณของเธอพัฒนารวดเร็วขนาดนี้ นอกจากเหตุผลของตัวเธอเองแล้ว ยังเกี่ยวข้องกับความเข้มงวดที่ไม่ถดถอยของตี้ฝูอีด้วย
คนผู้นี้ช่างเป็นครูฝึกที่เข้มงวดเหลือเกิน!
ระยะเวลาที่อยู่ด้วยกันเดือนครึ่งนี้ เขาไม่อนุญาตให้กู้ซีจิ่วแอบอู้แม้แต่น้อย เข้มงวดยิ่งกว่าสั่งสอนสานุศิษย์อีก
เขาสอนการฝึกฝนกำลังภายในบางอย่างให้กับเธอ ให้เธอท่องจำเคล็ดวิชาต่างๆ มากมาย และยังสอนวรยุทธ์ให้เธออีกหลายชุด!
รูปแบบการอยู่ด้วยกันของทั้งสอง หากไม่ฝึกฝนอยู่ที่ลานฝึก เขาคอยตรวจสอบผลการฝึกฝนของเธอ
ก็อยู่ในห้องนอนของเขา เขาตรวจสอบวิชาที่เธอได้ร่ำเรียนไป หรือไม่ทั้งสองคนก็นั่งหันหน้าเข้าหากันฝึกฝน…
หนึ่งวันมีสิบสองชั่วยาม กู้ซีจิ่วมีเวลาสิบชั่วยามในการฝึกฝนชนิดต่างๆ ได้นอนแค่วันละสองชั่วยาม ซ้ำสองชั่วยามนี้ยังใช้วิธีการนั่งสมาธินอน
ด้วยวิธีการฝึกฝนที่หนักหน่วงยี่ยงนี้ กู้ซีจิ่วย่อมมีบ่นอุบบ้างเล็กน้อย
————————————————————————————-