ลำนำบุปผาพิษ - บทที่ 1786+1787
บทที่ 1786 ทำให้ข้าต้องคอยเก้อ…
ในใจเธอขื่นขมฝาดเฝื่อน ทว่าอบอุ่น เธอเอนตัวลงนอนข้างกายเขา เว้นระยะห่างเล็กน้อยไม่ให้ไม่รบกวนเขา
เธอมองไปทั้งสี่ทิศ พบว่าโดยรอบศาลาหลังนี้ขึงไว้ด้วยผ้าฝ้ายโปร่งสีชมพูอ่อน ไม่เพียงแต่กันลมพัดผ่าน ยังช่วยบดบังสายตาจากด้านนอกที่มองเข้ามาด้านในศาลา
เขาช่างคิดรอบคอบเสียจริง!
เธอหมอบลงข้างกายมองดูเขาอยู่ครู่หนึ่ง ไม่ว่าจะมองเท่าไหร่ก็มองไม่พอ หากหยุดเวลาไว้ที่นี่ได้คงจะดีไม่น้อย!
หลายวันมานี้ที่เธอทุกข์ตรม ความจริงแล้วเขาทุกข์ตรมไปไม่น้อยกว่าเธอเลยกระมัง?
ผู้ชายคนนี้แบกรับเพื่อเธอมามากเท่าใดแล้ว?
ในใจรู้สึกขมขื่นและอยากร้องไห้ เธอสูดจมูกอดกลั้นแล้วลุกขึ้นยืน
เวลาของเขาเหลือไม่มากแล้ว ต้องไม่อยากเห็นคนข้างกายทำหน้าเศร้าโศกร้องไห้อยู่ทุกวันแน่…
ช่วงเวลานี้เธอไม่เพียงต้องหาวิธีช่วยยืดอายุของเขา ยังต้องมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้เขาด้วย จะมาเพิ่มภาระให้เขาอีกไม่ได้…
เธอกำลังจะค่อยๆ ย่องออกไปเดินเล่นที่ป่าท้อด้านนอกเพื่อสงบจิตสงบใจเสียหน่อย แขนข้างหนึ่งก็พลันโอบรัดเอวไว้ จากนั้นออกแรงดึงเธอกลับลงไปใหม่ เธอเงยหน้าขึ้นมาสบดวงตาอมยิ้มคู่นั้นของเขาพอดี “จะไปที่ใดหรือ?”
“เอ๊ะ ท่านตื่นแล้วหรือ เหตุใดไม่พักอีกสักหน่อย” กู้ซีจิ่วเอ่ยถาม
ตี้ฝูอีแย้มยิ้ม โน้มศีรษะลงจูบที่ริมฝีปากจิ้มลิ้มของเธอ “หากข้าสนใจแต่หลับนอน เจ้าจะมิตำหนิว่าข้าไม่สนใจเจ้าหรอกหรือ?”
กู้ซีจิ่วหน้าแดงระเรื่อ “ไม่เสียหน่อย”
ใบหน้าหล่อเหลาของตี้ฝูอีอยู่ในระยะประชิด ลมหายใจอบอุ่นรินรดบนใบหน้าเธอ กระตุ้นให้พวงแก้มของเธอแดงเรื่อยิ่งขึ้น เธอผลักเขาออกเบาๆ “ท่านเหนื่อยมากเลยใช่หรือไม่ นอนพักอีกหน่อยก็ได้”
“ไม่เหนื่อย” ตี้ฝูอีเผยรอยยิ้มมิเชิงยิ้มอันเป็นเอกลักษณ์ของเขา “เมื่อครู่เหมือนข้าจะจำได้ว่ามีใครบางคนคิดจะเป็นป้าอ๋องฝืนน้าวธนู…เพียงแต่น่าเสียดายที่ปลดเปลื้องอาภรณ์ข้าเพียงกึ่งหนึ่งก็ทิ้งไป ทำให้ข้าต้องคอยเก้อ…”
เขาทาบทับนางไว้กึ่งหนึ่ง พูดถ้อยคำเช่นนี้ออกมา กู้ซีจิ่วขวยเขินจนใบหูแดงเถือก
น่าแปลก เธอกับเขาแต่งงานกันมาเนิ่นนานขนาดนี้แล้ว อยู่กินฉันท์สามีภรรยาก็นานนม เวลาที่เขาหยอกล้อเรื่องสัมพันธ์ชู้สาวเธอมักจะเขินหน้าแดงอยู่เสมอ ช่างไร้อนาคตจริงๆ!
กู้ซีจิ่วนึกตำหนิดูแคลนตนเองอยู่ในใจ!
เธอเป็นคนมีนิสัยไม่เคยยอมแพ้ ดังนั้นแม้ว่าหน้าจะแดงก่ำจนไหม้เกรียม ดวงตาคู่นั้นกลับเปล่งประกายเจิดจ้า ตัดสินใจพลิกกายในทันที ท่าทางของคนทั้งสองสลับกัน กลายเป็นเธอขึ้นมาอยู่ด้านบน ส่วนเขาพลิกลงไปอยู่ด้านล่างถูกเธอคร่อมทับไว้กึ่งหนึ่ง
ริมฝีปากของเธอหยักเป็นรอยยิ้ม นิ้วมือกระตุกสาบเสื้อของเขา “ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ ท่านปรารถนาให้ข้าเป็นป้าอ๋องงั้นหรือ?”
ตี้ฝูอีหรี่ตามองนางแล้วพยักหน้า “ปรารถนายิ่งนัก!”
เขาพริ้มดวงตาหลับลง วงแขนกางออก ทำท่าทางยินยอมประหนึ่งเนื้อปลาบนเขียง
กู้ซีจิ่วใจเต้นรัว ขบคิดเล็กน้อย คนผู้นี้มั่นใจว่าเธอจะไม่ฝืนใจครอบครองเขางั้นหรือ?
เฮอะ! ครั้งนี้จะต้องทำให้เขาประหลาดใจให้ได้! เมื่อใดที่เธอกล้าหาญขึ้นมาก็ไม่มีใครดูแคลนได้!
กู้ซีจิ่วตัดสินใจแน่วแน่และไม่ลังเลใจอีกต่อไป นิ้วมือฉีกสาบเสื้อของเขาที่ปลดไว้กึ่งหนึ่งแล้วออกอีกครั้ง…
ยังคงเป็นเรือนร่างที่คุ้นเคยและทำให้เธอหน้าแดงใจเต้นรัวได้ง่ายอยู่เช่นเคย นิ้วมือของเธอลูบไล้บนผิวเขา เคลื่อนไปยังจุดสำคัญบนร่างกาย…
อย่าเข้าใจผิดไป เธอไม่ได้แหวกว่ายบน ‘จุดยุทธศาสตร์’ ในเรื่องพิศวาสของเขา ทว่ากำลังตรวจสอบส่วนสำคัญของสุขภาพเขาอยู่ต่างหาก
เขาไปเก็บสมุนไพรในพื้นที่เสี่ยงอันตรายเช่นนี้ ไม่แน่อาจได้รับบาดเจ็บตรงไหนก็เป็นได้ เพียงแต่เขาไม่พูดออกมา เธอจึงใช้โอกาสนี้ตรวจให้เขาเสีย…
นิ้วมืออ่อนนุ่มของเธอลูบไล้ไปตามเรือนร่างเขา แม้จะไม่ใช่จุดที่ไวต่อสัมผัส ทว่าสำหรับชายที่ถูกปล่อยร้างมานานอย่างตี้ฝูอีก็เป็นความซาบซ่านแทบตายแล้ว!
——————————————————————-
บทที่ 1787 ยังคงหน้าไม่อายยิ่งนักเช่นเดิม…
เดิมทีความต้องการในด้านนี้ของเขาก็สูงมากอยู่แล้ว ในเขตหวงห้ามหลังจากแต่งกับนางแล้ว ทุกๆ คืนไม่เคยว่างเว้น หลังจากเลิกรากับนางเขาก็จงใจไม่ไปเฉียดใกล้นางเลย แต่ความปรารถนาในตัวนางกลับไม่เคยสิ้นสุดลง เพียงฝืนควบคุมตัวเองไว้เท่านั้น
เขารักนางยิ่งชีพ นางสัมผัสเบาๆ ก็จุดไฟให้ลุกลามได้แล้ว เพียงพอจะเผาทุ่งหญ้าให้วอดวายอย่างรวดเร็วได้!
เขาพริ้มตาลงนิดๆ รู้สึกถึงการลูบไล้เบาๆ จากนาง แต่ตำแหน่งคล้ายจะไม่ถูกต้อง รู้สึกเสมือนว่าเกาไม่ถูกที่…
คงไม่ใช่ว่านางไม่รู้ว่าจุดไวต่อสัมผัสของเขาอยู่ตรงไหนกระมัง?!
เขารู้สึกว่านี่ค่อนข้างอันตราย! จึงลืมตามองดูนางอย่างทนไม่ไหวอยู่บ้าง จากนั้นก็พบว่าท่าทางของนางจริงจังยิ่งนัก ท่าทางราวกับหมอที่กำลังตรวจคนไข้…
ตี้ฝูอีไม่เข้าใจอยู่บ้าง
“เจ้าทำอะไร?” น้ำเสียงของเขาแหบพร่าแล้ว
กู้ซีจิ่วหยักมุมปากแวบหนึ่ง “ดูว่าท่านได้รับบาดเจ็บหรือไม่” ค่อยยังชั่ว บนร่างเขาไม่มีบาดแผลที่มองเห็นชัดเจน และจากการกดจุดบนร่างเขาก็ทราบได้ว่าเขาไม่ได้รับบาดเจ็บภายในเช่นกัน นอกจากเขาจะเหนื่อยล้านิดหน่อยแล้ว อย่างอื่นก็ไม่น่าห่วง
เธอมองเขาอย่างเคร่งขรึมจริงจัง “ท่านคงไม่ได้คิดว่าข้าจะทำอะไรท่านที่นี่กระมัง?”
ตี้ฝูอีไม่เอ่ยตอบ
ดวงตากู้ซีจิ่วหยีโค้งน้อยๆ “ที่นี่เป็นศาลากลางป่า อาจจะมีคนผ่านทางมาบ้างประปราย ข้าไม่อยากถูกคนมุงดูยามที่ข้าโปรดปรานท่านเทพศักดิ์สิทธิ์หรอกนะ!”
ถึงแม้เขาจะติดม่านไว้รอบๆ ศาลาแล้ว แต่ม่านนี้เป็นม่านกึ่งโปร่งแสง หากด้านนอกมีคนผ่านทางมาดังว่า ต้องมองเห็นแน่นอน!
ตี้ฝูอีเม้มริมฝีปากแน่น จู่ๆ ก็ยิ้มแวบหนึ่ง “เด็กน้อย ในพจนานุกรมของข้าไม่อนุญาตให้ผู้ใดตีกลองถอยทัพได้!”
ดวงตาคู่นั้นของเขาลึกล้ำดั่งมหาสมุทร พลันกุมมือน้อยๆ ที่เธอหมายจะหดกลับไปเอาไว้ จากนั้นก็ชักนำให้ยื่นไปยังตำแหน่งที่ ‘ผงาดง้ำ’ ของตน เอ่ยเสียงต่ำ “ประสงค์จะโปรดปรานก็เชิญโปรดปรานให้ถึงที่สุดเถิด!”
มือของกู้ซีจิ่วถูกบังคับให้แตะลงไปแล้ว…
ร้อนผ่าวราวกับเหล็ก!
กู้ซีจิ่วรู้สึกเพียงว่าพวงแก้มก็ร้อนผ่าวขึ้นมาแล้วเช่นกัน!
ในที่สุดก็เข้าใจว่าพอตี้ฝูอีผู้นี้ไม่คิดจะควบคุมขึ้นมา นั่นก็คือหมาป่าชัดๆ…
ยังคงหน้าไม่อายยิ่งนักเช่นเดิม…
หัวใจเธอเต้นรัวดั่งมิใช่ของตน ใช่แล้ว เธอก็ต้องการเขาเหมือนกัน แต่ว่าที่นี่…
เธอรู้สึกไม่ปลอดภัยเลย!
เธอรีบร้อนในทันใด จู่ๆ ก็ค้อมกายกอดเขาไว้ “พวกเราย้ายที่กันเถอะ!”
ใช้วิชาเคลื่อนย้ายทันที!
ด้วยเหตุนี้วินาทีต่อมา สถานที่ที่พวกเขาปรากฏตัวขึ้นคือภายในห้องนอนที่จวนทูตสวรรค์ของเธอ
ยามนี้วิชาเคลื่อนย้ายของเธอเข้าขั้นเทพแล้ว ภายในรัศมีร้อยลี้ อยากเคลื่อนย้ายไปที่ไหนก็เคลื่อนย้ายไปที่นั่นได้เลย ไม่เคยคลาดเคลื่อนเลยสักครึ่งเมตร ขี้โกงยิ่งนัก
แต่หนนี้คงเป็นเพราะจิตใจเธอกระสับกระส่ายว้าวุ่นเกินไป เดิมทีเธอคิดจะเคลื่อนย้ายไปที่เตียงของตน ผลคือคลาดเคลื่อนไปหลายเมตร หวิดจะพาตี้ฝูอีไปชนกำแพงเสียแล้ว!
เธอรีบร้อนถอยหลังไปไม่กี่ก้าว ไม่ทันระวังไปชนถูกโต๊ะเข้า ชนจนโต๊ะสะเทือนไปแวบหนึ่ง ถ้วยโถโอชามบนนั้นสั่นไหวอยู่ไม่กี่คราก็เกิดเสียงดังกราว
นอกห้องนอนของเธอยังมีคนคอยเฝ้าอยู่ มีสาวใช้ถามขึ้นทันที “ผู้ใดอยู่ด้านใน?”
เสียงฝีเท้าแว่วใกล้เข้ามา มีคนคิดจะเข้ามาตรวจสอบ ถึงอย่างไรตอนที่เธอออกไปเหล่าสาวใช้ก็รับทราบ ทว่าไม่ได้คาดว่าเธอจะใช่วิชาเคลื่อนย้ายกลับมา…
กู้ซีจิ่วมองผู้อื่นที่อาภรณ์รุ่ยร่ายอยู่ในอ้อมแขน ไม่ประหม่าเลยสักนิด เพียงอมยิ้มมองดูเธอ
เธอสบถด่าอยู่ในคราหนึ่ง รีบเอ่ยขึ้น “ข้าเอง พวกเจ้าถอยไปซะ ถอยห่างจากเรือนนี้ ถ้าข้าไม่เรียก ไม่อนุญาตให้เข้ามา!”
ถึงแม้น้ำเสียงของเธอจะสุขุมอย่างยิ่งยิ่ง แต่ยังคงแฝงความทุ้มพร่าเล็กน้อยเอาไว้ เหล่าสาวใช้ได้ยินเธอสั่งการด้วยน้ำเสียงพิกลเช่นนี้ ถึงแม้ในใจจะฉงนเล็กน้อย แต่ยังคงปฏิบัติตามคำสั่ง ตอบรับคราหนึ่ง ถอยออกไปทั้งหมด
——————————————————–