ลำนำบุปผาพิษ - บทที่ 1684+1685
บทที่ 1684 แทบจะอยากตัดนางเป็นสองเสี่ยง
เหงื่อเป็นเม็ดๆ ไหลรินออกจากผิวหนังและช่องว่างระหว่างเกล็ดลงบนพื้น
เสียงหยดติ๋งๆ ดังขึ้นเป็นระยะ หยาดเหงื่อกลั่นตัวออกมาเป็นไข่มุก แต่ละเม็ดเป็นประกายและโปร่งแสง กลิ้งไปมาบนพื้น
“หยาดเหงื่อของชาวเงือกออกมาเป็นไข่มุก ที่แท้ประโยคนี้มิเป็นเท็จ” คุณชายชุดครามแย้มยิ้ม จ้องมองหลานจิ้งอี๋ที่เจ็บปวดจนริมฝีปากทั้งสองสั่นเครือ “เพียงแต่เหตุใดเจ้ายังไม่หลั่งน้ำตา น้ำตานางเงือกถึงจะเป็นสิ่งที่ข้าต้องการ”
หลานจิ้งอี๋เจ็บปวดจนรู้สึกอยากตาย เพียงแต่สิ่งที่ไหลหลั่งออกมายากที่สุดของชาวเงือกก็คือน้ำตา นางย่อมไม่มีข้อยกเว้นเช่นกัน
นางเจ็บปวดยิ่งนัก และอยากร้องไห้มากเช่นกัน เพียงแต่ร้องไม่ออก
คุณชายชุดครามมองนางครู่หนึ่งแล้วทอดถอนใจ “ดูเหมือนจะยังไม่พอ…”
นิ้วมือเขาพลันเคลื่อนไหว มีดบางพลันตวัด หลานจิ้งอี๋กรีดร้องโหยหวนอีกครา เกล็ดชิ้นใหญ่ถูกคุณชายชุดครามขอดออกมา!
ความเจ็บปวดจากการขอดเกล็ดเลวร้ายยิ่งกว่าการเลาะกระดูกเสียอีก หลานจิ้งอี๋เจ็บปวดจนสั่นสะท้านไปทั่วทั้งร่าง ไม่เพียงแต่หยาดเหงื่อที่ไหลออกมาก ในที่สุดก็เจ็บปวดจนน้ำตาไหล…
แน่นอนว่าละอองน้ำตานี้เป็นเพียงแค่ชั้นบางๆ นางเพียงกะพริบตาเบาๆ หยาดน้ำตาขนาดเท่าเมล็ดถั่วเม็ดนั้น ส่องแสงสว่างเพียงเล็กน้อยแล้วร่วงหล่นลงพื้น กลายเป็นน้ำตานางเงือกรูปทรงกลมแบน คล้ายไข่มุก ทว่ากลับส่องประกายกว่าไข่มุกมาก
คุณชายชุดครามยกนิ้วมือขึ้น น้ำตานางเงือกพลันตกลงเป็นฝ่ามือเขา เขามองดูพลางส่ายหน้า “เล็กเกินไป”
สายตาของเขาพลันหันกลับไปมองร่างหลานจิ้งอี๋ ถอนหายใจอย่างแผ่วเบา “เจ้านี่ขี้เหนียวจริงๆ หลั่งน้ำตาทั้งทีก็ไม่ยอมหลั่งออกมาให้เม็ดใหญ่หน่อย ข้าทำได้เพียงทำลายบุปผางามแล้วละ” มีดบางในมือส่องแสงติดต่อกันอยู่หลายครั้ง เกล็ดจำนวนมากถูกขอดอีกครั้งหนึ่ง…
หลานจิ้งอี๋เจ็บปวดจนร้องไม่ออกแล้ว!
นางเหมือนดังปลาขึ้นจากน้ำที่ทนทุกข์ทรมาน หยาดน้ำตาเม็ดใหญ่ไหลหลั่งลงมาในที่สุด
น้ำตาแฝงโลหิต กลายเป็นน้ำตานางเงือกที่แดงกึ่งหนึ่งโปร่งใสกึ่งหนึ่ง คล้ายตาแมวที่สวยงาม เกลือกกลิ้งอยู่ที่พื้น
หลานไว่หูมองจากด้านบนจนหนาวเหน็บไปทั่วร่างกาย!
ถึงนางจะรังเกียจหลานจิ้งอี๋ผู้นี้ แทบจะอยากตัดนางเป็นสองเสี่ยง ทว่าเมื่อเห็นภาพฉากนี้ หัวใจก็พลันหดเกร็งเข้าด้วยกัน!
เห็นๆ กันอยู่ว่าคุณชายชุดครามผู้นี้งามสง่าดุจหยก ทว่าวิธีการกลับช่างโหดเหี้ยมดุจมารร้าย ปรับเปลี่ยนขีดจำกัดล่างของความโหดร้ายต่อมนุษย์ที่หลานไว่หูรู้จักไปเลย
หญิงชาวเงือกผู้นี้ทำคุณงามความดีช่วยเหลือคุณชายชุดครามมากมายถึงเพียงนี้ ยังถูกเขาปฏิบัติด้วยความโหดเหี้ยม เช่นนั้นอีกประเดี๋ยวเขาจะจัดการกับนางอย่างไร?
หลานไว่หูทั้งโกรธเคืองและหวาดกลัว เบิกตาจ้องมองคุณชายชุดครามผู้นั้น หากสายตาสังหารผู้คนได้ คุณชายชุดครามผู้นั้นคงถูกหลานไว่หูแล่เนื้อเถือหนังไปแล้ว!
คุณชายชุดครามเก็บน้ำตานางเงือกเหล่านั้นขึ้นมา ชั่งน้ำหนักในฝ่ามือ แล้วทอดถอนใจเบาๆ คราหนึ่ง “ยังน้อยไปหน่อย” เขาก้มมองหลานจิ้งอี๋ที่แทบจะสลบไปแล้ว “ข้าขอดเกล็ดเจ้าอีกสักสองเกล็ดแล้วกัน? เจ้าร้องไห้ให้หนักกว่านี้สักหน่อย”
เมื่อปลายมีดสัมผัสถูกเกล็ดของนาง หลานจิ้งอี๋ตกใจจนอกสั่นขวัญหาย กรีดร้องอย่างโหยหวน “ข้าร้องแล้ว ไม่ต้องขอดอีกแล้ว! ข้าร้องไห้ก็ได้…”
น้ำตานางหลั่งออกมามากขึ้น รวดเร็วขึ้น ร้องไห้หลั่งน้ำตาทั้งหมดในชีวิตนางออกมา
คุณชายชุดครามเก็บน้ำตานางเงือกเต็มกำมือ ถึงได้หยุดมืออย่างยังไม่หนำใจเท่าใด ดวงตาที่วาบไหวเป็นระลอกคลื่นหันกลับมาร่อนลงบนร่างหลานไว่หูที่ห้อยอยู่ตรงนั้น
ขนทั้งร่างกายของหลานไว่หูลุกซู่ขึ้นมา!
นางตะโกนด้วยความโกรธเคือง “คนอย่างข้า ฆ่าได้หยามไม่ได้! เจ้าจะฆ่าก็ฆ่าเลย! แต่เจ้าไม่อาจทรมานข้า หรือทำให้ข้าร้องไห้ได้หรอก!”
คุณชายชุดครามทอดถอนใจ “แม่นางน้อยทรงเสน่ห์อย่างเจ้า ข้าจะทนเห็นเจ้าร้องไห้ได้อย่างไร? น้ำตานางเงือกล้ำค่ายิ่งนัก น้ำตาจิ้งจอกน้อยของเจ้าไม่มีค่าขนาดนั้นหรอก”
หลานไว่หูมองเขาอย่างระแวดระวัง “เช่นนั้นเจ้าคิดจะทำสิ่งใด?
————————————————————
บทที่ 1685 ยามนี้กลับถึงคราวของนางแล้ว…
หลานไว่หูมองเขาอย่างระแวดระวัง “เช่นนั้นเจ้าคิดจะทำสิ่งใด? เจ้าจับข้ามา ไม่มีทางอยากให้ข้ามาดูเจ้าทรมานคนกระมัง?”
คุณชายชุดครามพูดด้วยเสียงนุ่มนวล “ได้อย่างไรกัน? ข้าไม่น่าเบื่อขนาดนั้นหรอก ทว่าเมื่อครู่เงือกผู้นี้เอาแต่ดูถูกเหยียดหยามเจ้า ข้าทรมานนางต่อหน้าเจ้าไม่ใช่ว่าแก้แค้นให้เจ้าหรอกหรือ? เจ้าควรรู้สึกพึงพอใจถึงจะถูก”
“ภูตผีน่ะสิถึงจะพอใจ!”
“ช่างเป็นเด็กที่ไม่รู้จักดีชั่วเอาเสียเลย” คุณชายชุดครามส่ายหน้า “ข้าเห็นแก่หน้าซีจิ่ว แก้แค้นให้เจ้า อยากให้เจ้าดีใจสักหน่อย นึกไม่ถึงว่าเจ้ากลับไม่ซาบซึ้งในน้ำใจ น่าเสียดายความเพียรพยายามนี้ของข้าจริงๆ”
“หากเจ้าดีต่อข้าจริง เช่นนั้นก็ปล่อยข้าไป!”
“จะเป็นไปได้อย่างไร? ไม่ง่ายเลยกว่าข้าจะหลอกล่อเจ้ามาได้…”
“เจ้าจับตัวข้ามาทำไม?”
“อ้อ ข้าต้องการยืมบางสิ่งจากเจ้า เกรงว่าเจ้าจะไม่ยอมให้ข้ายืม ทำได้เพียงจับตัวเจ้ามาก่อนแล้วค่อยหารือกัน”
หลานไว่หูพูด “…สิ่งใด?”
“โลหิตขั้วหัวใจ”
ดวงหน้าน้อยๆ ของหลานไว่หูซีดขาวในทันที!
ที่แท้ไอ้คนชั่วช้านี้ก็อยากได้ชีวิตของนาง! โหดเหี้ยมยิ่งกว่าการปฏิบัติต่อหลานจิ้งอี๋เสียอีก!
คุณชายชุดครามมองดวงหน้าซีดเผือดของนาง “กลัวมากงั้นรึ? วางใจเถอะ ข้าทะนุถนอมอ่อนโยนต่อสตรียิ่งนัก อีกทั้งเจ้ายังเป็นสหายของสตรีที่ข้าชมชอบ ข้าไม่มีทางเอาชีวิตเจ้าจริงๆ หรอก”
หลานไว่หูจ้องมองเขาด้วยความโกรธเคือง
เอาโลหิตขั้วหัวใจจะไม่ต้องการชีวิตนางได้อย่างไร? เขาหลอกเด็กนี่!
คุณชายชุดครามพลันพลิกฝ่ามือ เข็มปลายแหลมขนาดปานกลางเล่มหนึ่งปรากฏขึ้น หนาเท่ากับเข็มถักไหมพรม ความยาวประมาณหนึ่งฉื่อ ส่องแสงเป็นประกายแวววับ ทำให้คนรู้สึกหวาดกลัว
“เห็นสิ่งนี้หรือไม่? อีกประเดี๋ยวข้าจะใช้สิ่งนี้ทิ่มแทงเข้าไปบริเวณเส้นเลือดหัวใจของเจ้า โลหิตขั้วหัวใจของเจ้าจะไหลออกมาจากสิ่งนี้ วางใจเถอะ ข้าไม่เอาออกมาเยอะนักหรอก เต็มถ้วยนี้ก็พอแล้ว”
เขาให้นางดูถ้วยชาในมืออีกครั้ง
วิธีการนี้ของเขาค่อนข้างคล้ายคนเลี้ยงหมีที่เก็บดีหมีในยุคปัจจุบัน
เมื่อก่อนตอนที่หลานไว่หูฟังกู้ซีจิ่วเล่าเรื่องราวแปลกประหลาดน่าอัศจรรย์ ยังเคยได้ยินนางพูดถึงวิธีการที่โหดร้ายเช่นนี้
แน่นอนว่านางยังคงรู้สึกขุ่นเคืองกับความอยุติธรรม รู้สึกว่ามันโหดร้ายเกินไป เจ็บปวดจนหวาดผวาแทนหมีเหล่านั้น
ยามนี้กลับถึงคราวของนางแล้ว…
ใบหน้าหลานไว่หูซีดขาว เดิมทีนางยังไม่อยากตายหากว่ายังไม่ได้พบเจอเยี่ยนเฉิน ทว่าตอนนี้นางยอมตายเสียยังดีกว่า!
นางตัดสินใจแน่วแน่ ขณะที่กำลังจะกัดลิ้นฆ่าตัวตาย คุณชายชุดครามคนนั้นกลับเตรียมการป้องกันไว้แล้ว แขนเสื้อพลันสะบัด จุดของหลานไว่หูก็ถูกสกัด ทำให้ไม่อาจเคลื่อนไหวได้
คุณชายชุดครามเอื้อมมือออกไปอีกครา โซ่เล็กทั้งสี่เส้นบนร่างหลานไว่หูไถลเลื่อนขึ้นมา ฉุดกระชากนางไปริมบ่อโลหิต
หลานไว่หูเบิกตามองดูตัวเองไถลไปริมบ่อ ระยะห่างระหว่างคุณชายชุดครามผู้นั้นสั้นลงทุกที ใกล้เข้ามาทุกที…
ช่วยด้วย! ซีจิ่ว เยี่ยนเฉิน ช่วยด้วย…
…
เช่นเดียวกับท่อเล็กๆ ของเส้นเลือดมนุษย์ที่กระจัดกระจายไปทั้งบริเวณ ท่อเล็กๆ นี้ก็เป็นสีแดงสด ด้านในมีน้ำโลหิตแดงสดกำลังไหลเวียน ส่งเสียงโครกครากออกมา
พูดได้ว่านี่คือสิ่งก่อสร้างใต้ดินแห่งหนึ่ง ทว่าก็มิสู้บอกว่าคล้ายอยู่ภายในร่างกายของสัตว์ประหลาดอะไรบางอย่าง
‘เส้นเลือด’ มากมายและหนาแน่นดุจใยแมงมุม เส้นทางก็หลากหลายดังใยแมงมุม เชื่อมต่อถึงกัน ระหว่างทางมีสิ่งก่อสร้างรูปร่างประหลาดไม่น้อย คล้ายกับรวงผึ้ง ขนาดไม่เท่ากันแต่มีสีแดงสดเหมือนกัน ดูประหนึ่งอวัยวะภายในของสัตว์
เส้นทางสลับซับซ้อนเกินไป หากไม่มีคนคุ้นเคยคอยนำทาง ถึงแม้มีคนบุกเข้ามาที่นี่โดยไม่ตั้งใจก็หลงทางได้โดยง่าย
กู้ซีจิ่วก็นึกไม่ถึงว่าด้านล่างป่าเหมยที่ใหญ่โตโอฬารผืนนั้นจะมี ‘สัตว์ประหลาด’ เช่นนี้หลบซ่อนอยู่ ต่อให้เธอมีประสบการณ์และความรู้มากมาย ยามนี้ก็รู้สึกค่อนข้างหนาวสั่นไปทั้งตัว
เส้นทางเบื้องล่างก็ไม่ใช่พื้นหินพื้นดินธรรมดา แต่เป็นโครงกระดูกเรียงราย สมกับชื่อเส้นทางกระดูกขาว
———————————————————————