ลำนำบุปผาพิษ - บทที่ 1957+1958
บทที่ 1957 เมื่อไหร่เจ้าจะฉลาดขึ้นสักที?
“เนี่ยนโม่ ผู้บงการของที่นี่สรุปแล้วเป็นผู้ใดกัน?” อวี่หังเจินเหรินไม่ได้เห็นเจ้าวังน้อย ยามนี้จึงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม
“เป็นสตรีนางหนึ่ง ชมชอบแต่งกายเยี่ยงบุรุษ ระดับบำเพ็ญน่าจะหลักพันปี พลังยุทธ์ขั้นจินเซียน เชี่ยวชาญศาตร์การหลอมโอสถ มนุษย์ครึ่งสัตว์ในสังกัดนางเหล่านี้มิใช่สัตว์จริงๆ แต่กินโอสถพิสดารบางอย่างของนางเข้าไปจึงกลายเป็นคนก็ไม่ใช่สัตว์ก็ไม่เชิงเช่นนี้…นางจับตัวเด็กๆ มาเพื่อหลอมเป็นโอสถเพิ่มพูมพลังยุทธ์ให้แก่คนผู้หนึ่งอย่างรวดเร็ว…” เสินเนี่ยนโม่รายงานข้อมูลที่ตอนได้รับออกมา
อวี่หังเจินเหรินขมวดคิ้วแล้ว “แล้วสตรีนางนี้เล่า?”
“มุดเข้าทางลับสายนี้ หลบหนีไปแล้ว”
ชิงหลัวกระทืบเท้าทันที “แย่จริง หญิงสารเลวเช่นนี้ทำไมถึงปล่อยให้นางหนีรอดไปได้?! ทำไมไม่ไล่ตามไปล่ะ?! รีบตามไปสิ! รีบตาม!”
นางพลันเขย่งกาย กระโจนเข้าไปในโพรงนั้น
กู้ซีจิ่วไม่ทันมีปฏิกิริยาอะไร
เสินเนี่ยนโม่หน้าเปลี่ยนสีนิดๆ “ก่อเรื่องแล้ว!” ก่อนพลันสะบัดแขนเสื้อ ผ้าแพรสายหนึ่งยืดตามเข้าไปปานกระแสไฟฟ้า…
“อ๊า…” ทันใดนั้นเสียงกรีดร้องของชิงหลัวก็แว่วขึ้นในโพรง เกิดเสียงดังฟึ่บ ร่างของนางถูกแสงสีม่วงสายหนึ่งรั้งกลับมา หวิดจะชนถูกร่างซือชิงแล้ว
ซือชิงรีบพยุงนางไว้ สุดท้ายก็ทำให้นางยืนมั่นได้
ชิงหลัวอกสั่นขวัญแขวน ช้อนตามองเสินเนี่ยนโม่ “ศิษย์พี่ใหญ่? ท่าน…”
นางย่อมมองเห็นว่าเป็นแขนเสื้อของเสินเนี่ยนโม่ที่ลากนางกลับมา
“โง่!” เสินเนี่ยนโม่เอ่ยออกมาอย่างไม่เกรงใจ “สถานที่เช่นนี้เจ้าผลีผลามบุกเข้าไปได้หรือ?! เมื่อไหร่เจ้าจะฉลาดขึ้นสักที?!”
ชิงหลัวถูกเขาดุด่าก็หดกายเล็กน้อย เพียงแต่ยังไม่ยอมรับ “หญิงนางนั้นหนีเข้าไปในนี้ พวกเราก็สมควรจะตามไปนี่ อีกอย่างข้าก็ไม่เห็นว่าในโพรงจะมีอะไรเลย…”
เมื่อนางกล่าวมาถึงตรงนี้ จู่ๆ ลิ้นก็แข็งทื่ออยู่บ้าง อดไม่ได้ที่จะเลียริมฝีปากดู รู้สึกว่าริมฝีปากของตนหวานล้ำปานน้ำผึ้ง ด้วยเหตุนี้จึงเลียอีกครั้ง แล้วก็อีกครั้ง..
หยุดเลียไม่ได้เลย!
นางรู้สึกคล้ายว่าตนกำลังสูบฝิ่นอยู่ ราวกับมีมือเล็กๆ ที่มองไม่เห็นข้างหนึ่งยื่นออกมาจากลำคอ ต้องการให้นางกลืนกินริมฝีปากของตนลงไป!
นั่นเป็นความปรารถนาที่พิสดารประการหนึ่ง เป็นความปรารถนาที่บ้าบิ่น! ถึงขั้นที่โยนสตินึกคิดทิ้งไปแล้ว นางอ้าปากขบกัดริมฝีปากของตน…
“อย่ากัด!” ทันใดนั้นกู้ซีจิ่วที่อยู่ด้านข้างพลันโบกแขนเสื้อใส่ ลำแสงสีรุ้งสายหนึ่งวาบเข้ามา ชิงหลัวขยับเขยื้อนไม่ได้แล้ว!
ทุกคนไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองไปชั่วขณะ มองไปที่กู้ซีจิ่วตามสัญชาตญาณ
สายตาของกู้ซีจิ่วร่อนลงบนร่างของชิงหลัว น้ำเสียงเยือกเย็น “นางถูกพิษแล้ว!”
ด้วยเหตุนี้ สายตาของทุกคนจึงตกลงบนร่างชิงหลัวอีกครั้ง
ชิงหลัวยืนทื่ออยู่ตรงนั้นปานเสาไม้ มีเพียงดวงตาเท่านั้นที่กลอกไปมาได้
ยามนี้ดวงหน้าของนางน่ามองยิ่งนัก พวงแก้มแดงเรื่อ เจือสีชมพูปานดอกท้อ ริมฝีปากสีสดใส สดปานดอกท้อที่ผลิแย้มท่ามกลางฝนพรำในช่วงเดือนสาม
เดิมทีชิงหลัวงามมากอยู่แล้ว ผิวพรรณก็ดียิ่ง อีกทั้งแสงของที่นี่ค่อนข้างสลัว ดังนั้นแรกเริ่มทุกคนจึงไม่ได้สังเกตเห็นความผิดปกติของนาง จวบจนกู้ซีจิ่วร้องเตือน…
ถึงแม้ว่าสีหน้าของชิงหลัวจะน่ามองนัก แต่เห็นได้ชัดว่านางทรมานยิ่ง ร่างกายสั่นสะท้านนิดๆ ในลำคอมีเสียงครวญครางเหมือนลูกสัตว์
เช่นนี้คือนางถูกพิษหรือ?
ด้านศาสตร์เคล็ดคาถาอวี่หังเจินเหรินเป็นเลิศก็จริง แต่ด้านวิชาพิษกลับไม่เอาอ่าว ลูกศิษย์ของเขาย่อมไม่ต่างไปจากเขามากนัก
เสินเนี่ยนโม่พอรู้อยู่บ้าง แต่ถึงอย่างไรก็ไม่ได้ศึกษาวิชาพิษอย่างเป็นกิจลักษณะ เขาแก้ได้เพียงพิษทั่วไปเท่านั้น แต่พิษของชังหลัวเขาก็ไม่เคยพบเห็นเช่นกัน
ด้วยเหตุนี้หลังจากทุกคนมองหน้ากันเหลอหลาแล้ว สายตาของทุกคนจึงหันเหไปที่ใบหน้าของกู้ซีจิ่วอีกครั้ง
————————————————————————–
บทที่ 1958 เจ้าบอกมา ข้าจะทำ
อวี่หังเจินเหรินมองกู้ซีจิ่วด้วยสีหน้าคาดหวัง “จ้งเซิง เจ้ารู้จักพิษชนิดนี้หรือไม่? ต้องแก้อย่างไร?”
กู้ซีจิ่วไม่ตอบ เดินวนรอบชิงหลัวรอบหนึ่ง กลางฝ่ามือปรากฏเข็มสีฟ้าสดใสหนึ่งเล่ม จากนั้นภายใต้สายตาหวาดหวั่นของชิงหลัว เข็มในมือเธอก็ทิ่มเข้าคอ แขน ท้ายทอย…แต่ละจุดทิ่มอยู่เจ็ดแปดครั้ง
เดิมทีร่างกายของชิงหลัวทรมานยิ่งนักคันคะเยอไปหมด อยากขบกัดอะไรสักอย่างจนแทบคลั่ง แต่หลังจากกู้ซีจิ่วฝังเข็มลงไปไม่กี่ครั้ง ความรู้สึกคันคะเยอยุบยิบไปถึงหัวใจก็บรรเทาลงเล็กน้อยแล้ว
นางอ้าปากสูดหายใจ มองกู้ซีจิ่ว ปรารถนาให้กู้ซีจิ่วทิ่มตนอีกหลายๆ เข็มยิ่งนัก!
ยามนี้เข็มเล่มนั้นในมือของกู้ซีจิ่วปลายเป็นสีแดงอมชมพูแล้ว มีเพียงก้นเข็มที่เธออยู่เท่านั้นที่ยังเป็นสีฟ้า
เธอดีดปลายนิ้วคราหนึ่ง เข็มเล่นนั้นพุ่งกระทบผนังถ้ำ หายไปไม่เห็นเงา
“นี้คือพิษงูดอกท้อหน้าผ่อง พิษนี้ติดต่อกันได้ ทุกคนอย่าได้สัมผัสถูกผิวส่วนใดๆ ของนาง!” กู้ซีจิ่วเอ่ยเสียงขรึม
สีหน้าทุกคนแปรเปลี่ยนแล้ว อวี่หังเจินเหรินก็ตะลึงไปแวบหนึ่งเช่นกัน “เช่นนั้นมีวิธีแก้พิษหรือไม่?”
“มี รอเดี๋ยว”
เรือนกายกู้ซีจิ่ววูบไหวทันใด ยามนี้ปรากฏตัวขึ้นข้างกายซือชิง เอ่ยไปว่า “ยื่นมือมา!”
ซือชิงค่อนข้างงุนงง “หา?”
“เจ้าก็ถูกพิษเหมือนกัน ถ้ายังไม่อยากตาย ก็ยื่นมือออกมาซะ!” เข็มสีฟ้าเล่มหนึ่งปรากฏขึ้นที่ปลายนิ้วกู้ซีจิ่วอีกครา
ซือชิงเชื่อถือเธอยิ่งนัก รีบยื่นมือทั้งสองข้างของตนออกมา เขามองกู้ซีจิ่ว ในใจตื่นเต้นเล็กน้อย
เทพธิดาจะถอนพิษให้เขา…
จู่ๆ เขาก็รู้สึกว่าอันที่จริงตนถูกพิษนี้เข้าก็ไม่เลวเลย มิเช่นนั้นเทพธิดาคงไม่เข้าใกล้เขาขนาดนี้
เขาค่อนข้างตื่นเต้นนิดๆ ขณะที่กู้ซีจิ่วกำลังจะลงมือ เสินเนี่ยนโม่ก็ก้าวเข้ามา “ข้าเอง!”
เขาฉวยเข็มเล่มนั้นไปจากมือของกู้ซีจิ่ว
“ไม่ได้ เจ้ารักษาไม่เป็น เขา…”
“ข้าทำเป็น” เสินเนี่ยนโม่เอ่ยขัดนาง เมื่อครู่เขาสังเกตยามที่กู้ซีจิ่วลงเข็มดูแล้ว และจดจำได้ชัดเจนนัก
ให้เขาฝังเข็มช่วยเหลือคนก็น่าจะไม่ด้อยไปกว่ากู้ซีจิ่ว
กู้ซีจิ่วคล้ายจะเข้าใจอะไรขึ้นมาแล้ว “เขาได้รับผ่านการสัมผัส วิธีรักษาแตกต่างไปจากศิษย์น้องหญิงของเจ้า ต่อให้เจ้าจดจำขั้นตอนเมื่อครู่ของข้าได้ก็ใช้ไม่ได้หรอก ยังคงให้ข้า…”
“เจ้าบอกมา ข้าจะทำ” เสินเนี่ยนโม่ไม่ยอมถอย
กู้ซีจิ่วพูดไม่ออกเลย
กู้ซีจิ่วไม่ค่อยเข้าใจว่าเจ้าเด็กนี่เป็นบ้าอะไรขึ้นมา แต่ตอนนี้ก็ไม่ใช่เวลามาถกเถียงเรื่องพวกนี้กัน เธอรีบบอกขั้นตอนทันที จากนั้นก็เฝ้ามองเสินเนี่ยนโม่
ต้องบอกเลยว่าเสินเนี่ยนโม่เป็นอัจฉริยะโดยแท้ เขาฝังเข็มตามที่กู้ซีจิ่วบอก เขาสามารถจับจุดของวิธีฝังเข็มที่ซับซ้อนได้ ลื่นไหลดั่งเมฆาเคลื่อนคล้อยธาราไหลริน
ผ่านไปครู่หนึ่ง เมื่อฝังเข็มเสร็จ พิษในร่างของซือชิงก็ถูกระงับไว้แล้ว
อวี่หังเจินเหรินมองศิษย์รักทั้งสอง จากนั้นก็มองกู้ซีจิ่ว “เช่นนี้คือแก้พิษได้แล้วหรือ?”
กู้ซีจิ่วส่ายหน้า “ยังหรอก แค่ระงับพิษในร่างของพวกเขาไว้เท่านั้น หากตามหายาถอนพิษให้พบภายในหนึ่งวันไม่ได้ เขาจะถูกพิษกัดกินร่างจนสิ้นชีพอยู่ดี”
“เช่นนั้นยาถอนพิษคืออะไร? ตามหาได้ที่ไหน?”
กู้ซีจิ่วไม่พูดไม่จา ไม่ทราบว่าล้วงถุงกระสอบสองใบออกมาจากไหน ยัดซือชิงกับชิงหลัวเข้าไปในกระสอบแต่ละใบ กล่าวกับอวี่หังเจินเหรินที่งงงันปานมีน้ำเข้าสมอง “เจินเหริน ท่านพาพวกเขาทั้งออกไปเถอะ หาโรงเตี๊ยมในละแวกนี้พักก่อน แล้วนำพวกเขาแช่ไว้ในถังน้ำแข็งสองใบ ถ้าข้าหายาถอนพิษพบแล้วจะนำกลับไปส่งมอบให้พวกท่าน”
ไม่รอให้คนอื่นได้พูดอะไร เธอพลันเขย่งร่างกระโจนเข้าไปในอุโมงค์อันมืดมิดสายนั้นแล้ว
จะช่วยคนได้ไหมก็ละไว้ก่อนเถิด พิษนี้พบเห็นได้ยากยิ่งนัก โดยเฉพาะงูชนิดนั้น…
ทุกคนตะลึงงัน เมื่อครู่ชิงหลัวเข้าไปเพียงครู่เดียวก็ถูกพิษแล้ว ซ้ำยังเป็นพิษที่รุนแรงวิปริตถึงเพียงนี้อีก!
——————————————–