ลำนำยอดหญิงจอมพิษ - บทที่ 6 ถวายชาไถ่โทษ
ลำนำยอดหญิงจอมพิษ บทที่ 6 ถวายชาไถ่โทษ
กู้ชิวเซียงถูกต่อว่าจนหน้าแดงไปหมด เซียวอวิ๋นเซิงไม่เห็นแก่หน้านางสักนิดเลย น้ำเสียงนั้นราวกับว่ากำลังพูดถึงหญิงร้ายที่แสร้งทำเป็นคนดี
เซียวอวิ๋นเซิงกล่าวอีกครั้งว่า:”ข้าว่านะ การลงโทษผู้ใต้บังคับบัญชาด้วยวิธีการเชือดไก่ให้ลิงดูนั้น ฮูหยินใหญ่คง ทำได้อย่างคล่องมือดังใจคิดกว่าข้าสินะ ไม่จำเป็นต้องให้ข้าเตือนมากเกินไป ฝ่าบาทยังรอข้ากลับไปถวายรายงานอยู่!”
ฮูหยินใหญ่จำใจตัดสินใจ เซียวอวิ๋นเซิงพูดถูก ปี้เถาเป็นเพียงสาวรับใช้คนหนึ่ง ไม่สำคัญอะไรนัก แต่หากนางต้องกลายมาเป็นหญิงร้ายที่มีชื่อเสียงเพราะบ่าวคนหนึ่ง มันช่างไม่คุ้มจริงๆเลย และตอนนี้ฝ่าบาทก็ให้ความสนใจกับเรื่องนี้เป็นอย่างยิ่ง นางยิ่งไม่สามารถทำอะไรที่ไม่เอื้ออำนวยต่อหนทางชีวิตการเป็นขุนนางของท่านกู้โหวเย๋อีก
ทันใดนั้นฮูหยินใหญ่ก็พูดอย่างโกรธเคืองว่า:”ปี้เถานังตัวดี! กล้าดียังไงมาใส่ร้ายเจ้าหนูรองกับท่านโหวเย๋น้อยต่อหน้าผู้คนเช่นนี้! สมควรตายยิ่งนัก! เด็กๆ! ลากอีนังสารเลวนี้ออกไปเฆี่ยนตีจนตายซะ! ”
เมื่อแม่นมโจวได้ยินการลงโทษนี้ ขาสองข้างก็อ่อนแรงลง นางคุกเข่าลงบนพื้นร้องไห้และตะโกนว่า:”ฮูหยินใหญ่! นี่เป็นหลานสาวแท้ๆของบ่าวนะเจ้าค่ะ! ท่าน……”
แม่นมโจวยังพูดไม่จบ ก็ถูกฮูหยินใหญ่ใช้สายตาห้ามเอาไว้
“ท่านอา! ท่านอาช่วยข้าด้วย! ฮูหยินใหญ่! ฮูหยินใหญ่! บ่าวไม่ได้ทำ! บ่าวไม่ได้ทำจริงๆเจ้าค่ะ! บ่าว……”
เสียงของปี้เถาค่อยๆหายไป กู้ชิวเซียงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยกับการลงโทษของฮูหยินใหญ่ในครั้งนี้ แต่กลับไม่กล้าแสดงออกมามากเกินไป เพราะกลัวว่าเซียวอวิ๋นเซิงจะดูอะไรบางอย่างออก
ในขณะนี้ฮูหยินใหญ่ได้ไปอยู่หน้าของกู้ชิวเหลิ่งแล้ว ทำหน้าเมตตาและจับมือทั้งสองของกู้ชิวเหลิ่งไว้ ดูอ่อนโยนยิ่งนัก: “ครานี้ทำให้เจ้าตกใจแล้ว แม้ว่าเจ้าจะไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆของข้า แต่ข้าก็เป็นแม่ของเจ้า คราวนี้……เจ้าคงไม่ได้โทษข้าสินะ? ”
กู้ชิวเหลิ่งยิ้มจางๆที่มุมปากแล้วพูดว่า:”จะเป็นไปได้อย่างไร?ลูกไม่โทษท่านแม่แม้แต่นิดเลย ท่านแม่ไว้ใจเถอะ”
บนใบหน้าของฮูหยินใหญ่ไม่มีความผิดปกติอะไรเลย แถมยังหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาแล้วเช็ดน้ำตาออกอย่างเบา และพูดอย่างซึ้งว่า:”แม่ผู้ให้กำเนิดของเจ้าเสียไปเร็ว ต่อไปหากมีอะไรที่ดูแลไม่ทั่วถึง ไปขอกับพี่สาวคนโตของเจ้าได้เลย ข้าว่าเรือนเจ้าก็ช่างเรียบง่ายหยาบโทรมไปหน่อย เสื้อผ้าก็ควรเปลี่ยนใหม่แล้ว เดี๋ยววันหลังข้าจะสั่งคนส่งมาให้”
กู้ชิวเหลิ่งทำหน้าตาที่บริสุทธิ์ไร้เดียงสา กะพริบตาและพูดว่า:”ท่านแม่พูดจริงรึ? อะไรก็ขอได้รึ? ”
ฮูหยินใหญ่กล่าวอย่างเมตตากรุณา:”แน่นอนอยู่แล้ว”
กู้ชิวเหลิ่งเผยรอยยิ้มอันเจ้าเล่ห์: “ข้าได้ยินมาว่าท่านอ๋องหกได้มอบสี่สิ่งล้ำค่าทั้งสี่ในห้องหนังสือให้กับพี่ใหญ่ ลูกชื่นชอบมานานแล้ว ไม่รู้ว่าพี่ใหญ่ยอมมอบสิ่งที่นางรักให้ข้าหรือไม่?”
สีหน้าของกู้ชิวเซียงเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่เนื่องจากเซียวอวิ๋นเซิงอยู่ที่นี่ นางจึงทำได้เพียงยิ้มและพูดว่า:”ท่านอ๋องหกเห็นว่าข้าชอบกระดาษ หมึก พู่กัน ฝนหมึกเหล่านี้ จึงส่งมาให้ข้า แต่ในเมื่อเจ้าสนใจ งั้นก็ส่งให้เจ้าละกัน พี่จะไม่ตระหนี่แน่”
ถึงจะกล่าวเช่นนี้ แต่กู้ชิวเหลิ่งก็สังเกตเห็นกำปั้นที่ซ่อนอยู่ใต้แขนเสื้อของกู้ชิวเซียงอย่างชัดเจน
ไม่ว่ากู้ชิวเซียงจะงดงามและมีคนชื่นชมมากเพียงใด แต่ตอนนี้นางก็เป็นเพียงแค่เด็กที่มีอายุสิบสี่ สิบห้าเอง เรื่องการอดกลั้นนี้ก็ปกปิดได้ไม่ค่อยดีนัก ไม่เพียงแต่กู้ชิวเหลิ่งเท่านั้นที่เห็น แม้แต่เซียวอวิ๋นเซิงก็เห็นเช่นกัน
กู้ชิวเหลิ่งแสร้งทำเป็นไม่รู้ ขณะที่ดีใจบนใบหน้านั้นก็มีความกังวลเล็กน้อย: “ท่านอ๋องหกรักและให้ความสำคัญกับพี่ใหญ่มาโดยตลอด หากท่านอ๋องหกรู้ว่าพี่ใหญ่นำสิ่งล้ำค่าทั้งสี่ในห้องหนังสือมอบให้ข้า ข้ากลัวว่า……”
กู้ชิวเซียงฝืนยิ้มและกล่าวว่า:”ให้ความสำคัญอะไรกัน เจ้าไว้วางใจได้เลย เป็นเพียงแค่สิ่งล้ำค่าทั้งสี่เท่านั้น ท่านอ๋องหกไม่ใช่คนตระหนี่อะไรเช่นนั้น”
“แต่……”
กู้ชิวเหลิ่งตัวสั่นราวกับว่ายังเกรงกลัวอยู่
เซียวอวิ๋นเซิงกล่าวว่า: “คุณหนูรองอย่ากลัวไปเลย มีฝ่าบาทเป็นผู้รับผิดชอบในการตัดสินใจให้เจ้า ท่านอ๋องหกไม่กล้าทำอะไรไปมั่วแน่ แถมยังมีฮูหยินใหญ่และคุณหนูใหญ่ปกป้องเจ้าด้วย หากเกิดเรื่องอะไรขึ้นก็มีฮูหยินใหญ่ค่อยช่วยอยู่แล้ว ฮูหยินใหญ่ท่านว่าใช่หรือไม่?”
เซียวอวิ๋นเซิงกล่าวอย่างชัดเจน เห็นได้ชัดว่าไม่หลีกเลี่ยงเรื่องที่อวี่เหวินหวายรังแกกู้ชิวเหลิ่งในเมื่อวานนี้เลย และเรื่องเมื่อวานนี้ก็เป็นฮูหยินใหญ่กับกู้ชิวเซียงวางแผนทั้งหมด ตอนนี้เซียวอวิ๋นเซิงพูดมันออกมา ทำเอาฮูหยินใหญ่และกู้ชิวเซียงที่อยู่ด้านข้างไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหนเลย
ฮูหยินใหญ่ยืนอยู่ข้างๆกู้ชิวเหลิ่ง ทำได้เพียงพูดเห็นด้วยว่า: “ท่านโหวเย๋น้อยพูดถูก เจ้ากลัวอะไร?มีแม่อยู่ แถมยังมีพี่สาวเจ้าปกป้องเจ้าด้วย ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น”
กู้ชิวเหลิ่งยิ้มเหมือนเด็ก ฮูหยินใหญ่กับกู้ชิวเซียงจึงค่อยโล่งใจลงหน่อย
เพียงแค่ปลอบโยนกู้ชิวเหลิ่ง ทางเซียวอวิ๋นเซิงก็ทุกอย่างล้วนราบรื่นไปหมดเอง
เซียวอวิ๋นเซิงโน้มตัวเข้าหากู้ชิวเหลิ่งและถามว่า:”ร่างกายของคุณหนูรองมีที่ไหนไม่สบายหรือไม่?”
กู้ชิวเหลิ่งส่ายหัวด้วยความกลัว แต่กลับจงใจเผยรอยแผลอันม่วงช้ำบนแขนออกมา
เซียวอวิ๋นเซิงพูดอย่างไม่พอใจว่า:”ฮูหยินใหญ่ ไม่ทราบว่าในจวนมีหมอหรือไม่?มีเพียงแต่สุขภาพของคุณหนูรองดี ข้าถึงจะสามารถให้คำตอบฝ่าบาทได้”
ฮูหยินใหญ่ก็เห็นรอยแผลบนตัวของกู้ชิวเหลิ่งเช่นกัน พูดด้วยสีหน้าที่สงสารว่า: “โธ่ นี่……นี่มันเป็นอย่างนี้ได้อย่างไรกัน? ท่านอ๋องหกกล้า……”
กู้ชิวเหลิ่งเยาะเย้ยในใจ รอยแผลเป็นนี้ไม่ได้มีในเมื่อวานนี้ เป็นเพราะนางโดนหินบาดเมื่อวันก่อนตอนนางลงไปช่วยกู้ชิวเซียงที่จงใจตกลงไปในสระบัว
กู้ชิวเซียงปิดหน้าร้องไห้และพูดว่า:”ทั้งหมดเป็นเพราะข้า หากไม่ใช่เป็นเพราะข้าเดินสะดุดตกลงไปในสระบัว ถูกท่านอ๋องหกเข้าใจผิด……น้อง พี่ทำผิดต่อเจ้าเอง”
ทันทีที่พูดจบ กู้ชิวเซียงก็สั่งให้คนไปเชิญหมอมา ด้วยใบหน้าที่จริงใจและไม่พบข้อบกพร่องใดๆเลย
เซียวอวิ๋นเซิงเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์และพูดว่า:”ข้างนอกลมแรง พวกข้าเข้าไปคุยในห้องเถอะ?”
ฮูหยินใหญ่ตอบโดยไม่รู้ตัวว่า:”ก็ดี”
แต่เมื่อเดินไปถึงที่หน้าประตู จู่ๆฮูหยินใหญ่ก็คิดอะไรบางอย่างได้ นางหยุดเดิน ในเวลานี้เซียวอวิ๋นเซิงก็ได้ก้าวเข้าไปแล้ว
บนเก้าอี้ไม้และโต๊ะนั้นเต็มไปด้วยฝุ่น ผ้าม่านในห้องเป็นผ้าหยาบสีเทา ผ้าบนเตียงเป็นผ้านวมหยาบบางๆ ชุดชงชาที่อยู่บนโต๊ะนั้นล้วนแตกไม่ได้ไปหมด บนโต๊ะเครื่องแป้งนั้นไม่มีเครื่องประดับชิ้นหนึ่งที่ดูได้เลย ตรงนี้ไม่เหมือนห้องของคุณหนูแม้แต่สักนิดเลย ยังเทียบกับห้องสาวรับใช้ไม่ได้เลย
เซียวอวิ๋นเซิงนั่งลงบนเก้าอี้ไม้อย่างไม่เกรงใจ ราวกับว่าตนเป็นเจ้าของห้องนี้ และเทชาให้ฮูหยินใหญ่และกู้ชิวเซียง
ฮูหยินใหญ่กับกู้ชิวเซียงยืนอยู่ข้างๆอย่างเขินอาย เซียวอวิ๋นเซิงก็กวักมือเรียก:”มานั่ง! อย่าเกรงใจไปเลย! ”
นี่ไม่ใช่ปัญหาที่เกรงใจหรือไม่เกรงใจ แต่เป็นเพราะฮูหยินใหญ่และกู้ชิวเซียง พวกนางจำใจนั่งไม่ลง เสื้อผ้าบนตัวของพวกนางล้วนเป็นผ้าไหมผ้าแพร เดิมทีก็ฉีกขาดง่ายอยู่แล้ว หากนั่งลงบนเก้าอี้สกปรกๆนี้ เมื่อลุกขึ้นยืนคงไม่สามารถพบหน้าคนอีกแล้ว
กู้ชิวเหลิ่งหยิบผ้าผืนหนึ่งออกมาจากแขนเสื้อ และเช็ดเก้าอี้ไม้ทั้งสอง หน้าแดงเล็กน้อย เห็นได้ชัดเจนว่านางคงรู้สึกเขินอาย
เซียวอวิ๋นเซิงไม่ได้ให้โอกาสฮูหยินใหญ่ทำการตอบสนอง ยื่นชาที่เพิ่งเทลงไปในถ้วยชาให้กับฮูหยินใหญ่ และพูดด้วยรอยยิ้มว่า: “เมื่อครู่คุณหนูรองเสนอชานี้ให้ข้าเพื่อเป็นการขอโทษ นี่ถือเป็นชาที่ดีที่สุดในห้องนางแล้ว ฮูหยินใหญ่ไม่ลองลิ้มรสดูหรือ?”