ลำนำยอดหญิงจอมพิษ - บทที่ 29 ไม่กลัวขาดทุนจริงๆ
ลำนำยอดหญิงจอมพิษ บทที่ 29 ไม่กลัวขาดทุนจริงๆ
กู้ชิวเหลิ่งกล่าว:”เช่นนั้นก็แก้ชุดนี้เลยแล้วกัน”
“แก้……แก้ชุด?!”
กู้ชิวเหลิ่งพยักหน้า:”ชุดมีไว้ให้คนสวมใส่ ส่วนสูงของข้าไม่ถึง ชุดนี้ก็ใหญ่มากเกินไป ไม่แก้แล้วข้าจะใส่มันได้อย่างไร?”
เซียวอวิ๋นเซิงเลียริมฝีปากที่แห้งผากของตัวเอง เห็นได้ชัดว่าตกใจ:”ข้าใช้เงินไปตั้งสิบหมื่นตำลึงทอง เจ้าบอกจะแก้ก็แก้เลยหรือ? คุณหนูรองเจ้ามันอาจหาญกว่าข้าจริงๆ!”
ผลงานศิลปะที่สมบูรณ์แบบเช่นนี้ เขายังคงลังเลที่จะใช้กรรไกร แต่กู้ชิวเหลิ่งราวกับไม่ได้สนใจ และไม่ได้มีความรู้สึกว่ามันไม่เหมาะสมเลยสักนิด
กู้ชิวเหลิ่งกล่าวติดตลกว่า:”เซียวโหวเย๋น้อยขาดแคลนเงินมากขนาดนั้นเลยหรือ? มันก็แค่สิบหมื่นตำลึงทอง เหตุใดข้าจึงได้ยินมาว่าตอนนั้นแคว้นฉีมีคนยินดีจะจ่ายห้าแสนตำลึงทองเพื่อซื้อชุดแพรไห่ถังนี้กัน?”
ราวกับว่าเซียวอวิ๋นเซิงค้นพบเรื่องน่าสนใจบางอย่าง เลิกคิ้วถามขึ้น:”เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าชุดชุดนี้มีชื่อว่าชุดแพรไห่ถัง?”
กู้ชิวเหลิ่งไม่ได้แสดงสีหน้าท่าทางทางใบหน้าเลยแม้แต่น้อย แต่กลับกล่าวว่า:”ข้าดูประสบการณ์น้อยมากเลยหรือ?”
เซียวอวิ๋นเซิงครุ่นคิดเกี่ยวกับประโยคนี้อย่างละเอียด กล่าวว่า:”ดูไม่เหมือน”
กู้ชิวเหลิ่งกล่าวต่อว่า:”ชุดชุดนี้ กับผ้าไหมผืนนี้ข้ารับมันเลย”
เซียวอวิ๋นเซิงกล่าวอย่างไม่ใส่ใจว่า:”ได้สิ!ทั้งหมดหนึ่งแสนห้าหมื่นตำลึงทอง คุณหนูรองจะจ่ายเป็นตั๋วเงินหรือเงินตำลึงดี?”
ใบหน้าของกู้ชิวเหลิ่งแสดงรอยยิ้ม:”หนึ่งแสนห้าหมื่น เจ้าไม่กลัวขาดทุนจริงๆ”
แม้จะบอกว่าชุดแพรไห่ถังมีราคาหนึ่งแสนตำลึงทอง แต่ผ้าไหมสีแดงชาดที่อยู่ข้างๆเองก็มีราคาสูง บวกกับค่าตัดชุด ถึงจะขอราคาสองแสนตำลึงทองก็ไม่ถือว่ามากเกินไป แต่เซียวอวิ๋นเซิงขอราคาเพียงหนึ่งแสนห้าหมื่นตำลึงทอง แม้ว่าจะไม่ขาดทุน แต่ก็ไม่ได้กำไรมากเท่าไหร่นัก
“เพราะตอนนี้อย่าว่าแต่เงินหนึ่งแสนห้าหมื่นตำลึงทองเลย แม้แต่เงินสิบห้าตำลึงคุณหนูรองกู้ก็คงจะไม่มีใช่หรือไม่?”
ดวงตาของเซียวอวิ๋นเซิงเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ความหมายของคำพูดก็ชัดเจน ก็เพราะเห็นว่ากู้ชิวเหลิ่งไม่มีเงินซื้อ ดังนั้นถึงได้เสนอราคาไปอย่างตามใจ
กู้ชิวเหลิ่งถอดกำไรหยกขาวมันแพะออกมา วางมันไว้ในมือของเซียวอวิ๋นเซิง
เซียวอวิ๋นเซิงเลิกคิ้ว:”แม้ว่าสีของหยกขาวมันแพะนี้จะไม่เลว แต่นั่นก็ไม่มีราคาถึงหมื่นตำลึงทอง สายตาของคุณหนูรองดีเช่นนี้ ไม่รู้หรืออย่างไร?”
มุมปากของกู้ชิวเหลิ่งค่อยๆยกยิ้มขึ้น:”หยกขาวมันแพะไม่ถือว่ามีค่ามากขนาดนั้น แต่นี่เป็นคำมั่นของข้ากู้ชิวเหลิ่งที่ให้ไว้กับเจ้า ของที่ติดค้างไว้จะคืนให้เจ้าโดยไม่ขาดเลยแม้แต่น้อย หนึ่งแสนห้าหมื่นตำลึงทองบวกกับความสัมพันธ์ของข้ากับฉู่สวิน เซียวโหวเย๋น้อยเองก็ไม่ใช่ผู้ที่ขาดแคลนเงินทอง ก็คิดเสียว่าเล่นเป็นเพื่อนข้าแล้วกัน เจ้าคิดว่ามันขาดทุนหรือไม่?”
เซียวอวิ๋นเซิงพยักหน้าราวกับสมเหตุสมผล กล่าวว่า:”เงินเพียงหนึ่งแสนห้าหมื่นตำลึงทอง ข้าก็ไม่ได้ขาดแคลนจริงๆ แต่ข้าอยากรู้ความสัมพันธ์ระหว่างเจ้ากับฉู่สวินมากกว่า”
พูดแล้ว เซียวอวิ๋นเซิงก็นำกำไลหยกขาวมันแพะเก็บไว้ในแขนเสื้อของตัวเอง กล่าวว่า:”ได้! เช่นนั้นข้าก็จะเล่นกับเจ้า คำมั่นสัญญานี้ข้ารับมันไว้แล้ว!”
กล่าวจบ เซียวอวิ๋นเซิงก็กล่าวว่า:”ที่จริงเจ้าสามารถให้ฉู่สวินจ่ายแทนเจ้าได้นี่! ตอนนี้เจ้าคนนั้นรวยมาก เพียงแค่แสนห้า คาดว่าคงจะมอบมันให้ข้าทั้งที่ไม่ได้มองด้วยซ้ำ”
กู้ชิวเหลิ่งลูบแขนเสื้อของชุดแพรไห่ถัง เอ่ยนิ่งๆว่า:”ข้าไม่ชอบติดหนี้ผู้อื่น”
โดยเฉพาะคนแปลกหน้าที่ไม่เคยพบกันเลยสักครั้ง
เซียวอวิ๋นเซิงเอ่ยถาม:”เช่นนั้นกำไลหยกขาวมันแพะนี้……”
“คิดว่าเป็นการจำนำ”
กู้ชิวเหลิ่งเดินออกนอกประตูห้องไปแล้ว กล่าว:”อย่าลืมแก้ชุดให้ข้า พรุ่งนี้ข้าจะมารับ”
“เฮ้! เจ้าๆๆ! หยุดเลยนะ!”
กู้ชิวเหลิ่งหันตัวมา กล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง:”เซียวโหวเย๋น้อยยังมีเรื่องอันใดอีก?”
เซียวอวิ๋นเซิงเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นบ้าอะไร ถึงได้จับพลัดจับผลูส่งเสียงรั้งกู้ชิวเหลิ่งเอาไว้ ตอนนี้เมื่อถูกกู้ชิวเหลิ่งถามเอาเช่นนี้ ถึงได้ตกตะลึง
กู้ชิวเหลิ่งกล่าว:”เซียวโหวเย๋น้อยไม่มีธุระแล้วใช่หรือไม่? เช่นนั้นข้าไปล่ะ”
“เจ้าหยุดก่อน!”
กู้ชิวเหลิ่งหยุดเดิน ขมวดคิ้วมองไปทางเซียวอวิ๋นเซิง เอ่ยถาม:”เซียวโหวเย๋น้อยลังเลที่จะกล่าว อยากบอกอะไรกับข้าหรือ?”
เซียวอวิ๋นเซิงไอแห้งๆ กล่าวว่า:”ข้าหมายถึง ไม่ต้องรอจนถึงวันพรุ่งนี้ ภายในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วยามมันก็เสร็จแล้ว ไม่สู้คุณหนูรองรอที่นี่ ดื่มชาสักแก้วค่อยไป ไม่ต้องรีบร้อน”
กู้ชิวเหลิ่งเลิกคิ้ว:”ดูเหมือนหอจูชุ่ยจะไม่เหมือนร้านธรรมดาทั่วไป ขาดทุนแล้วยังจะรั้งแขกไว้อีก”
“เจ้าก็ประเมินข้าต่ำเกินไป ในหอจูชุ่ยแห่งนี้มีช่างตัดเสื้อที่ดีที่สุดในเมืองหลวง เจ้าวางใจเถอะ เพียงครึ่งชั่วยามมันมากเกินพอ”
พูดแล้ว เซียวอวิ๋นเซิงก็ตะโกนลงไปที่ชั้นล่าง:”เตรียมเครื่องเคียงสองชุด”
กู้ชิวเหลิ่งกล่าวเฉยๆว่า:”หอจูชุ่ยยังมีบริการทำอาหารให้กับแขกด้วยหรือ?”
เซียวอวิ๋นเซิงนั่งลงบนเก้าอี้ รินน้ำชาให้กู้ชิวเหลิ่ง กล่าวว่า:”อย่าได้คิดมากไป เป็นเพราะข้าหิวเอง ไม่ได้เตรียมให้เจ้าโดยเฉพาะ!”
กู้ชิวเหลิ่งกล่าว:”ข้าก็คิดเช่นนั้น เซียวโหวเย๋น้อยเสเพลมาจนชินแล้ว สามารถมีหอจูชุ่ยที่เป็นร้านค้าเช่นนี้ได้ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าตกใจมากแล้ว ทุกครั้งที่มาที่นี่ก็เพื่อจะกินข้าวสินะ?”
มุมปากของเซียวอวิ๋นเซิงกระตุก เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการเชิญกู้ชิวเหลิ่งกินข้าว คิดไม่ถึงว่าจะถูกมองเป็นชายเสเพลไปจริงๆ
กู้ชิวเหลิ่งมองปฏิกิริยาของเซียวอวิ๋นเซิง ยิ้มน้อยๆในใจ เซียวอวิ๋นเซิงดูเหมือนจะเป็นคนอิสระใช้ชีวิตตามใจ ข้างนอกต่างก็ลือกันว่าเป็นสูงศักดิ์ที่ไม่เอางานเอาการ แต่ในความเป็นจริงจิตใจของเขาค่อนข้างละเอียดอ่อน สามารถเห็นได้จากคำพูดที่เซียวอวิ๋นเซิงเอ่ยต่อหน้าฮูหยินใหญ่และกู้ชิวเซียงในวันนั้น
ผู้จัดการร้านนำกับข้าวสี่อย่างท่าทางดูงดงามมาให้เองกับมือ เซียวอวิ๋นเซิงคีบฮะเก๋ามาไว้ในถ้วยของกู้ชิวเหลิ่ง กู้ชิวเหลิ่งมองดูฮะเก๋าที่อยู่ในถ้วย ขมวดคิ้วขึ้นมาเบาๆ
ชาติที่แล้วนางชอบกินฮะเก๋ามาก จวินฉีเซิ่งจะเตรียมให้นางทุกครั้ง เหมือนกับตอนนี้ที่คีบฮะเก๋ามาไว้ในถ้วยของนาง
เมื่อนึกถึงจวินฉีเซิ่ง ท้องไส้ของกู้ชิวเหลิ่งรู้สึกได้ถึงความเย็น ราวกับคลื่นไส้
เซียวอวิ๋นเซิงเอ่ยถาม:”ทำไมหรือ? ไม่ชอบกิน? นี่คืออาหารที่ดีที่สุดในไป่เว่ยจาย……”
“เซียวโหวเย๋น้อย ข้าเป็นเพียงบุตรีของอนุในจวนโหว ไม่จำเป็นต้องให้เจ้ามาเสียเวลาเช่นนี้”
เซียวอวิ๋นเซิงเห็นความเยือกเย็นและความขุ่นเคืองในดวงตาของกู้ชิวเหลิ่งได้อย่างชัดเจน ราวกับว่าทะเลสาบกลายเป็นน้ำแข็ง ไม่มีรอยยิ้มอีกต่อไป
เซียวอวิ๋นเซิงเปลี่ยนหัวข้อสนทนา ว่า:”ในเมื่อคุณหนูรองไม่ชอบกิน เช่นนั้นก็ให้เด็กๆนำมันลงไป แต่……เจ้าต้องบอกข้า เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเข้ากับฉู่สวิน”
กู้ชิวเหลิ่งเงยหน้าขึ้น กล่าวว่า:”ทำไม? นี่ถือว่าเป็นเงินมัดจำ?”
เซียวอวิ๋นเซิงครุ่นคิด กล่าว:”จะนับเช่นนั้นก็ได้”
กู้ชิวเหลิ่งจิบน้ำชานิ่งๆ กล่าวว่า:”บอกเจ้าล่วงหน้ามันก็ไม่ใช่ปัญหาอะไร ความสัมพันธ์ของกู้ชิวเหลิ่งกับฉู่สวิน ก็เหมือนกับความสัมพันธ์ของคู่หมั้น ข้าพูดเช่นนี้เจ้าเข้าใจหรือยัง?”
เป็นเหมือนกับที่คิดไว้ สีหน้าของเซียวอวิ๋นเซิงดูโดดเดี่ยวเล็กน้อย กล่าวว่า:”ข้ารู้อยู่แล้ว เขาไม่เคยห่วงใยหญิงสาวผู้อื่นมาก่อน ที่แท้ก็เพราะหมั้นกับเจ้า……หืม? ไม่ใช่สิ เจ้าหมั้นกับอวี่เหวินหวายไอ้หมอนั่นแล้วไม่ใช่หรือ? แล้วจะหมั้นกับฉู่สวินอีกได้อย่างไร?”