CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

ลำนำยอดหญิงจอมพิษ - บทที่ 242 หลักฐานที่ซ่อนไว้

  1. Home
  2. ลำนำยอดหญิงจอมพิษ
  3. บทที่ 242 หลักฐานที่ซ่อนไว้
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

จุดประสงค์ของจวินฉีเซิ่ง มิได้ต้องการให้ขับไล่ภูตผีปีศาจ แต่มิรู้ว่าเพราะเหตุใด วินาทีที่จวินหวาเทียนปรากฏกายขึ้นตรงนี้ และกล่าวถึงเรื่องราวเหล่านั้นออกมา เขากลับค่อนข้างเชื่อ อีกทั้งยังกล่าวคำเช่นนั้นออกมาโดยมิรู้ตัว หากเป็นตัวเขาในก่อนหน้า คงจะมิเอ่ยวาจาเช่นนี้อย่างแน่นอน

จวินหวาเทียนยิ้มขึ้นบางเบา กล่าวว่า “เมื่อไรที่ชะตานั้นกลับคืน ทุกอย่างก็จะเรียบร้อย”

“เจ้าหมายความว่า หากว่าหลิ่วกุ้ยเหรินตายไป ทุกสิ่งอย่างก็จะจบสิ้น?”

จวินฉีเซิ่งพยักหน้าเล็กน้อย ตอบว่า “กระหม่อมหมายความตามนั้นพ่ะย่ะค่ะ”

น่าเสียดายที่บัดนี้มู่หรงอี๋ยังมิตาย

จวินฉีเซิ่งมิรู้ว่ามู่หรงอี๋ยังมีชีวิตอยู่ ดังนั้นจึงถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก หลังจากสนทนากับจวินหวาเทียนอยู่อีกสองสามประโยค ก็ได้รับสั่งให้คนส่งจวินหวาเทียนกลับไป

ตอนที่กู้ชิวเหลิ่งรู้ว่าจวินหวาเทียนได้พบกับจวินฉีเซิ่งนั้นก็กินเวลาไปกว่าชั่วโมงแล้ว นางแอบเช็ดเหงื่อแทนจวินหวาเทียน หวังว่าจวินฉีเซิ่งจะมองมิออกถึงตัวตนอันแท้จริงของจวินหวาเทียน

แต่เมื่อคิดดูอีกที เวลาก็ผ่านไปสี่ปีกว่าแล้ว บางทีจวินฉีเซิ่งอาจคิดมิถึงว่าจวินหวาเทียนยังมีชีวิตอยู่ และยังกลับมายังพระราชวังเพื่อแก้แค้นเขา

อวี้ฉือจ้านโอบกอดกู้ชิวเหลิ่งจากทางด้านหลัง เขาเอ่ยถามว่า “เจ้าคิดเรื่องใดอยู่กัน?”

กู้ชิวเหลิ่งหันไปมองดูทางฟากฟ้า ตอบว่า “ข้ากำลังคิดว่า ข่าวนั้นส่งไปยังเหมียวเจียงแล้วหรือไม่”

“เรื่องที่วี่เฟยสิ้นใจ? หรือเรื่องจดหมายที่เขียนโดยวี่เฟย?”

“ทั้งสองเรื่อง”

เหมียวเจียงเป็นชนเผ่าที่เก่าแก่ที่สุด ที่แห่งนี้มีเรื่องราวเกี่ยวกับมนตรามากมายเท่าไร นางเองก็มิได้รู้เรื่องเหล่านี้เท่าไรนัก เกรงว่าแม้แต่เซียนพิษเมิ่งจิ่วเองก็มิรู้ แต่ที่แห่งนี้มียาพิษที่ทำให้จวินฉีเซิ่งต้องตายทั้งเป็นได้อย่างแน่นอน

กู้ชิวเหลิ่งเพียงหวังว่าวินาทีนี้จะมาเร็วสักหน่อย เร็วเท่าไรยิ่งดี

ในวันที่มู่หรงอี๋ถูกกักตัวเอาไว้ในวันที่ห้า และเป็นวันฝังศพของฉินเฟยกับวี่เฟย ฉินเฟยถูกจัดงานให้ตามตำแหน่งของกุ้ยเฟย วี่เฟยก็เช่นกัน ในวันนี้ทั่วแคว้นต่างพากันไว้อาลัย นี่เป็นครั้งแรกที่พระราชวังหลวงมีพระสนมสิ้นใจในระยะเวลาใกล้เคียงกันถึงสามคน

จวินฉีเซิ่งใจดำโหดร้ายเพียงใด กู้ชิวเหลิ่งรู้และเคยเห็นมัน

เมื่อกู้ชิวเหลิ่งสวมชุดสีขาวเดินตรงเข้ามาในตำหนักเย็น มู่หรงอี๋ดูหมดเรี่ยวแรง มิมีวี่แววของหญิงงามแม้แต่น้อย แม้นางจะอายุเพียงยี่สิบกว่าปี แต่มองไปราวกับหญิงบ้าอายุสามสี่สิบปี

กู้ชิวเหลิ่งนั่งยองๆ ลงที่พื้น นางมองไปยังท่าทางของมู่หรงอี๋แล้วกล่าวเบาๆ ว่า “นี่เพิ่งจะกี่วันเท่านั้น เจ้ากลัวแล้วหรือ? เหตุใดเล่า เจ้ามิอยากส่องกระจกดูสภาพตนเองหน่อยหรือไร?”

“เจ้า……เจ้าอย่าได้เข้ามา! จงออกไป!”

น้ำเสียงของมู่หรงอี๋แหบแห้งมิน่าฟัง น้ำเสียงนี้มิอาจดังออกไปด้านนอกตำหนักเย็นได้

กู้ชิวเหลิ่งหัวเราะขึ้นกล่าวว่า “มู่หรงอี๋ ด้วยความสามารถของเจ้าเพียงเท่านี้ ในตอนนั้นเจ้าแย่งชิงจวินฉีเซิ่งไปจากข้างกายข้าได้อย่างไร? เพียงแค่สี่ปีเท่านั้น ความเย่อหยิ่งของเจ้าเล่า?”

มู่หรงอี๋ราวกับมิได้ยิน หลายวันมานี้นางใช้ชีวิตมิแตกต่างจากหมูหมา ผู้ที่นำอาหารการกินมาให้หาใช่นางในและขันที แต่เป็นคนที่กู้ชิวเหลิ่งพาเข้ามา ในบัดนี้นางจึงได้รู้ว่า นับแต่แรกจนบัดนี้ ทุกสิ่งอย่างล้วนเป็นกู้ชิวเหลิ่งบงการอยู่เบื้องหลัง

“ยอดสาวงาม ใบหน้าที่เจ้าภูมิใจเป็นนักหนา บัดนี้ได้ถูกทำลายลงแล้ว บัดนี้สิ่งที่เจ้าทำได้นั่นก็คือเชื่อฟังข้า เจ้าควรร่วมมือตอบคำถามข้าแต่โดยดี มิเช่นนั้น เจ้าคงมิอาจแม้แต่รักษาชีวิตไว้ได้ ข้ารับรองว่าเจ้าจะตายอย่างไร้ร่องรอย”

มู่หรงอี๋ร่างกายสั่นสะท้าน ก่อนหน้านี้สิ่งที่นางกลัวที่สุดก็คือมู่หรงชิว พี่สาวในสายเลือดคนนี้ แต่ต่อมานางมิได้เกรงกลัวอีก เพราะในตอนนั้นจวินฉีเซิ่งอันเป็นที่รักของมู่หรงชิวถูกนางแย่งไปได้ ดังนั้นนางจึงนำโอ้อวด ทว่าบัดนี้นางกลัวยิ่ง เพราะนางมิได้ทำให้ลูกของมู่หรงชิงต้องตาย แต่นางยังแย่งสามีของหล่อนมา ท้ายที่สุดได้ทำลายล้างตระกูลมู่หรงไปจนสิ้น

กู้ชิวเหลิ่งกล่าวอย่างไร้ความอดทนว่า “หากเจ้าฟังเข้าใจ จงพยักหน้า”

มู่หรงอี๋กัดฟันกรอด กู้ชิวเหลิ่งกล่าวว่า “สิ่งที่ข้าอยากถามเป็นอันดับแรก เจ้าทำลายตระกูลมู่หรงของข้าอย่างไร? ข้าต้องการให้เจ้ากล่าวตามความจริง หากเจ้าโกหกแม้แต่น้อยละก็ อย่าได้คิดเอานิ้วเท้าของเจ้าไว้เลย”

มู่หรงอี๋รีบกล่าวขึ้นว่า “เรื่องนี้มิได้เกี่ยวข้องกันกับข้า เป็นจวินฉีเซิ่ง! เขาสั่งให้ข้านำจดหมายฉบับที่ปลอมแปลงขึ้นมาไปวางไว้ ณ ตระกูลมู่หรง ข้าเพียงทำตามเท่านั้น ข้าเองก็เพิ่งรู้ว่าจดหมายปลอมแปลงฉบับนั้นคือหลักฐานในการทำร้ายหวาอ๋องกับตระกูลมู่หรง เรื่องนั้นข้าหารู้มิ!”

เดิมทีกู้ชิวเหลิ่งก็พอจะเดาได้อยู่บ้าง เพียงแต่ต้องการให้มู่หรงอี๋บอกอีกทีให้มั่นใจ

กู้ชิวเหลิ่งเลิกคิ้วขึ้นกล่าวว่า “มู่หรงอี๋ เจ้ากำลังท้าทายขีดจำกัดของข้าหรือ?”

มู่หรงอี๋ตกตะลึง น้ำเสียงสั่นคลอน “เจ้าว่าอย่างไร……”

“เจ้ารู้ความลับก้อนโตของจวินฉีเซิ่ง ในตอนนั้นเขาชื่นชอบเจ้า จึงมิได้ฆ่าเจ้า ทว่าหลายปีมานี้เขาก็ยังคงเป็นห่วงกังวลเจ้า แม้ข้าจะรู้ว่าเจ้าโง่เง่า แต่การที่สามารถทำให้จวินฉีเซิ่งเป็นห่วงเจ้าได้ถึงบัดนี้ เจ้าคงจะกุมความลับของเขาไว้อย่างแน่นอน และความลับนี้ส่งผลถึงตำแหน่งฮ่องเต้ของเขา ข้ากล่าวได้ถูกหรือไม่?”

ริมฝีปากของกู้ชิวเหลิ่งขาวซีด เอ่ยว่า “ข้า……”

“หากเจ้าโกหก ข้ารับรองว่าเจ้าจะมิเหลือนิ้วเท้าครบแน่นอน”

มู่หรงอี๋ให้ความสำคัญกับร่างกายของนางมาก ดังนั้นนางจึงกล่าวว่า “เจ้ากล่าวได้ถูกต้องแล้ว ข้ากุมความลับของเขาไว้ ในตอนนั้นที่จวินฉีเซิ่งจะทำเรื่องเหล่านี้ ดังนั้นข้าจึงได้หาทางหนีทีไล่เอาไว้ เพราะหากว่าไร้ซึ่งตระกูลมู่หรงไป ข้าเพียงลำพังมีตำแหน่งเพียงเก้ามิ่ง มิอาจกุมตำแหน่งฮองเฮาของราชวงศ์ใหม่ได้ ดังนั้น……ข้าจึงซ่อนจดหมายลับของจวินฉีเซิ่งกับหนานชางโหวเอาไว้ และเนื่องด้วยเหตุนี้ จวินฉีเซิ่งจึงมิกล้าฆ่าข้า”

ทว่าต่อมาหนางชางโหวสิ้นใจลง หลิ่วอี๋เหนียงก็สิ้นใจลงเช่นกัน นางจึงไร้ซึ่งประโยชน์ เนื่องจากจวินฉีเซิ่งพบว่ามู่หรงอี๋มิได้ซ่อนจดหมายลับนั้นไว้ในพระราชวังหลวง เป็นไปได้อย่างยิ่งว่านางจะซ่อนไว้ในจวนของหลิ่วอี๋เหนียง ดังนั้นหากสามารถหาจดหมายลับฉบับนั้นพบ มู่หรงอี๋ก็หมดสิ้นประโยชน์ไปโดยธรรมชาติ

เพียงแต่ว่า……

“เขามิอาจหามันพบอย่างแน่นอน หากมิใช่เพราะเจ้าและอวี้ฉือจ้านปรากฏตัวขึ้น เขาคงมิกล้าแตะต้องข้า”

มู่หรงอี๋กล่าวอย่างมั่นใจ กู้ชิวเหลิ่งรู้สึกสนใจขึ้นมาทันที นางกล่าวว่า “เช่นนั้นเจ้าจงบอกข้ามา จดหมายนั้นซ่อนอยู่ที่ใด?”

มู่หรงอี๋มิรู้ว่านำเอาความกล้าหาญมาจากที่ใด นางตอบว่า “หากเจ้าปล่อยข้าไป แล้วข้าจะบอกเจ้า!”

กู้ชิวเหลิ่งเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ตอบว่า “ข้าเกลียดผู้ที่ต่อรองกับข้าเป็นที่สุด”

กล่าวจบ กู้ชิวเหลิ่งก็ได้ตัดเท้าของมู่หรงอี๋ไปข้างหนึ่ง ท่าทางของนางนั้นดูคล่องแคล่ว มิได้ลังเลแม้แต่น้อย มู่หรงอี๋ถูกอุดปากเอาไว้แล้วยัดยาหยุดเลือดไปเม็ดหนึ่ง ตอนที่กู้เจินเดินตรงเข้ามา เขาก็ได้กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้ง

กู้ชิวเหลิ่งกล่าวขึ้นอย่างบางเบาว่า “ให้คนมาทำแผลนาง ระวัง อย่าให้นางตายไปเสียก่อน”

กู้เจินกล่าวว่า “เจ้าวางใจเถิด ข้าจะจัดการให้ดีเอง”

“อืม”

กู้เจินมองดูมู่หรงอี๋ที่อยู่บนพื้น นางนั้นก็คว้าข้อมือของกู้ชิวเหลิ่งเอาไว้ กู้ชิวเหลิ่งหัวเราะขึ้นอย่างสง่าว่า “มีสิ่งใดหรือ?”

กู้เจินหันไปมองดูกู้ชิวเหลิ่ง เอ่ยเตือนว่า “แขนเสื้อของเจ้าเปื้อนเลือดแล้ว”

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "บทที่ 242 หลักฐานที่ซ่อนไว้"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์