ลำนำบุปผาพิษ - บทที่ 2240+2241
บทที่ 2240 นายท่านพอใจก็ดีแล้วขอรับ”
“เฮอะ หากว่าเขากลับเข้าเมืองผู้ทรงศักดิ์อย่างข้าจะไม่รู้เชียวหรือ? อย่าว่าแต่พักโรงเตี๊ยมเลย ต่อให้เขาซุกอยู่ในเรือนง่อยๆ พวกนั้น ผีเสื้อโลหิตของข้าก็รับรู้ถึงเขาได้!”
เด็กหนุ่มคนนั้นก้มหน้าลง
“ขอรับ! บางทีผีเสื้อโลหิตตัวนี้อาจจะมีข้อบกพร่องอยู่ ข้าน้อยจะสร้างให้นายท่านอีกตัว ลองหาดูอีกครั้ง”
ชายชุดดำผู้นั้นเงียบงัน ชัดเจนว่าเป็นการยอมรับโดยปริยาย
เด็กหนุ่มคนนั้นเม้มปากนิดๆ ไม่รู้ว่าหยิบเข็มยาวแหลมคมเล่มหนึ่งออกมาจากไหน ท่อเข็มยาวกลวงเปล่า ส่องประกายยะเยือกพิสดารอยู่ใต้แสงจันทรา
เขาจรดนิ่วร่ายอาคม ตวัดมือแทงเข็มยาวเข้าไปในหัวใจตน…
จากนั้นก็ค่อยๆ บิดหมุน เข็มยาวจมเข้าไปทีละชุ่นๆ จากนั้นก็หยุดนิ่ง มีโลหิตผุดออกมาจากเข็มยาว
อีกทั้งภายในโลหิตเข้มข้นนี้เจือสีทองจางๆ เอาไว้ด้วย หยดลงบนฝ่ามือเด็กหนุ่มคนนั้น กลิ้งวนดั่งมุกโลหิต
เห็นได้ชัดว่าวิชานี้เจ็บปวดทุกข์ทรมานเป็นที่สุด เด็กหนุ่มผู้นั้นหน้าซีดเผือด ตรงขมับมีหยาดเหงื่อเย็นเฉียบไหลย้อยไม่ขาดสาย ริมฝีปากแดงเรื่อก็เม้มจนซีดขาวแล้ว
โลหิตสดผุดออกมาจากเข็มยาวสิบหยด เด็กหนุ่มคนนั้นถึงได้ดึงเข็มยาวออกจากหัวใจตน ประคองโลหิตในฝ่ามือไว้ เทินสูงเหนือยอดศีรษะ
“นายท่าน โปรดหยดเลือดของท่านใส่เถิด”
ชายชุดผู้นั้นยื่นปลายนิ้วขาวกระจ่างออกมา โคจรพลังเล็กน้อย รีดเค้นโลหิตหยดหนึ่งออกมา ผสมเข้ากับโลหิตในฝ่ามือเด็กหนุ่ม
เด็กหนุ่มผู้นั้นหลุบตาร่ายอาคม ปลายนิ้วมีแสงสีครามอ่อนจางพัวพันอยู่ โอบล้อมโลหิตกลางฝ่ามือให้หมุนวน
แสงสีแดงกลุ่มหนึ่งพุ่งขึ้นมาจากฝ่ามือเข่า ครอบคลุมฝ่ามือของเขาไว้
เด็กหนุ่มผู้นั้นปานถูกไฟลวก ใบหน้าพริ้มเพราที่เพิ่งมีสีเลือดมาเล็กน้อยซีดเผือดลงอีกครั้ง ปลายนิ้วสั่นสะท้านอย่างไม่อาจควบคุมได้
หลังจากแสงสีแดงเลือนหายไป กลางฝ่ามือเขาก็ปรากฏดักแด้ตัวหนึ่งขึ้น
เขาส่งดักแด้นี้ถึงมือชายชุดดำอย่างนอบน้อม ชายชุดดำรับไป ร่ายอาคมครู่หนึ่ง กักขังดักแด้นี้ไว้ในฝ่ามือตน เคลื่อนพลังไปที่ฝ่ามือเพื่อเร่งปฏิกิริยา ดักแด้นั้นปริแยกออกด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ผีเสื้อโลหิตตัวหนึ่งคลานต้วมเตี้ยมออกมาจากด้านใน กางปีกสีโลหิตอยู่บนฝ่ามือเขา งดงามอย่างยิ่ง
ชายชุดดำพอใจ ปลายนิ้วสัมผัสหนวดของผีเสื้อโลหิตตัวนั้นเบาๆ ในน้ำเสียงคล้ายเจือแววยิ้มหัวไว้รางๆ
“เตี๋ยเอ๋อร์ ผีเสื้อโลหิตที่เจ้าสร้างหนนี้ไม่เลวเลย”
เด็กหนุ่มคนนั้นโล่งใจ
“นายท่านพอใจก็ดีแล้วขอรับ”
เขาสิ้นเปลืองพลังไปมากโข เมื่อสร้างผีเสื้อโลหิตตัวนี้ขึ้นก็คล้ายว่าจะยืนไม่ค่อยอยู่แล้ว
ชายชุดดำดีดยาลูกกลอนสีครามอ่อนเม็ดหนึ่งให้เขา
“รางวัลของเจ้า”
“ขอบพระคุณนายท่าน”
เด็กหนุ่มนามเตี๋ยเอ๋อร์รับโอสถไปกิน ผ่านไปครู่หนึ่ง สีหน้าของเขาก็ดูดีขึ้นมาระดับหนึ่งแล้ว
ชายชุดดำปล่อยผีเสื้อโลหิตตัวใหม่ให้โผบินไปในอากาศ
“เพิ่มคนไปเพิ่ม ตามหาต่อไป! จะปล่อยให้เขาไปจากแดนอสุราแห่งนี้อย่างมีชีวิตไม่ได้เด็ดขาด!”
“ขอรับ”
เด็กหนุ่มผู้นั้นรับคำ เป่านกหวีดเสียงหวีดหวิว ในเสียงที่ทุ้มต่ำนั้นแฝงเสียงก้องสะท้อนเอาไว้ด้วย แว่วกระจายไปไกล
ผ่านไปครู่หนึ่ง มีเสียงคล้ายคลึงกับเสียงหมาป่าหอนแว่วมาไกลๆ จากทางโน้นบ้างทางนี้บ้าง เห็นได้ชัดว่าเป็นการตอบรับเด็กหนุ่มผู้นี้
“นายท่าน พวกทาสหมาป่าได้รับคำสั่งแล้ว พวกมันจะออกค้นหาตามพงไพรในระยะหลายร้อยลี้นี้ ต่อให้คุณชายฝูอีผู้นั้นจะซุกอยู่ในรูหนู ก็สามารถควานตัวเขาออกมาได้!”
เด็กหนุ่มรายงานอย่างมั่นอกมั่นใจ
ชายชุดดำถึงได้พยักหน้ารับ
“บอกพวกมัน พยายามจับเป็นให้ได้ พื้นฐานกระดูกของคนผู้นี้พิเศษ ใช้เป็นเตาหลอมมนุษย์จะได้ผลลัพธ์น่าอัศจรรย์เป็นที่สุด”
เด็กหนุ่มตอบรับ ส่งคลื่นเสียงสั่งการออกไปอีกครั้ง
“คาดไม่ถึงเลยว่าคุณชายฝูอีผู้นี้จะจับผลัดจับผลูเข้ามาถึงถิ่นของพวกเรา นี่ช่างเป็นทางสวรรค์มีทว่าเขาไม่เดิน นรกไร้ประตูเขากลับบุกเข้ามาเสียได้ ครั้งนี้จะต้องจับเขาให้ได้ ล้างแค้นที่ถูกทำลายตำหนักพฤกษาในครั้งนั้น!”
————————————————————————————-
บทที่ 2241 นางคือเกล็ดย้อนของข้า
เด็กหนุ่มกำหมัด แววตาอำมหิต
นัยน์ตาชายชุดดำพลันหยีโค้ง
“หลังจากจับเขาได้ ข้าจะมอบให้เจ้าก่อนเลย ให้เจ้าได้ทรมานเขาระบายแค้น เป็นอย่างไร?”
“ขอบพระคุณนายท่าน!”
เด็กหนุ่มค้อมกาย
ชายชุดดำหัวเราะเบาๆ
“ไม่จำเป็นต้องเกรงใจข้าหรอก เตี๋ยอ๋อร์ เจ้าเป็นคนสนิทของข้า ข้าก็ไว้ใจให้ค่ากับเจ้าเสมอมา ขอเพียงเจ้าจัดการเรื่องราวให้ดี ข้าไม่มีทางปฏิบัติต่อเจ้าอย่างเลวร้าย”
ในดวงตาเด็กหนุ่มคนนั้นทอแสงเจิดจ้า
“ขอรับ!”
เสียงตอบรับในครั้งนี้แจ่มใสขึ้นมากนัก
“อืม ไปเถอะ”
ชายชุดดำโบกมือ
เด็กหนุ่มผู้นั้นรับคำ พลันหมุนกายทว่าก่อนจะจากไปคล้ายจะนึกอะไรขึ้นได้ ค้อมกายสอบถาม
“นายท่าน ข้าน้อยได้ตรวจสอบแล้ว การถล่มตำหนักพฤกษาในครั้งนั้น กู้ซีจิ่วผู้นี้ได้จำแลงกายเป็นเด็กหญิงนามจ้งเซิง แทรกซึมกับคนของตำหนักพฤกษา ตอนอยู่ที่ดินแดนเบื้องบนพลังยุทธ์ของนางสูงส่งยิ่ง มาที่นี่แล้วพลังยุทธ์สูญสิ้นไปมากมายเช่นนี้ช่างพบได้ยากนัก ซ้ำยังความจำเสื่อม พวกเราฉวยโอกาสจับตัวนางด้วยเลยไหมขอรับ? จากนั้นก็นำมาทำเตาหลอมมนุษย์ จะต้อง…”
เขาพูดยังไม่จบ แสงสีดำสายหนึ่งก็วาบเข้าที่พวงแก้มเขา เสียงดังเพียะ!
เด็กหนุ่มคนนั้นถูกตบบ้องหูโดยไม่ทันตั้งตัวเช่นนี้ จึงหมุนคว้างเป็นวงอยู่ที่เดิม ยามที่ตั้งหลักได้อีกครั้ง มุมปากก็มีโลหิตไหลซึมออกมา
น้ำเสียงของชายชุดดำมืดมนวังเวงปานแว่วมาจากปรโลก
“ข้าเคยบอกเจ้าไปนานแล้ว ห้ามแตะต้องนางเด็ดขาด! ถ้าเจ้ากล้าแตะต้องนางแม้เพียงเส้นขน ข้าจะเอาชีวิตเจ้า!”
เด็กหนุ่มผู้นั้นคุกเข่าลงในแอ่งโคลน สภาพน่าเวทนา ตอบรับเสียงแผ่ว
“ขอรับ!”
“จำไว้ นางคือเกล็ดย้อนของข้า ถ้าเจ้ากล้าแตะต้องนาง ข้าจะทำให้เจ้าอยู่มิสู้ตาย!”
“ข้าน้อยมิกล้าแล้ว”
ชายชุดดำไม่มองเขาอีก พลันหันหลัง จากไปทันที
เด็กหนุ่มชุดเขียวยังนั่งอยู่ตรงนั้นมิได้ลุกขึ้น สองมือที่แนบอยู่ข้างกายกลับกำแน่นขึ้นมา…
กู้ซีจิ่ว…
ที่แท้นางทำบุญด้วยอะไรกันแน่? ถึงมีชัยเหนือนายท่านได้รับการปฏิบัติด้วยอย่างทะนุถนอมเช่นนี้?!
น่าเสียดายที่ไม่พบหญิงผู้นี้แต่เนิ่นๆ มิเช่นนั้นถ้ากำจัดนางอย่างเทพไม่รู้ผีไม่เห็นไปตั้งแต่แรกก็คงดี…
….
หลังจากกู้ซีจิ่วเคลื่อนย้ายกลับมาที่เมืองอีกครั้ง ก็ใกล้ถึงยามรุ่งสางแล้ว
เรื่องแรกที่ทำหลังจากกลับมาก็คือไปดูในห้องของตี้ฝูอี
ภายในห้องยังคงเป็นเช่นเดิม ตอนเธอจากไปเป็นอย่างไรก็ยังคงเป็นอย่างนั้น ไม่เปลี่ยนแปลงเลยสักนิด
ชัดเจนยิ่งนัก เจ้าของที่นี่ไม่เคยกลับมาเลย!
ความผิดหวังปานระลอกคลื่น ถาโถมหนักหน่วงอยู่ในใจ
เขาไม่คิดจะกลับมาแล้ว หรือว่าประสบอุบัติเหตุอันใด?
ฝ่าเท้าของของเธออ่อนยวบอยู่บ้าง จึงนั่งลงบนเก้าอี้ตัวหนึ่งเสียเลย
ถึงอย่างไรก็ตากฝนอยู่ครึ่งค่อนคืน เสื้อผ้าบนร่างเปียกโชกไปหมด ตัวเสมือนถูกงมขึ้นมาจากน้ำ แม้แต่เส้นผมก็เปียกชุ่มไปหมด ลีบติดหนังศีรษะ น้ำเกาะอยู่ทั่วร่าง หยดลงบนพรมใต้ฝ่าเท้า
เธอมองไปรอบๆ ห้องนี้เก็บกวาดสะอาดเอี่ยมยิ่ง เนื่องจากเช่าไว้พักชั่วคราว ภายในห้องจึงมีข้าวของของเขาอยู่น้อยยิ่ง มีเพียงเครื่องนอนบนเตียงเท่านั้น
ตี้ฝูอีเป็นโรครักสะอาด ไม่ชอบนอนบนเครื่องนอนที่ผู้อื่นจัดเตรียมให้ ดังนั้นไม่ว่าเขาจะไปที่ไหน ต้องพกชุดเครื่องนอนสารพัดสีสันติดตัวไปด้วยเสมอ เครื่องนอนในห้องนี้ก็เป็นของที่เขาพกมาเช่นกัน
อ่อนนุ่มสะอาดเอี่ยม นุ่นเนียนดุจเส้นไหม
ถึงอย่างไรกู้ซีจิ่วอิงแอบแนบชิดกับเขาอยู่หลายวัน ทราบถึงนิสัยของเขา หากว่าเขาไม่คิดจะนอนที่ใดต่อแล้ว จะต้องเก็บเครื่องนอนของตนไปด้วยแน่นอน
มาตรว่าสกปรกแล้วเขาก็จะทำลายทิ้ง และไม่ยกให้ผู้ใด จู้จี้จุกจิกเหนือธรรมดา
ตอนนี้เครื่องนอนของเขายังอยู่ที่นี่ ต่อให้เขาไม่คิดจะพักที่นี่แล้ว ก็น่าจะเอาเครื่องนอนที่นี่ไปด้วยกระมัง?
เมื่อเป็นเช่นนี้ ขอเพียงเขาไม่ประสบเหตุ จะต้องกลับมาที่นี่ในไม่ช้าก็เร็ว อาจจะพักต่อ หรือไม่ก็เก็บเครื่องนอนแล้วจากไป!