ลำนำบุปผาพิษ - บทที่ 1939+1940
บทที่ 1939 ร่วมผ้าห่ม
หรือว่านางสงสัยในตัวคุณชายฝูอีเช่นกัน?!
หากนางต้องการตรวจสอบ เกรงว่าจะตรวจถังอาบน้ำนี้!
นิ้วมือกู้ซีจิ่วกระชับแน่นอยู่ใต้น้ำ
เธอรู้ว่ามีกลีบดอกไม้บดบังอยู่ คนด้านนอกไม่มีทางมองเห็นด้านในถังอาบน้ำ ทว่าหากเอากลีบดอกไม้เหล่านี้ออก เธอก็ไม่มีทางซ่อนตัวได้แน่นอน!
เธอค่อยๆ กระชับนิ้วมือใต้น้ำ ครุ่นคิดอยู่ว่าหากถูกจับได้จะกลายเป็นปัญหาอย่างแน่นอน! อดทนไว้ก่อนแล้วค่อยว่ากัน!
การกระชับนิ้วมือนี้ ทำให้ปลายนิ้วของเธอสัมผัสถูกหน้าอกของอีกฝ่ายโดยไม่ได้ตั้งใจ คุณชายฝูอีพลันชะงักงัน จุ่มแขนข้างหนึ่งลงน้ำ ฝ่ามือจับข้อมือของเธอไว้แน่น…
กู้ซีจิ่วไม่กล้าดิ้นรนด้วยกลัวว่าจะเกิดการเคลื่อนไหวใดทำให้ถูกเจ้าวังน้อยจับได้…
ซุ่มเสียงของคุณชายฝูอียังคงเรียบเฉย
“เจ้าวังน้อย นี่ท่านมาชื่นชมคุณชายอย่างข้าอาบน้ำหรือ?”
เจ้าวังน้อยทอดถอนใจเบาๆ
“เปิ่นกงเกรงว่าเจ้าหัวขโมยจะเข้ามารบกวนความรื่นรมย์ของคุณชายฝูอี”
นางพูดพลางเขยิบเข้าใกล้ถังอาบน้ำ
ซุ่มเสียงคุณชายฝูอีแผ่วเบาทว่าเยือกเย็น
“ตั้งแต่ที่คุณชายอย่างข้าอาบน้ำมา ก็มีแต่เจ้าวังน้อยกับลูกน้องของท่านที่เข้ามารบกวน”
เจ้าวังน้อยนิ่งงัน เท่ากับนางรนหาที่มาถูกก่นด่าเอง ใบหน้าเพริศพริ้งพลันแปรเปลี่ยน ราวจะโกรธเคืองทว่ายังคงขวยใจ ฝืนอดทนเอาไว้
นางยิ้มบางๆ
“ไม่มีคนนอกเข้ามาก็ดีแล้ว”
เธอเขยิบเข้าใกล้มาอีกก้าวหนึ่ง มองเข้าไปในถังอาบน้ำด้วยความรวดเร็ว กลับมองเห็นเพียงกลีบดอกไม้ลอยอยู่เต็มถัง ไม่อาจมองเห็นอะไรได้ชัดเจน
ใบหน้าหล่อเหล่าของคุณชายฝูอีเคร่งขรึมขึ้นทันใด
“เจ้าวังน้อย ชายหญิงมิควรชิดใกล้! ข้าเพียงแต่รับปากว่าจะหลอมโอสถให้ท่าน ซึ่งไม่ได้หมายความว่าจะให้เจ้าวังน้อยมาฉวยโอกาสข้าเช่นนี้ได้! ในเมื่อเจ้าวังน้อยไม่ไว้ใจข้าเช่นนี้ งั้นข้าก็คงไม่มีความจำเป็นจะต้องอยู่ที่นี่ต่อแล้ว…”
สตรีเช่นนางมองเห็นบุรุษอาบน้ำยังไม่ล่าถอย ช่างไม่เหมาะสมจริงๆ ราวกับเป็นผู้หญิงลามก
เจ้าวังน้อยยังคงต้องให้เขาช่วยเหลือจึงกล่าวขึ้นอย่างเขินอาย
“คุณชายฝูอีคิดมากเกินไปแล้ว เปิ่นกงเพียงแค่มาเยี่ยมเยียนท่าน ในเมื่อท่านไม่เป็นอะไร เช่นนั้นเปิ่นกงขอตัวลา”
แล้วหันกายรีบร้อนจากไป
…
กู้ซีจิ่วโผล่ศีรษะขึ้นมาจากถังอาบน้ำอีกครั้งหนึ่ง
ครั้งนี้เธออยู่ใต้น้ำค่อนข้างนาน ทั้งหมดหนึ่งเค่อเต็มๆ
ผู้ที่ฝึกฝนพลังยุทธ์มาถึงขั้นนี้อย่างเธอ ต่อให้ถูกผนึกพลังวิญญาณก็ไม่มีทางจมน้ำได้ง่ายๆ ดังนั้นสีหน้าของเธอจึงดูปกติยิ่งนัก ดวงหน้าน้อยๆ เป็นสีแดงและขาวสลับไปมา แทบจะไม่มีท่าทีของการขาดอากาศหายใจเลย
คุณชายฝูอีมองนาง มีแสงจางๆ วาบผ่านนัยน์ตาเขา
เท่าที่เขารู้ มีเพียงคนขั้นจินเซียนขึ้นไปเท่านั้นถึงจะทำเช่นนางได้…
สาวน้อยที่อยู่เบื้องหน้าดูเหมือนอายุเพียงสิบสามสิบสี่ปี เหตุใดจึงฝึกฝนพลังยุทธ์ได้สูงส่งเช่นนี้?!
อีกทั้งเหตุใดหัวใจเขาจึงเต้นแรงเช่นนี้เมื่อเห็นท่าทางของนาง?
เมื่อสักครู่ที่ทั้งสองอยู่ในน้ำ ตอนคุณชายฝูอีนั่งอยู่ กู้ซีจิ่วแทบจะหมอบอยู่ในอ้อมกอดเขา ผิวหนังแนบชิดซึ่งกันและกันกึ่งหนึ่ง
ยามนี้เมื่อนางโผล่ศีรษะขึ้นมา ทั้งสองคนแทบจะประจันหน้า ได้ยินเสียงลมหายใจของกันและกัน
กู้ซีจิ่วที่นั่งยองตัวอยู่ใต้น้ำขาจึงมีอาการชาอยู่บ้าง เมื่อรีบร้อนลุกขึ้นยืนจึงโซเซเล็กน้อย เกือบจะกระโจนเข้าไปในอ้อมกอดของเขา! เมื่อรีบใช้มือเข้าประคอง ผลคือประคองไปโดนยอดถันของเขาเข้าพอดิบพอดี…
คุณชายฝูอีแทบจะดึงมือของนางออกโดยสัญชาตญาณ เมื่อกู้ซีจิ่วไม่มีที่ค้ำยัน ร่างกายจึงโน้มไปด้านหน้า กระโจนตรงไปในอ้อมกอดเขา ใบหน้าพริ้มเพราชนเข้ากับหน้าของเขาทันที
เขายังคงสวมหน้ากาก ดังนั้นใบหน้านุ่มนิ่มอันเรียบลื่นของกู้ซีจิ่วจึงกึ่งแนบไปบนหน้ากากของเขา
หากเพียงเท่านี้ก็ช่างเถิด ทว่าที่สำคัญคือริมฝีปากของเธอก็กระทบเข้ากับริมฝีปากของเขาเช่นกัน…
ทั้งสองคนต่างชะงักงัน กู้ซีจิ่วรีบถอยหลังแล้วเงยหน้าขึ้น
———————————————————————–
บทที่ 1940 ร่วมผ้าห่ม 2
“สาวน้อย เจ้าเอาเปรียบคุณชายอย่างข้า!” คุณชายฝูอีเดาะปากตนเบาๆ
กู้ซีจิ่วถูกคำว่า ‘สาวน้อย’ ของเขาทำให้ร่างกายหนาวสะท้าน!
เจ้าเด็กนี่เต็มที่ก็อายุสิบเจ็ดสิบแปดเท่านั้น ทว่าเธออายุกว่าสองร้อยปีแล้ว พอที่จะเป็นย่าของเขาได้อย่างถมถืด!
กู้ซีจิ่วกระแอมเบาๆ “หนุ่มน้อย เจ้าคิดมากไปแล้ว! เป็นอุบัติเหตุ อุบัติเหตุเท่านั้น”
ขณะที่เธอลุกขึ้นหมายจะกระโดดออกจากถังอาบน้ำ มือข้างหนึ่งของคุณชายฝูอีก็กดไหล่เธอไว้ “ข้าผู้เป็นคุณชายจะขึ้นแล้ว เจ้าอาบต่อให้ดีๆ เถิด กลีบบุปผานี้กำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ และกำจัดกลิ่นยางไม้บนร่างเจ้าได้”
กู้ซีจิ่วเงียบงัน
เอาเถอะ เห็นแก่ที่เขาช่วยเธอไว้ครั้งหนึ่ง ผู้ใหญ่อย่างเธอจะไม่ถือสาหาความกับเด็กน้อยแล้วกัน
ดังนั้นกู้ซีจิ่วจึงชำระร่างกายตนอยู่ในน้ำสักหน่อย ยังคงสวมเสื้อผ้าอยู่ แช่น้ำต่ออีกพักหนึ่ง
คุณชายฝูอียกเท้าก้าวออกไป
ขณะที่ก้าวออกไป นิ้วมือเขาก็จรดมุทรา ชี้ใส่ร่างคราหนึ่ง…
แสงสีขาววาบผ่าน เขาสวมอาภรณ์ที่แห้งสนิทชุดหนึ่งแล้ว เป็นเด็กหนุ่มผู้สง่างามอีกครั้ง
ไม่รู้ว่าเขาหยิบอาภรณ์ออกมาจากไหนอีกชุดหนึ่ง วางไว้บนม้านั่งริมถังอาบน้ำ “ถ้าเจ้าอาบเสร็จแล้ว ก็เปลี่ยนมันซะ”
เด็กคนนี้คิดได้รอบคอบนัก!
ถึงแม้เด็กคนนี้จะปากคอเราะราย ทว่าเด็กหนุ่มก็มีน้ำใจช่วยเหลือคนอื่น สมกับที่เป็นศิษย์พี่ของพวกซือชิง ใส่ใจผู้อื่นยิ่งนัก
กู้ซีจิ่วชมเชยเขาอยู่ในใจ และกล่าวขอบคุณอย่างจริงใจยิ่ง
เพียงแต่เมื่อเธอมองดูเสื้อผ้าที่พับไว้อย่างเป็นระเบียบชุดนั้นแล้ว ก็มองออกว่าเป็นชุดบุรุษ ด้วยขนาดตัวของเธอในยามนี้เกรงว่าจะใส่ไม่ได้
“มีชุดสตรีหรือไม่? ที่เป็นขนาดของข้าน่ะ?” กู้ซีจิ่วก็ไม่ได้จัดเตรียมอาภรณ์สำหรับช่วงวัยเท่านี้มานานมากแล้ว
เธอคิดดูเล็กน้อย “ชุดศิษย์น้องหญิงของเจ้าก็ได้”
สายตาที่คุณชายฝูอีมองเธอค่อนข้างพิกลนิดๆ “คุณชายอย่างข้าไม่มีชุดของนาง และไม่มีรสนิยมแต่งหญิง มีเพียงชุดนี้ชุดเดียว และเป็นชุดที่ข้าเคยใส่แล้ว มิเช่นนั้นต่อให้ข้าทำลายมันก็จะไม่มอบให้เจ้าใส่”
กู้ซีจิ่วพูดไม่ออก ช่างเป็นเด็กน้อยที่จู้จี้เสียจริง! กู้ซีจิ่วไม่ต่อรองกับเขาต่อแล้ว
เมื่อเธออาบน้ำเสร็จ ร่างกายยังคงเปียกชุ่ม ไม่มีพลังวิญญาณ ย่อมใช้คาถาชำระล้างไม่ได้ แน่นอนว่าเธอสามารถใช้กำลังภายในทำให้เสื้อผ้ากับเส้นผมแห้งได้ แต่นั่นก็ค่อนข้างเสียเวลา
ดังนั้นการเปลี่ยนเสื้อผ้าแบบธรรมดาจึงมีประโยชน์ที่สุด
อีกอย่างเธอก็อยากสวมชุดผู้ชายปฏิบัติการ จะค่อนข้างสะดวกกว่า
เธอถามคุณชายฝูอีที่นั่งอยู่บนเก้าอี้อย่างคล้ายจะนั่งสมาธิอยู่ “หนุ่มน้อย เจ้าหลบออกไปสักครู่เถิด”
คุณชายฝูอีส่ายหน้าทันที “หากไม่เหนือไปจากความคาดหมาย ด้านนอกน่าจะมีคนจับตามองที่นี่อยู่ ขอเพียงคุณชายอย่างข้าออกไป ก็จะมีคนเข้ามาตรวจสอบทันที เจ้าไปเปลี่ยนบนเตียงได้”
ดูเหมือนเหตุผลนี้จะเข้าเค้ายิ่งนัก
กู้ซีจิ่วไม่พูดอะไรแล้ว เธอโคจรพลังยุทธ์ทันที ขับเคลื่อนกำลังภายใน เสื้อผ้าบนร่างเริ่มแห้งขึ้นด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า เนื่องจากการโคจรพลังยุทธ์ค่อนข้างรุนแรง เหนือศีรษะเธอจึงเหมือนครอบลังถึงเอาไว้ มีไอสีขาวผุดพรายขึ้นมา…
รอจนเสื้อผ้าบนร่างแห้งพอสมควรแล้ว เธอถึงลืมตาขึ้น พบว่าคุณชายฝูอีผู้นั้นกำลังจ้องมองเธออยู่ นัยน์ตาโชนแสงเล็กน้อย
เด็กคนนี้น่าจะไม่เห็นคนใช้กำลังภายในมาก่อนกระมัง? ถึงอย่างไรผู้คนของแผ่นดินนี้ก็ล้วนฝึกฝนพลังวิญญาณ…
กู้ซีจิ่วไม่สนใจเขาอีก เริ่มจัดการเสื้อผ้าชุดนั้น
เสื้อคลุมทั้งยาวทั้งใหญ่เกินไป เธอจึงต้องตัดให้สั้นและเล็กลงสักหน่อย
โชคดีที่เธอพกข้าวของจำพวกกรรไกรมาด้วย เธอจึงไม่หนักใจ
คุณชายฝูอีมองดูเธอยุ่งง่วนอยู่ด้านข้างอย่างเงียบๆ ผ่านไปพักหนึ่งจู่ๆ ก็ถามว่า “เจ้าคือผู้ที่ข้ามภพมากระมัง?”
————————————–