ลำนำยอดหญิงจอมพิษ - บทที่ 28 หากระดูกในไข่ไก่
ลำนำยอดหญิงจอมพิษ บทที่ 28 หากระดูกในไข่ไก่
“เจ้าๆๆ……เจ้ายังเป็นผู้หญิงหรือไม่!”
เซียวอวิ๋นเซิงทนไม่ไหวเกาผื่นแดงที่หลังมือของตัวเอง ผื่นแดงลุกลามอย่างรวดเร็ว จนได้ลามไปถึงข้อมือของเขา
กู้ชิวเหลิ่งไม่มีความรู้สึกผิดเลยสักนิด กลับยิ้มและกล่าวว่า:”ขอบคุณคำชมจากเซียวโหวเย๋น้อย เจ้ามีเวลามาพูด ไม่สู้คิดดูล่ะว่าจะรักษามันอย่างไร หากไม่มียาถอนพิษ เจ้าก็ต้องทนทุกข์ทรมานเป็นเวลาสองชั่วยาม”
เซียวอวิ๋นเซิงกัดฟัน หยิบเครื่องเคลือบขวดสีขาวออกมาจากแขนเสื้อ เทยาออกมาจากข้างในหนึ่งเม็ด แล้วนำมันเข้าปาก
กู้ชิวเหลิ่งจ้องยาในมือของเซียวอวิ๋นเซิง กล่าวว่า:”ต่างก็กล่าวกันว่าความสัมพันธ์ของเซียวโหวเย๋น้อยกับหมอเทวดาไป๋อู๋เฉินไม่ธรรมดา คงจะเป็นเรื่องจริง เขายินดีที่จะมอบยาแก้พิษร้อยพิษให้กับเจ้า”
เซียวอวิ๋นเซิงส่งเสียงหึ กล่าว:”คุณหนูรองกู้ดูถูกข้ามากเกินไปแล้ว! ว่าแต่เจ้าเถอะเป็นหญิงสาวแท้ๆ กลับพกของเช่นนี้ติดตัว? ผงคัน? คิดดีจริง!”
กู้ชิวเหลิ่งกล่าวนิ่งๆว่า:”ข้าเตือนเจ้าแล้ว เป็นเจ้าที่ไม่ฟังเอง ครั้งนี้เป็นผงคัน ครั้งต่อไปจะเป็นเฮ่อติ่งหงที่มีพิษร้ายแรงอย่างมาก เซียวโหวเย๋น้อยเคารพตัวเองดีกว่า อย่ามายุ่งกับข้า”
“สมแล้วที่เจ้าเป็นผู้หญิงของฉู่สวิน แต่นิสัยของฉู่สวินอ่อนโยน เหตุใดเจ้าถึงได้โหดเหี้ยมเช่นนี้!”
สายตาของกู้ชิวเหลิ่งมืดมนลง ชายที่นางและเซียวอวิ๋นเซิงกำลังเอ่ยถึงคือฉู่สวิน ชายลึกลับที่เป็นดั่งปริศนา นางไม่เคยเจอมาก่อน เพียงแค่จำได้ว่ามีคนแบบนี้อยู่ในความทรงจำ ฉู่สวินราวกับเป็นสิ่งที่ทำให้ร่างกายนี้สบายใจ เป็นที่พึ่งพิงทั้งหมด
เซียวอวิ๋นเซิงหรี่ตาลงเล็กน้อย กล่าวว่า:”ข้าเดาถูกแล้ว! ว่าแล้วเชียว หลายปีมานี้ฉู่สวินอยู่ไกลถึงแคว้นเป่ยแต่กลับรักษาตัวให้พ้นจากปัญหายุ่งยาก ไม่เข้าใกล้ผู้หญิง ที่แท้แล้วก็เพราะ……”
“เซียวโหวเย๋น้อยชอบเดาเช่นนี้เสมอมาเลยหรือ?”
กู้ชิวเหลิ่งเอ่ยขัดคำพูดของเซียวอวิ๋นเซิง นางมีความทรงจำส่วนหนึ่งของกู้ชิวเหลิ่ง ฉู่สวินเป็นบุตรที่เหลือเพียงคนเดียวเของราชวงศ์ก่อนต้าเยียน เมื่อสิบปีก่อนได้ถูกส่งตัวไปเป็นตัวประกันที่แคว้นเป่ย หลายปีมานี้ไม่เคยกลับมาเลยสักครั้ง กู้ชิวเหลิ่งจินตนาการถึงความสัมพันธ์ของร่างกายนี้กับฉู่สวินไม่ได้ เช่นเดียวกับที่นางไม่สามารถจินตนาการความสัมพันธ์ของร่างกายนี้กับท่านอ๋องรอง เดิมทีตัวกู้ชิวเหลิ่งเองก็เป็นปริศนา เป็นเพียงบุตรีของอนุตัวเล็กๆของจวนโหวแต่กลับมีความสัมพันธ์ที่นับไม่ถ้วนกับท่านอ๋องที่มีฐานะสูงส่งทั้งสองคน
เซียวอวิ๋นเซิงกล่าว:”คุณหนูรองพูดอะไรกัน? ข้ากลับรู้สึกว่าการเดาของข้าไม่ได้เดาออกมาเปล่าๆ ฉู่สวินห่วงใยเจ้ามากขนาดนี้ พวกเจ้าสองคนจะต้องมีความลับที่ไม่สามารถบอกผู้อื่นได้แน่นอน!”
กู้ชิวเหลิ่งเหลือบมองเซียวอวิ๋นเซิงอย่างเย็นชา กล่าวว่า:”ข้าไม่มีเวลามาพูดจาไร้สาระกับเจ้า หอจูชุ่ยของเจ้าเปิดร้านทำการค้าขาย คงจะไม่ให้แขกไม่เห็นชุดหรอกใช่หรือไม่?”
เซียวอวิ๋นเซิงมองกู้ชิวเหลิ่งอย่างละเอียด กล่าวว่า:”ชุดสีเขียวอ่อนตัวนี้เป็นวัสดุธรรมดา เมื่อสวมใส่บนตัวเจ้าแล้วก็ไม่ได้ดูน่าเกลียด ทำไม? ซื้อชุดให้คนรักใส่หรือ?”
“ดูเหมือนว่าเซียวโหวเย๋น้อยจะเคยชินกับการใช้ชีวิตสุขสบายข้างนอก ความคิดถึงได้สกปรกเหมือนคนพื้นๆ ของที่หอจูชุ่ยแห่งนี้ คงจะไม่ได้ดีกว่าที่อื่นมากนัก ข้าไม่รบกวนล่ะ”
เซียวอวิ๋นเซิงใช้พัดรั้งกู้ชิวเหลิ่งเอาไว้ กล่าวว่า:”เอาล่ะ! ข้าเพียงแค่หยอกเล่น คุณหนูรองอยากได้อะไร ข้าจัดให้! ไม่พูดถึงอย่างอื่น ของที่อยู่บนชั้นสองของหอจูชุ่ย แม้จะเป็นคนที่จู้จี้จุกจิก ก็อดไม่ได้ที่จะซื้อมัน!”
ตอนนี้เองกู้ชิวเหลิ่งถึงได้แสดงรอยยิ้มออกมา กล่าว:”หญิงสาวที่หากระดูกในไข่ไก่เห็นแล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะซื้อหรือ?”
เซียวอวิ๋นเซิงยิ้มอย่างติดตลก:”ผู้อื่นข้าสามารถรับประกันได้ แต่ถ้าหากเป็นคุณหนูรองมาดู ข้าคงจะรับรองไม่ได้หรอก”
เซียวอวิ๋นเซิงเห็นว่ากู้ชิวเหลิ่งไม่มีท่าทีจะจากไป ถึงได้หุบพัด พากู้ชิวเหลิ่งเข้าไปในห้องบนชั้นสอง ผ้าไหมที่วางอยู่ข้างในเป็นผืนผ้าที่มีคุณภาพมาก อย่าว่าแต่แพรเมฆที่เป็นเครื่องราชบรรณาการจากแคว้นฉีหลัวเลย แม้แต่ผ้าปีกจักจั่นที่แดนตะวันตกส่งมาก็มี ไม่มีสิ่งใดขาดเลยแม้แต่น้อย
กู้ชิวเหลิ่งยื่นมือไปจับผืนผ้า สัมผัสที่ละเอียดอ่อนได้รับรู้อยู่บนมือของนาง
เซียวอวิ๋นเซิงเอามือกอดอก พิงอยู่ที่ขอบประตู ตั้งใจมองกู้ชิวเหลิ่งเลือกชุดอย่างละเอียด ส่วนสูงของกู้ชิวเหลิ่งไม่สูง ดูผอมบางกว่าหญิงสาวธรรมดาทั่วไป แต่กลับมีผิวพรรณขาวผ่อง รูปลักษณ์งดงาม อายุเพียงสิบสี่ปีก็เริ่มจะมีรูปลักษณ์ที่งามล้มเมืองแล้ว เพียงแค่ขมวดคิ้วเล็กน้อย ก็สามารถทำให้คนอดไม่ได้ที่จะกระชับใจขึ้นมา อยากไปลูบคิ้วที่ขมวดของนางให้เรียบตึง
ในที่สุดกู้ชิวเหลิ่งก็เงยหน้าขึ้นมา กล่าวกับเซียวอวิ๋นเซิงว่า:”ของดูไม่เลว เพียงแต่เซียวโหวเย๋น้อยมองข้าอยู่เช่นนี้ จะให้ข้าเลือกได้อย่างไร?”
เซียวอวิ๋นเซิงยับยั้งมันโดยการสะบัดพัด กล่าวว่า:”ข้าเป็นเจ้าของร้านนี้ ของที่อยู่ที่นี่แต่ละชิ้นมีราคาสูงมาก เกิดเจ้าหยิบของอะไรไปด้วย ข้าคงจะสูญเสียไปมาก!”
น้ำเสียงของกู้ชิวเหลิ่งเย็นชา กล่าวว่า:”แม้ว่าของที่นี่จะดีมากแค่ไหน ก็ไม่ถึงขั้นที่จะมากระตุ้นความอยากขโมยของข้า แต่น่าเสียดาย ที่นี่ไม่มีผืนผ้าที่ข้าอยากได้ ดูเหมือนว่าของในหอจูชุ่ยก็ไม่ได้ดีไปกว่าที่อื่น”
เมื่อได้ยินคำนี้ เซียวอวิ๋นเซิงก็กระโดดขึ้นมา ชี้ไปที่ผ้าไหมผ้าแพรที่อยู่เต็มห้อง กล่าวขึ้นว่า:”เจ้าว่าอย่างไรนะ? ผืนผ้าที่นี่เจ้าไม่ชอบเลยสักชิ้น? แม้ว่าข้าจะพูดอย่างสุภาพว่าเจ้าเลือกมาก แต่อย่างน้อยเจ้าก็ควรจะให้หน้าข้าบ้างนะ!”
กู้ชิวเหลิ่งเลิกคิ้ว กล่าว:”มันไม่เกี่ยวกับของดีหรือไม่ดี ผืนผ้าของเจ้าแต่ละชิ้นมีแต่ของราคาสูง แต่มันไม่เข้ากับความชอบของข้า แม้ของจะดีมากแค่ไหนตราบใดที่มันไม่เข้ากับความชอบของข้า แล้วข้าจะเอามันไปทำไม?”
เซียวอวิ๋นเซิงเคาะพัดของเขา สูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วกล่าวว่า:”ได้! วันนี้ข้าจะให้เจ้าได้เห็น!”
พูดแล้ว เซียวอวิ๋นเซิงก็เดินไปทางราวแขวนเสื้อราวหนึ่ง หมุนแจกันสีขาวที่อยู่ข้างๆ ภาพจิตรกรรมที่เดิมทีอยู่บนฝาผนังถูกเปิดออก ข้างในนั้นวางชุดแพรแดงเรืองแสงเอาไว้ ไม่ได้ดูซับซ้อน ข้างบนนั้นปักลายดอกไห่ถังสีเงินเอาไว้ ปรากฏภาพมีชีวิตชีวาอยู่บนแขนเสื้อและชายกระโปรง เป็นชุดที่ตัดสำเร็จพร้อมสวมใส่แล้ว ไม่ได้เป็นผืนผ้าไหม
ม่านตาของกู้ชิวเหลิ่งหดเล็กลงอย่างรวดเร็ว เซียวอวิ๋นเซิงยังคงพูดอย่างละเอียดว่า:”รู้จักชุดนี้หรือไม่? เป็นชุดในพิธีจี๋จีของมู่หรงชิวฮองเฮาแห่งแคว้นฉีเมื่อตอนนั้น! มู่หรงชิวเจ้าคงรู้สินะ? ฮองเฮาที่สิ้นพระชนม์ไปแล้วของกษัตริย์แห่งแคว้นฉี นั่นเป็นถึงหญิงสาวที่มีชื่อเสียงไปทั่วแคว้น วัสดุของผ้าที่ใช้ในชุดนี้เป็นผ้าไหมและเส้นด้ายของจริงที่มีราคาสูงมาก ขนาดลวดเงินที่อยู่บนนั้นก็เป็นไหมจากหนอนไหมน้ำแข็ง แม้ว่าสามปีที่แล้วตระกูลมู่หรงจะถูกกำจัดเพราะการก่อกบฏ แต่ต่อมาเสื้อชุดนี้กลับตกมาอยู่ในมือของพ่อค้าของต้าเยียนของเรา ข้าใช้เงินไปหนึ่งแสนตำลึงทองถึงจะซื้อมันมาได้ ถือว่าเป็นสมบัติในร้านแล้ว!”
“นี่? เจ้าฟังอยู่หรือเปล่า?”
ตอนที่เซียวอวิ๋นเซิงหันกลับมา ก็พอดีกับที่เห็นดวงตาเยือกเย็นคู่นั้นของกู้ชิวเหลิ่ง ราวกับว่ามีความโกรธแค้นอยู่ในดวงตา ออร่าความต้องการฆ่าทั่วร่างทำให้เซียวอวิ๋นเซิงตกใจ
ทันใดนั้น ดวงตาของกู้ชิวเหลิ่งก็กลับมาสงบลงเหมือนเดิม นางกล่าวนิ่งๆว่า:”ไม่เลว เพียงแต่ชุดนี้ข้าใส่แล้วไม่พอดีตัว ผืนผ้าสีแดงชาดที่อยู่ข้างๆตรงนั้นไม่เลว ข้ารับมันไปล่ะ”
เซียวอวิ๋นเซิงกล่าว:”ที่จริงข้าเองก็รู้สึกว่าวัสดุผืนนี้ไม่เลว แต่ข้าก็รู้สึกว่าชุดสีแดงอมดำของมู่หรงชิวชุดนี้เหมาะกับเจ้ามากกว่า”