ลำนำบุปผาพิษ - บทที่ 1584+1585
บทที่ 1584 สรุปแล้วเขาเผยพิรุธออกมาตรงไหนกัน?
มิเช่นนั้นจะถูกสุราควบคุมโดยสมบูรณ์ ตกอยู่ในห้วงฝันร้ายออกมาไม่ได้
แผนการในยามนี้ ก็คือต้องคลี่คลายความระแวงในจิตใจนางอย่างรวดเร็วก่อนแล้วค่อยแก้ฤทธิ์สุราบนร่างนาง
ถ้าต้องการคลายความระแวงในใจนางก็มีแต่ต้องเข้าสู่ความฝันของนาง พานางออกมาก่อน…
ตี้ฝูอีหลับตาลงเล็กน้อย ร่ายเวทวิชา เข้าสู่ความฝันนางทันที…
ด้วยเหตุนี้กู้ซีจิ่วที่บุกตะลุยอยู่ท่านกลางน้ำโคลนถูกวิญญาณร้ายนับไม่ถ้วนรายล้อมไว้จู่ๆ ก็ได้พบเห็นคนคุ้นเคย…หลานไว่หู
ร่างหลานไว่หูดูสะบักสะบอม โผล่ออกมากลางแอ่งโคลน “ซีจิ่ว…”
กู้ซีจิ่วเพิ่งจะสังหารนักฆ่าไร้หน้าที่ล้อมโจมตีเธอไปไม่กี่ตัว ทันทีที่เห็นหลานไว่หูก็ผงะไปครู่หนึ่ง ด้านหลังหลานไว่หูยังมีนักฆ่าที่ร้ายกาจยิ่งนักติดตามมาอีกหลายคน ทุกกระบวนท่าหมายเอาชีวิต หลานไว่หูหลบหลีกอย่างจนตรอก คล้ายว่าจะถูกสังหารได้ทุกเมื่อ…
หากเป็นเมื่อก่อน พอกู้ซีจิ่วเห็นหลานไว่หูตกอยู่ในอันตราย นางจะพุ่งเข้าไปช่วยเหลืออย่างไม่คิดอะไรเลย แต่ยามนี้นางกลับยืนขมวดคิ้วมองอยู่ตรงนั้น ไม่มีทีท่าว่าจะเข้ามาช่วยเหลือเลย
หรือว่าแม้แต่หลานไว่หูนางก็ไม่เชื่อใจแล้ว?
ข้อสงสัยนี้แวบเข้ามาในใจของตี้ฝูอี
เขารู้ว่ากู้ซีจิ่วไม่เชื่อใจเขาแล้ว ดังนั้นเขาจึงแปลงเป็นหลานไว่หูมาหาทางพานางออกไป กลับนึกไม่ถึงว่า…
ถึงอย่างไรเขาก็มีปฏิสัมพันธ์กับหลานไว่หูเป็นระยะเวลาสั้นๆ ทราบถึงนิสัยใจคอและกระบวนท่าทั้งหมดของหลานไว่หู ดังนั้นเขาจึงเชื่อว่าครั้งนี้ตนปลอมเป็นนางได้สมบูรณ์แบบ เป็นไม่ได้ที่จะเผยพิรุธ แล้วเหตุใดกู้ซีจิ่วจึงไม่เชื่อเล่า?
ฝันนี้เป็นความฝันของกู้ซีจิ่ว ที่นี่ความคิดของนางจะแข็งกล้าที่สุด นักฆ่าในความคิดของกู้ซีจิ่วย่อมเป็นนักฆ่าที่ร้ายกายเป็นที่สุดเช่นกัน ตี้ฝูอีใช้ได้เพียงกระบวนท่าของหลานไว่หู ย่อมรับมือได้ยากเป็นพิเศษ ที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นคือ จู่ๆโคลนเลนใต้ร่างเขาก็แปรเปลี่ยนเป็นหล่มโคลนดูดกลืนคน ร่างของเขาเริ่มจมลึกลงไปอย่างรวดเร็ว…
หากว่ากู้ซีจิ่วถูกผู้อื่นสังหารในความฝัน ก็ยังไม่แน่ว่านางจะตาย อย่างมากก็แค่ทำลายการบำเพ็ญเท่านั้น
แต่ตี้ฝูอีที่ฝืนเข้าสู่ความฝันของนางหากว่าตายอยู่ที่นี่ ก็จะสิ้นชีพลงจริงๆ ไม่มีช่องทางหวนคืนแล้ว!
“ซีจิ่ว ช่วยข้าด้วย!” สองขาของตี้ฝูอีจมลงไปครึ่งหนึ่งแล้วอยากจะดึงขึ้นก็ดึงไม่ออก เขายื่นมือไปหานาง “ช่วยข้าด้วย…” เขาจะปล่อยให้ตัวเองตายอยู่ที่นี่ไม่ได้ มิเช่นนั้นหากว่ากู้ซีจิ่วทราบความจริงเข้าในภายหลังเกรงว่าแตกสลายเอาได้…
กู้ซีจิ่วหลุบตามองของเขาที่ยื่นมาหา นัยน์ตาคู่นั้นร่อนลงบนหน้าเขา จู่ๆ ก็เปิดปากขึ้น “เจ้าไม่ใช่จิ้งจอกน้อย! เจ้าคือผู้ใด?!”
กู้ซีจิ่วเงียบไป สรุปแล้วเขาเผยพิรุธออกมาตรงไหนกัน?
เขากวาดตามองรอบข้างอย่างรวดเร็วแวบหนึ่ง มือสังหารเหล่านั้นหายไปแล้ว แต่วิกฤตของเขากลับยังไม่คลี่คลายเลย…
เขามองเธอตาอย่างน่างสงสาร “ซีจิ่ว ข้าคือจิ้งจอกน้อยไง เจ้าช่วยข้าออกไปก่อนเถอะ…”
มุมปากกู้ซีจิ่วยกขึ้นเล็กน้อย “ไม่! เจ้าไม่ใช่!” เธอหันหลังจากไป ไม่หันกลับมาอีก
ร่างของตี้ฝูอีจมดิ่งลงไปเร็วยิ่งขึ้น พริบตาเดียวก็ถึงบั้นเอวแล้ว “ซีจิ่ว ถ้าเจ้าไม่ช่วยข้าข้าจะตายนะ…ซีจิ่ว!”
เสียงของจิ้งจอกน้อยที่แว่วอยู่ด้านหลังรันทดยิ่งนัก ราวกับค่อนข้างหวาดกลัวแล้ว
รอยยิ้มเย็นๆ ตรงมุมปากกู้ซีจิ่วหยักลึกกว่าเดิม
เขายังคิดจะหลอกเธออีกหรือ? คนเราสะดุดล้มที่เดิมครั้งเดียวก็พอแล้ว ถ้าสะดุดล้มอีกครั้งนั่นคือคนโง่!
การตกอยู่ในห้วงฝันของเธอครั้งนี้ถึงอย่างไรก็แตกต่างกับครั้งก่อน ครั้งก่อนเธอไม่รู้ตัวว่าตัวเองกำลังฝัน แต่ครั้งนี้เธอถูกขังอยู่สักพักก็ทราบแล้ว
เธอทราบชัดเจนว่าตัวเองกำลังฝัน แต่ว่าภายในจิตใต้สำนึกของเธอยินดีที่จะถูกขังอยู่ในความฝันที่คล้ายกับแอ่งโคลนนี้ เข่นฆ่าสังหารกับเหล่านักฆ่าร้ายกาจที่โผล่ออกมาไม่ขาดสายเหล่านั้น ไม่อยากตื่นไปเผชิญหน้ากับโลกนั้นชั่วคราว
————————————————————————————-
บทที่ 1585 ไม่เชื่อเขา! เธอไม่เชื่อเขาอีกต่อไปแล้ว!
ในฝันร้ายครั้งนี้ ถึงแม้คนที่เข้ามาโจมตีเธอเหล่านั้นจะร้ายกาจ แต่ล้วนมองไม่เห็นใบหน้าทั้งสิ้น กล่าวได้ว่าเป็นสิ่งที่จิตใต้สำนึกของเธอสร้างขึ้นมา
มีเพียง ‘หลานไว่หู’ คนเดียวที่เป็นข้อยกเว้น
ชัดเจนยิ่งนักว่า ‘หลานไว่หู’ เป็นผู้อื่นที่บุกรุกเข้ามาในความฝันของเธอ
‘หลานไว่หู’ ไม่มีความสามารถในการเข้ามาในความฝันของเธอเช่นนี้ และในโลกนี้ คนที่สามารถเข้าฝันเธอได้ซ้ำยังใช้วิชาแปลงกายได้ก็ไม่มีใครอื่นแล้ว มีเพียงตี้ฝูอีคนเดียว!
เขาเข้ามาในความฝันของเธออีกทำไม?
มาช่วยเธอ?
หรือว่ามาหลอกเธออีก?
บางทีเขาคงต้องการให้หลานจิ้งเคอคืนชีพขึ้นมาอยู่ตลอดกระมัง จึงฉวยโอกาสที่เธอตกอยู่ในห้วงฝันร้ายเข้ามาผนึกความทรงจำของตัวเธอกู้ซีจิ่วอีกครั้ง ให้หลานจิ้งเคอกลับมาใช่ไหม?
เมื่อนึกถึงวิธีการสองอย่างที่เขาใช้ต่อเนื่องกัน กู้ซีจิ่วก็ยิ้มหยัน นี่คือวิธีการอย่างที่สามของเขาสินะ?
เช่นนั้นก็ช่างทำทุกวิถีทางจริงๆ!
ตี้ฝูอี เจ้าวางแผนต่อข้าเช่นนี้ จิตใจที่มีมโนธรรมไม่รู้สึกเจ็บปวดเลยจริงๆ ใช่ไหม?!
ความเศร้าโศกแทบจะเผาผลาญอยู่ในใจ และเมื่ออารมณ์ของเธอพลุ่งพล่านขึ้นมาอย่างรุนแรง ตี้ฝูอีก็จมดิ่งลงไปเร็วยิ่งขึ้น พริบตาเดียวก็ท่วมถึงคอแล้ว…
เขาหายใจแทบไม่ออก มองแผ่นหลังเดียวดายของนางที่เดินห่างไปเรื่อยๆ เขาตัดสินในทันใด ทำได้เพียงตะโกนขึ้นมา “กู้ซีจิ่ว ช่วยข้าที…”
ครั้งนี้เขาใช้เสียงจริงของตัวเอง สลายวิชาแปลงกายแล้ว เผยร่างจริงออกมาท่ามกลางหล่มโคลน
ในที่สุดแผ่นหลังโดดเดี่ยวนั้นก็หยุดลง ค่อยๆ หันกลับมา ด้วยม่านหมอกที่เดี๋ยวทึบเดี๋ยวจางขวางกั้นอยู่ สายตาของเธอจับจ้องดวงหน้าเขา เอ่ยอย่างเยียบเย็น “ในที่สุดก็ยอมเผยโฉมหน้าจริงแล้วหรือ? ตี้ฝูอี ครั้งนี้เจ้าคิดจะเล่นละครอันใดอีก?” เธอยิ้มเยาะ “เจ้าอย่าฝันว่าจะหลอกข้าได้อีก!”
“ซีจิ่ว ปล่อยข้าออกไป มิเช่นนั้นข้าจะตายอยู่ที่นี่…” ตี้ฝูอีก็พูดความจริงแล้วเช่นกัน
กู้ซีจิ่วเลิกคิ้วมองเขา “เจ้าก็ตายเป็นงั้นหรือ?” แล้วยิ้มอีกครั้ง นั่งกอดเข่ามองเขาอยู่ตรงนั้นเสียเลย “โอ้ ใช่แล้ว ข้าจำได้ว่าเจ้าเคยบอกไว้ ในความฝันนี้ข้าคือผู้มีสิทธิ์ขาด หกว่าเจ้าตายอยู่ที่นี่ก็เป็นการตายอย่างแท้จริง…ดูเหมือนการเข้ามาของเจ้ามีจะความเสี่ยงสูงอย่างยิ่ง คิดจะฉวยโอกาสตอนข้าตกอยู่ในฝันร้ายผนึกข้าไว้อีกครั้งใช่ไหม? เจ้าเสี่ยงชีวิตถึงเพียงนี้เพื่อนางสินะ? เจ้าแน่วแน่ที่จะผนึกข้าถึงเพียงนี้ เพื่อให้นางฟื้นขึ้นมาใช่ไหม?”
ตี้ฝูอีเงียบงัน เขาเม้มริมฝีปากบางเล็กน้อย เพียงมองดูเธอ
การเงียบของเขาถือเป็นการยอมรับโดยดุษณีในสายตาของกู้ซีจิ่ว ฝ่ามือเธอค่อยๆ กำเข้าหากัน เล็บจิกเข้าไปในฝ่ามือ ราวกับเธอไม่รับรู้ถึงความเจ็บ เธอสูดหายใจลึกๆ คราหนึ่ง คล้ายข่มกลั้นอะไรไว้ ลุกขึ้นยืนอีกครั้ง “เช่นนั้นอาศัยสิ่งใด้ให้ข้าช่วยเหลือเจ้า?! ตี้ฝูอี เจ้านึกว่าข้าเป็นแม่พระมาเกิดจริงๆ หรือไง?!”
ไม่คิดจะสนใจเขาอีก พอลุกขึ้นมาก็ใช้วิชาเคลื่อนย้ายหายลับไป
ส่วนตี้ฝูอีที่อยู่ข้างหลังเธอก็ค่อยๆ ถูกโคลนท่วม ในที่สุดก็มิดศีรษะ…
ไม่เชื่อเขา! เธอไม่เชื่อเขาอีกต่อไปแล้ว!
เขามาสังหารเธอเพื่อให้นางในดวงใจเขาฟื้นคืนชีพ แล้วทำไมเธอต้องให้เขาสมหวังด้วยล่ะ?
เธอต้องการให้เขาลิ้มรสการจมมิดหัว! ต่อให้เขาตายอยู่ที่นี่ก็ถือว่ารนหาที่เอง! ผู้กล้าวางแผนปองร้ายตัวเธอกู้ซีจิ่วล้วนต้องมีจุดจบที่เลวร้าย!
ความสุขกระจายอยู่ในหัวใจ เธอยืนอยู่ในโคลนเลนอดไม่ได้ที่จะเชิดหน้าหัวเราะเสียงดัง
ยิ่งเสียงหัวเราะดังสนั่นเท่าไหร่ หมอกสีเทาที่ห้อมล้อมอยู่รอบกายเธอก็หมุนวนเสมือนบ้าคลั่งมากขึ้นเท่านั้น เธอหัวเราะอย่างบ้าดีเดือด และหัวเราะทั้งน้ำตา
เธอยืนอยู่ที่เดิมครู่หนึ่ง หลังจากปล่อยปลอยความปีติสุขออกมาแล้วความหวาดหวั่นมหาศาลก็ขยายขึ้นมาในใจ ความหวาดหวั่นเอ่อล้นขึ้นมาทีละระลอก สุมขึ้นเป็นกองตามเวลาที่ผ่านไป
ถ้าหากเขาตายอยู่ใรความฝันของเธอจริงๆ…
ในสมองเธอเกิดเสียงดังตูม มือไม้อ่อนแรงทันที สูดหายใจเฮือกหนึ่ง เธอใช้วิชาเคลื่อนย้ายกลับไปในทันใด!
สัญชาตญาณด้านทิศทางของเธอแข็งแกร่งยิ่ง กลับไปยังตำแหน่งที่ตี้ฝูอีเคยยืนอยู่ได้แทบจะในชั่วพริบตา
————————————————————————————-