ลำนำยอดหญิงจอมพิษ - บทที่ 267 น่าสนใจ น่าสนใจจริงๆ
ลำนำยอดหญิงจอมพิษ บทที่ 267 น่าสนใจ น่าสนใจจริงๆ
ใบหน้าของอวี้ฉือจ้านปรากฏขึ้นมาในหัวของโหลวเว่ยเหิง กล่าวตอบในทันที: “เหิงเอ๋อร์ทราบแล้ว”
ฮองเฮาตรัสว่า: “ใกล้เที่ยงแล้ว ข้าสั่งให้คนเตรียมตำหนักด้านข้างเอาไว้ เจ้าไปดูสิว่าถูกใจเจ้าหรือไม่ ถ้าหากไม่ชอบ ข้าค่อยให้พวกเขาเปลี่ยนให้”
โหลวเว่ยเหิงลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้ โค้งคำนับ และกล่าวว่า: “ขอบพระทัยฮองเฮา เหิงเอ๋อร์ทูลลา”
ฮองเฮาพยักหน้าอย่างพอใจ หลังจากที่โหลวเว่ยเหิงจากไปแล้ว ฟางกูกูถึงได้เดินออกมาจากตำหนักด้านหลัง กล่าวขึ้นมาอย่างเคารพนบนอบ: “ท่านอ๋องเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว”
เมื่อครู่โหลวเว่ยเหิงอยู่ด้วย ฮองเฮาอายที่จะเปิดเผยความห่วงหาอาทรที่มีต่อลูกชายของตัวเองมากเกินไป เห็นว่าโหลวเว่ยเหิงจากไปแล้ว ถึงได้ตรัสว่า: “รีบไปเชิญเขามา”
“ไม่ต้องเชิญแล้ว กระหม่อมอยู่นี่”
เฮ่อหลันถิงยืนอยู่ด้านหน้าของฮองเฮา กล่าวว่า: “กระหม่อมยังมีงานราชการอยู่ ขอตัวทูลลาก่อนแล้ว”
“ช้าก่อน”
เฮ่อหลันถิงหยุดฝีเท้าเอาไว้ กล่าวถาม: “เสด็จแม่ยังมีอะไรจะรับสั่งอีกหรือ?”
ฮองเฮาอยากจะพูดแต่ก็หยุดเอาไว้ ตรัสว่า: “ถิงเอ๋อร์ เจ้ายังโกรธข้าอยู่ใช่ไหม?”
“โกรธ? เสด็จแม่ทรงตรัสอะไรอยู่ กระหม่อมจะกล้าโกรธพระองค์ได้อย่างไร”
“ความจริงตอนนั้นข้า……”
“กระหม่อมยังมีงานราชการอยู่ ขอทูลลาไปก่อนแล้ว”
เฮ่อหลันถิงไม่ได้ให้โอกาสฮองเฮาพูดอีก จากนั้นก็หันหลังเดินจากไป
ฟางกูกูมองดูแผ่นหลังของเฮ่อหลันถิง อดที่จะกล่าวปลอบโยนฮองเฮาไม่ได้: “อาจจะเป็นเพราะแยกจากกันนานเกินไป เลี่ยงไม่ได้ที่ในใจของท่านอ๋องมีความขุ่นเคืองอยู่บ้าง พระนางอย่าทรงเป็นกังวลมากเกินไปเลยเพคะ”
“หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น”
ฮองเฮารักและเอ็นดูลูกชายคนนี้ที่สุด แต่ดันดื้อรั้นมากเกินไป เฉกเช่นม้าป่าที่ไม่มีบังเหียน ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถเข้าใกล้เขาได้แม้แต่ครึ่งก้าว
ถ้าหากเป็นไปได้ นางกลับยินดีอย่างมากที่จะให้เฮ่อหลันถิงแต่งงานกับโหลวเว่ยเหิง ประการแรกเพราะฐานะของโหลวเว่ยเหิง คือลูกสาวของน้องสาวแท้ๆของฝ่าบาท ฝ่าบาทรู้สึกผิดต่อโหลวเว่ยเหิงมาโดยตลอด ประการที่สองเพราะโหลวเว่ยเหิงสง่างามเหมาะสม และรูปลักษณ์งดงามอย่างมาก คู่ควรกับเฮ่อหลันถิง ประการที่สามเป็นเพราะความเฉลียวฉลาดและรอบคอบของโหลวเว่ยเหิง
แต่น่าเสียดายที่ โหลวเว่ยเหิงเป็นพระชายาของอวี้ฉือจ้านแล้ว หากไม่ใช่เพราะฉู่สวินใจกล้าจับตัวโหลวเว่ยเหิงมา ไม่รู้ว่าใช้วิธีอะไรลบล้างความทรงจำไป ตอนนี้พวกเขาก็คงจะไม่ต้องไปยุ่งกับอวี้ฉือจ้านที่รับมือได้ยากเช่นนี้หรอก
“เจ้าว่า โหลวเว่ยเหิงคนนี้เป็นบุคคลแบบไหนกันแน่?”
ฟางกูกูลังเลอยู่พักหนึ่ง กล่าวว่า: “ถึงแม้อายุจะยังน้อย แต่ว่ากิริยาและการกระทำล้วนมีประสบการณ์มาก แม้แต่บ่าวก็มองไม่ออก”
“แล้วถิงเอ๋อร์ล่ะ? เจ้าคิดว่าถิงเอ๋อร์คิดอย่างไรกับโหลวเว่ยเหิงคนนี้?”
เมื่อครู่นี้นางเห็นความสนใจที่มีต่อโหลวเว่ยเหิงจากในดวงตาของเฮ่อหลันถิง นี่ไม่ใช่สิ่งที่เสแสร้งออกมา นางในฐานะที่เป็นมารดา ย่อมมองเห็นสิ่งนี้ชัดเจนอยู่แล้ว
ฟางกูกูกล่าวว่า: “ที่สวนยวี่ฮวา ท่านอ๋องเป็นคนเข้ามาใกล้เอง ตลอดทางที่เดินมาก็มองดูจวิ้นจู่เหิงตลอด ท่าทางนั่นดูเหมือนจะ……จะหลงรักเข้าแล้ว”
บนใบหน้าของฮองเฮามีความโกรธ ตรัสว่า: “เหลวไหล! ฝ่าบาทมีเจตนาจะให้โหลวเว่ยเหิงกลับไปข้างกายของอวี้ฉือจ้าน ดังนั้นถึงได้ให้เขากลับมาดึงรั้งฉู่สวินเอาไว้ แต่ตอนนี้เขาทำเช่นนี้ แผนการทั้งหมดของฝ่าบาทจะไม่สูญเปล่าไปหรอกหรือ? ถึงเวลานั้นฝ่าบาทจะต้องให้าเขากลับไปที่ชายแดนอย่างแน่นอน ไม่ได้ เจ้าไปหาภาพเหมือนของคุณหนูลูกสาวขุนนางขั้นสามขึ้นไปมาให้ข้าเดี๋ยวนี้เลย ข้าต้องเลือกทีละคน”
ฟางกูกูรู้ว่าฮองเฮาคิดจะให้เฮ่อหลันถิงแต่งงานมีภรรยา ตอนนี้เฮ่อหลันถิงอายุยี่สิบหกแล้ว ยังไม่มีพระชายาเป็นตัวเป็นตน ข้างกายมีเพียงนางสนม อย่างไรก็ไม่เป็นระบบระเบียบ
ฮองเฮาตรัสว่า: “เป็นเหตุผลข้อหนึ่งพอดี หากไม่ใช่เพราะสามปีนั่นถิงเอ๋อร์อยู่ที่ชายแดน ข้าคงแต่งตั้งพระชายาให้เขานานแล้ว”
“เพคะ”
ฟางกูกูก็ถือว่าเข้าใจความคิดฮองเฮาดีที่สุดแล้ว ดังนั้นจึงกล่าวว่า: “ความจริงบ่าวรู้สึกว่า คุณหนูซูจากครอบครัวกั๋วจิ้วใช้ได้เลยทีเดียว ปีนี้อายุเพิ่งจะสิบหก เป็นวัยที่แต่งงานได้พอดี”
ฮองเฮาตรึกตรองอย่างละเอียดถี่ถ้วน ตรัสว่า: “ความรู้และความประพฤติของเย่าเยียนไม่เป็นสองรองใครในเมืองหลวงจริงๆ ไม่เลวเลย อีกอย่างรูปร่างหน้าตาก็สุภาพอ่อนโยนและสง่างาม เจ้าไปจัดการให้นางเข้าวังมา ข้าต้องการจะพบนางด้วยตัวเอง”
“แล้วทางด้านกั๋วจิ้ว……”
ฮองเฮาตรัสว่า: “ด้านพี่ชายข้าจะไปพูดด้วยตัวเอง เจ้าไปได้แล้ว”
ฟางกูกูกล่าวรับคำ: “บ่าวจะไปจัดการเดี๋ยวนี้”
ฮองเฮาวางป้ายคำสั่งสำหรับออกนอกวังเอาไว้ในมือของฟางกูกู ตรัสว่า: “จำไว้ เรื่องนี้อย่าให้ถิงเอ๋อร์รู้เด็ดขาด”
“พระองค์กลัวว่า ท่านอ๋องจะไม่เห็นด้วยกับการแต่งงานในครั้งนี้?”
ฮองเฮาตรัสว่า: “ไม่ได้กลัว แต่ไม่มีทางที่เขาจะเห็นด้วยเลย ลูกชายของข้า ข้ารู้ดี”
โหลวเว่ยเหิงยังไม่ได้เดินจากไปไกลมาก ก็ได้ยินด้านหลังมีเสียงฝีเท้าดังมา ตอนที่หันกลับไปมอง ก็เห็นเฮ่อหลันถิงที่กำลังเดินมาอย่างเร็ว
โหลวเว่ยเหิงหยุดเท้าลง กล่าวขึ้นมาอย่างเคารพนบนอบ: “ไม่ทราบว่าท่านอ๋องมีธุระอะไร?”
เฮ่อหลันถิงเลิกคิ้วมองไปทางโหลวเว่ยเหิง กล่าวว่า: “ข้าก็แค่อยากจะมาถามว่า จวิ้นจู่กับฉู่สวินมีความสัมพันธ์อะไรกัน”
โหลวเว่ยเหิงไม่อยากจะตอบคำถามข้อนี้อย่างเห็นได้ชัด ถามกลับไปว่า: “เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับท่านอ๋องหรือ?”
“ข้าก็แค่อยากรู้อยากเห็นเท่านั้น ถ้าหากจวิ้นจู่ไม่อยากจะตอบ ก็ไม่ต้องตอบก็ได้”
โหลวเว่ยเหิงรู้สึกว่าเฮ่อหลันถิงยิ่งแปลกประหลาดอธิบายไม่ถูกมากขึ้นเรื่อยๆ สีหน้าเคร่งขรึมลงมาแล้ว กล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงข่มขู่เล็กน้อย: “หรือว่าท่านอ๋องไม่เคยได้ยินสำนวนหนึ่งมาก่อน?”
“จวิ้นจู่พูดมาได้เลย”
เสียงของโหลวเว่ยเหิงเบามาก กล่าวว่า: “ความอยากรู้อยากเห็น ทำให้แมวตาย”
พูดจบ โหลวเว่ยเหิงก็หันหลังจากไปเลย ปล่อยให้เฮ่อหลันถิงยืนอยู่กับที่ตามลำพัง
ความอยากรู้อยากเห็น ทำให้แมวตาย? น่าสนใจ น่าสนใจจริงๆ
เดิมทีโหลวเว่ยเหิงนึกว่าคนที่ตามอยู่ด้านหลังคืออวี้ฉือจ้าน ถึงได้หันหน้ากลับไป แต่คิดไม่ถึงว่าจะพูดเรื่องไร้สาระกับเฮ่อหลันถิงไปมากมายขนาดนี้
หากจะบอกว่าเหตุใดนางถึงตอบตกลงกับคำเชิญของฮองเฮาให้พำนักอยู่ในวังสองสามวัน ประการแรกนางรู้ว่านี่คือเจตนาของฮ่องเต้ ที่ไม่อยากให้นางแต่งงานกับฉู่สวิน ประการที่สองในใจของนางมาที่นี่เพราะอวี้ฉือจ้าน
นางกำนัลสองสามคนที่ฮองเฮาจัดเตรียมเอาไว้ล้วนเฉลียวฉลาดว่องไวทั้งนั้น ภาพฉากเมื่อครู่นี้ถูกพวกนางเห็นเข้าหมดแล้ว ย่อมต้องบอกฮองเฮาอยู่แล้ว ฮองเฮาก็จะต้องคิดหาวิธีให้เฮ่อหลันถิงอยู่ห่างจากตัวเองอย่างแน่นอน
และโหลวเว่ยเหิงก็รู้ว่า ขอเพียงแค่มีนางกำนัลเหล่านี้อยู่ นางก็ไม่ทีทางได้ยินความสัมพันธ์ของทั้งสองคนจากปากของอวี้ฉือจ้านได้ และไม่ควรเข้าใกล้อวี้ฉือจ้านมากเกินไป
ในคืนนี้ หลังจากที่โหลวเว่ยเหิงทานอาหารเย็นแล้ว นางกำนัลก็เตรียมน้ำร้อนให้โหลวเว่ยเหิงอาบน้ำ
โหลวเว่ยเหิงนอนอยู่ในถังอาบน้ำ กล่าวว่า: “พวกเจ้าออกไปเถอะ ข้าจะอาบคนเดียว ไม่มีคำสั่งของข้า ใครก็ห้ามเข้ามา”
“เจ้าค่ะ”
หลังจากที่ทุกคนออกไปจากตำหนักแล้ว โหลวเว่ยเหิงลุกขึ้นมาจากถังอาบน้ำโดยสัญชาตญาณ สวมเสื้อผ้าชั้นใน กล่าวว่า: “ท่านอ๋องมาเฝ้าดูผู้หญิงอาบน้ำที่นี่ เกรงว่าคงจะไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่”
อวี้ฉือจ้านกระโดดลงมาจากคาน เต็มไปด้วยรอยยิ้ม: “ข้าไม่ได้ดูเจ้าอาบน้ำเป็นครั้งแรกเสียหน่อย ทำไมต้องอายด้วย? แล้วจะไม่เหมาะสมได้อย่างไร?”
โหลวเว่ยเหิงเลิกคิ้ว กล่าวว่า: “ท่านมีหลักฐานอะไรมาพิสูจน์ว่าข้าคือกู้ชิวเหลิ่งกันแน่? อาศัยเพียงแค่ข้ากับนางหน้าตาเหมือนกันแค่นั้นหรือ?”
บทที่ 266 เดินไปทางเดียวกัน
บทที่ 268 ปรับตัวเข้ากับสภาพอากาศไม่ได้