ลำนำยอดหญิงจอมพิษ - บทที่ 256 จับตามอง
ลำนำยอดหญิงจอมพิษ บทที่ 256 จับตามอง
เข่อเอ๋อร์ที่นำทางอยู่ด้านข้างก้มหน้าลงแล้วกล่าวว่า “ความสัมพันธ์ของเซียวโหวเย๋น้อยกับคุณหนูดียิ่งนัก”
กู้ชิวเหลิ่งหันไปมองเข่อเอ๋อร์แล้วถามว่า “เจ้าอยากจะกล่าวสิ่งใด?”
เข่อเอ๋อร์คุกเข่าลงพื้นทันที นางเอ่ยว่า “บ่าวมิได้มีความหมายอื่นเจ้าค่ะ เพียงแต่เซียวโหวเย๋น้อยกับท่านอ๋องเป็นสหายสนิทสนมกัน ส่วนคุณหนูกับท่านอ๋อง……”
“ข้ากับเขามิได้เกี่ยวข้องอย่างไรกัน เจ้าลุกขึ้นเดี๋ยวนี้”
กู้ชิวเหลิ่งมิได้หันไปเหลือบมองดูเข่อเอ๋อร์อีก นับตั้งแต่ครั้งแรกที่นางเห็นเข่อเอ๋อร์ ก็รู้ได้ทันทีว่าเข่อเอ๋อร์เป็นคนของฉู่สวินส่งมาคอยจับตามองดูนาง
แต่ตัวนางในตอนนี้ต่อให้ออกจากจวนฉู่อ๋องได้ เมืองหลวงแห่งนี้ก็เต็มไปด้วยคนของฉู่สวิน มิว่านางเดินทางไปที่ใด ข่าวคราวนั้นก็คงจะไปถึงหูของฉู่สวินได้
เข่อเอ๋อร์ก้มหน้าลงแล้วเดินตามกู้ชิวเหลิ่งไป นางรู้สึกเหลือเชื่อยิ่งนัก
หลายปีมานี้มีหญิงสาวมากมายที่ชื่นชอบเจ้านายของนาง แต่เจ้านายของนางกลับมิใกล้ชิดสนิทสนมกับสตรีคนใด ทั้งยังปฏิเสธหลีกเลี่ยงการแต่งงานที่ประทานให้โดยฮ่องเต้ กู้ชิวเหลิ่งเป็นสตรีคนแรกที่เจ้านายของนางพากลับมา ทว่าเมื่อครู่กู้ชิวเหลิ่งกลับบอกว่ามิได้เกี่ยวข้องอันใดกับเจ้านายของตน
เมื่อเข่อเอ๋อร์นึกถึงท่าทีอันห่วงใยของเจ้านายที่มีต่อกู้ชิวเหลิ่ง ก็มองออกว่าเจ้านายของตนนั้นมิได้เพียงเป็นห่วงเป็นใยกู้ชิวเหลิ่ง แต่แววตาเป็นเต็มไปด้วยความรักและชื่นชม
ทว่า……
เข่อเอ๋อร์มองไปทางกู้ชิวเหลิ่งใบหน้าของกู้ชิวเหลิ่งนั้นมิมีความเขินอายของหญิงสาวแม้แต่น้อย ต่อให้อยู่ตรงหน้าเซียวอวิ๋นเซิง การแสดงออกก็เป็นเพียงบางเบามิมีความผันผวน หรือว่ากู้ชิวเหลิ่งจะมิได้ชื่นชอบเจ้านายของตน?
เป็นไปได้อย่างไรกัน แม้ว่าเจ้านายของนางจะเป็นองค์ชายตัวประกัน แต่ในแคว้นเป่ยเขาก็ได้รับความนับถือเป็นอย่างสูง อีกทั้งเป็นที่โปรดปรานของฮ่องเต้ มีความสัมพันธ์อัน สนิทใกล้ชิดกับราชครู ในราชสำนักมีใครเล่าที่กล้าจะขัดใจ มีสตรีคนใดที่มิชื่นชอบเขา
ในขณะที่เข่อเอ๋อร์กำลังครุ่นคิดถึงความคิดในใจของกู้ชิวเหลิ่งอย่างงุนงง จู่ๆ ตรงหน้าก็มืดสนิท นางล้มลงทันที
เฉิงตู้ออกมาจากความมืด แล้วเอ่ยถามด้วยความงุนงง “คุณหนูขอรับ คุณหนูจะ……”
“แม่นางคนนี้เฉลียวฉลาดยิ่งนัก เมื่อตอนเช้าข้าสั่งให้เจ้าไปเก็บของ จัดเตรียมเรียบร้อยแล้วหรือไม่”
“จัดเตรียมไว้หมดแล้วขอรับ”
กู้ชิวเหลิ่งพยักหน้า “อาศัยช่วงที่องครักษ์ของจวนฉู่อ๋องมีมิมาก รีบเดินทางออกจากจวนฉู่อ๋องกันเถิด”
“แต่ว่า…… แต่ว่าก่อนหน้านี้ผู้ที่ยินดีจะเข้ามาในจวนพร้อมกับฉู่สวินก็คือตัวท่านเอง……”
กู้ชิวเหลิ่งกล่าวว่า “ก่อนหน้านี้ข้าเองก็มิรู้จะทำเช่นไร ข้ารู้สึกว่าฉู่สวินจะกักบริเวณข้าไว้ที่นี่ อย่างไรก็ตาม เรามิควรอยู่ที่นี่เป็นเวลานาน”
เมื่อครู่นางได้เสียเวลาไปกับเซียวอวิ๋นเซิงมิน้อยแล้ว หากว่าฉู่สวินเดินทางกลับมาจากประชุมราชวงศ์ นางก็หนีไปมิได้
เฉิงตู้มิกล้ารีรอ กู้ชิวเหลิ่งได้พิจารณาจวนฉู่อ๋องอย่างถี่ถ้วน ดังนั้นยามหนีไปจึงใช้เวลามินาน ประเดี๋ยวเดียวก็สามารถบินข้ามรั้วไปได้
กู้ชิวเหลิ่งมองไปรอบๆ องครักษ์ในจวนฉู่อ๋องหนาแน่นกว่าที่นางจินตนาการเอาไว้
กู้ชิวเหลิ่งอดมิได้ที่จะขมวดคิ้ว เพียงแค่มองดูนางก็พอจะเห็นร่องรอยขององครักษ์ลับเหล่านี้ตามมุมต่างๆ ได้ แม้ลมหายใจจะอ่อนเบาแต่นางก็มองมิผิดแน่
แค่จวนฉู่อ๋อง เหตุใดจึงมีการป้องกันที่หนาแน่นเพียงนี้ นางประเมินต่ำไปจริงๆ
“คุณหนูกู้มาทำอะไรอยู่ที่นี่?”
เฉิงตู้ได้สติกลับคืนมาแต่ยังมิทันหันหลังกลับไปมองก็ถูกเสวียนอีดึงลงไปจากกำแพงสูงนั้นแล้ว
คนที่เอ่ยออกมานั้นก็คือฉู่สวิน แตกต่างจากเมื่อวาน บัดนี้เขาสวมชุดราชวัง ดวงตาคู่นั้นเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ทำให้ร่างของกู้ชิวเหลิ่งสั่นสะท้าน
“ข้า……”
กู้ชิวเหลิ่งคิดมิถึงว่าจะได้พบกับฉู่สวินที่นี่ นางจึงมิรู้ว่าควรกล่าวสิ่งใดออกมา
ส่วนฉู่สวินดูเหมือนมิสนใจแม้แต่น้อย เขากระโดดเบาๆ แล้วพากู้ชิวเหลิ่งลงมาจากกำแพงสูง
กู้ชิวเหลิ่งรีบเหวี่ยงมือของฉู่สวินออกทันที ร่างของนางหมุนไปร่วงลงสู่พื้น
ฉู่สวินมองไปยังข้อมือของกู้ชิวเหลิ่ง เขายิ้มขอโทษว่า “ข้ากระทำการโดยกะทันหันไป”
“เฉิงตู้ ไปกันเถิด”
กู้ชิวเหลิ่งมิอยากจะสนใจอธิบายเรื่องนี้ให้แก่ฉู่สวินฟัง นางก้าวผ่านเสวียนอีและฉู่สวิน เฉิงตู้เดินตามร่างของกู้ชิวเหลิ่งไป ที่หลังยังสะพายกระเป๋าอยู่
ฉู่สวินมองไปที่แผ่นหลังของกู้ชิวเหลิ่งแล้วกล่าวว่า “คุณหนูกู้ ข้าขอเตือนไว้ประโยคหนึ่ง ในจวนฉู่อ๋องนี้ เพียงแค่ก้าวเข้ามาก็ยากนักที่จะออกไป”
กู้ชิวเหลิ่งเยาะเย้ยขึ้นว่า “หากข้าอยากจะออกไป ใครเล่าจะหยุดข้าได้”
ฉู่สวินมองไปทางร่างของกู้ชิวเหลิ่งที่ค่อยๆ จางหายไปแล้วยิ้มขึ้นอย่างขมขื่น เขาหันไปกล่าวกับเสวียนอีว่า “นางเกลียดข้ามากหรือ”
คำถามนี้ฉู่สวินเอ่ยถามเสวียนอีนับครั้งมิถ้วน
เสวียนอีมิกล้าตอบ เขาเพียงกล่าวว่า “จากที่ข้าน้อยดูนั้น มิเพียงแค่เกลียดธรรมดา”
นับตั้งแต่วินาทีแรกที่กู้ชิวเหลิ่งได้เจอกับฉู่สวิน แววตานั้นก็เต็มไปด้วยความรังเกียจและความสงสัยพร้อมกับการคาดเดา
นางอาจจะเป็นสตรีเพียงคนเดียวในโลกนี้ที่เกลียดฉู่สวิน
แต่ว่านางเป็นสตรีคนเดียวในโลกที่ฉู่สวินรักมากที่สุด
ฉู่สวินยิ้มอย่างขมขื่น “อวิ๋นเซิงเล่า?”
“เซียวโหวเย๋น้อยน่าจะอยู่ในห้องหนังสือ”
ฉู่สวินพยักหน้าแล้วพูดว่า “จงไปจัดการให้เขาเดินทางกลับเถิด”
“กลับหรือขอรับ?”
“กลับต้าเยียน เขาอยู่ที่นี่หลายเรื่องทีเดียวที่ข้ามิอาจทำได้”
เนื่องจากเซียวอวิ๋นเซิงมิรู้ตัวตนอันแท้จริงของกู้ชิวเหลิ่ง และมิรู้ความลับอันมากมายนั้น
ความลับเหล่านี้นอกจากเขาแล้วก็คงจะมีเพียงฮ่องเต้แห่งแคว้นเป่ยจึงจะรู้
เสวียนอีโน้มกายด้วยความเคารพ “ขอรับ”
รอจนกระทั่งเสวียนอีจากไปแล้ว ในสวนดอกไม้ที่เรือนด้านหลังอันใหญ่โตจึงมีใครคนหนึ่งยืนอยู่ที่นั่น เขายืนมองดูมือของตนที่พึงกำมือของกู้ชิวเหลิ่งเมื่อครู่ด้วยท่าทางเศร้าสร้อย “เกลียดข้าหรือ ข้ามิสน”
“ข้าน้อยไร้ความสามารถ ขอนายท่านโปรดลงโทษเถิด”
มิรู้ว่าเข่อเอ๋อร์ปรากฏกายอยู่ด้านหลังฉู่สวินตั้งแต่เมื่อไร นางก้มหน้าลงแล้วกล่าวด้วยความเคารพนอบน้อม
ฉู่สวินกล่าวว่า “ข้าสั่งให้เจ้าไปติดตามอยู่ข้างกายนาง มิอนุญาตให้เจ้าออกห่างนางแม้แต่ครึ่งก้าว และมิให้นางเดินทางออกจากจวน ยิ่งมิอนุญาตให้ผู้ใดพานางไป”
“บ่าวเข้าใจแล้วเจ้าค่ะ”
“หากเรื่องแค่นี้ยังทำมิได้เจ้าก็จงอย่าอยู่ในจวนอ๋องต่อไปเลย”
“เจ้าค่ะ”
ฉู่สวินมองออกไปที่ขอบฟ้า กล่าวว่า “เจ้าไปได้แล้ว จงไปอยู่ข้างกายนาง ดูแลนาง ข้ามิอยากให้เกิดเรื่องผิดพลาดประการใด”
“เจ้าค่ะ”
หลังจากที่เข่อเอ๋อร์เดินทางจากไปแล้ว ฉู่สวินก็ตรงไปยังห้องหนังสือ
เขาได้ข่าวว่าอวี้ฉือจ้านกำลังมุ่งหน้ามาทางแคว้นเป่ย แท้จริงแล้วอวี้ฉือจ้านคนคนนี้เขาค่อนข้างที่จะชื่นชม น่าเสียดายเหลือเกินที่จะมาแย่งชิงภรรยากับเขา
กู้ชิวเหลิ่งกลับมายังที่เรือนแล้วรู้สึกอึดอัดหน้าอก จวนฉู่อ๋องราวกับถังเหล็กสุญญากาศ แม้เมื่อครู่นางจะกล่าววาจาอันดูเย่อหยิ่งนั้นออกไปแต่ก็ทำได้เพียงแค่กล่าว นางมิมีความสามารถเดินทางออกจากจวนฉู่อ๋องเพียงลำพังได้เลย ฉู่อ๋องกล่าวไว้ได้ถูกต้องแล้ว ต่อให้เป็นอวี้ฉือจ้าน บางทีก็มิอาจเข้ามาได้
หากจะเอ่ยถามว่าเพราะเหตุใดนะหรือ คาดว่าคงจะเป็นเพราะฉู่สวินผู้ชายคนนี้น่ากลัวอย่างมิธรรมดา
ที่แผ่นหลังของกู้ชิวเหลิ่งยังคงเต็มไปด้วยเหงื่อ ตอนที่ฉู่สวินพบว่านางกำลังจะจากไป ประโยคนั้นของเขาเต็มไปด้วยความเย็นชาและอาฆาต