ลำนำบุปผาพิษ - บทที่ 1257+1258
บทที่ 1257 ข้าไม่อยากเป็นตัวฟาร์มเวล
เจ้าหอยยักษ์กู่ร้องอย่างปรีดา รีบฉวยไหใบหนึ่งมาวางตรงหน้าตน
ดื่มสุราชามโต กินเนื้อคำใหญ่ นี่คือชีวิตอันน่าพึงใจที่ชาวยุทธ์ใฝ่หา ในที่สุดกู้ซีจิ่วก็ปล่อยวางลงมากแล้ว
ป่าทมิฬแห่งนี้ถึงแม้จะอันตรายอย่างยิ่ง แต่มีเจ้าสามตัวนี้อยู่ข้างกาย ต่อให้เธอดื่มจนเมาก็ไม่มีอันตราย
วันนี้เจ้าหอยยักษ์เลื่อมใสผู้เป็นนายยิ่งนัก วันนี้เจ้านายไม่เพียงแต่ดื่มหนักเท่านั้น อาหารก็กินจุยิ่ง กินขาแกะไปแล้วข้างหนึ่ง ปีกไก่ภูเขาคู่หนึ่ง เนื้อสันหลังของหมูป่าตัวหนึ่ง ยามนี้กำลังโอบซีโครงแกะชิ้นหนึ่งไว้ ซ้ำดื่มสุราไปแล้วหนึ่งไหด้วย…
การที่คนตัวเล็กอย่างนางสามารถกินอาหารมากมายถึงเพียงนี้เข้าไปได้ช่างเป็นเรื่องที่พบเห็นได้ยากโดยแท้ เอวนางขอดกิ่วถึงเพียงนั้น สรุปแล้วอาหารมากมายพวกนั้นนางกินไปไว้ที่ไหนกัน?
ดื่มกันจนกรึ่มๆ แล้ว เจ้าหอยยักษ์เอ่ยถามเธอด้วยดวงตาที่ปรือปรอยเพราะฤทธิ์สุรา “เจ้านายท่านไม่แน่นท้องบ้างหรือ?”
กู้ซีจิ่วชะงักไปครู่หนึ่ง และยามนี้เองเธอถึงรู้สึกว่าอึดอัดเสียดแน่นขึ้นมาจริงๆ อาหารที่กินเข้าไปจุกอยู่ที่คอแล้ว…
แต่บางแห่งในทรวงอกยังคงรู้สึกว่างเปล่าเช่นเดิม ศีรษะก็วิงเวียนอยู่บ้าง
แน่นสิ! เธอแน่นจนอยากร้องไห้แล้ว!
กระบอกตาแสบเคือง เธอกะพริบตา ม่านวารีเริ่มเอ่อคลอขึ้นมาในดวงตา จากนั้นเธอก็อาเจียนออกมา!
อาเจียนจนเวียนหัวลายตา อาเจียนจนน้ำตาไหลพราก
ไม่ง่ายเลยกว่าจะหยุดอาเจียนได้ ทั้งร่างเธอไร้เรี่ยวแรงแล้ว นั่งอยู่ตรงนั้นนึกอยากนอนพิงเจ้าหอยยักษ์
ถึงแม้เจ้าหอยยักษ์จะตัวใหญ่ แต่ปริมาณการดื่มไม่นับว่าดีเท่าไหร่ ดื่มสุราไปไหหนึ่งมันก็เมาแล้ว เพียงแต่มันยังคงพะวงถึงเจ้านายของบ้านตนอยู่ เมื่อเห็นเจ้านายนั่งโงนเงนอยู่ตรงนั้น มันก็อ้าฝาหอยแล้วขยับเข้าไปหา “เจ้านาย ท่านนั่งพิงเปลือกข้าได้นะ”
ด้วยเหตุนี้กู้ซีจิ่วจึงนั่งพิงฝาของมัน อันที่จริงเธอนั่งไม่อยู่แล้ว การพิงนี้เป็นการพิงกับขอบฝาของเจ้าหอยยักษ์ ร่างเธอส่ายโอนเอนคราหนึ่ง ไหลเข้าไปในเปลือกของมัน
ในเปลือกของเจ้าหอยยักษ์ถึงแม้จะมีพื้นที่ไม่กว้าง แต่ก็เหมือนห้องเล็กๆ ห้องหนึ่ง รองรับมนุษย์คนหนึ่งได้เหลือเฟือ อีกทั้งในเปลือกของมันก็นุ่มนิ่ม กู้ซีจิ่วนอนอยู่ด้านในแล้วเสมือนอนอยู่บนเตียงวารี เธอพลิกตัวอยู่ด้านในคราหนึ่ง รู้สึกว่าสบายเหลือเกิน จึงไม่ออกมาเสียเลย กอดเนื้อนุ่มนิ่มส่วนหนึ่งในเปลือกของเจ้าหอยยักษ์แล้วหลับไป
เจ้าหอยยักษ์รู้สึกไม่สบายเท่าไหร่ ถึงแม้ในเปลือกของมันจะบรรจุเหยื่อไว้ได้ แต่เหยื่อเหล่านั้นล้วนตายไปแล้ว มันให้พวกมันอยู่ตรงนั้นพวกมันก็อยู่ตรงนั้น แต่กู้ซีจิ่วยังมีชีวิตอยู่ กำลังเหยียดแข้งเหยียดขาอยู่ในเปลือกของมันซ้ำยังกอดรยางค์ของมันนอนด้วย ลมหายใจอุ่นร้อนนั้นเป่ารดใส่รยางค์ที่เป็นฝ่าเท้าของมัน ทำให้มันรู้สึกคันยุบยิบ
หนูน้อยที่อยู่ในเปลือกหอยทนไม่ไหวคิดแบกเธอออกไป แต่กู้ซีจิ่วที่เมาจนเลอะเลือนกลับกอดรยางค์ของมันไว้ไม่ยอมปล่อยมือ มันดึงออกไม่ได้ชั่วขณะ
“ไม่เอา…ทำไมล่ะ…ข้าไม่อยากเป็นตัวฟาร์มเวล…ข้าทรมานมาก…” ปากน้อยๆ ของเธอบ่นงึมงำ น้ำเสียงสะอึกสะอื้นอยู่บ้าง “ข้าเจ็บปวดมาก…” หัวคิ้วเธอขมวดอยู่ ดวงตาปิดแน่น มีน้ำตาไหลออกมาจากหางตา
เจ้าหอยยักษ์ใจอ่อนแล้ว มันค้อมตัวลง ยื่นมือน้อยๆ ทั้งสองออกไปหมายจะโอบกอดเจ้านาย อยากปลอบประโลมเธอ
แต่อย่างไรเสียมันก็ดื่มมากไป ขณะที่ยื่นมือน้อยๆ ออกไปก็อ้าปากออกด้วย…
ปากของมันเขมือบคนอย่างไม่ปรึกษาหารือเลยเสมอมา หากกู้ซีจิ่วถูกมันเขมือบเข้าไปต้องจบเห่แน่!
ในยามวิกฤตยังมีเพรียกวายุที่ดื่มสุราไปไม่เท่าไหร่อยู่ใกล้ๆ มันสาวเท้าโผเข้ามาทันที ใช้เขาบนหัวดันปากเจ้าหอยยักษ์ ปากก็คำรามคล้ายจะข่มขู่
ลู่อู๋ก็ทะยานเข้ามาเหมือนกัน เดิมทีมันคิดจะนอนในอ้อมกอดของเจ้านาย แต่พอเห็นเจ้าหอยยักษ์อ้าปาก สัญชาตญาณของมันก็สัมผัสถึงอันตรายได้ หางทั้งหลายโบกสะบัดพร้อมกัน ฟาดลงบนปากใหญ่โตของเจ้าหอยยักษ์ที่อ้าแยกอยู่ด้านล่าง
————————————————————————————-
บทที่ 1258 ผู้ล่วงลับ พี่ชาย?
ด้วยเหตุนี้เจ้าหอยยักษ์จึงถูกฟาดจนได้สติ มันก้มหน้ามอง พลันตกใจจนหลั่งเหงื่อเย็นเฉียบท่วมร่าง รีบหุบปากทันที
ลู่อู๋น้อยถึงแม้จะตัวเล็ก ทว่าเรี่ยวแรงกลับไม่น้อยเลยจริงๆ มันกลัวว่าเจ้าหอยยักษ์จะเขมือบเจ้านายเข้าไปจริงๆ จึงทำเกินเหตุไปชั่วขณะ ใช้หางม้วนตัวเจ้านายออกมาทันที วางลงบนศิลาเขียวก้อนหนึ่ง
กู้ซีจิ่วไม่รู้ตัวเลยว่าไปเยือนประตูยมโลกมารอบหนึ่งแล้ว ยังคงหลับใหลอยู่
ในป่าทมิฬแห่งนี้เหน็บหนาวยิ่งนัก เธอนอนอยู่บนศิลาเขียวรู้สึกหนาวอยู่บ้าง ร่างขดเข้าหากัน เป็นลูกบอลเล็กๆ ลูกหนึ่ง
เพรียกวายุเกรงว่าเธอจะหนาว จึงก้าวเข้าไป ฟุบลงข้างกายเธอ ใช้กีบเท้าเกี่ยวเธอเข้าสู่อ้อมอก คู้ตัวโอบเธอไว้ตรงกลาง ใช้หน้าท้องให้ความอบอุ่นเธอ
ส่วนลู่อู๋น้อยก็มุดเข้าไปในอ้อมแขนกู้ซีจิ่ว หางทั้งเก้าที่ขนยาวปุกปุยเป็นทรงใบพัดคลุมลงบนร่างผู้เป็นนาย…
หลับใหลไปจนถึงเที่ยงคืน สายฝนก็โปรยปรายลงมา เจ้าหอยยักษ์จึงอ้าฝาออก ให้พวกเพรียกวายุเข้ามา จากนั้นมันก็หุบฝาลง เหลือช่องว่างไว้เพียงหนึ่งฉื่อ ให้ทุกตัวที่อยู่ด้านในมีอากาศหายใจ
ลำบากลำบนกันอยู่รอบหนึ่ง สัตว์เลี้ยงทั้งสามล้วนอ่อนล้ายิ่งนัก เจ้าหอยยักษ์ก็สร่างเมาแล้ว
ทั้งสามตัวทำงานประสานกันมากว่าสองปีแล้ว ต่างฝ่ายต่างรู้ใจกันยิ่งนัก ด้วยเหตุนี้จึงแบ่งหน้าที่กันครู่หนึ่ง เจ้าหอยยักษ์เฝ้ายามกลางคืน อีกสองตัวนอนเป็นเพื่อนข้างกายกู้ซีจิ่ว
สายฝนคละเคล้ากับสายลมกรรโชกโหมกระห่ำอยู่ในป่า มีฟ้าแลบฟ้าผ่าตามๆ กันมา
ในอดีตเจ้าหอยยักษ์มักจะอาศัยอยู่ใต้ดิน หลังจากติดตามกู้ซีจิ่ว ก็อาศัยอยู่ในเรือนของมนุษย์ ถึงแม้จะออกไปล่าสัตว์อยู่บ่อยๆ แต่พอเหนื่อยก็จะหาถ้ำเพื่อพักผ่อนเสมอ โดยเฉพาะยามที่มีฝนฟ้าคะนอง มันยิ่งจะนอนหมอบอยู่ในถ้ำไม่ยอมออกไป
ยามนี้มันอยู่บนทุ่งกว้างถูกบังคับให้เผชิญกับพายุฝนโหมกระหน่ำ เหนือศีรษะมีฟ้าร้องน่าครั่นคร้าม มันจึงค่อนข้างใจเสาะ
สุดท้ายมันก็ทนไม่ไหวจริงๆ ใช้วิชาดำดิน มุดลงไปใต้ดินทันที
เมื่อก่อนมันเดินทางใต้ดินด้วยการขุดโพรง แต่แบบนั้นความเร็วค่อนข้างเชื่อช้าอยู่บ้าง ทั้งวันก็เคลื่อนไปไม่ถึงสองลี้
ดังนั้นหลังจากมันติดตามกู้ซีจิ่ว ตี้ฝูอีก็สอนวิชาดำดินชุดหนึ่งให้มัน วิชานี้ทำให้มันเคลื่อนที่ผ่านใต้ดินอย่างรวดเร็วได้ มีประโยชน์ยิ่งนัก
แต่เจ้าหอยยักษ์มีจุดอ่อนที่ร้ายแรงยิ่งอยู่ข้อหนึ่ง ประสาทสัมผัสด้านทิศทางของมันเลวร้ายมาก เป็นจอมหลงทางตัวหนึ่ง
เมื่อก่อนมันฝังตัวอยู่ใต้ดินไม่ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหว รอให้เหยื่อมาหาถึงที่ ไม่จำเป็นต้องแยกแยะทิศทางเลย ต่อมาก็ไปล่าสัตว์กับเพรียกวายุและลู่อู๋น้อยอยู่เสมอ ลู่อู๋น้อยถึงแม้จะตัวเล็ก เป็นลูกสัตว์ตัวหนึ่ง ทว่าประสาทสัมผัสด้านทิศทางกลับแข็งแกร่งนัก เจ้าหอยยักษ์ติดตามมันไม่มีวันหลงทางเด็ดขาด
แต่ตอนนี้ เพรียกวายุกับลู่อู๋น้อยหลับหมดแล้ว หลังจากเจ้าหอยยักษ์ดำดินลงไป ด้วยรังเกียจว่าพื้นดินส่วนนั้นมีก้อนหินมากเกินไป จะขูดเปลือกมันให้เจ็บได้ ดังนั้นมันจึงมุดไปยังจุดที่ดินอ่อนนุ่มเสียเลย
หลังจากดำดินไปได้สักพัก มันรู้สึกว่าพื้นดินตรงนี้ไม่เลวเลย จึงหยุดลง อ้าฝาออกมองทั้งสามที่อยู่ด้านใน จากนั้นมันก็มองอย่างโง่งมอยู่บ้าง
ใต้ดินนี้ไม่มีอากาศ ตัวมันไม่เป็นไร แต่ทั้งสามที่อยู่ในเปลือกของมันล้วนต้องหายใจ!
ในเปลือกของมันเดิมทีก็มีอากาศน้อยอยู่แล้ว เมื่ออยู่ด้านในก็อดไม่ได้ที่จะสูดหายใจให้มากหน่อย ดังนั้นตอนนี้ในเปลือกจึงมีคาร์บอนไดออกไซด์มาก ออกซิเจนน้อย
กู้ซีจิ่วยังเมาอยู่ เธอไม่ได้ตื่นขึ้นมา แต่ใบหน้าเฉิดฉันค่อนข้างแดงก่ำแล้ว ปีกจมูกกระเพื่อม เห็นได้ชัดว่าหายใจค่อนข้างลำบาก
ส่วนเพรียกวายุเนื่องจากตัวใหญ่ ต้องการออกซิเจนปริมาณมาก ขณะนี้จึงเวียนหัวแล้ว
ลู่อู๋น้อยกลับโดดผลุงขึ้นมา แต่ก็โงนเงนอยู่ในเปลือกหอยของมันเสือนเมาสุราก็มิปาน ร้องแง้วๆ แอ้วๆ ใส่เจ้าหอยยักษ์คำรบหนึ่ง ให้มันรีบกลับขึ้นสู่ผิวดิน…
ตอนนี้พวกมันอยู่ลึกลงไปใต้ดิน บนล่างซ้ายขวาล้วนเป็นดินทั้งสิ้น
————————————————————————————-